กินเจ ต้องเตรียมตัวอย่างไร? วิธีการล้างท้องก่อนจะกินเจ | Vegetarian Festival

Opor P. Suthini
29 Sep 2021 - ใช้เวลาอ่านไม่ถึง 1 นาที

เทศกาลถือศีล กินเจ หรือ “ประเพณีถือศีลกินผัก” คือการงดบริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ใช่แค่อาหารที่กินเท่านั้น แต่รวมไปถึงเครื่องปรุงประกอบอาหารอื่นๆอีกด้วย เพื่อเป็นการไม่ไปเบียดเบียนสัตว์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว การกินเจจะมีระยะเวลาประมาณ 9 วัน หรือบางท่านอาจนับเป็น 10 / 11 วัน หากรวมวันล้างท้องด้วย การกินเจนั้นไม่ได้มีข้อกำหนดมากมายหรือยากอย่างที่คิด สำหรับใครที่ไม่เคยกินเจและที่มีแพลนจะกินเจนั้น แนะนำว่าควรศึกษาเบื้องต้นก่อน ไม่ว่าจะเป็น กินเจเพื่ออะไร? ล้างท้องยังไง? อยากกินเจ กินอะไรได้บ้าง และอะไรไม่ได้บ้าง? ต้องกินกี่วัน? ทั้งนี้ เพื่อให้คุณได้มีความพร้อมทั้งกายและใจให้มากที่สุดก่อนเริ่มต้นกิน และหากคุณกำลังมีคำถามในใจตามที่กล่าวไปข้างบนนี้ละก็ คุณมาถูกทางแล้วค่ะ ทุกคำถามเหล่านี้ มีคำตอบให้ที่นี่แล้ว ไปดูกันค่า

เทศกาลกินกินเจ | Vegetarian Festival

อาหารเจหลากหลายอย่าง ที่กินได้ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ

มาถึงแล้วกับ เทศกาลถือศีล กินเจ

ทำไมต้องกินเจ? กินไปเพื่ออะไร?

กินเจ เพราะอยากทำบุญ - ความหมายของ “เจ” คือ อุโบสถ (การรักษาศีล 8) หรือ การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน คนที่ตั้งใจที่จะกินเจแบบจริงจัง หนึ่งเหตุผลนั้นก็คืออยากทำบุญ เพราะการได้รักษาศีล 8 เป็นการชะล้างร่างกาย และจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา และใจ
กินเจ เพราะอยากดูแลสุขภาพ - เพราะการกินเจอย่างต่อเนื่อง จะช่วยทำให้ร่างกายปรับสมดุลอย่างดี เพราะอาหารเจคืออาหารชีวจิต การกินเจจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายได้ reset และมีความเสถียร

กินเจ กับ กินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร?

กินเจ คือ การรักษา ปฏิบัติตามศีล 8 และคือการรับประทานอาหารที่ไม่มีของคาว ซึ่งของคาวนั้นหมายถึงเนื้อสัตว์ทุกชนิด การกินเจต่างจากมังสวิรัติคือ การกินเจ นั้นต้องดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม ขณะเดียวกันก็ต้องงดเว้นเนื้อสัตว์ไปด้วยนั่นเอง

กินมังสวิรัติ คือ การงดเว้น หรือ หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ เพราะการกินมังสวิรัตินั้นมีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กึ่งมังสวิรัติ ที่งดทานเนื้อสัตว์บางชนิด และสามารถเลือกทานเนื้อสัตว์ได้บางชนิด, มังสวิรัตินม และอีกมากมาย

เริ่มต้นกินเจ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นกินเจครั้งแรก สิ่งที่ต้องเตรียมตัวมีดังต่อไปนี้

1.
ต้องเข้าใจก่อนว่าจุดประสงค์ของการกินเจของคุณคือ กินไปเพื่ออะไร สิ่งนี้ก็เพื่อที่จะให้คุณได้เตรียมพร้อมทางใจก่อน เพื่อจะได้ประโยชน์จากกินเจสูงสุด
2.
ควรต้อง “ล้างท้อง” ก่อนเริ่มกินเจ อย่างน้อย 1-2 วัน
3.
ห้าม กินเนื้อสัตว์, ผักที่มีกลิ่นฉุน, อาหารรสจัด, แอลกอล์ฮอล/ของมึนเมา
4.
ในเคสที่คุณได้เข้าไปในศาลเจ้า หรือ โรงเจ ห้าม ดับตะเกียงที่จุดไว้ทั้ง 9 ดวง (โดยปกติ จะมีการจุดตะเกียงไว้ให้สว่างตลอดทั้งคืน ทั้งหมด 9 ดวงในสถานที่นั้นๆ)

*อีกหนึ่งสิ่งที่ควรรู้ในระหว่างการกินเจนั้น มีข้อห้ามในเรื่องภาชนะในการทำอาหารและภาชนะในการรับประทานอาหารสำหรับผู้ที่กำลังกินเจอยู่ คือ คุณต้องห้ามใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์ใดๆร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจอยู่ (ผู้ที่กินเนื้อสัตว์) โดยการรับประทานอาหาร ต้องรับจากผู้ปรุงอาหารที่กินเจด้วยเหมือนกันเท่านั้น

ข้อดีของการกินเจ?

