ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในใจกลางทวีปยุโรปบนเทือกเขาแอลป์พรมแดนทางด้านเหนือติดประเทศเยอรมนี ฝั่งตะวันตกติดกับประเทศฝรั่งเศส ทางใต้ติดกับประเทศอิตาลี และทางฝั่งตะวันออกจะติดกับประเทศลิกเตนสไตน์และประเทศออสเตรีย ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The Roof of Europe)เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม เป็นประเทศเล็กๆ มีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 41,285 ตารางกิโลเมตรเล็กกว่าประเทศไทยประมาณ 12 เท่า ภูมิประเทศกว่า 60 % ของประเทศเป็นภูเขา นั่นก็คือพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ที่มียอดเขากว่า 100 แห่งจัดว่ามีภูเขามากที่สุดในยุโรป ที่มีทะเลสาบอยู่มากมาย ซึ่งเกิดจากแอ่งที่ลุ่มระหว่างหุบเขานั่นเอง และมีแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ เช่น แม่น้ำไรน์ แม่น้ำทิซิโน และแม่น้ำอิน 

แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็ใช้ภาษาพูดถึง 4 ภาษา ซึ่งภาษาที่ใช้มากที่สุด คือ ภาษาเยอรมัน รองมาภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาเลียน และภาษาโรมานช์ ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์เมืองหลวงของสวิสเซอร์แลนด์คือกรุงเบิร์นเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและมีเมืองใหญ่ๆที่สำคัญอีก 5 เมืองคือ ซูริคเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองบาเซิลที่มีบุคลิกโดดเด่นของความแตกต่างระหว่างความเก่าและความใหม่ เมืองเจนีวาเจ้าของสมญานาม “เมืองนานาชาติ” เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กรโลซานเมืองโอลิมปิกโลก และเมืองที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงประทับอยู่ครั้งทรงพระเยาว์แต่ละเมืองของสวิตเซอร์แลนด์มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ของตัวเองดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อไปสัมผัสกับความงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง

สกุลเงิน

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้สกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF) เทียบเป็นเงินไทยได้ประมาณ 31.56 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราค่าเงินขณะที่ท่านแลก ธนบัตรใบละ 10, 20, 50, 100, 500, 1,000 ฟรังก์ เงินเหรียญมีมูลค่าตั้งแต่ 5, 10, 20, 50 เซนต์ และ 1, 2, 5 ฟรังก์

ภูมิภาคของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งอยู่ในรูปของสมาพันธรัฐสวิสประกอบด้วย 26 รัฐ ได้แก่ อาร์เกา, อัพเพนเซลล์,เอาส์เซอร์โรเดิน,อัพเพนเซลล์, อินเนอร์โรเดิน,บาเซิล-ลันด์ชาฟท์, บาเซิล-ชตัดท์,เบิร์น,ฟรีบูร์ก,เจนีวา, ชูรา,ลูเซิร์น, เนอชาแตล,กลารุส, เกราบึนเดิน,นิดวัลเดิน,ออบวัลเดิน,ชาฟฟ์เฮาเซิน,ชวีซ,โซโลทูร์น,ซางท์กาลเลิน,ทูรเกา, ติชีโน, อูรี และวาเล โดยแต่ละรัฐจะมีเมืองหลวงและภาษาพูดเป็นของตนเอง ขึ้นอยู่กับว่ารัฐไหนติดกับฝั่งใดของประเทศข้างเคียง

สนามบินสำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

1.สนามบินซูริค(Zurich Airport) หรือในอีกชื่อว่า “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์เดินทางสู่เมืองซูริคในเวลาประมาณ 10 นาทีโดยเส้นทางเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุด คือ เส้นทางรถไฟและรถราง

2.สนามบินเจนีวา (Geneva Airport) สนามบินระดับนานาชาติ จุดหมายปลายทางของผู้เดินทางท่องเที่ยวยังเมืองเจนีวา เมืองพรมแดนที่ติดกับประเทศฝรั่งเศส เดินทางสู่ตัวเมืองเจนีวาที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด คือโดยสารรถไฟ ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาทีส่วนรถโดยสารอื่นๆ ก็ใช้เวลาเดินทางไม่นานเช่นกัน

