https://ik.imagekit.io/tvlk/image/imageResource/2022/10/05/1664955553243-ff4f7ecd5c5189a680880cbfca4b6f38.jpeg?tr=q-75
จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปอิตาลีที่ Traveloka

จองตั๋วเครื่องบิน
บริการรับส่งสนามบิน
เที่ยวเดียว / ไป-กลับ
เดินทางหลายเมือง

เปิดแผนที่

จาก
ไป
จำนวนผู้โดยสาร
ชั้นโดยสาร
ค้นหาเที่ยวบิน
การแจ้งเตือนราคาเที่ยวบิน

จองตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาถูกกับ Traveloka

จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกกับ Traveloka หลากหลายเส้นทาง พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดตั๋วเครื่องบินอีกเพียบ!

จองตั๋วราคาถูกด้วยคูปองส่วนลดจาก Traveloka

ใส่ส่วนลดเพื่อจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกกับ Traveloka รีบจองก่อนดีลจบเลย!
เที่ยวบิน

ส่วนลดเที่ยวบิน

ส่วนลดเที่ยวบินสูงสุด 2,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมอิตาลี

อิตาลี (Italy) เป็นประเทศที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยทอดยาวจากเทือกเขาเทือกเขาแอลป์ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ครอบคลุมพื้นที่คาบสมุทรแอเพนไนน์ หมู่เกาะซิซิลีและซาร์ดิเนีย อิตาลีมีความสวยงามในทุกฤดูกาล และในทุกแคว้นทุกเมือง จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ต้องกลับไปเยือนอิตาลีครั้งแล้วครั้งเล่าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดของจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ นอกจากอนุสรณ์สถาน ผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมชิ้นเอก และซากปรักหักพังนับไม่ถ้วนของอารยธรรมโรมันโบราณ อิตาลียังมีธรรมชาติสุดอัศจรรย์ ทั้งเนินหิมะบนเทือกเขาอัลไพน์ ชายหาดที่สวยงามตามแนวชายฝั่งเอเดรียติกและเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลสาบแสนสวยงามทางตอนเหนือ อิตาลียังมีแหล่งวัฒนธรรมมรดกโลกของยูเนสโกมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก เพื่อให้การวางแผนเที่ยวสมบูรณ์แบบที่สุด ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้เร็วขึ้น

อิตาลีตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป ซึ่งมีลักษณะเป็นคาบสมุทรทรงคล้ายรองเท้าบูท และมีเกาะใหญ่ 2 เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ เกาะซิซิลีและเกาะซาร์ดิเนีย ทั้งนี้ประเทศอิตาลีถูกโอบล้อมด้วยทะเลทุกทิศทาง ยกเว้นทางทิศเหนือที่ติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศออสเตรียโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นตัวกั้นแบ่งเขตประเทศ พื้นที่ร้อยละ 75 ของอิตาลีเป็นภูเขาและที่ราบสูง เป็นประเทศมีมีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีเทือกเขาแอพเพนไนน์ และภูเขามอนต์ บรานซ์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปพาดผ่านทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ

ประเทศอิตาลีเป็นประเทศแห่งประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก มีเมืองหลวงคือกรุงโรม (Rome) ประชากรในประเทศหรือที่เรียกกันว่าชาวอิตาเลียน มีการสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยโรมันโบราณ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ มีภาษาทางการคือภาษาอิตาลี นอกจากนี้ประเทศยังมีเมืองสำคัญอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยกันดี เช่น มิลาน เวนิส ตูริน ฟลอเรนซ์ เนเปิลส์ เป็นต้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางไปยังประเทศอิตาลีจะได้สัมผัสกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่อันทรงคุณค่าของโลก เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นต้น นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างแกรนด์คาแนล (Grand Canal) คลองในเวนิสบรรยากาศดีที่มีบริการล่องเรือกอนโดล่าจนโด่งดังไปทั่วโลก อาหารสไตล์อิตาเลียนอย่างพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ก็เป็นอาหารที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงงานศิลปะและแฟชั่นต่างก็เป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน ทั้งนี้สำหรับคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวประเทศอิตาลีสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวที่มีสายการบินจากทั่วโลกคอยให้บริการ โดยคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวประเทศอิตาลีจำเป็นจะต้องทำวีซ่าก่อนการเดินทาง ระยะเวลาในการพำนักสูงสุดในประเทศคือ 90 วัน

 

สกุลเงิน

สกุลเงินของอิตาลีคือ ยูโร (ฺEuro - EUR)  

แบ่งออกเป็น 

ธนบัตร 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร

เหรียญ 1, 2, 5, 10, 20 และ 50 เซ็นต์ รวมถึง 1 และ 2 ยูโร

อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 36.45 บาท

 

ฤดูกาลของอิตาลี

อิตาลีมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีกลางวันที่อบอุ่นและกลางคืนที่เย็นสบาย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีเพื่อเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี ภาคเหนือของอิตาลีซึ่งสัมผัสกับเทือกเขาแอลป์และโดโลไมต์นั้นเย็นกว่าทางตอนใต้ของอิตาลี  