1.
ได้ละเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์/การกินเนื้อสัตว์ - เพราะการกินเจคือการงดกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดนั่นเอง
2.
ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้าย - ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดและสมอง, โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และอื่นๆ แต่สำหรับผู้ที่จะกินเจ ก็ควรเลือกกินให้เหมาะสม ควรกินผัก, ผลไม้, แป้ง, และไขมันให้พอเหมาะพอควร และควรระวังเรื่องไขมันและคลอเลสเตอรอลด้วย เพราะหากกินอาหารที่มีไขมันสูงเยอะเกินไป อาจจะกลายเป็นแย่มากกว่าดีนะคะ
3.
ช่วยให้ระบบในร่างกายได้ดีท็อกซ์ (Detox) - เนื่องจากการงดเว้นเนื้อสัตว์จะทำให้ร่างกายเหมือนได้เป็นการหยุดพักจากการทำงานหนัก โดยเนื้อสัตว์ส่วนมากจะมีไขมันและกระบวนการย่อยที่ใช้เวลานานมาก ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักในการย่อย หากหันมาทานพืชแทน ร่างกายจะสามารถย่อยได้ง่ายกว่านั่นเอง
4.
ช่วยให้ร่างกาย ผิวพรรณ เปล่งปลั่งขึ้น - เนื่องจากอาหารที่เป็นพืช ผัก ส่วนใหญ่นั้นมีวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วงเวลาที่คุณถือศีล กินเจ นอกจากจะทำให้ระบบร่างกายได้พักผ่อนแล้ว ผิวยังดี มีน้ำมีนวลขึ้นมาได้อีกด้วย
5.
กินเจช่วยในการลดน้ำหนักได้ (หากเลือกทานให้ถูกต้อง) - หากเน้นทานผัก ผลไม้ และโปรตีนจากถั่ว เต้าหู้ และเลือกทานคาร์โบไฮเดรดอย่างเหมาะสม บอกเลยว่าน้ำหนักคุณจะลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากกินเจผิวจะดีได้แล้ว ยังทำให้ผอมลงได้ด้วย!
6.
ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง แจ่มใส - เพราะการตั้งใจถือศีลกินเจ ถือเป็นการทำบุญวิธีหนึ่ง เพราะคุณจะมีจิตใจจดจ่อต่อสิ่งที่ทำ เกิดความเมตตา รู้สึกสบายใจที่ได้งดเว้นเนื้อสัตว์ และรู้สึกดีกับตัวคุณเองมากขึ้น ฉะนั้น การกินเจสามารถช่วยทำให้สุขภาพจิตคุณดีขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยแหละค่ะ
ปฎิทิน ช่วงเวลาของการกินเจ

ช่วงเวลาของการกินเจ

ในเทศกาลถือศีลกินเจ โดยปกติแล้วจะตรงกับวัน ขึ้น 1 ค่ำ - 9 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) และจะตรงกับวัน ขึ้น 1 ค่ำ - 9 ค่ำ เดือน 11 หรือ (ตามปฏิทินไทย) หรือตรงกับเดือนตุลาคมของทุกปี รวมๆแล้ว ช่วงเวลาของการกินเจ จะอยู่ที่ 9 วัน 9 คืน

วิธีการล้างท้องก่อนกินเจ

ก่อนจะกินเจ ทุกคนควรจะให้เวลา 1-2 วัน ในการล้างท้องก่อน และไม่ควรปรับแบบทันที ควรจะค่อยๆปรับเมนูอาหารทีละนิด เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพก่อนเพื่อที่จะให้มีความสมดุลและพร้อมที่สุดก่อนเริ่มกินเจ

วันล้างท้องวันที่ 1

ควรเพิ่มปริมาณผัก-ผลไม้ ให้มากขึ้นกว่าเดิม และลดปริมาณอาหารจำพวกไข่ ปลา ให้น้อยลง
เริ่มปรับเมนูอาหาร หากทานเนื้อสัตว์เป็นประจำ อย่างน้อยควรงดสัตว์เนื้อแดงทุกชนิดก่อนในวันแรก และไปทานไก่ หรือ ปลา แทน

