โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เป็นนครหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในรัฐควีนแลนด์ โดดเด่นด้วยการเป็นเมืองติดทะเล เต็มไปด้วยชายหาดที่ทอดยาว มีแสงแดดสีทองตลอดทั้งปี เป็นสถานที่เที่ยวเหมาะกับนักเล่นเซิร์ฟ และคนที่ชื่นชอบเที่ยวชายหาด นับว่าเป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่นทั้งหลาย โดยโกลด์โคสต์ได้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองบริสเบนประมาณ 66 กิโลเมตร ถัดไปทางทิศใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง ความสำคัญของเมืองโกลด์โคสต์ คือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของประเทศออสเตรเลีย เป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยว เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่มาเที่ยวออสเตรเลีย ต่างก็อยากจะมาเที่ยวที่เมืองโกลด์โคสต์ด้วยกันทั้งนั้น เนื่องจากเมืองโกลด์โคสต์ ได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองแห่งการสนุก เพราะมีที่เที่ยวโกลด์โคสต์สุดมันส์หลายแห่ง ทั้งกิจกรรมทางทะเล สวนน้ำ สวนสนุก กิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ต่างๆ รวมไปถึงบาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย หากใครที่ชอบทำกิจกรรม อยากมาเที่ยวแบบปลดปล่อยไม่ต้องคิดถึงเรื่องเครียดต่างๆ โกลด์โคสต์ก็เป็นหนึ่งในลิสต์เมืองที่ควรต้องมา คนส่วนใหญ่มักนิยมเดินทางมาเที่ยวโกลด์โคสต์ โดยบินมาลงบริสเบน แล้วค่อยข้ามต่อมาเที่ยวโกลด์โคสต์ แต่อันที่จริงแล้วคุณก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินตรงไปโกลด์โคสต์ได้เลย
นอกจากโกลด์โคสต์เองจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ชาวเมืองออสเตรเลียยังนิยมเดินทางมายังโกลด์โคสต์เพื่อพักผ่อนในวันหยุด หรือว่าใช้วันลาที่เหลือทั้งหมดกับเมืองโกลด์โคสต์นี้ เพราะโกลด์โคสต์เป็นเมืองชายฝั่งทางใต้ของบริสเบน มีอากาศดีตลอดทั้งปี โดดเด่นมากที่สุดก็คงจะเป็นแสงแดดสีทองที่สาดส่องลงมา กระทบกับชายหาด ที่ทำให้ชายหาดของเมืองโกลด์โคสต์กลายเป็นสีทอง อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ซึ่งภายในเมืองโกลด์โคสต์ก็จะมีชายหาดหลายแห่งด้วยกัน นอกเหนือจากชายหาดแล้วนั้น ยังมีสวนสนุกธีมพาร์คมากมายรอคุณอยู่ โดยรวมแล้วหากใครมีเวลา แนะนำว่าลองมาเดินเล่น ใช้เวลากับเมืองโกลด์โคสต์กันสักหน่อย เพราะเมืองโกลด์โคสต์เองก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นเมือง กับชายฝั่งเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการไปเที่ยวเมืองโกลด์โคสต์จำเป็นจะต้องขอวีซ่านักท่องเที่ยวของประเทศออสเตรเลีย
สกุลเงิน
ไปเที่ยวเมืองโกลด์โคสต์นั้นต้องแลกเงินสกุลดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ซึ่ง 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย มีค่าเท่ากับ 20 - 25 ไทยบาท (THB) แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินในแต่ละวัน
ฤดูกาลโกลด์โคสต์
ข้อดีของเมืองโกลด์โคสต์คือเป็นเมืองที่อากาศดี สามารถมาเที่ยวกันได้ทั้งปี ส่วนใหญ่แล้วสภาพอากาศจะเป็นกึ่งร้อนชื้น เวลาเข้าสู่ฤดูหนาว ก็จะเป็นฤดูหนาวที่มีความอบอุ่น ส่วนฤดูร้อนก็จะเป็นฤดูร้อนแบบร้อนชื้นเช่นเดียวกัน เฉลี่ยแล้วภายในหนึ่งปีจะมีแดดออกมากถึง 240 - 300 วันกันเลยทีเดียว ภายในหนึ่งปีก็จะมี 4 ฤดูคือ
