ค้นหาตั๋วราคาถูก และโปรโมชั่นของมาลินโดแอร์ (Malindo Air) ที่นี่!

มาลินโดแอร์ ( รหัส IATA: OD) เป็นสายการบินแบบ “Hybrid” หรือ “แบบผสม” นั่นเอง โดยชื่อ “มาลินโด” เกิดจากการรวมชื่อกันระหว่าง “มาเลย์เซีย-อินโดนีเซีย” ซึ่งเป็นสายการบินที่ให้การบริการเต็มรูปแบบในราคาที่ประหยัดเทียบเท่ากับสายการบินต้นทุนต่ำทั่วไป สายการบินนี้ก่อตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่างอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมแห่งชาติมาเลย์เซีย (NADI) และสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย จวบจนวันนี้สายการบินมาลินโดแอร์ได้ให้บริการการบินสู่ 100 กว่าเมืองในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี 2013 สายการบินมาลินโดแอร์ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ซึ่งส่งเสริมการดำรงตำแหน่งสายการบินชั้นนำระดับโลก และได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก IATA Operational Safety Audit (IOSA) ซึ่งสามารถใช้ได้จนถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2018 นอกเหนือจากนั้น มาลินโดแอร์ยังได้อีก 3 รางวัลสำคัญ ซึ่งได้แก่ รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมแห่งปี- KLIA Awards ประจำปี 2014 ถัดมาในปี 2015 สายการบินได้รับการจัดอันดับให้เป็นสายการบินที่มีประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงสุดโดยทราเวลพอร์ต และล่าสุดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2016 ณ ประเทศสิงค์โปร์ มาลินโดแอร์ได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (CAPA Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสายการบินที่มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของอุตสาหกรรมการบินได้ มาลินโดแอร์ปฏิบัติการบินโดยใช้ใช้ฝูงบินสองประเภท คือ Boeing 737-900ER ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 215 ที่นั่ง และฝูงบินใบพัด ATR 72-600 ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 74 ที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองทำให้สายการบินสามารถให้บริการบินในสามระดับชั้น ได้แก่ ชั้นประหยัด ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม และชั้นธุรกิจ สำหรับการเดินทางในชั้นประหยัดนั้นผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายด้วยที่นั่งเบาะหนัง มีระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างถึง 81 ซม. กว้างเพียงพอสำหรับการยืดขาอย่างสบาย ซึ่งไม่ค่อยเห็นความสะดวกสบายเช่นนี้ในที่นั่งชั้นประหยัดของสายการบินอื่น แม้จะเป็นเพียงที่นั่งโดยสารชั้นประหยัดแต่ผู้โดยสารสามารถสัมผัสความสะดวกสบายได้เฉกเช่นที่นั่งชั้นโดยสารแบบพรีเมี่ยม สำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจ ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดด้วยเบาะบุด้วยหนังพร้อมระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างถึง 114 ซม. ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งทั้งข้างหน้าและข้างหลังไม่ถูกรบกวนเมื่อต้องการปรับระดับที่นั่งโดยสารลง ผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงบนเครื่องด้วยทางเลือกมากมายเช่น ภาพยนตร์ เพลง เท็บเล็ตคอมพิวเตอร์หน้าจอกว้าง 11 นิ้วที่มีช่องเชื่อมต่อ USB WiFi และช่องเสียบปลั๊กไฟ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องกังวลเมื่อเช็คอีเมล์ในขณะที่แบตเตอรี่เครื่องแท็บเล็ตใกล้จะหมดเพราะอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถต่อสามารถต่อสายชาร์จไฟระหว่างการเดินทางได้ เช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ ทั่วไป มาลินโดแอร์มีกฎเกี่ยวกับน้ำหนักสัมภาระขึ้นเครื่องสำหรับชั้นโดยสารแต่ละชั้น สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้รับสิทธิ์การขนสัมภาระได้สูงสุด 