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) เป็นฤดูที่สวยงาม ดอกไม้บานสะพรั่ง ในเดือนมีนาคมอาจยังหนาวและชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15 - 20 องศาเซลเซียส และบางวันอาจมีฝนตก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวแบบคนไม่เยอะและค่าใช้จ่ายถูก  
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของอิตาลี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส ทางตอนใต้ของประเทศอาจสูงถึง 38 องศาเซลเซียส มีฝนตกบ้างแต่ไม่บ่อยนัก โดยเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) อากาศไม่ร้อนเกินไป แต่ยังคงอบอุ่นในตอนกลางวันอุณหภูมิในเดือนกันยายนอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส และเริ่มลดลงเหลือไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส ในเดือนตุลาคม เป็นอีกช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน 
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อุณหภูมิของอากาศจะแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละพื้นที่ ในบริเวณเทือกเขาแอลป์ อุณหภูมิจะลดลงจนต่ำกว่าศูนย์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของปีสำหรับผู้ที่ชอบสกีรีสอร์ท และเป็นช่วงที่งบท่องเที่ยวไม่แพง 

 

ภูมิภาคของอิตาลี

อิตาลีประกอบด้วย 20 ภูมิภาค ได้แก่ 

  1. อาบรุซโซ (Abruzzo) อยู่ทางตอนใต้ของภาคกลางของอิตาลี ติดกับทะเลเอเดรียติก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา มี 4 จังหวัดคือ ลากวีลา, คิเอติ, เปสการาและเทราโม 
  2. บาซิลิกาตา (Basilicata) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี มีโพเทนซาเป็นเมืองหลวง มีถ้ำโบราณมาเตลาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ  
  3. กาลาเบรีย (Calabria) ภูมิภาคทางใต้สุดของอิตาลี เป็นดินแดนที่ล้อมรอบด้วยน้ำในทุกด้าน เมืองหลวงของกาลาเบรียคือกาตันซาโร
  4. กัมปาเนีย (Campania) นี่คือภูมิภาคของปอมเปอี และชายฝั่งอามาลฟี มีแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 5 แห่ง เมืองหลวงคือเนเปิลส์ 
  5. เอมีเลีย - โรมัญญา (Emilia-Romagna) ภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เมืองหลวงคือโบโลญญา  
  6. ฟริอูลี - เวเนเซียจูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอิตาลี เป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเอง เมืองหลวงคือตรีเยสเต 
  7. ลาซิโอ (Lazio) ตั้งอยู่ในภาคกลางของอิตาลี เป็นที่ตั้งของกรุงโรม เมืองหลวงของประเทศ มีแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 4 แห่งในลาซิโอ
  8. มาร์เช  (Marche) พื้นที่ภาคกลางของประเทศ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านบนเนินเขา เมืองหลวงคืออันโคนา มีแหล่งมรดกโลก 1 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองเออร์บิโน
  9. ลิกูเรีย (Liguria) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี มีแนวชายฝั่งที่ยาวและแคบ มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศส มีเจนัวเป็นเมืองหลวง
  10. ลอมบาร์เดีย (Lombardy) ภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เมืองหลวงของลอมบาร์ดีคือมิลาน
  11. โมลีเซ (Molise) อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี มีเพียง 2 จังหวัด คือกัมโปบัสโซ ซึึ่งทำหน้าที่เมืองหลวงของภูมิภาค และจังหวัดอีเซอร์เนีย 
  12. พีดมอนท์ (Piedmont) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอิตาลี เป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำของประเทศ มีเมืองหลวงชื่อตูริน 
  13. ปูเกลีย (Puglia) เป็นภูมิภาคทางตะวันออกสุดของอิตาลี มีแนวชายฝั่งที่ยาวที่สุดในคาบสมุทรอิตาลี มีทั้งหมด 6 จังหวัด มีบารีเป็นเมืองหลวง 
  14. ซาร์ดิเนีย (Sardinia) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ทางตะวันตกของชายฝั่งอิตาลี และเป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเองของ อิตาลี เมืองหลวงของซาร์ดิเนียคือกาลยารี 
  1. ซิซิลี (Sicily) เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเองของอิตาลี เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลก 7 แห่ง เมืองหลวงคือปาแลร์โม
  2. เทรนติโน - อัลโตอัลดิเจ (AdigeTrentino-Alto Adige) อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นภูมิภาคที่ไม่ติดทะเล มี 2 จังหวัดคือ โบลซาโนโบเซนและเทรนโต  
  3. ทัสคานี (Tuscany) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมืองหลวงของทัสคานีคือฟลอเรนซ์
  4. อุมเบรีย (Umbria) ตั้งอยู่ในตอนกลางของอิตาลี เป็นภูมิภาคที่ไม่ติดทะเล ล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นหนึ่งในภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดในอิตาลี เมืองหลวงคือเปรูจา
  5. วาลดาออสตา (Valle d'Aosta) เป็นภูมิภาคที่เล็กที่สุด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอิตาลี มีเมืองหลวงชื่อออสตา
  6. เวเนโต (Veneto) ตั้งอยู่ในอิตาลีตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีพรมแดนติดกับออสเตรีย เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง “เวนิส” 

 

