ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับใครหลาย ๆ คน ใครที่มีเป้าหมายว่าอยากจะไปสัมผัสกับสิ่งที่หลงใหลด้วยตัวเองสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะสวย ๆ อาหารที่น่าลิ้มลอง เทคโนโลยีที่ทันสมัย แหล่งชอปปิงที่ละลานตา หรือวัฒนธรรมที่โดดเด่น ที่เที่ยวเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ดังนั้นอย่าได้พลาด รีบจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกันเถอะ!
แต่ถ้าหากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ หรือไม่รู้ว่าจะเที่ยวเมืองไหน จังหวัดใดของประเทศญี่ปุ่นดี เราขอแนะนำที่โตเกียวเลย เพราะไม่เพียงแค่มีขนส่งสาธารณะที่ทำให้เดินทางได้สะดวกง่ายดายเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอาหารอร่อยหลากหลายสไตล์ และแหล่งชอปปิงมากมาย
นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวชมธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม เพียงแค่นั่งรถไฟด้วยเวลาไม่นาน ก็สามารถไปได้ทั้งเมืองมรดกโลกนิกโก้ ภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบคาวากูชิโกะ หรือถ้าอยากเก็บเกี่ยวบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแบบสุด ๆ ก็สามารถเดินทางไปเมืองใกล้ ๆ ได้ไม่ยาก เช่น เยี่ยมชมศาลเจ้าที่เมืองเก่าคามาคูระ ชมปราสาทที่เมืองโอดาวาระ และเมืองโบราณคาวาโกเอะ
เห็นแล้วใช่ไหมว่าโตเกียวน่าเที่ยวมากแค่ไหน ซึ่งใครที่สนใจหรืออยากจะได้ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวในราคาสุดคุ้ม ต้องเลือกจองตั๋วเครื่องบินกับแอปพลิเคชัน Traveloka เลย ราคาถูกสุดด้วยดีลพิเศษ แถมยังมีส่วนลดอีกมากมาย ให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายทั้งใจสบายทั้งกระเป๋า
เมื่อวางแผนไปเที่ยวโตเกียว บางคนอาจตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะไปช่วงฤดูกาลนั้นฤดูกาลนี้ แต่ไม่รู้ว่าช่วงเดือนไหนที่มีราคาตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวถูกที่สุด ดังนั้นเราจึงจะมาบอกราคาตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวของแต่ละเดือน ทั้ง 12 เดือนกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวได้ในราคาที่พอใจมากสุด
หลังจากที่ได้รู้ราคาเริ่มต้นของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแบบเที่ยวเดียวทั้ง 12 เดือนกันไปแล้ว เราจะพาคุณมาดูข้อมูลเบื้องต้นของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวกัน ว่าใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหน ราคาตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับเริ่มต้นที่เท่าไหร่ และมีกี่เที่ยวบินต่อสัปดาห์
เมื่อต้องการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือสนามบินที่ตั้งอยู่ภายในโตเกียว หรืออยู่ใกล้เคียง ว่ามีสนามบินใดบ้าง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ง่ายขึ้น โดยสนามบินหลักของโตเกียวจะมีทั้งหมด 2 สนามบินด้วยกัน ดังนี้
สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) สนามบินนาริตะเป็นสนามบินนานาชาติแห่งเมืองโตเกียว ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชิบะ ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 60 กิโลเมตร
โดยการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังโตเกียวค่อนข้างสะดวกสบาย เนื่องจากมีรถไฟเข้าถึงในสนามบินที่สามารถแบ่งออกเป็นสาย ๆ ได้แก่ นาริตะ เอ็กเพรส, Keisei Skyliner และ Limited Express อีกทั้งยังมีรถบัสให้บริการ เช่น ลิมูซีนบัส ชัทเทิลบัส ที่ให้บริการระหว่างสนามบินนาริตะสู่ใจกลางเมืองโตเกียว และ The Access Narita Bus รถบัสวิ่งตรงสู่โตเกียวในราคาประหยัดเพียง 1,000 เยนตลอดสาย
สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) สนามบินฮาเนดะเป็นสนามบินนานาชาติแห่งแรกของโตเกียว อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งสามารถใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งค่ารถโดยสารเข้าเมืองยังมีราคาถูกอีกด้วย จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางเข้าเมือง รวมถึงสะดวกต่อการต่อเครื่องบินภายในประเทศไปยังจังหวัดอื่น ๆ ของญี่ปุ่น
ส่วนการเดินทางเข้าเมืองก็สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ โดยสารรถไฟรางเดี่ยวและรถไฟสายเคคิวที่วิ่งตรงระหว่างสนามบินฮาเนดะสู่กรุงโตเกียว ซึ่งใช้เวลาเพียง 14 นาทีเท่านั้น หรือจะใช้บริการรถบัสที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร รวมถึงสถานที่ปลายทาง
โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงและเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ โดยทางทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยะมะนะชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคะนะงะวะบริเวณแม่น้ำทามะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ
พื้นที่ยาวจากตะวันตกจรดตะวันออกของโตเกียวนั้นเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่ลุ่มสูงไม่เกิน 4 เมตรจากระดับน้ำทะเลจนถึงภูเขา เนินเขา และที่ราบสูง ที่สูงถึง 2,000 เมตร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่มากมาย