40 กิโลกรัม ในขณะที่ผู้โดยสารชั้นประหยัดได้รับสิทธิ์การขนสัมภาระได้เพียงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักที่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้รับ ซึ่งก็คือ 20 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม สำหรับเที่ยวบินที่บินไปสู่ท่าอากาศยานแฮง ดานิม (BTH) ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลานามู (KNO) และท่าอากาศยานนานาชาติสุลต่านชาริฟกาซิม2 (PKU) สิทธิ์ในการขนสัมภาระสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจจำกัดเพียงแค่ 20 กิโลกรัม ส่วนสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้รับสิทธิ์การขนสัมภาระได้สูงสุด 40 กิโลกรัม ในขณะที่ผู้โดยสารชั้นประหยัดสามารถขนสัมภาระได้สูงสุด 15 กิโลกรัม นอกเหนือไปกว่านั้นสายการบินอนุญาตให้ผู้โดยสารพกสัมภาระขึ้นเครื่องได้ โดยสิ่งของและกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้นั้นต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และมีขนาดไม่เกิน 56ซม.x 36ซม.x 23ซม. พิเศษไปกว่านั้นผู้โดยสารที่เดินทางด้วยสารการบินมาลินโดแอร์สามารถได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย มาลินโดแอร์ร่วมบริษัทพันธมิตรต่างๆในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำค่าให้แก่ผู้โดยสารในหลายรูปแบบ ประกอบด้วยส่วนลดการเข้าพักในโรงแรม ส่วนลดสำหรับร้านอาหาร ส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ ที่น่าสนใจ ส่วนลดในการจับจ่ายซื้อของและการให้บริการทรีตเมนท์บำรุงผิวกายจากร้านเสริมความงามต่างๆ ที่ร่วมโครงการ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้โดยสารที่เลือกซื้อแพ็กเกจมาลินโดฮอลิเดย์ส ผู้โดยสารยังได้รับสิทธิ์การใช้บริการรถรับส่งระหว่างจุดหมายปลายทางกับสนามบิน สมาชิกมาลินโดไมล์โดยเฉพาะสมาชิกในระดับแพลตินั่มและโกลด์จะได้รับสิทธิ์เข้าไปพักผ่อนหย่อนใจในห้องรับรองพลาซ่า แพลตินั่ม เลานจ์ ซึ่งมีให้บริการในหลายสนามบิน เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 1 และ 2 ท่าอากาศยานโกตากีนาบาลู ท่าอากาศยานนานาชาติกูชิง ท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง ท่าอากาศยานนานาชาติลังกาวี ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีในสิงคโปร์ เพื่อสานต่อคำขวัญของสายการบินที่ว่า “Smart Way To Travel” มาลินโดแอร์นำเสนอประกันภัยการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารที่เรียกว่า มาลินโดแอร์ แอร์ ทราเวล อินชัวรันซ์ (Malindo Air Travel Insurance) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท ชับบ์ประกันภัย จำกัด สาขาประเทศมาเลเซีย ประกันภัยการเดินทางของสายการบินมาลินโดแอร์ช่วยคุ้มครองผู้โดยสารให้เกิดความอุ่นใจตลอดการเดินทาง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่างๆ ขึ้นเช่น เอกสารการเดินทางสูญหาย กระเป๋าเดินทางสูญหาย ความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า เที่ยวบินถูกจำกัด การยกเลิกการเดินทาง และ การเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง สำหรับการขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารสามารถไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินของมาลินโดแอร์ที่เปิดทำการที่สนามบิน ซึ่งจะเปิดให้เช็คอิน 4 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางที่กำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาสำหรับผู้โดยสารในการโหลดสัมภาระและการผ่านด่านตรวจความปลอดภัยก่อนการขึ้นเครื่อง นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ 48 ชั่วโมง (2วัน) จนถึง 4 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางที่กำหนด ข้อกำหนดเหล่านี้มีผลบังคับใช้กับทุกชั้นโดยสารของสายการบินมาลินโดแอร์