3.สนามบินยูโรแอร์พอร์ท บาเซิล มูลเฮาส์ ไฟรบวร์ก (EuroAirport Basel Mulhouse Freiburg) หรือสนามบินบาเซิลอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองบาเซิลประมาณ 3.5 กิโลเมตรการเดินทางสู่เมืองบาเซิลด้วยรถบัสเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด หรือใช้บริการ Shuttle Service

4.สนามบินในเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่ สนามบินลูยาโน,สนามบินซียง, สนามบินเบิร์น และสนามบินอัลเทนเฮน

การเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์

• บินตรงกรุงเทพฯ จากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิไปยังสนามบินซูริค มี 3 สายการบิน คือ การบินไทย (Thai Airways) สวิสส์ (Swiss) และ อีเดลเวสส์แอร์ (Edelweiss Air)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง 
• สายการบินอื่นๆ ที่แวะพักเปลี่ยนเครื่อง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 – 18 ชั่วโมง ได้แก่ แอร์ฟรานซ์ (Air France)คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific)เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines)สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) เอสเอเอส (SAS) ลุฟทันซ่า (Lufthansa)แอร์ไชน่า (Air China) บริติชแอร์เวย์ (British Airways) โคเรียนแอร์ (Korean Air) โอมานแอร์ (Oman Air) และ รอยัลจอร์ดาเนียน (Royal Jordanian) เป็นต้น

การเดินทางภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

รถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด แม้ยอดเขาจะสูงชันแค่ไหนรถไฟก็ไปถึง มีทั้งรถไฟแบบฟันเฟืองที่ใช้ไต่เขาสูงชัน หรือรถไฟชมวิว ที่เปิดโล่งแบบพาโนรามาก็มีให้บริการ ที่สำคัญรถไฟที่นี่ตรงเวลามาก และมีจำนวนเที่ยวที่ค่อนข้างเยอะ รถไฟชนิดต่างๆ ได้แก่ 

• Intercity รถด่วน (IC, ICN) ให้บริการระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองใหญ่ สถานีที่จอดระหว่างทางจะไม่มากนัก
• Inter Regio รถเร็ว (IR) วิ่งระหว่างเมือง แต่จะจอดเฉพาะสถานีหลักๆ
• Regio Express รถเร็ว (RE) วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ความถี่ในการจอดแต่ละสถานีจะมีมากขึ้น แต่ไม่ได้จอดทุกสถานี ต้องดูป้ายให้ดีก่อนที่จะขึ้นรถ
• Regio หรือ S-Bahn รถไฟสายท้องถิ่น รถไฟสายสั้นๆ ที่จะวิ่งระหว่างเมืองใหญ่ไปตามเมืองเล็กๆ ต่างๆ จอดแทบจะทุกสถาน

รถบัส เรียกว่า Post Bus ซึ่งจะเป็นรถประจำทางที่มีสีเหลือง เส้นทางของรถบัสเหล่านี้มักจะเป็นเส้นทางที่รถไฟไปไม่ถึง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลมากๆ หรือหมู่บ้านบนภูเขา

เรือโดยสาร สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบหลายแห่ง เรือโดยสารจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง เนื่องจากรอบๆทะเลสาบจะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านหรือชุมชน

รถราง ตามเมืองใหญ่จะมีรถรางไว้คอยให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

รถไฟชมวิว เส้นทางรถไฟเส้นทางธรรมชาติที่เก่าแก่ วิ่งผ่านทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ผ่านธารน้ำแข็ง ขึ้นไปบนภูเขาสูง มีหลายเส้นทาง อาทิ

• รถไฟเบอร์นิน่า เอ็กซ์เพลส (Bernina Express) เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นเส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ที่สุด สวยที่สุด แถมยังสูงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย เป็นเส้นทางรถไฟวิ่งจากเมืองชูร์ สวิตเซอร์แลนด์ ไปยังเมืองทีราโนของอิตาลี
• รถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟความเร็วสูงที่วิ่งช้าที่สุดในโลก จากเซอร์แมทต์จนถึงซังต์มอริตซ์ ใช้เวลาเดินทางนาน 7 ชั่วโมง 45 นาที เพื่อให้ผู้โดยสารได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของธรรมชาติสองข้างอันตระการตา
• รถไฟสายเบรียนซ์โรธอน (Brienz Rothorn Bahn) รถไฟหัวจักรไอน้ำสายเก่าแก่ที่สุดในสวิส วิ่งจากทะเลสาบเบรียนซ์สู่ยอดเขาโรธอน ชมวิวทะเลสาบเบรียนซ์สีเขียวอมฟ้าเบื้องล่าง โดยมียอดเขายุงเฟรา ไอเกอร์ และโฮซ์เกนเป็นฉากหลัง เปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