นอกจากนี้เมืองโตเกียวไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแห่งที่ไม่ควรพลาด จึงทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว เพื่อเยี่ยมชมย่านชื่อดังในโตเกียว อาทิ ฮาราจูกุ, ชินจูกุ, ชิบูย่า, อาซากุสะ, อุเอโนะ, ยานากะ, กินซ่า, มารุโนะอุจิ, อากิฮาบาระ, กินซ่า, ตลาดปลาซึกิจิ เป็นต้น
รอบ ๆ กรุงโตเกียวยังมีเมืองที่สามารถเที่ยวได้ใน 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวโรแมนติกที่โยโกฮาม่า ไหว้พระใหญ่ที่คามาคุระ ล่องเรือโจรสลัดที่ฮาโกเน่ ชมภูเขาไฟฟูจิที่คาวากุจิโกะ หรือเที่ยวเมืองเอโดะน้อยที่คาวาโกเอะ
โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลินั่นเอง ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลฮานามิ คุณจะได้ชมดอกซากุระบานทั่วทั้งเมืองโตเกียว และเต็มอิ่มไปกับวิวซากุระสวย ๆ ในอากาศที่เย็นสบาย
นอกจากเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว ก็อย่าลืมแลกเงินสำหรับชอปปิงเชียว ซึ่งโตเกียวใช้สกุลเงินเป็นเยน โดยธนบัตรจะมีมูลค่าอยู่ที่ 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน ส่วนเหรียญที่ใช้สอยคือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน สำหรับอัตราการแลกเปลี่ยนในปัจจุบันจะอยู่ที่ 1 เยน เท่ากับ 0.29 บาท
สำหรับตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวนั้นมีทั้งเส้นทางที่บินจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเส้นทางที่บินจากสนามบินดอนเมือง ซึ่งที่ Traveloka ก็มีสายการบินมากมายให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวได้อย่างตรงความต้องการ หากใครอยู่ใกล้สนามบินไหนก็เลือกตั๋วเครื่องบินที่มีต้นทางอยู่สนามบินนั้นได้เลย
โดยสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่โตเกียว คือ Japan Airlines, Thai Airways และ ANA ส่วนสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่โตเกียว คือ AirAsia, Thai AirAsia X และ Scoot ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7.30 ชั่วโมง
ในส่วนของสายการบินอื่น ๆ ที่มีเที่ยวบินไปโตเกียว ได้แก่ Bangkok Airways, Cathay Pacific, Air China, Asiana Airlines, Jetstar Airways, Singapore Airlines, China Eastern, Korean Air, China Airlines, Shanghai Airlines ฯลฯ
นอกจากเรื่องของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับการเดินทางไปโตเกียวก็คือ มาตรการในการเข้าประเทศนั่นเอง โดยการเดินทางไปโตเกียวนั้นจะต้องใช้พาสปอร์ตที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนจนถึงวันที่เดินทางกลับ สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยหรือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางไปโตเกียวได้แบบที่ไม่ต้องขอวีซ่า แต่มีเงื่อนไขว่าจะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้นานสุดเพียง 15 วันเท่านั้น
ด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ทางประเทศญี่ปุ่นจึงได้ออกมาตรการโควิดสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นมา โดยการที่จะเข้าประเทศญี่ปุ่น หรือไปเที่ยวโตเกียวได้คุณจำเป็นต้องมีวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองว่าได้รับการฉีดวัคซีนตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งวัคซีนที่มีการกำหนดไว้ในมาตรการโควิดมีดังนี้
แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนตรงตามที่กำหนด ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแบบเสียเปล่า เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเข้าประเทศได้เช่นกัน เพียงคุณต้องมีใบรับรองการตรวจเชื้อโควิดที่มีผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
เครื่องบิน เมืองโตเกียวมีสนามบิน 2 แห่ง ได้แก่ สนามบินนาริตะ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเส้นทางการบินระหว่างประเทศ และสนามบินฮาเนดะ ที่เป็นเส้นทางการบินภายในประเทศ
รถไฟชินคันเซ็น รถไฟชินคันเซ็นนับเป็นรถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น โดยรถไฟชินคันเซ็นเกือบทุกสายล้วนมุ่งตรงมายังเมืองโตเกียว เช่น สายโทไคโดชินคันเซ็นขบวนโนโซมิ ที่เชื่อมต่อโตเกียวกับโอซากาด้วยการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง 36 นาทีเท่านั้น
รถไฟ Japan East Japan Railway สำหรับรถไฟ Japan East Japan Railway นั้นจะมีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ส่วนตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งโตเกียว
รถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินจะมี 2 บริษัทให้เลือกใช้บริการคือ “รถไฟโตเกียวเมโทร” และ “รถไฟโทเอ” ที่ครอบคลุมกว้างเช่นเดียวกับระบบรถไฟบนดินมีทั้งหมด 13 สาย
รถบัส เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีสถานีรถไฟที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน โดยมีหลายสายให้เลือกใช้บริการ ได้แก่
เรือโดยสาร ในโตเกียวมีทั้งเรือเล็กจนถึงเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถล่องเรือสำราญชมวิวยามค่ำคืนของเมืองโตเกียวได้ โดยมีหลายเส้นทางให้เลือก เช่น เรือสำราญอาซากุสะ – โอไดบะเส้นทางอาซากุสะ – สวนฮามาริกิว – ท่าเรือฮิโนเด – อาซากุสะ
สำหรับความแตกต่างของเวลาระหว่างประเทศไทยกับโตเกียวนั้นไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก โดยเวลาของโตเกียวจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง 0 นาที / Japan time (JT) / Asia Tokyo / GMT +9.00 ชั่วโมง
จะจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวทั้งที จะไม่วางแผนหรือเลือกสถานที่เที่ยวโตเกียวล่วงหน้าให้พร้อมก็คงไม่ได้ และเพื่อให้ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวของคุณไม่เสียเที่ยว เราจึงได้รวมสถานที่เที่ยวโตเกียวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาแนะนำให้ตามรอยกัน
1. ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
แหล่งชอปปิงและศูนย์รวมความบันเทิงใจกลางเมืองโตเกียว โดยแลนด์มาร์กของย่านนี้ก็คือ สถานีรถไฟชินจูกุ ซึ่งบริเวณรอบสถานีจะเต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สำหรับทางด้านตะวันตกของสถานีนั้นจะเต็มไปด้วยตึกระฟ้า และโดดเด่นด้วยอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นตึกแฝดสำนักงานของเทศบาลนครโตเกียว โดยด้านบนของตึกมีจุดชมทิวทัศน์ที่เปิดชมฟรี ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสถานีก็คือย่านคาบูกิโจ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสถานบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงสวนชินจูกุเกียวเอ็น ที่นับได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวเลยทีเดียว
2. ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
ศูนย์รวมแหล่งแฟชั่นสุดเก๋ของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นโดดเด่นเรื่องการแต่งตัว ย่านฮาราจูกุอยู่ไม่ไกลจากชิบูย่าและชินจูกุ โดยมีไฮไลต์คือถนนทาเคชิตะที่เป็นศูนย์รวมความเป็นฮาราจูกุ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คาเฟ่ และร้านอาหารมากมายนอกจากนี้ยังเป็นจุดนัดพบ หรือเดินเล่นของบรรดาเหล่าวัยรุ่นที่แต่งตัวแบบคอสเพลย์ การ์ตูนเอนิเมะ หรือเป็นแนวพังค์อีกด้วย รวมถึงที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเครปญี่ปุ่นแสนอร่อย แต่ท่ามกลางความคึกคักก็ยังมีมุมสงบอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ศาลเจ้าเมจิซึ่งมีเสาประตูโทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ชมบรรยากาศย้อนยุคของอาคารสถานีรถไฟฮาราจูกุ หรือสัมผัสธรรมชาติอันร่มรื่นกลางเมืองใหญ่ที่สวนโยโยงิ
3. โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort)
ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะใกล้เมืองโตเกียว สามารถเดินทางโดยรถไฟเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งภายในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ตจะแบ่งออกเป็น 2 สวนสนุก คือ “โตเกียวดิสนีย์แลนด์” ดินแดนแห่งเทพนิยายที่จะเน้นไปทางธีมการ์ตูนของดิสนีย์ และเครื่องเล่นจะเน้นที่เรียบง่าย ปลอดภัย เหมาะสำหรับเด็ก ๆส่วน “โตเกียวดิสนีย์ซี” คือดินแดนแห่งท้องทะเลที่มีภูเขาไฟโพรมีธีอุสเป็นจุดเด่นให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งเครื่องเล่นจะมีความท้าทายและหลากหลายกว่า โดยเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมคือ Tower of Terror นอกจากนี้ยังมีโรงแรมอยู่ภายในดิสนีย์ รีสอร์ตอีกด้วย
4. วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นสัญลักษณ์ของย่านอาซากุสะ ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อวัดอาซากุสะหรือวัดโคมแดง เนื่องจากว่าบริเวณประตูทางเข้าวัดที่ชื่อประตูคามินารินั้นมีโคมสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ จึงถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวัด รวมถึงสองฝั่งของประตูยังมีรูปปั้นเทพเจ้าแห่งลมและสายฟ้าอยู่ด้วย โดยวัดเซนโซจิแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระประธานของวัดนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีสถานที่อื่น ๆ ให้เที่ยวชมด้วย เช่น เจดีย์ 5 ชั้น และศาลเจ้าอาซากุสะจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ภายในวัด ซึ่งตลอดทางเดินทั้ง 2 ฝั่งนั้นมีร้านค้ากว่า 88 ร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกต่าง ๆ เช่น ชุดยูกาตะ ร่มพับ รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวหลากหลายชนิด โดยร้านค้าต่าง ๆ มักจะให้เราชิมก่อนที่จะซื้อได้ และควรยืนชิมหน้าร้านเพื่อเป็นการรักษามารยาท (ในการชิม)
5. สวนอุเอะโนะ (Ueno Park)
สวนสาธารณะแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวนับเป็นจุดชมซากุระชื่อดัง อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่สำหรับเทศกาลดูดอกไม้ หรือที่เรียกว่าเทศกาลฮานามิอีกด้วย จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน) เพื่อเดินทางมาชมอุโมงค์ซากุระใจกลางสวนนอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงโตเกียว, พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก, พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ, สวนสัตว์อุเอโนะ, เจดีย์หกเหลี่ยมเบ็นเท็นโดทะเลสาบชิโนบาซุ, วัดคิโยมิซุคันนงโด, ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชกู และเศียรพระใหญ่อุเอโนะไดบุตสึที่ผู้คนมากมายมาขอพรเพื่อให้สอบผ่าน
อีกทั้งในบริเวณใกล้เคียงกับสวนอุเอโนะยังมีตลาดอะเมโยโกะ ซึ่งเป็นย่านชอปปิงและแหล่งรวมอาหารอร่อย ๆ ที่มีราคาย่อมเยา เรียกได้ว่าเป็นย่านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย และในส่วนของการเดินทางนั้น คุณสามารถเดินจากสวนอุเอโนะมาเพียงแค่ 5 นาที ก็ถึงทางเข้าตลาดอะเมโยโกะแล้ว