วันล้างท้องวันที่ 2

งดทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด
งดทานอาหารต้องห้ามทุกชนิด เช่น เครื่องดื่มมึนเมา, สุรา, ผักต้องห้าม ฯลฯ (เพื่อเป็นการล้างของคาวออกจากร่างกายให้หมดสิ้นก่อน และให้ร่างกายคุ้นชิน)

อาหารต้องห้ามในระหว่างการ ถือศีล - กินเจ

ในการกินเจนั้น มีกฏข้อห้ามอยู่ว่า ให้งดกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด, ผักที่มีกลิ่นฉุน, อาหารรสจัด, ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม

- ผักที่มีกลิ่นฉุน 6 ชนิด (ห้ามทานระหว่างกินเจ)

ผักชี
หอม (หัวหอม, หอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอม)
กระเทียม
กุยช่าย
หลักเกียว
ใบยาสูบ

- อาหารรสจัด (ห้ามทานระหว่างกินเจ)

อาหารรสจัด หมายถึง อาหารที่มีการปรุงแต่งให้มีความเผ็ด, เปรี้ยว, หวาน, เค็มโดยเครื่องปรุงต่างๆ โดยปกติแล้ว การกินเจที่ดีควรงดการปรุงแต่งรสชาติอาหารด้วยเครื่องปรุงใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นเครื่องปรุงเจโดยเฉพาะ

*กรณีผงชูรสทานได้ไหม? สามารถทานได้ ไม่ได้มีข้อห้ามในการห้ามกินผงชูรสในระหว่างกินเ

- ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด (ห้ามทานระหว่างกินเจ)

ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เนย น้ำมัน ล้วนแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารที่ต้องงดทาน อีกเช่นกัน หากคุณกำลังอยู่ในระหว่างการถือศีลกินเจ

*สำหรับช็อคโกแลต สามารถทานได้หากเป็นดาร์กช็อคโกแลต 100%

กินเจแล้วได้บุญจริงไหม?

มาถึงคำถามยอดฮิต กินเจได้บุญไหม? การกินเจนั้นคือการไม่กินเนื้อสัตว์ การไม่เบียดเบียนหรือไม่สนับสนุนการฆ่าสัตว์ ในทุกกรณี หากถามว่าจะได้บุญไหมถ้าเรากินเจ คำตอบก็คือ “ขึ้นอยู่กับเจตนาของบุคคลนั้นๆ” เพราะอะไร? หากคุณตั้งใจจะกินเจด้วยใจเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลกอย่างแท้จริง โดยการอยากละเว้นการฆ่าสัตว์ ก็ถือว่าสิ่งนี้เป็นบุญกุศลสำหรับคุณ แต่หากคุณกินเจเพียงเพราะช่วงเวลานั้นๆเป็นช่วงเทศกาลพอดีเท่านั้น ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องนึง อย่างไรก็ตาม การกินเจนั้นจะช่วยให้คุณฝึกจิตใจให้เย็น บริสุทธิ์ มีสตินึกคิดอยู่ตลอดในระหว่างถือศีล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกจิตให้แข็ง รู้สึกนึกคิด ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ การจะได้บุญไหมนั้น จึงเป็นเรื่องของเจตนาในการทำและปฏิบัติล้วนๆเลยค่ะ

สรุปแล้ว การกินเจ ไม่เพียงแต่จะเป็นการทำบุญเท่านั้น แต่กินเจยังเป็นการทำให้สุขภาพดียิ่งขึ้นอีก เพราะจะทำให้ร่างกายคุณมีความสมดุลมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกินโรคร้ายได้ถึง 5 ชนิดหลักๆ แต่ยังไงก็ตาม คุณต้องกินให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากคุณเป็นผู้ที่กินเนื้อสัตว์มาตลอดและรู้สึกว่าการกินเจนั้นยากเหลือเกิน อยากให้ลองดูค่ะ สมัยนี้อาหารเจมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญ อร่อยมากๆด้วย

การดูแลตัวเอง การดูแลสุขภาพกาย ไม่ว่าจะเป็น การเลือกและใส่ใจกับอาหารที่กิน, พักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก แต่ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพใจ โดยการหากิจกรรมสนุกๆ คลายเครียดทำอยู่เสมอๆ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง สุขภาพกายดีแล้วก็อย่าลืมสุขภายใจไปพร้อมๆกันด้วยนะคะ

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร