จองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์

ข้อมูลเพิ่มเติมมัลดีฟส์

มัลดีฟส์ หรือว่าสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เป็นประเทศหมู่เกาะที่เกิดจากซากปะการังทับถมกันนาน 30 ล้านปี จนกลายเป็นแผ่นดิน ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณเส้นศูนย์สูตร อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย และทางตะวันตกของศรีลังกา เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในทวีปเอเชีย มีพื้นที่ทั้งหมด 115,300 ตารางกิโลเมตร แต่เป็นส่วนพื้นดินเพียง 0.331% หรือ 298 ตารางกิโลเมตร ที่เหลือกว่า 99% คือพื้นน้ำ และยังเป็นประเทศที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่เตี้ยที่สุดในโลกอีกด้วย มีจุดที่สูงที่สุดประมาณ 2.3 เมตรจากน้ำทะเล และประมาณ 80% สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1 เมตร มัลดีฟส์มีลักษณะที่โดดเด่นกว่าประเทศหมู่เกาะอื่นคือ มีเกาะต่างๆ เรียงตัวกันเป็นรูปวงแหวนล้อมรอบพื้นน้ำ ทำให้เกิดทะเลสาบหรือทะเลใน ที่มีช่องทางให้กระแสน้ำไหลเข้าออกได้ ที่เรียกว่าเรียกว่า “อะทอลล์” (Atoll) มาจากคำพื้นเมืองว่า อะโทลู (Atolu) อะทอลล์คือโครงสร้างของซากปะการังที่ทับถมกันในเขตน้ำตื้นกลางทะเล ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก มีรูปร่างคล้ายวงแหวนเป็นลากูน ส่วนที่โผล่พ้นระดับน้ำทะเลจะมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1 - 2 เมตร ซึ่งมีความยาวมากกว่า 2,000 กิโลเมตร

มัลดีฟส์มีอะทอลล์ทั้งหมด 26 กลุ่ม เรียงจากเหนือไปใต้ ความยาวรวม 823 กิโลเมตร กว้าง 130 กิโลเมตร รวม 1,190 เกาะ มีเพียง 200 เกาะที่ชาวเมืองอยู่อาศัย และอีก 88 เกาะ เป็นเกาะรีสอร์ท แต่ละเกาะยาวไม่เกิน 7 กิโลเมตร บางเกาะก็มีพื้นที่ซึ่งยาวไม่ถึง 1 กิโลเมตรมัลดีฟส์มีชายหาดที่สวยงามติดอันดับโลกถึง 10 แห่ง หาดทรายขาวละเอียด ท้องน้ำสีฟ้าใส มีฝูงปลา ปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเลอุดมสมบูรณ์มากกว่า 1,000 ชนิด มัลดีฟส์มีโลกใต้ทะเลที่ยังอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยปลาและปะการังนานาชนิด และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางกิจกรรมทางน้ำและดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มัลดีฟส์จึงเป็นเกาะสวรรค์ที่มีธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ สมดังฉายา “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” เป็นจุดหมายปลายทางเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์

สกุลเงิน

สกุลเงินของมัลดีฟส์ คือ รูฟียาห์ (Rufiyaa) และ ลารี (Laaree) มีอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ ประมาณ 15 รูฟียาห์ และ 1 รูฟียาห์ เท่ากับ 100 ลารี ทั้งนี้ส่วนใหญ่ เงินดอลลาร์ เงินยูโร เช็คเดินทางและเครดิตการ์ดสามารถใช้ได้ทั่วเกาะ ไม่จำเป็นต้องแลกเงินท้องถิ่น บัตรเครดิตที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเช่น American Express, Visa, Master Card, Diners Club, JCB และ Euro Card

ฤดูกาลของประเทศมัลดีฟส์

สภาพอากาศเป็นแบบร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 29-32 องศาเซลเซียส อากาศทั้งปีไม่ค่อยแตกต่างกันมาก อีกทั้งมัลดีฟส์ยังไม่ได้อยู่ในแนวเส้นทางการเกิดพายุไซโคลน จึงปลอดภัยจากพายุประจำฤดูในมหาสมุทรอินเดีย นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์ได้ตลอดปี อุณหภูมิโดยทั่วไปค่อนข้างคงที่ กลางวันเฉลี่ย 30-31.8 องศาเซลเซียส กลางคืน 25.1-26.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้ำทะเล 27 องศาเซลเซียส

ฤดูกาลจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ

ช่วงลมตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ช่วงนี้ฟ้าปลอดโปร่ง แดดจ้า ร้อนที่สุดคือเดือนเมษายน ส่วนอากาศเย็นสุดคือเดือนธันวาคม
ช่วงลมตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน เป็นช่วงที่มีฝนตกแบบเป็นช่วงสั้นๆ 15-30 นาที หลังจากนั้นน้ำก็จะกลับมาใส เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการังได้ตามปกติ

ภูมิภาคของประเทศมัลดีฟส์

มัลดีฟส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 19 เขต (atoll) และ 1เขตบริหารพิเศษ

สนามบินสำคัญของประเทศมัลดีฟส์

สนามบินมาเล (Male Airport) ชื่อเป็นทางการว่า “ท่าอากาศยานนานาชาติเวลานา” (Velana International Airport) เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยานนานาชาติอิบราฮิมนา เป็นสนามนานาชาติหลักของมัลดีฟส์ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีเส้นทางการบินเชื่อมต่อไปทั่วโลก การเดินทางจากสนามบินไปยังเกาะต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 20 - 40 นาที ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดินทางที่คุณเลือก เช่น เรือเร็ว (Speed Boat) เครื่องบินน้ำ (Sea Plane) หรือ เครื่องบินภายใน (Domestic Flight)

การเดินทางไปมัลดีฟส์

สายการบินที่บินตรงสู่มัลดีฟส์ คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) และแอร์เอซีย (Air Asia) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
สายการบินอื่นๆ ที่เป็นทางเลือก และต้องแวะพักระหว่างทางเช่น ศรีลังกาแอร์ไลนส์ (Srilankan Airlines) แวะโคลัมโบ, สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) แวะสิงคโปร์, มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) แวะมาเลเซีย และคาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathy Pacific) แวะฮ่องกง

การเดินทางภายในประเทศมัลดีฟส์

การเดินทางภายในประเทศของมัลดีฟส์ หมายความถึงการข้ามระหว่างเกาะ ซึ่งมีทางเลือกเพียงแค่ 3 ทาง คือ

เรือเร็ว (Speed Boat) ใช้เดินทางไปยังรีสอร์ทที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เครื่องบินน้ำ (Sea Plane) เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบกที่สามารถจะนำเครื่องขึ้นและลงบนน้ำได้ ใช้สำหรับเดินทางไปยังรีสอร์ทที่อยู่ไกลออกมา
เครื่องบินภายใน (Domestic Flight) เหมาะสำหรับเดินทางไปยังรีสอร์ทที่อยู่ค่อนข้างไกล และต้องนั่งสปีดโบ๊ทต่อมาที่รีสอร์ท
รถแท็กซี่ ภายในเมืองมาเล นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ในการเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ

เทศกาลสำคัญในมัลดีฟส์

เทศกาลสำคัญๆ ของชาวมัลดีฟส์เป็นเทศกาลตามคติศาสนาอิสลาม เช่นเดียวกับชาติมุสลิมอื่นๆ ซึ่งยึดถือเอาปฏิทินจันทรคติของอิสลามเป็นที่ตั้ง อาทิ

1.เทศกาลบวงสรวง (Eid ul Adha) เทศกาลอิ้ดอุลไอฮา คือวันที่นับไป 66 วันหลังจากสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด เป็นช่วงที่จะมีวันหยุดยาวราว 5-7 วัน ผู้คนพร้อมใจกันเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องตามสถานที่ต่างๆ มีการจัดงานฉลอง เช่น เช่น การแสดงพื้นเมืองและสากล ร่วมกับการเต้นรำและดนตรีสมัยใหม่ การแข่งขันกีฬาประจำชาติ
2.เทศกาลสิ้นสุดศีลอด (Kuda Eid) เช้าวันแรกของการสิ้นสุดถือศีลอด ที่เรียกว่าวันกูดาอิ้ด ชาวมุสลิมจะเดินทางไปสวดมนต์ร่วมกันที่มัสยิด หลังจากนั้นจะเป็นช่วงของการฉลองที่บ้าน กินเวลานานไม่น้อยกว่า 3 วัน ถือเป็นวันหยุดยาวที่คนในครอบครัวจะได้พบปะสังสรรค์กันพร้อมหน้าเชิญญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านมาร่วมรับประทานอาหาร เป็นเทศกาลเเห่งการพักผ่อนอย่างเเท้จริง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน
3. วันชาติ (National Day) มัลดีฟส์สถาปนาเป็นสาธารณรัฐครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1953 แต่ขณะนั้นยังไม่พ้นจากการปกครองในระบอบกษัตริย์ ต่อมาใน วันที่ 11 พฤศจิกายน 1968 เป็นวันที่มัลดีฟส์ยกเลิกระบบสุลต่าน และเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยมี “อิบบราฮิม นาซีร์” เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของมัลดีฟส์ จึงนับเอาวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสถาปนาสาธารณรัฐที่แท้จริง และมีการจัดงานรำลึกที่เมืองมาเล