1. เทศกาลซังจามัตสุริ (Sanja Matsuri)
เทศกาลใหญ่ประจำปีของย่านอาซากุสะ โดยจัดขึ้นเพื่ออุทิศแด่ 3 ผู้ก่อตั้งวัดเซนโซจิ ที่ประดิษฐานของเทพชินโตในศาลเจ้าอาซากุสะ รวมถึงเป็นการบูชาเทพผู้คุ้มครองเมือง ซึ่งเวลาที่เหมาะแก่การจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวเพื่อร่วมเทศกาลนี้คือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมโดยพิธีจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายวันศุกร์ ด้วยขบวนแห่ไดเกียวเรสุ และเดินไปตามถนนยานากิไปสู่วัดเซนโซจิ ส่วนวันที่ 2 จะมีการแห่ศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “มิโคชิ” กว่า 100 เกี้ยว และเดินไปตามเส้นทางในเมืองทั้งย่านธุรกิจและย่านที่อยู่อาศัย เพื่อนำความโชคดีไปให้ประชาชน จึงทำให้มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน
2. เทศกาลซันโนมัตสึริ (Sanno Matsuri)
เทศกาลประจำศาลเจ้าฮิเอะ ที่นับได้ว่าเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองโตเกียว โดยเทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์เทพผู้ดูแลเมือง และเพื่อขอพรให้ชาวเมืองโตเกียว รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นสงบสุขร่มเย็นเทศกาลจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปีเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยจุดเด่นของงานคือจิงโคะซาอิหรือขบวนแห่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้คนมากถึง 300 คน ซึ่งทุกคนจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายโบราณ และเดินแห่ศาลเจ้าฮิเอะผ่านไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ สถานีโยซึยะ พระราชวังอิมพีเรียล ศาลเจ้านิฮงบาชิ และกลับมายังศาลเจ้าฮิเอะอีกครั้ง
นอกจากนี้ภายในงานจะได้พบกับประเพณีต่าง ๆ ของญี่ปุ่น เช่น การแสดงของดอกไม้ที่จัดในสไตล์ญี่ปุ่น พิธีกรรมเกี่ยวกับชาเขียว รวมถึงพิธีชำระล้างสิ่งอัปมงคล
3. เทศกาลชินจูกุไอสะ (Shinjuku Eisa Matsuri)
เทศกาลการร่ายรำแบบโอกินาว่าที่จัดขึ้นในย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว เพื่อเป็นการบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ และสวดภาวนาเพื่อขอให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุขและกิจการเจริญรุ่งเรืองโดยเหล่าบรรดานักแสดงทั้งชายและหญิง นักเต้นรำเทะโอโดริ นักเล่นซันชินสามสาย นักร้องจิวไท และตัวตลก ต่างเคลื่อนขบวนพร้อมกับเต้นรำตามจังหวะของเสียงกลองไทโกะ ทำให้บนถนนชิจูกุเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว เพื่อร่วมงานอันเป็นสัญลักษณ์ฤดูร้อนของชินจูกุได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปี
เมื่อตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว ก็มารู้จักกับฤดูกาลของโตเกียวกันว่า แต่ละฤดูอยู่ในช่วงเดือนไหนบ้าง เพื่อให้คุณได้วางแผนเที่ยวโตเกียวได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ โดยฤดูกาลของโตเกียวนั้นมีอยู่ 4 ฤดู ได้แก่
1. นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวเพื่อเดินทางสู่ญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ซึ่งจะสามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้สูงสุด 15 วัน โดยการนับวันที่อยู่ในญี่ปุ่นจะไม่นับวันแรกที่ไปถึง เช่น ถึงญี่ปุ่นวันที่ 1 และบินออกจากญี่ปุ่นวันที่ 10 ก็จะนับเป็น 9 วันที่อยู่ในญี่ปุ่น
2. ชาวญี่ปุ่นนิยมพกเหรียญ 5 เยนไว้เพื่อนำไปทำบุญที่วัด รวมถึงใช้ห้อยเป็นเครื่องประดับหรือเป็นพวงกุญแจ เนื่องจากพ้องเสียงกับคำว่า “มีโชค” ในภาษาญี่ปุ่น แต่เหรียญ 5 เยนนั้นจะเป็นเหรียญเดียวที่ไม่มีตัวเลขระบุบนเหรียญ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากรูตรงกลางเป็นสีทอง ส่วนบนเหรียญนั้นเป็นลายรวงข้าว น้ำ และฟันเฟือง
3. ป้ายราคาสินค้าจะมีทั้งป้ายราคาที่ยังไม่รวมภาษี และป้ายราคาที่รวมภาษีแล้ว ดังนั้นก่อนซื้อของก็อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าราคานี้รวมภาษีแล้วหรือยัง
4. เวลาของญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง และในช่วงหน้าหนาว ซึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม พระอาทิตย์จะตกดินเร็วกว่าปกติในเวลาประมาณ 16.30 น. ส่วนในช่วงหน้าร้อน พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าปกติในเวลาตี 4 ครึ่ง
5. บนรถไฟชินคันเซ็นนั้นสามารถรับประทานอาหารได้ เช่น ข้าวกล่องเบนโตะ แต่ก็ควรเลือกรับประทานเป็นอาหารที่ไม่มีกลิ่น เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นบนรถไฟ
6. Tokyo Subway Navigation เป็นแอปสำหรับค้นหาข้อมูลเครือข่ายรถไฟใต้ดินโตเกียว โดยสามารถตั้งค่าภาษาได้มากถึง 5 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, จีน, เกาหลี, ไทย และญี่ปุ่น ซึ่งขอแนะนำให้มีเก็บไว้ เพื่อให้การเที่ยวชมกรุงโตเกียวของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับใครหลาย ๆ คน ใครที่มีเป้าหมายว่าอยากจะไปสัมผัสกับสิ่งที่หลงใหลด้วยตัวเองสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะสวย ๆ อาหารที่น่าลิ้มลอง เทคโนโลยีที่ทันสมัย แหล่งชอปปิงที่ละลานตา หรือวัฒนธรรมที่โดดเด่น ที่เที่ยวเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ดังนั้นอย่าได้พลาด รีบจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกันเถอะ!