สนามบินสำคัญของอิตาลี

  1. สนามบินเลโอนาร์โดดาวินชี–ฟิอูมิซิโน (Leonardo da Vinci – Fiumicino Airport) เป็นสนามบินนานาชาติในเมืองฟิอูมิซิโนประเทศอิตาลี และเป็นประตูสู่กรุงโรม เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศ ห่างจากใจกลางเมืองโรมประมาณ 33 กิโลเมตร   
  2. สนามบินมิลานมัลเปนซา (Milan Malpensa Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของอิตาลี ให้บริการในแคว้นลอมบาร์เดีย, พีดมอนต์และลิกูเรีย อยู่ห่างจากเมืองมิลานไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 49 กิโลเมตร 
  3. สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport) เป็นสนามบินนานาชาติของเมืองเวนิส ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ห่างจากหมู่เกาะเวนิสเพียง 8 กิโลเมตร เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในอิตาลี
  4. ท่าอากาศยานโบโลญญากูกลีเอลโมมาร์โคนี (Bologna Guglielmo Marconi Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ให้บริการในเมืองโบโลญญา อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร
  5. สนามบินนานาชาติเนเปิลส์ (Naples International Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ให้บริการในเมืองเนเปิลส์ และแคว้นกัมปาเนียทางตอนใต้ของอิตาลี อยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร
  6. สนามบินที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ สนามบินคาตาเนีย–ฟอนตานารอสซา (Catania-Fontanarossa Airport) สนามบินมิลาโนลินาเต (Milano Linate Airport) สนามบินตูริน (Turin Airport) สนามบินเวโรนาวิลลาฟรังกา (Verona Villafranca Airport) สนามบินฟัลโคเน-บอร์เซลลิโน Falcone–Borsellino Airport) สนามบินนานาชาติปิซา (Pisa International Airport) สนามบินบารีคารอลวอจตีวา (Bari Karol Wojtyła Airport) สนามบินเจนัวคริสโตโฟโรโคลอมโบ (Genoa Cristoforo Colombo Airport)

 

การเดินทางไปอิตาลี

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินพักต่อเครื่อง (1-2 จุด) จากกรุงเทพฯ ไปยังอิตาลี  ได้แก่ กัลฟ์แอร์ (Gulf Air) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) การบินไทย (Thai Airways) คาเธย์แปซิฟิก (Cathay Pacific) คูเวตแอร์เวย์ (Kuwait Airways) เคแอลเอ็มรอยัลดัตช์แอร์ไลน์ (KLM Royal Dutch Airline) เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) ซาอุดิอาระเบียแอร์ไลน์ (Saudi Arabian Airlines) ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ฟินน์แอร์ (Finn Air) สแกนดอเนเวียนแอร์ไลน์ (Scandinavian Airlines) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) รอยัลจอร์แดนเนียน (Royal Jordanian)  สวิสอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ (Swiss International Air Line) ออสเตรียนแอร์ไลน์ (Austrian Airlines) โอมานแอร์ (Oman Air) อีวีเอแอร์ (EVA Air)  เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) เอติฮัดแอร์เวย์ (Etihad Airways) แอร์ฟรานซ์ (Air France) แอร์เอเซีย (Air Asia) ใช้เวลาเดินทางอย่างต่ำ 13 ชั่วโมง 40 นาที 

 

การเดินทางในอิตาลี

  • เครื่องบิน (Plane) เป็นการเดินทางที่บางครั้งอาจถูกกว่า และเร็วกว่าเดินทางโดยรถไฟ สายการบินภายในประเทศของอิตาลี ได้แก่ แอร์โดโลมิติ (Air Dolomiti) อลิตาเลีย (Alitalia) บลูพาโนรามา (Blue Panorama) และ เมอริเดียนา (Meridiana)
  • รถไฟ (Train) การเดินทางด้วยรถไฟสะดวกและค่อนข้างเร็ว มีทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟสายตรง เหมาะกับการเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ
  • รถไฟใต้ดิน (Metro) ให้บริการในเมืองใหญ่ๆ  เช่น โรม, มิลาน, ตูริน, เปรูจา, เจนัว เนเปิลส์ และคาตาเนีย  
  • รถบัส (Bus) เป็นวิธีเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่รถไฟไปไม่ถึง ราคาถูก ถึงแม้จะเหนื่อยกว่ารถไฟ มีทั้งรถโดยสารในเมืองและรถบัสทางไกล ค้นหาเส้นทางและจองตั๋วได้ที่ Omio
  • รถเช่า (Car Rental) บริการรถเช่าในอิตาลีมีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไฮซีซั่น แต่จะประหยัดกว่าเมื่อเดินทางเป็นกลุ่ม มีให้เลือกทั้งรถยนต์ แคมเปอร์แวน และรถตู้  
  • จักรยาน (ฺBicycle) รูปแบบการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอิตาลี มีให้บริการในเมืองใหญ่ๆ และรีสอร์ทบางแห่ง 
  • เรือ (Ferry) และ ไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังเมืองชายฝั่งและเกาะต่างๆ ของอิตาลี ทั้งนี้เรือโดยสารบางลำวิ่งเฉพาะช่วงไฮซีซั่น โดยจะปิดในฤดูหนาว 
  • แท็กซี่  (Taxi) สะดวกสบาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่มีราคาแพง ไม่เหมาะกับการเดินทางคนเดียว เรียกรถผ่านแอพได้ที่ FREE Now หรือ MyTaxi ส่วน Uber ให้บริการเฉพาะในกรุงโรมและมิลานเท่านั้น

  

เทศกาลสำคัญในอิตาลี

  1. 1. เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) เทศกาลสุดยิ่งใหญ่อันเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ของเวนิส เทศกาลหน้ากากที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของอิตาลี จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีจะได้พบกับขบวนพาเหรดอันสุดแสนอลังการทั้งทางบกและทางเรือ ผู้ร่วมขบวนแต่งตัวย้อนยุค สวมหน้ากากหลากหลายสไตล์ ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน 
  2. 2. เทศกาลปาส้ม (Battle of the Oranges เทศกาลปาส้มหรือสงครามปาส้ม เป็นงานประเพณีเก่าแก่ของเมืองไอวีเรีย เมืองเล็กๆ ทางภาคเหนือของอิตาลี โดยผู้เข้าร่วมงานจะแบ่งออกเป็น 9 ทีม และใช้เวลา 3 วัน ในการต่อสู้ด้วยส้ม ณ บริเวณลานกลางเมือง โดยจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงถือศีลอด เป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ในศตวรรษที่ 12  
  3. 3. เทศกาลโอเปราเวโรนา ( Verona Opera Festival) เป็นหนึ่งในงานแสดงโอเปร่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดในยุโรป จัดขึ้นทุกฤดูร้อนในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกันยายน ที่ “เวโรนาอารีนา” อัฒจันทร์โรมันโบราณที่จุผู้ชมได้ถึง 3 หมื่นคน โดยแต่ละค่ำคืนจะมีการแสดงละครโอเปรา คอนเสิร์ต รวมถึงความบันเทิงประเภทอื่นๆ สับเปลี่ยนกันไป ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในอิตาลี

  1. 1. มิลาน (Milan) “มิลาน” เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ใจกลางแตว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม  และสถาปัตยกรรม ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้ง มหาวิหารแห่งมิลาน ปราสาทสฟอร์ซา พระราชวังแห่งมิลาน ห้างสรรพสินค้าหรูหราสุดคลาสสิก พิพิธภัณฑ์ลีโอนาร์โดดาวินชี และโรงอุปรากรมิลาน
  2. 2. โรม (Rome) หนึ่งในเมืองที่ยิ่งใหญ่ของโลก “โรม” เป็นเมืองเอกแห่งแคว้นลาซิโอ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์โบราณ เมืองแบ่งออกเป็นสองฝั่งที่แตกต่าง ทางตะวันออกเป็นเขตเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งสนามกีฬากลางแจ้งโคลอสเซียม และวิหารศักดิ์สิทธิ์แพนธีออน ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งของสำนักวาติกันและเขตตราสเตเวเร เป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ที่สวยงามคลาสสิก
  3. 3. ฟลอเรนซ์ (Florence) “ฟลอเรนซ์” เป็นเมืองหลวงของแคว้นทัศคานี เคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีในช่วงระหว่างปี 1865  - 1870 จึงเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมมายาวนาน  ในย่านเมืองเก่าใจกลางเมืองโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรสวยงาม ฟลอเรนซ์ยังโดดเด่นขึ้นชื่อในเรื่องแฟชั่น เป็นต้นกำเนิดหลายแบรนด์ดัง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักช้อปปิ้งทั่วโลก
  4. 4. เมืองเนเปิลส์ (Naples) “เนเปิลส์” เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของอิตาลี  เป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลยิ่งต่อวัฒนธรรมของอิตาลี เป็นเมืองต้นกำเนิด “พิซซา” หนึ่งในอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงที่สุด ปัจจุบันเนเปิลส์เป็นเมืองมรดกโลก และเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย มีโบสถ์โบราณมากถึง 448 แห่ง และยังไม่นับปราสาท พระราชวัง และสิ่งก่อสร้างสไตล์กอธิกและเรเนอซองส์อีกจำนวนมาก  
  5. 5. เมืองเวนิส (Venice) “เวนิส” หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า “เวเนตเซีย” เมืองหลวงของแคว้นเวเนโตแห่งนี้ เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่สวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรมและดนตรียามค่ำคืน กิจกรรมยอดนิยมในเมืองแห่งสายน้ำนี้คือ นั่งเรือกอนโดลาชมบรรยากาศรอบๆ เมือง 

 

เคล็ดลับการเดินทางไปอิตาลี

  • - เดือนพฤศจิกายน และมกราคม เป็นเดือนที่มีนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด ตั๋วเครื่องบิน และที่พักมีราคาถูก โดยเฉพาะการจองล่วงหน้านานๆ 
  • - เมืองต่างๆ เช่น โรม ฟลอเรนซ์ และเวนิส มีน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยให้บริการที่จัตุรัสกลางเมือง อย่าลืมพกขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ติดตัวไปด้วย
  • - การใช้ตั๋วโดยสารรถบัสและรถไฟครั้งแรก ต้องตอกบัตรทุกครั้ง เพื่อระบุการเริ่มต้นใช้งาน หากโดนตรวจแล้วพบว่าไม่ตอกบัตร โดนค่าปรับแพงมาก
  • - ประเภทบัตรโดยสารมี 2 แบบ คือ ตั๋วเที่ยวเดียว (Single Ticket) ใช้งานภายในเวลา 100 นาที ส่วนตั๋ววัน (24 Hour Ticket) ใช้งานใน 24 ชั่วโมง นับจากครั้งแรกที่ตอกบัตร
  • - รถแท็กซี่มีค่าบริการที่แพงมาก แถมบวกเพิ่มค่ากระเป๋าเดินทาง ยิ่งดึกเท่าไรราคาก็แพงขึ้นเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลในอิตาลี

อิตาลี (Italy) เป็นประเทศที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยทอดยาวจากเทือกเขาเทือกเขาแอลป์ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ครอบคลุมพื้นที่คาบสมุทรแอเพนไนน์ หมู่เกาะซิซิลีและซาร์ดิเนีย อิตาลีมีความสวยงามในทุกฤดูกาล และในทุกแคว้นทุกเมือง จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ต้องกลับไปเยือนอิตาลีครั้งแล้วครั้งเล่าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดของจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ นอกจากอนุสรณ์สถาน ผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมชิ้นเอก และซากปรักหักพังนับไม่ถ้วนของอารยธรรมโรมันโบราณ อิตาลียังมีธรรมชาติสุดอัศจรรย์ ทั้งเนินหิมะบนเทือกเขาอัลไพน์ ชายหาดที่สวยงามตามแนวชายฝั่งเอเดรียติกและเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลสาบแสนสวยงามทางตอนเหนือ อิตาลียังมีแหล่งวัฒนธรรมมรดกโลกของยูเนสโกมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก เพื่อให้การวางแผนเที่ยวสมบูรณ์แบบที่สุด ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้เร็วขึ้น

อิตาลีตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป ซึ่งมีลักษณะเป็นคาบสมุทรทรงคล้ายรองเท้าบูท และมีเกาะใหญ่ 2 เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ เกาะซิซิลีและเกาะซาร์ดิเนีย ทั้งนี้ประเทศอิตาลีถูกโอบล้อมด้วยทะเลทุกทิศทาง ยกเว้นทางทิศเหนือที่ติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศออสเตรียโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นตัวกั้นแบ่งเขตประเทศ พื้นที่ร้อยละ 75 ของอิตาลีเป็นภูเขาและที่ราบสูง เป็นประเทศมีมีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีเทือกเขาแอพเพนไนน์ และภูเขามอนต์ บรานซ์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปพาดผ่านทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ

ประเทศอิตาลีเป็นประเทศแห่งประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก มีเมืองหลวงคือกรุงโรม (Rome) ประชากรในประเทศหรือที่เรียกกันว่าชาวอิตาเลียน มีการสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยโรมันโบราณ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ มีภาษาทางการคือภาษาอิตาลี นอกจากนี้ประเทศยังมีเมืองสำคัญอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยกันดี เช่น มิลาน เวนิส ตูริน ฟลอเรนซ์ เนเปิลส์ เป็นต้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางไปยังประเทศอิตาลีจะได้สัมผัสกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่อันทรงคุณค่าของโลก เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นต้น นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างแกรนด์คาแนล (Grand Canal) คลองในเวนิสบรรยากาศดีที่มีบริการล่องเรือกอนโดล่าจนโด่งดังไปทั่วโลก อาหารสไตล์อิตาเลียนอย่างพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ก็เป็นอาหารที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงงานศิลปะและแฟชั่นต่างก็เป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน ทั้งนี้สำหรับคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวประเทศอิตาลีสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวที่มีสายการบินจากทั่วโลกคอยให้บริการ โดยคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวประเทศอิตาลีจำเป็นจะต้องทำวีซ่าก่อนการเดินทาง ระยะเวลาในการพำนักสูงสุดในประเทศคือ 90 วัน

 

สกุลเงิน

สกุลเงินของอิตาลีคือ ยูโร (ฺEuro - EUR)  

แบ่งออกเป็น 

ธนบัตร 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร

เหรียญ 1, 2, 5, 10, 20 และ 50 เซ็นต์ รวมถึง 1 และ 2 ยูโร

อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 36.45 บาท

 

ฤดูกาลของอิตาลี

อิตาลีมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีกลางวันที่อบอุ่นและกลางคืนที่เย็นสบาย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีเพื่อเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี ภาคเหนือของอิตาลีซึ่งสัมผัสกับเทือกเขาแอลป์และโดโลไมต์นั้นเย็นกว่าทางตอนใต้ของอิตาลี  

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) เป็นฤดูที่สวยงาม ดอกไม้บานสะพรั่ง ในเดือนมีนาคมอาจยังหนาวและชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15 - 20 องศาเซลเซียส และบางวันอาจมีฝนตก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวแบบคนไม่เยอะและค่าใช้จ่ายถูก  
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของอิตาลี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส ทางตอนใต้ของประเทศอาจสูงถึง 38 องศาเซลเซียส มีฝนตกบ้างแต่ไม่บ่อยนัก โดยเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) อากาศไม่ร้อนเกินไป แต่ยังคงอบอุ่นในตอนกลางวันอุณหภูมิในเดือนกันยายนอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส และเริ่มลดลงเหลือไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส ในเดือนตุลาคม เป็นอีกช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน 
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อุณหภูมิของอากาศจะแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละพื้นที่ ในบริเวณเทือกเขาแอลป์ อุณหภูมิจะลดลงจนต่ำกว่าศูนย์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของปีสำหรับผู้ที่ชอบสกีรีสอร์ท และเป็นช่วงที่งบท่องเที่ยวไม่แพง 