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดภายในเมืองโกลด์โคสต์ เฉลี่ยแล้วอุณหภูมิต่ำสุดคือ 21 องศาเซสเซียส และอุณหภูมิสูงสุดคือ 28 องศาเซสเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม จะเป็นช่วงที่อากาศจะค่อยลดต่ำลงมาบ้าง แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก เพราะถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ก็ยังมีแดดออกอยู่เช่นเดียวกัน อุณหภูมิต่ำสุดคือ 18 องศา และสูงสุดคือ 25 องศาเซสเซียส
- ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงสิงหาคม อุณหภูมิต่ำสุดของฤดูหนาวคือ 12.5 องศาเท่านั้น นับว่าเป็นฤดูหนาวที่ยังคงมีความอบอุ่น และมีแสงแดดอยู่
- ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงพฤศจิกายน อากาศของฤดูนี้จะค่อยๆ เริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 16 องศาเซสเซียส อากาศจะกำลังเย็นสบาย เหมาะกับการมาเที่ยวโกลด์โคสต์ในช่วงนี้
ภูมิภาคโกลด์โคสต์
เมืองโกลด์โคสต์นั้นเป็นหนึ่งในนครที่อยู่ภายในรัฐควีนแลนด์ เป็นเมืองที่ใหญ่ และมีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากเมืองบริสเบน
สนามบินสำคัญโกลด์โคสต์
ที่เมืองโกลด์โคสต์นั้นมีสนามบิน หรือท่าอากาศยานนานาชาติที่สำคัญอยู่เพียงแห่งเดียว นั่นก็คือ ท่าอากาศยานโกลด์โคสต์ (OOL) หรือรู้จักกันในอีกหนึ่งชื่อก็คือ สนามบินคูลังกัตตา (Coolangatta Airport) ตั้งอยู่ภายในเมืองโกลด์โคสต์ ถือว่าเป็นสนามบินที่สำคัญ และมีความหนาแหน่นมากเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางไปโกลด์โคสต์
ในส่วนของการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองโกลด์โคสต์ นั้นจำเป็นจะต้องเดินทางแบบต่อเครื่อง โดยใช้ระยะเวลามากกว่า 13 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลา และประเทศที่จะต้องไปต่อเครื่อง มีสายการบินที่ให้บริการดังนี้ สายการบินสกู๊ต (Scoot) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ควอนตัส (Qantas) และแอร์นิวซีแลนด์ (Air New Zealand) เป็นต้น
การเดินทางในโกลด์โคสต์
- เครื่องบิน เป็นการเดินทางเชื่อมต่อเมืองที่สะดวกสบาย และช่วยประหยัดเวลาไปได้มากสำหรับการนั่งเครื่องบิน แนะนำหากใครที่เที่ยวเมืองอื่นในออสเตรเลียเรียบร้อยแล้ว อยากต่อเครื่องมาเที่ยวที่เมืองโกลด์โคสต์ ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโกลด์โคสต์ได้เลย
- รถไฟ (Train) ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกไม่แพ้เครื่องบินเลยทีเดียว หากใครที่มีเวลา อยากจะเดินทางไปเรื่อยๆ หรือเดินทางเชื่อมต่อระหว่างเมือง พร้อมกับชมวิวสวยระหว่างทาง การเดินทางด้วยรถไฟในเมืองโกลด์โคสต์ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี การเดินทางด้วยรถไฟจะมีทั้งรางที่อยู่ภายในเมืองโกลด์โคสต์ และรางที่เชื่อมเมืองโกลด์โคสต์กับเมืองอื่นๆ เข้าด้วยกัน
- รถบัส (Bus) การเดินทางที่ง่าย และเป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งก็คือการเดินทางด้วยรถบัส เพราะว่ารถบัสนั้นค่อนข้างจะครอบคลุม และมีเส้นทางการเดินรถมากมายภายในเมืองโกลด์โคสต์ โดยรถบัสจะมีให้บริการตั้งแต่ 05.00 จนถึงเที่ยงคืน และมีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงวันศุกร์ และเสาร์ เพิ่มเติมคือบริษัทรถของ ทรานส์ลิงก์ (TransLink) และเซิร์ฟไซด์ (Surfside) จะทำการวิ่งเลียบตลอดแนวชายฝั่ง