แต่ถ้าหากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ หรือไม่รู้ว่าจะเที่ยวเมืองไหน จังหวัดใดของประเทศญี่ปุ่นดี เราขอแนะนำที่โตเกียวเลย เพราะไม่เพียงแค่มีขนส่งสาธารณะที่ทำให้เดินทางได้สะดวกง่ายดายเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอาหารอร่อยหลากหลายสไตล์ และแหล่งชอปปิงมากมาย
นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวชมธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม เพียงแค่นั่งรถไฟด้วยเวลาไม่นาน ก็สามารถไปได้ทั้งเมืองมรดกโลกนิกโก้ ภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบคาวากูชิโกะ หรือถ้าอยากเก็บเกี่ยวบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแบบสุด ๆ ก็สามารถเดินทางไปเมืองใกล้ ๆ ได้ไม่ยาก เช่น เยี่ยมชมศาลเจ้าที่เมืองเก่าคามาคูระ ชมปราสาทที่เมืองโอดาวาระ และเมืองโบราณคาวาโกเอะ
เห็นแล้วใช่ไหมว่าโตเกียวน่าเที่ยวมากแค่ไหน ซึ่งใครที่สนใจหรืออยากจะได้ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวในราคาสุดคุ้ม ต้องเลือกจองตั๋วเครื่องบินกับแอปพลิเคชัน Traveloka เลย ราคาถูกสุดด้วยดีลพิเศษ แถมยังมีส่วนลดอีกมากมาย ให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายทั้งใจสบายทั้งกระเป๋า
เมื่อวางแผนไปเที่ยวโตเกียว บางคนอาจตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะไปช่วงฤดูกาลนั้นฤดูกาลนี้ แต่ไม่รู้ว่าช่วงเดือนไหนที่มีราคาตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวถูกที่สุด ดังนั้นเราจึงจะมาบอกราคาตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวของแต่ละเดือน ทั้ง 12 เดือนกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวได้ในราคาที่พอใจมากสุด
หลังจากที่ได้รู้ราคาเริ่มต้นของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแบบเที่ยวเดียวทั้ง 12 เดือนกันไปแล้ว เราจะพาคุณมาดูข้อมูลเบื้องต้นของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวกัน ว่าใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหน ราคาตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับเริ่มต้นที่เท่าไหร่ และมีกี่เที่ยวบินต่อสัปดาห์
เมื่อต้องการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือสนามบินที่ตั้งอยู่ภายในโตเกียว หรืออยู่ใกล้เคียง ว่ามีสนามบินใดบ้าง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ง่ายขึ้น โดยสนามบินหลักของโตเกียวจะมีทั้งหมด 2 สนามบินด้วยกัน ดังนี้
สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) สนามบินนาริตะเป็นสนามบินนานาชาติแห่งเมืองโตเกียว ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชิบะ ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 60 กิโลเมตร
โดยการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังโตเกียวค่อนข้างสะดวกสบาย เนื่องจากมีรถไฟเข้าถึงในสนามบินที่สามารถแบ่งออกเป็นสาย ๆ ได้แก่ นาริตะ เอ็กเพรส, Keisei Skyliner และ Limited Express อีกทั้งยังมีรถบัสให้บริการ เช่น ลิมูซีนบัส ชัทเทิลบัส ที่ให้บริการระหว่างสนามบินนาริตะสู่ใจกลางเมืองโตเกียว และ The Access Narita Bus รถบัสวิ่งตรงสู่โตเกียวในราคาประหยัดเพียง 1,000 เยนตลอดสาย
สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) สนามบินฮาเนดะเป็นสนามบินนานาชาติแห่งแรกของโตเกียว อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งสามารถใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งค่ารถโดยสารเข้าเมืองยังมีราคาถูกอีกด้วย จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางเข้าเมือง รวมถึงสะดวกต่อการต่อเครื่องบินภายในประเทศไปยังจังหวัดอื่น ๆ ของญี่ปุ่น
ส่วนการเดินทางเข้าเมืองก็สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ โดยสารรถไฟรางเดี่ยวและรถไฟสายเคคิวที่วิ่งตรงระหว่างสนามบินฮาเนดะสู่กรุงโตเกียว ซึ่งใช้เวลาเพียง 14 นาทีเท่านั้น หรือจะใช้บริการรถบัสที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร รวมถึงสถานที่ปลายทาง
โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงและเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ โดยทางทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยะมะนะชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคะนะงะวะบริเวณแม่น้ำทามะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ
พื้นที่ยาวจากตะวันตกจรดตะวันออกของโตเกียวนั้นเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่ลุ่มสูงไม่เกิน 4 เมตรจากระดับน้ำทะเลจนถึงภูเขา เนินเขา และที่ราบสูง ที่สูงถึง 2,000 เมตร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่มากมาย
นอกจากนี้เมืองโตเกียวไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแห่งที่ไม่ควรพลาด จึงทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว เพื่อเยี่ยมชมย่านชื่อดังในโตเกียว อาทิ ฮาราจูกุ, ชินจูกุ, ชิบูย่า, อาซากุสะ, อุเอโนะ, ยานากะ, กินซ่า, มารุโนะอุจิ, อากิฮาบาระ, กินซ่า, ตลาดปลาซึกิจิ เป็นต้น