 

ภูมิภาคของอิตาลี

อิตาลีประกอบด้วย 20 ภูมิภาค ได้แก่ 

  1. อาบรุซโซ (Abruzzo) อยู่ทางตอนใต้ของภาคกลางของอิตาลี ติดกับทะเลเอเดรียติก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา มี 4 จังหวัดคือ ลากวีลา, คิเอติ, เปสการาและเทราโม 
  2. บาซิลิกาตา (Basilicata) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี มีโพเทนซาเป็นเมืองหลวง มีถ้ำโบราณมาเตลาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ  
  3. กาลาเบรีย (Calabria) ภูมิภาคทางใต้สุดของอิตาลี เป็นดินแดนที่ล้อมรอบด้วยน้ำในทุกด้าน เมืองหลวงของกาลาเบรียคือกาตันซาโร
  4. กัมปาเนีย (Campania) นี่คือภูมิภาคของปอมเปอี และชายฝั่งอามาลฟี มีแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 5 แห่ง เมืองหลวงคือเนเปิลส์ 
  5. เอมีเลีย - โรมัญญา (Emilia-Romagna) ภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เมืองหลวงคือโบโลญญา  
  6. ฟริอูลี - เวเนเซียจูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอิตาลี เป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเอง เมืองหลวงคือตรีเยสเต 
  7. ลาซิโอ (Lazio) ตั้งอยู่ในภาคกลางของอิตาลี เป็นที่ตั้งของกรุงโรม เมืองหลวงของประเทศ มีแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 4 แห่งในลาซิโอ
  8. มาร์เช  (Marche) พื้นที่ภาคกลางของประเทศ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านบนเนินเขา เมืองหลวงคืออันโคนา มีแหล่งมรดกโลก 1 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองเออร์บิโน
  9. ลิกูเรีย (Liguria) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี มีแนวชายฝั่งที่ยาวและแคบ มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศส มีเจนัวเป็นเมืองหลวง
  10. ลอมบาร์เดีย (Lombardy) ภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เมืองหลวงของลอมบาร์ดีคือมิลาน
  11. โมลีเซ (Molise) อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี มีเพียง 2 จังหวัด คือกัมโปบัสโซ ซึึ่งทำหน้าที่เมืองหลวงของภูมิภาค และจังหวัดอีเซอร์เนีย 
  12. พีดมอนท์ (Piedmont) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอิตาลี เป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำของประเทศ มีเมืองหลวงชื่อตูริน 
  13. ปูเกลีย (Puglia) เป็นภูมิภาคทางตะวันออกสุดของอิตาลี มีแนวชายฝั่งที่ยาวที่สุดในคาบสมุทรอิตาลี มีทั้งหมด 6 จังหวัด มีบารีเป็นเมืองหลวง 
  14. ซาร์ดิเนีย (Sardinia) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ทางตะวันตกของชายฝั่งอิตาลี และเป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเองของ อิตาลี เมืองหลวงของซาร์ดิเนียคือกาลยารี 
  1. ซิซิลี (Sicily) เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็น 1 ใน 5 เขตปกครองตนเองของอิตาลี เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลก 7 แห่ง เมืองหลวงคือปาแลร์โม
  2. เทรนติโน - อัลโตอัลดิเจ (AdigeTrentino-Alto Adige) อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นภูมิภาคที่ไม่ติดทะเล มี 2 จังหวัดคือ โบลซาโนโบเซนและเทรนโต  
  3. ทัสคานี (Tuscany) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมืองหลวงของทัสคานีคือฟลอเรนซ์
  4. อุมเบรีย (Umbria) ตั้งอยู่ในตอนกลางของอิตาลี เป็นภูมิภาคที่ไม่ติดทะเล ล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นหนึ่งในภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดในอิตาลี เมืองหลวงคือเปรูจา
  5. วาลดาออสตา (Valle d'Aosta) เป็นภูมิภาคที่เล็กที่สุด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอิตาลี มีเมืองหลวงชื่อออสตา
  6. เวเนโต (Veneto) ตั้งอยู่ในอิตาลีตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีพรมแดนติดกับออสเตรีย เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง “เวนิส” 

 