เทศกาลสำคัญในสวิตเซอร์แลนด์

1.เทศกาลดนตรีแจ๊สมองเทรอซ์ (Montreux Jazz Festival) หนึ่งในเทศกาลดนตรีแจ๊สที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในยุโรปจัดขึ้นที่ “มองเทรอซ์”เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบเจนีวา ระยะเวลาในการจัดงานนานถึง 2 สัปดาห์ ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม มีผู้ชมมากกว่า 2 แสนคน มีนักร้องและนักดนตรีที่มีชื่อเสียงแวะเวียนมาร่วมแจมมากมาย ฤดูร้อนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ เทศกาลแจ๊สประจำปีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

2.เทศกาลบอลลูนนานาชาติชาโตเดอซ์ (Chateau-d'Oex) งานบอลลูนนานาชาติที่เมืองชาโตเดอซ์โดยจัดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมของทุกปีจัดต่อเนื่องมากว่า 40 ปีแล้ว ในงานจะเห็นบอลลูนที่ได้รับการออกแบบเพื่อการแข่งขันหลายร้อยลูก จากผู้เข้าร่วมงาน 20 ประเทศด้วยกัน ชมสีสันต่างๆ ของบอลลูนลมร้อนสารพัดรูปแบบหรือขึ้นไปกับบอลลูนเพื่อชมความงามของวิวในมุมสูง มีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงการแสดงยามค่ำคืนฤดูหนาวคือช่วงเวลาที่เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อชมเทศกาลบอลลูนอันยิ่งใหญ่ของยุโรป

3.เทศกาลฟาสนาคท์ (Fasnacht) งานคาร์นิวัลแห่งเมืองบาเซิล ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเวลาที่ฤดูหนาวจะสิ้นสุดลง ชมสีสันหลากหลายของขบวนพาเหรดสวมหน้ากาก และแต่งกายเลียนแบบคนดัง นักการเมือง หรือแม้แต่ตัวการ์ตูนสุดโปรด โดยแห่แหนไปรอบเมือง บนถนนเส้นหลักที่มีบาร์และคาเฟ่ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สนุกสุดเหวี่ยงกันเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเลยทีเดียว

สถานที่เที่ยวสำคัญในสวิตเซอร์แลนด์

1.ย่านบานโฮฟสตราเซอร์(Bahnhofstrasse)

แหล่งช้อปปิ้งและถนนคนเดินที่คึกคักที่สุดของเมืองซูริค รวมทั้งจุดเชื่อมต่อรถราง ถูกจัดให้เป็นย่านการค้าที่หรูหราราคาแพงที่สุดในทวีปยุโรป และอยู่ที่อันดับ 3 ของโลก สองฝั่งถนนมีร้านแบรนด์เนมระดับโลกเรียงราย ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า นาฬิกา ร้านของที่ระลึก เช่นช็อกโกแลตสวิสก็มีขายที่นี่

2.สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge)

สะพานไม้ข้ามแม่น้ำรอยส์ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 670 ปี ตลอดแนวสะพานที่มีความยาวของ 204 เมตร ถูกประดับด้วยภาพจิตรกรรมที่วาดขึ้นในศตวรรษที่ 17อายุกว่า 400 ปี ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศสวิสเซอร์แลนด์จำนวนทั้งหมด 120 รูป โดยกว่า 2 ใน 3 ได้ถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ในปี 1993 ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ปัจจุบันสะพานไม้แห่งนี้คือสัญลักษณ์สำคัญของเมืองลูเซิร์น

3. ยอดเขาจูงเฟรา (Jungfrau)

ได้รับการยกย่องว่าเป็น“Top of Europe”เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ “จุงฟราวยอร์ค” สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ที่เมืองไคล์เน่ไชเดก์กชมทัศนียภาพอันงดงามบนยอดเขาที่กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร บนหอสังเกตการณ์สฟริงซ์ ชมความอลังการของ “อเลิท์ซ กลาเซียร์” ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์อีกจุดสำคัญคือ “วังน้ำแข็ง” (Ice Palace) ถ้ำน้ำแข็งที่เจาะลึกไปในธารน้ำแข็งกว่า 30 เมตร ภายในจัดแสดงประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็ง การเดินทางสู่ยอดเขาคือ “กลาเซียร์เอ็กซ์เพรส” รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก

4.เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen)

หมู่บ้านในหุบเขาจุงเฟราในรัฐแบร์นที่ได้ชื่อว่าเป็น “หุบเขารูปตัวยูที่ชันที่สุดในโลก”เป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชื่อของเมืองแปลว่าMany Fountains จึงไม่น่าแปลกใจ น้ำตกเยอะมากจริงๆ เพราะมีน้ำตกถึง 72 แห่งด้วยกันน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ชื่อ “สโทบบาค” ที่ไหลดิ่งลงมาจากหน้าผาหินสูงประมาณ 300 เมตรและเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรปโดยภาพน้ำตกถูกพิมพ์ลงในแสตมป์ของสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงทศวรรษที่ 1930

5.ทะเลสาบเบลาเซ (Blausee)

ทะเลสาบภูเขาที่โด่งดังในเรื่องสีของน้ำที่ใสราวผลึกเทอร์ควอยซ์ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของอุทยานในรัฐเบอร์นีสโอเบอร์แลนด์ เป็นแหล่งสถานที่เพาะพันธุ์ปลาเทราต์แบบออร์แกนิกที่มีชื่อเสียง สามารถมองเห็นปลาเทราต์แหวกว่ายไปมาได้อย่างแจ่มแจ๋ว จนได้ชื่อว่า Blausee Blue Trout นอกจากกิจกรรมพายเรือชมวิวในทะเลสาบ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตกปลาเทราต์ปลอดสารพิษคุณภาพดีเยี่ยมแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะสำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์มากที่สุดคือ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว

เคล็ดลับการเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์

ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen VISA) ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับการเดินทางระยะสั้น ไม่เกิน 90 วัน และขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยุโรปแล้วเข้า - ออกหลายประเทศต่อเนื่องกันในทริปเดียว

เวลาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะช้ากว่าเวลาที่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง หลังจากเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคมจะช้ากว่าประมาณ 6 ชั่วโมง

ร้านค้าส่วนใหญ่จะรับแค่เงินฟรังก์สวิส ส่วนเงินยูโรมีรับบ้าง แต่ไม่มากนัก ควรแลกเงินฟรังก์สวิสให้พร้อม และเตรียมบัตรเครดิตไปด้วยเผื่อกรณีฉุกเฉินควรเป็นบัตรที่ได้รับการยอมรับ เช่น อเมริกันเอ็กซ์เพรส หรือ มาสเตอร์การ์ด

บัตร Swiss Travel Pass จะช่วยให้การเดินทางแสนสะดวกสบาย เพราะใช้โดยสารทั้งรถไฟ รถเมล์และเรือโดยสารได้อย่างไร้ขีดจำกัด ใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้กว่า 500 แห่ง แถมยังใช้เป็นส่วนลดในการซื้อบัตรขึ้นยอดเขาต่างๆได้ด้วย

รถขึ้นเขาและที่เที่ยวหลายแห่งจะปิดช่วงฤดูหนาว คือ ปลายตุลา-สิ้นเมษา วันหยุดเทศกาล เช่น วันอีสเตอร์ วันหยุดของสถานที่เที่ยวแต่ละแห่ง ร้านค้ามักไม่เปิดวันอาทิตย์ซุปเปอร์มาร์เกต เปิด-ปิดเป็นเวลา ควรหาข้อมูลและวางแผนให้ดี ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์เป็นแหล่งผลิตนาฬิกาคุณภาพระดับโลก อาทิ Rolex, Cartier, Patek Philippe, IWC Schaffhausen, OMEGA, Tissotเป็นต้นบางรุ่นก็มีจำหน่ายแค่เพียงในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของนักสะสมนาฬิกาอย่างแท้จริง