รอบ ๆ กรุงโตเกียวยังมีเมืองที่สามารถเที่ยวได้ใน 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวโรแมนติกที่โยโกฮาม่า ไหว้พระใหญ่ที่คามาคุระ ล่องเรือโจรสลัดที่ฮาโกเน่ ชมภูเขาไฟฟูจิที่คาวากุจิโกะ หรือเที่ยวเมืองเอโดะน้อยที่คาวาโกเอะ
โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลินั่นเอง ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลฮานามิ คุณจะได้ชมดอกซากุระบานทั่วทั้งเมืองโตเกียว และเต็มอิ่มไปกับวิวซากุระสวย ๆ ในอากาศที่เย็นสบาย
นอกจากเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว ก็อย่าลืมแลกเงินสำหรับชอปปิงเชียว ซึ่งโตเกียวใช้สกุลเงินเป็นเยน โดยธนบัตรจะมีมูลค่าอยู่ที่ 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน ส่วนเหรียญที่ใช้สอยคือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน สำหรับอัตราการแลกเปลี่ยนในปัจจุบันจะอยู่ที่ 1 เยน เท่ากับ 0.29 บาท
สำหรับตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวนั้นมีทั้งเส้นทางที่บินจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเส้นทางที่บินจากสนามบินดอนเมือง ซึ่งที่ Traveloka ก็มีสายการบินมากมายให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวได้อย่างตรงความต้องการ หากใครอยู่ใกล้สนามบินไหนก็เลือกตั๋วเครื่องบินที่มีต้นทางอยู่สนามบินนั้นได้เลย
โดยสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่โตเกียว คือ Japan Airlines, Thai Airways และ ANA ส่วนสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่โตเกียว คือ AirAsia, Thai AirAsia X และ Scoot ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7.30 ชั่วโมง
ในส่วนของสายการบินอื่น ๆ ที่มีเที่ยวบินไปโตเกียว ได้แก่ Bangkok Airways, Cathay Pacific, Air China, Asiana Airlines, Jetstar Airways, Singapore Airlines, China Eastern, Korean Air, China Airlines, Shanghai Airlines ฯลฯ
นอกจากเรื่องของตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับการเดินทางไปโตเกียวก็คือ มาตรการในการเข้าประเทศนั่นเอง โดยการเดินทางไปโตเกียวนั้นจะต้องใช้พาสปอร์ตที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนจนถึงวันที่เดินทางกลับ สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยหรือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางไปโตเกียวได้แบบที่ไม่ต้องขอวีซ่า แต่มีเงื่อนไขว่าจะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้นานสุดเพียง 15 วันเท่านั้น
ด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ทางประเทศญี่ปุ่นจึงได้ออกมาตรการโควิดสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นมา โดยการที่จะเข้าประเทศญี่ปุ่น หรือไปเที่ยวโตเกียวได้คุณจำเป็นต้องมีวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองว่าได้รับการฉีดวัคซีนตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งวัคซีนที่มีการกำหนดไว้ในมาตรการโควิดมีดังนี้
แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนตรงตามที่กำหนด ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแบบเสียเปล่า เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเข้าประเทศได้เช่นกัน เพียงคุณต้องมีใบรับรองการตรวจเชื้อโควิดที่มีผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
เครื่องบิน เมืองโตเกียวมีสนามบิน 2 แห่ง ได้แก่ สนามบินนาริตะ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเส้นทางการบินระหว่างประเทศ และสนามบินฮาเนดะ ที่เป็นเส้นทางการบินภายในประเทศ
รถไฟชินคันเซ็น รถไฟชินคันเซ็นนับเป็นรถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น โดยรถไฟชินคันเซ็นเกือบทุกสายล้วนมุ่งตรงมายังเมืองโตเกียว เช่น สายโทไคโดชินคันเซ็นขบวนโนโซมิ ที่เชื่อมต่อโตเกียวกับโอซากาด้วยการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง 36 นาทีเท่านั้น
รถไฟ Japan East Japan Railway สำหรับรถไฟ Japan East Japan Railway นั้นจะมีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ส่วนตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งโตเกียว
รถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินจะมี 2 บริษัทให้เลือกใช้บริการคือ “รถไฟโตเกียวเมโทร” และ “รถไฟโทเอ” ที่ครอบคลุมกว้างเช่นเดียวกับระบบรถไฟบนดินมีทั้งหมด 13 สาย
รถบัส เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีสถานีรถไฟที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน โดยมีหลายสายให้เลือกใช้บริการ ได้แก่
เรือโดยสาร ในโตเกียวมีทั้งเรือเล็กจนถึงเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถล่องเรือสำราญชมวิวยามค่ำคืนของเมืองโตเกียวได้ โดยมีหลายเส้นทางให้เลือก เช่น เรือสำราญอาซากุสะ – โอไดบะเส้นทางอาซากุสะ – สวนฮามาริกิว – ท่าเรือฮิโนเด – อาซากุสะ
สำหรับความแตกต่างของเวลาระหว่างประเทศไทยกับโตเกียวนั้นไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก โดยเวลาของโตเกียวจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง 0 นาที / Japan time (JT) / Asia Tokyo / GMT +9.00 ชั่วโมง
จะจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวทั้งที จะไม่วางแผนหรือเลือกสถานที่เที่ยวโตเกียวล่วงหน้าให้พร้อมก็คงไม่ได้ และเพื่อให้ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวของคุณไม่เสียเที่ยว เราจึงได้รวมสถานที่เที่ยวโตเกียวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาแนะนำให้ตามรอยกัน
1. ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
แหล่งชอปปิงและศูนย์รวมความบันเทิงใจกลางเมืองโตเกียว โดยแลนด์มาร์กของย่านนี้ก็คือ สถานีรถไฟชินจูกุ ซึ่งบริเวณรอบสถานีจะเต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สำหรับทางด้านตะวันตกของสถานีนั้นจะเต็มไปด้วยตึกระฟ้า และโดดเด่นด้วยอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นตึกแฝดสำนักงานของเทศบาลนครโตเกียว โดยด้านบนของตึกมีจุดชมทิวทัศน์ที่เปิดชมฟรี ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสถานีก็คือย่านคาบูกิโจ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสถานบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงสวนชินจูกุเกียวเอ็น ที่นับได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวเลยทีเดียว
2. ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
ศูนย์รวมแหล่งแฟชั่นสุดเก๋ของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นโดดเด่นเรื่องการแต่งตัว ย่านฮาราจูกุอยู่ไม่ไกลจากชิบูย่าและชินจูกุ โดยมีไฮไลต์คือถนนทาเคชิตะที่เป็นศูนย์รวมความเป็นฮาราจูกุ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คาเฟ่ และร้านอาหารมากมายนอกจากนี้ยังเป็นจุดนัดพบ หรือเดินเล่นของบรรดาเหล่าวัยรุ่นที่แต่งตัวแบบคอสเพลย์ การ์ตูนเอนิเมะ หรือเป็นแนวพังค์อีกด้วย รวมถึงที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเครปญี่ปุ่นแสนอร่อย แต่ท่ามกลางความคึกคักก็ยังมีมุมสงบอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ศาลเจ้าเมจิซึ่งมีเสาประตูโทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ชมบรรยากาศย้อนยุคของอาคารสถานีรถไฟฮาราจูกุ หรือสัมผัสธรรมชาติอันร่มรื่นกลางเมืองใหญ่ที่สวนโยโยงิ
3. โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort)
ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะใกล้เมืองโตเกียว สามารถเดินทางโดยรถไฟเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งภายในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ตจะแบ่งออกเป็น 2 สวนสนุก คือ “โตเกียวดิสนีย์แลนด์” ดินแดนแห่งเทพนิยายที่จะเน้นไปทางธีมการ์ตูนของดิสนีย์ และเครื่องเล่นจะเน้นที่เรียบง่าย ปลอดภัย เหมาะสำหรับเด็ก ๆส่วน “โตเกียวดิสนีย์ซี” คือดินแดนแห่งท้องทะเลที่มีภูเขาไฟโพรมีธีอุสเป็นจุดเด่นให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งเครื่องเล่นจะมีความท้าทายและหลากหลายกว่า โดยเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมคือ Tower of Terror นอกจากนี้ยังมีโรงแรมอยู่ภายในดิสนีย์ รีสอร์ตอีกด้วย
4. วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นสัญลักษณ์ของย่านอาซากุสะ ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อวัดอาซากุสะหรือวัดโคมแดง เนื่องจากว่าบริเวณประตูทางเข้าวัดที่ชื่อประตูคามินารินั้นมีโคมสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ จึงถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวัด รวมถึงสองฝั่งของประตูยังมีรูปปั้นเทพเจ้าแห่งลมและสายฟ้าอยู่ด้วย โดยวัดเซนโซจิแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระประธานของวัดนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีสถานที่อื่น ๆ ให้เที่ยวชมด้วย เช่น เจดีย์ 5 ชั้น และศาลเจ้าอาซากุสะจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ภายในวัด ซึ่งตลอดทางเดินทั้ง 2 ฝั่งนั้นมีร้านค้ากว่า 88 ร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกต่าง ๆ เช่น ชุดยูกาตะ ร่มพับ รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวหลากหลายชนิด โดยร้านค้าต่าง ๆ มักจะให้เราชิมก่อนที่จะซื้อได้ และควรยืนชิมหน้าร้านเพื่อเป็นการรักษามารยาท (ในการชิม)
5. สวนอุเอะโนะ (Ueno Park)
สวนสาธารณะแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวนับเป็นจุดชมซากุระชื่อดัง อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่สำหรับเทศกาลดูดอกไม้ หรือที่เรียกว่าเทศกาลฮานามิอีกด้วย จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน) เพื่อเดินทางมาชมอุโมงค์ซากุระใจกลางสวนนอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงโตเกียว, พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก, พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ, สวนสัตว์อุเอโนะ, เจดีย์หกเหลี่ยมเบ็นเท็นโดทะเลสาบชิโนบาซุ, วัดคิโยมิซุคันนงโด, ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชกู และเศียรพระใหญ่อุเอโนะไดบุตสึที่ผู้คนมากมายมาขอพรเพื่อให้สอบผ่าน
อีกทั้งในบริเวณใกล้เคียงกับสวนอุเอโนะยังมีตลาดอะเมโยโกะ ซึ่งเป็นย่านชอปปิงและแหล่งรวมอาหารอร่อย ๆ ที่มีราคาย่อมเยา เรียกได้ว่าเป็นย่านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย และในส่วนของการเดินทางนั้น คุณสามารถเดินจากสวนอุเอโนะมาเพียงแค่ 5 นาที ก็ถึงทางเข้าตลาดอะเมโยโกะแล้ว