การที่สายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดสัญชาติมาเลเซีย สามารถเข้าไปทำตลาดที่อินโดนีเซียได้ โดยขณะนั้นมีสายการบินไลอ้อนแอร์สัญชาติอินโดนีเซียครองตลาดอยู่ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับสายการบินอินโดนีเซียให้เข้าตีตลาดมาเลเซียบ้าง เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2012 นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ ซรี นาจิบ ตุน ราซัค ได้ประกาศความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมแห่งชาติมาเลเซีย (NADI) และ สายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ซึ่งการร่วมมือดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นการก่อตั้งสายการบินมาลินโดแอร์ขึ้นมา ซึ่งชื่อมาลินโดแอร์นั้นมีที่มีจากการรวมชื่อกันระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในทวีปเอเชียตะวันออกสองประเทศคือ มาเลเซียและอินโดนีเซียนั่นเอง สายการบินมาลินโดแอร์ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยมีศูนย์ปฏิบัติการบินอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ให้บริการด้วยฝูงบิน Boeing 737-900ER จำนวน 12 ลำ สายการบินได้ให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวแรกเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2013 จากกรุงกัวลาลัมเปอร์สู่เมืองโกตากีนาบาลู ประเทศมาเลเซีย ในขณะเดียวกันนาย Chandran Ramamurthy ผู้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการส่วนบุคคลของผู้บริหารไลอ้อนแอร์ อินโดนีเซียได้รับการแต่งตั้งและแถลงการณ์อย่างเป็นทางการให้เป็นประธานกรรมการบริหารของสายการบินมาลินโดแอร์ มาลินโดแอร์ได้ขยายฝูงบิน ซึ่งประกอบด้วย เครื่อง ATR 72-600 จำนวน 11 ลำ Boeing 737-900ER จำนวน 6 ลำ และ Boeing 737-800 จำนวน 2 ลำ จนกระทั่งเดือนมกราคม 2015 สายการบินได้ขยายฝูงบินโดยสั่งซื้อเครื่องบิน ATR 72-600 เพิ่มจำนวน 4 ลำ และ Boeing 737-900ER อีกจำนวน 18 ลำ เพื่อเพิ่มศักยภาพของฝูงบินและเพิ่มเที่ยวบินให้กับสายการบิน ในต้นเดือนมิถุนายน 2013 มาลินโดแอร์เริ่มเพิ่มเที่ยวบินใหม่ๆ เช่น เที่ยวบินสู่รัฐปีนัง เมืองยะโฮร์บาห์รู และเมืองโกตากีนาบาลู ในเดือนมิถุนายน 2016 มาลินโดแอร์และเตอร์กิชแอร์ไลน์ ได้ประกาศการลงนามสัญญาข้อตกลงการบินโดยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกันร่วมกันเพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ กลยุทธ์นี้คาดหวังให้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารซึ่งเดินทางระหว่างประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในทวีปยุโรป อีกทั้ง สายการบินกาตาร์ก็ได้ร่วมลงนามในสัญญาข้อตกลงร่วมในการเป็นสายการบินพันธมิตรอีกด้วย ปัจจุบันสายการบินได้ปฏิบัติการบินไปสู่เมืองต่างๆกว่า 100 เมืองในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ซึ่งรวมไปถึง ซิดนีย์ เพิร์ธ เมลเบิร์น และบริสเบน มาลินโดแอร์ยังได้ให้บริการบินสู่เมืองญิดดะฮ์ หรือเจดดาห์ (เส้นทางที่เหมาะเฉพาะกับผู้โดยสารมุสลิมที่ต้องการประกอบศาสนกิจพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์) และเมืองกวางโจว มีการวางแผนที่จะรีแบรนด์สายการบินมาลินโดแอร์ให้เป็นบาติคมาเลเซีย (Batik Malaysia) ซึ่งจะเน้นไปทางให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ในขณะที่สายการบินบาติคแอร์ (Batik Air) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไลอ้อนแอร์ ประเทศอินโดนีเซีย จะเน้นไปที่การให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม แผนการรีแบรนด์นี้ก็ได้หยุดชะงักไป เนื่องจากเครื่องบิน B737-800 ที่เคยมีโลโก้ของบาติคแอร์มาเลเซียอยู่ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นโลโก้ของมาลินโดแอร์แล้ว