สถานที่เที่ยวสำคัญในมัลดีฟส์

1. เมืองมาเล (Male) เมืองหลวงของมัลดีฟส์ ตั้งอยู่บนเกาะมาเล ทางตอนใต้ของหมู่เกาะคาฟุ นับเป็น “เมืองหลวงขนาดเล็กที่สุดในโลก” ด้วยพื้นที่เพียงแค่ 5.8 ตารางกิโลเมตร มีประชากรกว่า 1 แสนคน ค่อนข้างจะแออัดอยู่สักหน่อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการคมนาคมของประเทศ เป็นที่ตั้งของท่าเรือพาณิชย์และสนามบินนานาชาติ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมามัลดีฟส์ จะต้องมาลงเครื่องบินที่นี่ และยังเป็นที่ตั้งของแนวประการัง Banana Reef ที่ยาวถึง 300 เมตรด้วย
2. ทำเนียบประธานาธิบดี (Mulee Aage) อดีตวังเก่าของสุลต่านที่มีการออกแบบตามสถาปัตยกรรมของศาสนาอิสลามทุกประการ ตั้งอยู่ในเมืองมาเล สร้างขึ้นโดยสุลต่าน Shamsudheen III ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากมัลดีฟส์ ล้มเลิกระบบสุลต่าน Mulee-aage ปัจจุบันกลายเป็นที่พำนักของประธานาธิบดี
3. มัสยิดฮูคูรุ (Hukuru Miskiiy Mosque) หรืออีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันดีคือ มัสยิดวันศุกร์ (Old Friday) ซึ่งเป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะมัลดีฟส์ สร้างขึ้นราวปี 1656 โดยสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบอิสลามทุกประการ จุดเด่นของมัสยิดแห่งนี้ คือผนังด้านในสร้างขึ้นจากซากปะการังและแกะสลักลวดลายแบบอิสลาม ผนัง กรอบประตู และกรอบหน้าต่างของมัสยิดสร้างขึ้นจากไม้ชนิดต่างๆ อาทิ ไม้สัก ไม้จันทน์ และ เรดวู้ด ภายในยังประดับตกแต่งด้วยเครื่องไม้ลงแล็กเกอร์ ฝีมือช่างชาวมัลดีเวียน ในอดีตมัสยิดแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน ขุนนางชั้นสูงนักรบ และบุคคลสำคัญของชาวมัลดีฟส์
4. ศูนย์กลางศาสนาอิสลาม (Islamic Centre) มัสยิดกลางเป็นเหมือนศูนย์รวมทางจิตใจของชาวมาเล่ และถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดของเกาะมัลดีฟส์ มัสยิดยอดโดมสีทอง สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของสหพันธรัฐแห่งอ่าวเปอร์เซีย ปากีสถาน บรูไน และมาเลเซีย ภายในโอ่อ่าด้วยห้องโถงกว้างจุคนได้ถึง 5,000 คน ฉากและประตูงดงามด้วยไม้แกะสลัก พรมทอลวดลายพิเศษพร้อมด้วยโคมไฟแก้ว ส่วนมินาเร็ทหรือหอสูงสำหรับแจ้งเวลาสวดมนต์ สูงโดดเด่นเป็นสง่า ภายในตกแต่งด้วยไม้แกะสลักลวดลายตัวอักษรอาราบิกที่สวยงาม เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น. ผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ ผู้ชายสวมกางเกงขายาว ผู้หญิงสวมกระโปรงหรือชุดยาวกรอมเท้า บ่าและแขนมีผ้าปกปิดมิด
5. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมาเล ภายในมีสมบัติที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมัลดีฟส์รวบรวมไว้นับพันชิ้น จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่สำคัญ อาทิ สมบัติและของใช้ส่วนพระองค์ของอดีตองค์สุลต่าน ภาพถ่ายบุคคลสำคัญ งานปักผ้าฝีมือชาวมัลดีเวียน และโบราณวัตถุ รวมถึงศิลปะการแกะสลักหินของชาวมุสลิม แต่เดิมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งนี้เป็นอาคาร 3 ตอน ซึ่งเป็นอาคารส่วนที่เหลือจากพระราชวังมัลดีฟ์เวียน พิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันเป็นอาคารที่ถูกสร้างใหม่โดยรัฐบาลจีน และเปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอย่างเป็นทางการเมื่อ 26 กรกฎาคม 2010 เปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี เวลา 08:00-18:00 น.