1. เทศกาลซังจามัตสุริ (Sanja Matsuri)
เทศกาลใหญ่ประจำปีของย่านอาซากุสะ โดยจัดขึ้นเพื่ออุทิศแด่ 3 ผู้ก่อตั้งวัดเซนโซจิ ที่ประดิษฐานของเทพชินโตในศาลเจ้าอาซากุสะ รวมถึงเป็นการบูชาเทพผู้คุ้มครองเมือง ซึ่งเวลาที่เหมาะแก่การจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวเพื่อร่วมเทศกาลนี้คือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมโดยพิธีจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายวันศุกร์ ด้วยขบวนแห่ไดเกียวเรสุ และเดินไปตามถนนยานากิไปสู่วัดเซนโซจิ ส่วนวันที่ 2 จะมีการแห่ศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “มิโคชิ” กว่า 100 เกี้ยว และเดินไปตามเส้นทางในเมืองทั้งย่านธุรกิจและย่านที่อยู่อาศัย เพื่อนำความโชคดีไปให้ประชาชน จึงทำให้มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน
2. เทศกาลซันโนมัตสึริ (Sanno Matsuri)
เทศกาลประจำศาลเจ้าฮิเอะ ที่นับได้ว่าเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองโตเกียว โดยเทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์เทพผู้ดูแลเมือง และเพื่อขอพรให้ชาวเมืองโตเกียว รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นสงบสุขร่มเย็นเทศกาลจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปีเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยจุดเด่นของงานคือจิงโคะซาอิหรือขบวนแห่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้คนมากถึง 300 คน ซึ่งทุกคนจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายโบราณ และเดินแห่ศาลเจ้าฮิเอะผ่านไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ สถานีโยซึยะ พระราชวังอิมพีเรียล ศาลเจ้านิฮงบาชิ และกลับมายังศาลเจ้าฮิเอะอีกครั้ง
นอกจากนี้ภายในงานจะได้พบกับประเพณีต่าง ๆ ของญี่ปุ่น เช่น การแสดงของดอกไม้ที่จัดในสไตล์ญี่ปุ่น พิธีกรรมเกี่ยวกับชาเขียว รวมถึงพิธีชำระล้างสิ่งอัปมงคล
3. เทศกาลชินจูกุไอสะ (Shinjuku Eisa Matsuri)
เทศกาลการร่ายรำแบบโอกินาว่าที่จัดขึ้นในย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว เพื่อเป็นการบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ และสวดภาวนาเพื่อขอให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุขและกิจการเจริญรุ่งเรืองโดยเหล่าบรรดานักแสดงทั้งชายและหญิง นักเต้นรำเทะโอโดริ นักเล่นซันชินสามสาย นักร้องจิวไท และตัวตลก ต่างเคลื่อนขบวนพร้อมกับเต้นรำตามจังหวะของเสียงกลองไทโกะ ทำให้บนถนนชิจูกุเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคักเร้าใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว เพื่อร่วมงานอันเป็นสัญลักษณ์ฤดูร้อนของชินจูกุได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปี
เมื่อตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวแล้ว ก็มารู้จักกับฤดูกาลของโตเกียวกันว่า แต่ละฤดูอยู่ในช่วงเดือนไหนบ้าง เพื่อให้คุณได้วางแผนเที่ยวโตเกียวได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ โดยฤดูกาลของโตเกียวนั้นมีอยู่ 4 ฤดู ได้แก่
1. นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวเพื่อเดินทางสู่ญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ซึ่งจะสามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้สูงสุด 15 วัน โดยการนับวันที่อยู่ในญี่ปุ่นจะไม่นับวันแรกที่ไปถึง เช่น ถึงญี่ปุ่นวันที่ 1 และบินออกจากญี่ปุ่นวันที่ 10 ก็จะนับเป็น 9 วันที่อยู่ในญี่ปุ่น
2. ชาวญี่ปุ่นนิยมพกเหรียญ 5 เยนไว้เพื่อนำไปทำบุญที่วัด รวมถึงใช้ห้อยเป็นเครื่องประดับหรือเป็นพวงกุญแจ เนื่องจากพ้องเสียงกับคำว่า “มีโชค” ในภาษาญี่ปุ่น แต่เหรียญ 5 เยนนั้นจะเป็นเหรียญเดียวที่ไม่มีตัวเลขระบุบนเหรียญ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากรูตรงกลางเป็นสีทอง ส่วนบนเหรียญนั้นเป็นลายรวงข้าว น้ำ และฟันเฟือง
3. ป้ายราคาสินค้าจะมีทั้งป้ายราคาที่ยังไม่รวมภาษี และป้ายราคาที่รวมภาษีแล้ว ดังนั้นก่อนซื้อของก็อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าราคานี้รวมภาษีแล้วหรือยัง
4. เวลาของญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง และในช่วงหน้าหนาว ซึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม พระอาทิตย์จะตกดินเร็วกว่าปกติในเวลาประมาณ 16.30 น. ส่วนในช่วงหน้าร้อน พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าปกติในเวลาตี 4 ครึ่ง
5. บนรถไฟชินคันเซ็นนั้นสามารถรับประทานอาหารได้ เช่น ข้าวกล่องเบนโตะ แต่ก็ควรเลือกรับประทานเป็นอาหารที่ไม่มีกลิ่น เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นบนรถไฟ
6. Tokyo Subway Navigation เป็นแอปสำหรับค้นหาข้อมูลเครือข่ายรถไฟใต้ดินโตเกียว โดยสามารถตั้งค่าภาษาได้มากถึง 5 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, จีน, เกาหลี, ไทย และญี่ปุ่น ซึ่งขอแนะนำให้มีเก็บไว้ เพื่อให้การเที่ยวชมกรุงโตเกียวของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น