สนามบินสำคัญของอิตาลี

  1. สนามบินเลโอนาร์โดดาวินชี–ฟิอูมิซิโน (Leonardo da Vinci – Fiumicino Airport) เป็นสนามบินนานาชาติในเมืองฟิอูมิซิโนประเทศอิตาลี และเป็นประตูสู่กรุงโรม เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศ ห่างจากใจกลางเมืองโรมประมาณ 33 กิโลเมตร   
  2. สนามบินมิลานมัลเปนซา (Milan Malpensa Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของอิตาลี ให้บริการในแคว้นลอมบาร์เดีย, พีดมอนต์และลิกูเรีย อยู่ห่างจากเมืองมิลานไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 49 กิโลเมตร 
  3. สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport) เป็นสนามบินนานาชาติของเมืองเวนิส ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ห่างจากหมู่เกาะเวนิสเพียง 8 กิโลเมตร เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในอิตาลี
  4. ท่าอากาศยานโบโลญญากูกลีเอลโมมาร์โคนี (Bologna Guglielmo Marconi Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ให้บริการในเมืองโบโลญญา อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร
  5. สนามบินนานาชาติเนเปิลส์ (Naples International Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ให้บริการในเมืองเนเปิลส์ และแคว้นกัมปาเนียทางตอนใต้ของอิตาลี อยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร
  6. สนามบินที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ สนามบินคาตาเนีย–ฟอนตานารอสซา (Catania-Fontanarossa Airport) สนามบินมิลาโนลินาเต (Milano Linate Airport) สนามบินตูริน (Turin Airport) สนามบินเวโรนาวิลลาฟรังกา (Verona Villafranca Airport) สนามบินฟัลโคเน-บอร์เซลลิโน Falcone–Borsellino Airport) สนามบินนานาชาติปิซา (Pisa International Airport) สนามบินบารีคารอลวอจตีวา (Bari Karol Wojtyła Airport) สนามบินเจนัวคริสโตโฟโรโคลอมโบ (Genoa Cristoforo Colombo Airport)

 

การเดินทางไปอิตาลี

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินพักต่อเครื่อง (1-2 จุด) จากกรุงเทพฯ ไปยังอิตาลี  ได้แก่ กัลฟ์แอร์ (Gulf Air) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) การบินไทย (Thai Airways) คาเธย์แปซิฟิก (Cathay Pacific) คูเวตแอร์เวย์ (Kuwait Airways) เคแอลเอ็มรอยัลดัตช์แอร์ไลน์ (KLM Royal Dutch Airline) เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) ซาอุดิอาระเบียแอร์ไลน์ (Saudi Arabian Airlines) ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ฟินน์แอร์ (Finn Air) สแกนดอเนเวียนแอร์ไลน์ (Scandinavian Airlines) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) รอยัลจอร์แดนเนียน (Royal Jordanian)  สวิสอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ (Swiss International Air Line) ออสเตรียนแอร์ไลน์ (Austrian Airlines) โอมานแอร์ (Oman Air) อีวีเอแอร์ (EVA Air)  เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) เอติฮัดแอร์เวย์ (Etihad Airways) แอร์ฟรานซ์ (Air France) แอร์เอเซีย (Air Asia) ใช้เวลาเดินทางอย่างต่ำ 13 ชั่วโมง 40 นาที 

 

การเดินทางในอิตาลี

  • เครื่องบิน (Plane) เป็นการเดินทางที่บางครั้งอาจถูกกว่า และเร็วกว่าเดินทางโดยรถไฟ สายการบินภายในประเทศของอิตาลี ได้แก่ แอร์โดโลมิติ (Air Dolomiti) อลิตาเลีย (Alitalia) บลูพาโนรามา (Blue Panorama) และ เมอริเดียนา (Meridiana)
  • รถไฟ (Train) การเดินทางด้วยรถไฟสะดวกและค่อนข้างเร็ว มีทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟสายตรง เหมาะกับการเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ
  • รถไฟใต้ดิน (Metro) ให้บริการในเมืองใหญ่ๆ  เช่น โรม, มิลาน, ตูริน, เปรูจา, เจนัว เนเปิลส์ และคาตาเนีย  
  • รถบัส (Bus) เป็นวิธีเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่รถไฟไปไม่ถึง ราคาถูก ถึงแม้จะเหนื่อยกว่ารถไฟ มีทั้งรถโดยสารในเมืองและรถบัสทางไกล ค้นหาเส้นทางและจองตั๋วได้ที่ Omio
  • รถเช่า (Car Rental) บริการรถเช่าในอิตาลีมีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไฮซีซั่น แต่จะประหยัดกว่าเมื่อเดินทางเป็นกลุ่ม มีให้เลือกทั้งรถยนต์ แคมเปอร์แวน และรถตู้  
  • จักรยาน (ฺBicycle) รูปแบบการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอิตาลี มีให้บริการในเมืองใหญ่ๆ และรีสอร์ทบางแห่ง 
  • เรือ (Ferry) และ ไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังเมืองชายฝั่งและเกาะต่างๆ ของอิตาลี ทั้งนี้เรือโดยสารบางลำวิ่งเฉพาะช่วงไฮซีซั่น โดยจะปิดในฤดูหนาว 
  • แท็กซี่  (Taxi) สะดวกสบาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่มีราคาแพง ไม่เหมาะกับการเดินทางคนเดียว เรียกรถผ่านแอพได้ที่ FREE Now หรือ MyTaxi ส่วน Uber ให้บริการเฉพาะในกรุงโรมและมิลานเท่านั้น

  