เคล็ดลับการเดินทางไปมัลดีฟส์

- ช่วงที่เหมาะสำหรับการจองตั๋วเครื่องไปบินไปมัลดีฟส์มากที่สุดคือ ช่วง High season เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึง เมษายน
- ราคาที่พักเริ่มจะถูกลงช่วงเดือนเมษายน เพราะจะเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แล้ว คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
- ช่วงเดือนพฤศจิกายน และช่วงต่อระหว่างมีนาคมกับเมษายน คือช่วงที่น้ำทะเลใสเป็นพิเศษ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านของลมมรสุม เหมาะสำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์เพื่อดำน้ำโดยเฉพาะ
- มัลดีฟส์มีที่พัก 2 แบบ คือ บีชวิลลาที่พักที่ติดชายหาดบนเกาะต่างๆ และ วอเตอร์บังกะโลที่พักกลาง ราคาที่พักจะสูงกว่าที่พักแบบบีชวิลา
- รีสอร์ทส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักบ้านกลางน้ำ ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์ ควรเช็ครายละเอียดกับทางรีสอร์ทเพื่อความชัวร์
- เวลาที่มัลดีฟส์ ช้ากว่า ประเทศไทย 2 ชั่วโมง แต่ละรีสอร์ทจะมีเวลาเป็นของตัวเองเรียกว่า Island time ซึ่งจะช้าเร็วแตกต่างกันไปตามแต่ละรีสอร์ท
- วันทำงานของราชการคือวันอาทิตย์ ถึง วันพฤหัสบดี เวลา 7.30 - 14.30 ส่วนเวลาทำงานเอกชนร้านค้าทั่วไป 9.00 to 17.00 และเปิดวันเสาร์ช่วงเช้าถึงเที่ยง วันหยุดทั่วไปจะเป็นวันศุกร์-วันเสาร์
- นักดำน้ำ อย่าลืมพกบัตรดำน้ำ และ Logbook ติดตัวไปมัลดีฟส์ด้วย เพราะร้านดำน้ำส่วนใหญ่นอกจากตรวจบัตรแล้วยังจะให้เราทดสอบการดำ Scuba ในการดำครั้งแรกด้วยเพื่อความปลอดภัย
- ไม่ควรนำทราย หอย ปะการัง ปลาทะเล และสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติออกจากมัลดีฟส์ - การเปลือยกายในที่สาธารณะ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย - ไม่ควรตกปลาในบริเวณที่พัก หากชื่นชอบกีฬาตกปลา ควรติดต่อขอข้อมูลจากทางรีสอร์ทช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทาง
- ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง พฤศจิกายน เป็นฤดูที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน อาจมีฝนตกบ้างในช่วงนี้ แต่ไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการพักผ่อนของนักท่องเที่ยว เนื่องจากด้วยรีสอร์ทเป็นลักษณะเกาะส่วนตัว ฉะนั้น ฝนจะไม่ตกนานนัก และช่วงนี้ราคาค่าที่พักจะถูกลงกว่าช่วงอื่นๆ
- นอกจากโลกของสัตว์น้ำอันน่าตื่นตาและไม่มีพิษภัยแล้ว ใต้ท้องทะเลมัลดีฟส์ยังมีจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกหลายแห่งอันเป็นที่ตั้งของซากเรือเดินทะเลที่อับปางลง
- ในอดีตและกลายมาเป็นแนวปะการังที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่มากมาย บนท้องฟ้าก็ยังมีบริการเที่ยวบินชมความงามของอะตอล หาดทรายและแนวปะการัง จากมุมมองของนกอีกด้วย ความประทับใจอีกอย่างของการเยือนมัลดีฟส์ซึ่งหลายคนอาจไม่คุ้นเคย คือการได้เข้าไปสัมผัสโลกที่เหมือนหยุดเวลาเอาไว้นับศตวรรษของหมู่บ้านชาวประมง