- รถราง (Tram) หรือที่เรียกกันว่า G:link เป็นรถรางที่ให้บริการภายในเมืองโกลด์โคสต์ เป็นการสัญจรที่สะดวกมากที่สุดอย่างหนึ่ง โดยรถรางนี้จะมีรางวิ่งรอบๆ เมืองโกลด์โคสต์ รถรางนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อปี 2014 ระยะเวลาการรอรถรางคือทุก 8 นาทีในช่วงเร่งด่วย และ 15 นาทีในช่วงเวลาของวันธรรมดา และทุก 10 นาทีในช่วงวันหยุด โดยทั้งหมดจะมีสถานีให้บริการ 16 สถานีด้วยกัน
- รถรับส่งจากสนามบิน หากใครที่กำลังหาข้อมูลเรื่องรถรับส่งสนามบินจากสนามบินโกลด์โคสต์ไปยังตัวเมืองโกลด์โคสต์ แนะนำให้ลองใช้บริการ Gold Coat Tourist Shuttle แต่ว่าอาจจะต้องทำการจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนใช้บริการ เพราะไม่เช่นนั้นที่นั่งอาจจะเต็มได้
- รถแท็กซี่ (Taxi) อีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับคนที่อยากได้การบริการที่สะดวกสบายมากขึ้น หรือไปเที่ยวโกลด์โคสต์กับเพื่อนหลายคน แล้วอยากแชร์ค่ารถ โดยแท็กซี่นี้ก็จะมีให้บริการทั่วไป ราคาเริ่มต้นมิเตอร์จะอยู่ที่ 3.20 ดอลล่าห์ ถือว่าราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเมืองอื่น
สถานที่เที่ยวสำคัญโกลด์โคสต์
- สวนสนุกซีเวิลด์ (Sea World) โกลด์โคสต์นั้นถือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสวนสนุก สวนน้ำ แต่ที่เที่ยวโกลด์โคสต์ที่อยากจะแนะนำเลยก็คือ สวนสนุกซีเวิลด์ ที่จะเป็นพาร์ทของสวนสัตว์น้ำ ที่คุณจะได้พบกับโชว์น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการแสดงของโลมา และแมวน้ำ นอกจากนั้นยังมีส่วนโชว์สัตว์น้ำต่างๆ นอกเหนือจากโซนแสดงสัตว์น้ำแล้วนั้น ยังมีโซนของรถไฟเหาะ เครื่องเล่น ไปจนถึงสวนน้ำเหมาะกับเด็ก เป็นที่เที่ยวโกลด์โคสต์ที่มาได้ทั้งครอบครัวเลยแหละ
- หาดเซิร์ฟเฟอร์สพาราไดซ์ (Surfers Paradise Beach) มาเที่ยวโกลด์โคสต์ทั้งทีก็ต้องมาเที่ยวหาดทรายกันสักหน่อย เพราะที่เมืองโกลด์โคสต์นี้ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่ทอดยาวเป็นอย่างมาก โดยหาดนี้จะโดดเด่นด้วยการเป็นหาดดังของเมือง มีความยาวมากกว่า 50 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางมาเที่ยวที่หาดเซิร์ฟเฟอร์สพาราไดซ์ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นจุดเช็คอินชื่อดังของคนที่อยากจะเล่นเซิร์ฟอีกด้วย
- สวนสนุกมูฟวี่เวิลด์ (Warner Bros. Movie World) สวนสนุกแห่งนี้ก็ได้รับความนิยม และฮอตฮิตไม่แพ้กับสวนสนุกแห่งอื่นๆ ในเมืองโกลด์โคสต์เลยทีเดียว เพราะสวนสนุกมูฟวี่เวิลด์จะมาในธีมพาร์คของวอเนอร์บราเธอร์ ภายในจะมีตัวการ์ตูนจากหนังดังมากมาย พร้อมกับมีตัวละครที่อยู่ภายในหนังต่างๆ พร้อมกันนั้นยังมีเครื่องเล่นมากมาย ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นระทึกใจไปกับเอฟเฟคสุดอลังการ สมกับเป็นสวนสนุกของค่ายหนังชื่อดัง
- สวนน้ำเว็ทแอนด์ไวลด์ (Wet’n’Wild Water World) หลังจากที่ไปตะลุยกับสวนสนุก และซีเวิลด์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมที่จะมาเที่ยวสวนน้ำแห่งนี้ เพราะว่าสวนน้ำนี้ถือว่าเป็นที่เที่ยวแลนด์มาร์คชื่อดังของโกลด์โคสต์ และของประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว ความสนุกก็คือด้านในจะมีเครื่องเล่นให้เลือกเพียบ ทั้งของเด็ก และผู้ใหญ่ โดดเด่นด้วยเครื่องเล่นใหม่ที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนั้นยังมีโซนที่สามารถมาโต้คลื่นเทียมได้ ใครชอบเล่นสวนน้ำ แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย
- จุดชมวิวสกายพอยท์ (SkyPoint Observation Deck) อยากชมวิวสวยๆ ของเมืองโกลด์โคสต์ ต้องไม่ควรพลาดจุดชมวิวแห่งนี้เลย เพราะว่าจุดชมวิวสกายพอยท์ ถือเป็นจุดชมวิวที่สูง และสวยที่สุดของเมืองโกลด์โคสต์ ด้วยความสูงเทียบเท่ากับตึกชั้นที่ 77 ทำให้คุณสามารถมองเห็นวิวเมืองสวยโกลด์โคสต์ได้แบบ 360 องศารอบทิศทาง ที่สำคัญคือขึ้นมาชมวิวได้ทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน เพราะเปิดตั้งแต่ 7.30 น. ไปจนถึง 20.00 น. กันเลยทีเดียว
เทศกาลสำคัญโกลด์โคสต์
- เทศกาลวาฬเมืองโกลด์โคสต์ (Gold Coast Whale Festival) เพราะว่านักท่องเที่ยวนั้นชอบเดินทางมาที่เมืองโกลด์โคสต์เพื่อมาดูวาฬหลังค่อม ซึ่งวาฬชนิดนี้ก็ถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองโกลด์โคสต์นั่นเอง ซึ่งเทศกาลนี้จะจัดขึ้นเพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของวาฬชนิดนี้ อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงความสำคัญของวาฬ กับระบบนิเวศ และการอยู่ร่วมกันกับวาฬอย่างไรให้ไม่กระทบต่อธรรมชาติ ถือว่าเป็นเทศกาลที่ได้รับความสนใจไม่ใช่น้อย
- เทศกาลฟิล์มโกลด์โคสต์ (Gold Coast Film Festival) ถือว่าเป็นเทศกาลที่ถูกจัดมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงได้รับการต้อนรับที่ดีจากชาวเมืองโกลด์โคสต์เอง และนักท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งงานเทศกาลนี้เด่นๆ เลยก็คือการเดินทางมาร่วมงานการฉายหนังที่ถูกคัดเลือกมากมายกว่า 100 เรื่อง พร้อมกันนั้นเทศกาลนี้ยังเป็นการร่วมตัวพูดคุย และแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้ทำหนังจากหลากหลายประเทศ หากใครที่ชอบดูหนัง แนะนำว่าไม่ควรพลาดเทศกาลนี้ ซึ่งจะถูกจัดขึ้นเป็นระยะเวลามากกว่า 10 วันในทุกๆ ปี
- เทศกาลส่งท้ายปีเก่า (New Year Event) ทุกๆ ปีในช่วงฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่เมืองโกลด์โคสต์ นั้นจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และต่อเนื่อง ผู้คนจะออกมาแต่งกายด้วยสีสันสดใส มีการประดับประดา ฉลองการส่งท้ายปีเก่านี้ พร้อมกับทุกคนมาเริ่มต้นนับถอยหลังไปด้วยกัน การฉลองในเมืองโกลด์โคสต์ถือว่าเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยม และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในช่วงปีใหม่
เคล็ดลับการเดินทางไปเที่ยวโกลด์โคสต์
- - ใครที่แวะมาเที่ยวโกลด์โคสต์แค่แปปเดียว หรือแวะมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป แนะนำให้ซื้อบัตร Translink เพราะว่าคุ้มค่า และช่วยประหยัดเงินไปได้ เนื่องจากบัตรนี้จะเป็นราคาเหมาจ่ายแบบวันเดียว สนราคาเริ่มต้นที่ 10 AUD เท่านั้น
- - หรือว่าคนที่อยากจะเลือกการเดินทางได้อย่างหลากหลายมากขึ้น แนะนำเป็นบัตร Go Gold Coast เพราะว่าจะเดินทางได้ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส และเรือข้ามฟาก
- - การเดินทางไปเที่ยวตามสวนสนุกต่างๆ ภายในโกลด์โคสต์นั้น ให้ลองเลือกดูแพคเกจสวนสนุก เพราะจะทำให้ประหยัดเงินไปได้มากกว่าการไปซื้อบัตรสวนสนุกที่ด้านหน้าโซนขายตั๋ว
- - ควรเตรียมครีมกันแดด หรือว่าโลชั่นบำรุงผิวไปให้ดี เพราะว่าเมืองโกลด์โคสต์เป็นเมืองที่แดดแรง และแดดออกเกือบตลอดทั้งปี
- - หากคุณเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมริมชายหาด แต่ไม่ชอบความวุ่นวาย และความพลุกพล่าน แนะนำให้นั่งรอต่อไปยังเขต Burleigh และ Coolangatta ก็จะมีความเงียบสงบมากกว่า
- - ใครที่มาเที่ยวโกลด์โคสต์แล้วอยากมานั่งเรือชมวาฬหลังค่อม แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงพฤศจิกายน
- - เวลาที่เมืองโกลด์โคสต์นั้นเร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมงด้วยกัน