เทศกาลสำคัญในอิตาลี

  1. 1. เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) เทศกาลสุดยิ่งใหญ่อันเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ของเวนิส เทศกาลหน้ากากที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของอิตาลี จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีจะได้พบกับขบวนพาเหรดอันสุดแสนอลังการทั้งทางบกและทางเรือ ผู้ร่วมขบวนแต่งตัวย้อนยุค สวมหน้ากากหลากหลายสไตล์ ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน 
  2. 2. เทศกาลปาส้ม (Battle of the Oranges เทศกาลปาส้มหรือสงครามปาส้ม เป็นงานประเพณีเก่าแก่ของเมืองไอวีเรีย เมืองเล็กๆ ทางภาคเหนือของอิตาลี โดยผู้เข้าร่วมงานจะแบ่งออกเป็น 9 ทีม และใช้เวลา 3 วัน ในการต่อสู้ด้วยส้ม ณ บริเวณลานกลางเมือง โดยจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงถือศีลอด เป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ในศตวรรษที่ 12  
  3. 3. เทศกาลโอเปราเวโรนา ( Verona Opera Festival) เป็นหนึ่งในงานแสดงโอเปร่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดในยุโรป จัดขึ้นทุกฤดูร้อนในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกันยายน ที่ “เวโรนาอารีนา” อัฒจันทร์โรมันโบราณที่จุผู้ชมได้ถึง 3 หมื่นคน โดยแต่ละค่ำคืนจะมีการแสดงละครโอเปรา คอนเสิร์ต รวมถึงความบันเทิงประเภทอื่นๆ สับเปลี่ยนกันไป ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในอิตาลี

  1. 1. มิลาน (Milan) “มิลาน” เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ใจกลางแตว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม  และสถาปัตยกรรม ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้ง มหาวิหารแห่งมิลาน ปราสาทสฟอร์ซา พระราชวังแห่งมิลาน ห้างสรรพสินค้าหรูหราสุดคลาสสิก พิพิธภัณฑ์ลีโอนาร์โดดาวินชี และโรงอุปรากรมิลาน
  2. 2. โรม (Rome) หนึ่งในเมืองที่ยิ่งใหญ่ของโลก “โรม” เป็นเมืองเอกแห่งแคว้นลาซิโอ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์โบราณ เมืองแบ่งออกเป็นสองฝั่งที่แตกต่าง ทางตะวันออกเป็นเขตเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งสนามกีฬากลางแจ้งโคลอสเซียม และวิหารศักดิ์สิทธิ์แพนธีออน ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งของสำนักวาติกันและเขตตราสเตเวเร เป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ที่สวยงามคลาสสิก
  3. 3. ฟลอเรนซ์ (Florence) “ฟลอเรนซ์” เป็นเมืองหลวงของแคว้นทัศคานี เคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีในช่วงระหว่างปี 1865  - 1870 จึงเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมมายาวนาน  ในย่านเมืองเก่าใจกลางเมืองโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรสวยงาม ฟลอเรนซ์ยังโดดเด่นขึ้นชื่อในเรื่องแฟชั่น เป็นต้นกำเนิดหลายแบรนด์ดัง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักช้อปปิ้งทั่วโลก
  4. 4. เมืองเนเปิลส์ (Naples) “เนเปิลส์” เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของอิตาลี  เป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลยิ่งต่อวัฒนธรรมของอิตาลี เป็นเมืองต้นกำเนิด “พิซซา” หนึ่งในอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงที่สุด ปัจจุบันเนเปิลส์เป็นเมืองมรดกโลก และเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย มีโบสถ์โบราณมากถึง 448 แห่ง และยังไม่นับปราสาท พระราชวัง และสิ่งก่อสร้างสไตล์กอธิกและเรเนอซองส์อีกจำนวนมาก  
  5. 5. เมืองเวนิส (Venice) “เวนิส” หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า “เวเนตเซีย” เมืองหลวงของแคว้นเวเนโตแห่งนี้ เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่สวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรมและดนตรียามค่ำคืน กิจกรรมยอดนิยมในเมืองแห่งสายน้ำนี้คือ นั่งเรือกอนโดลาชมบรรยากาศรอบๆ เมือง 

 

เคล็ดลับการเดินทางไปอิตาลี

  • - เดือนพฤศจิกายน และมกราคม เป็นเดือนที่มีนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด ตั๋วเครื่องบิน และที่พักมีราคาถูก โดยเฉพาะการจองล่วงหน้านานๆ 
  • - เมืองต่างๆ เช่น โรม ฟลอเรนซ์ และเวนิส มีน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยให้บริการที่จัตุรัสกลางเมือง อย่าลืมพกขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ติดตัวไปด้วย
  • - การใช้ตั๋วโดยสารรถบัสและรถไฟครั้งแรก ต้องตอกบัตรทุกครั้ง เพื่อระบุการเริ่มต้นใช้งาน หากโดนตรวจแล้วพบว่าไม่ตอกบัตร โดนค่าปรับแพงมาก
  • - ประเภทบัตรโดยสารมี 2 แบบ คือ ตั๋วเที่ยวเดียว (Single Ticket) ใช้งานภายในเวลา 100 นาที ส่วนตั๋ววัน (24 Hour Ticket) ใช้งานใน 24 ชั่วโมง นับจากครั้งแรกที่ตอกบัตร
  • - รถแท็กซี่มีค่าบริการที่แพงมาก แถมบวกเพิ่มค่ากระเป๋าเดินทาง ยิ่งดึกเท่าไรราคาก็แพงขึ้นเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลในอิตาลี

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ
Garuda Indonesia

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย