จองโรงแรมและรีสอร์ทสัตหีบ ติดทะเล ราคาถูก กับ Traveloka ผู้ให้บริการจองออนไลน์แสนสะดวก มาพร้อมกับที่พักสัตหีบ ส่วนลดสูงสุด 55%
สัตหีบ อยู่ไม่ไกลจากเมืองท่องเที่ยวสุดดังอย่างพัทยา สัตหีบเป็นอำเภอเล็กๆอยู่ในจังหวัดชลบุรี มีฐานทัพเรือพร้อมเปิดให้ชม มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม มีหาดทรายและชายทะเลที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก จุดเด่นที่ชัดเจนของสัตหีบคือ แหล่งปะการังและความสวยงามใต้ท้องทะเลที่นับวันยิ่งสวยและเป็นที่นิยมมากขึ้น อีกทั้งสามารถหาดูได้ง่ายและภายใต้งบประมานที่จำกัด
จำนวนที่พักทั้งหมด | 70 แห่ง |
เมืองยอดนิยม | หาดสัตหีบ |
โรงแรมยอดนิยม | Sattahip 9 Boutique Hotel, Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostel |
แลนด์มาร์คยอดนิยม | ฐานทัพเรือสัตหีบ, สนามกอล์ฟราชนาวีพลูตาหลวง |
เมื่อเดินทางไป สัตหีบ เมืองใกล้เคียงยอดนิยมที่ผู้คนมักเดินทางไป คือ หาดสัตหีบ
ย่านยอดนิยมที่ผู้คนนิยมจองที่พักใน สัตหีบ มี เกาะล้าน, บางเสร่, หาดจอมเทียน, พัทยาใต้, พัทยากลาง, พัทยาเหนือ, นาจอมเทียน, บางละมุง, หาดดงตาล, นาเกลือ
ที่พักยอดนิยมที่มักถูกจองโดยนักท่องเที่ยว คือ Sattahip 9 Boutique Hotel, Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostel, S3 Room & S Cafe, Vanida Antique Home, Sor Kor Sor Resort, Sea Paradise Hotel, One D Home Stay, Rimpu Hill Resort, BM at Love, JK Marine Sea and Fishing
ปัจจุบัน มีโรงแรมจำนวน 70 ที่คุณสามารถจองได้ที่ สัตหีบ
“สัตหีบ” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฐานทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยก่อนสัตหีบเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชาวบ้านทำอาชีพประมงและทำไร่ไถนากันไปตามปกติ แต่ต่อมาเมื่อกรมหลวงชุมพรฯ ท่านได้ทรงเสด็จมาฝึกภาคทะเลร่วมกับกองเรือ และได้ทรงเข้าพักในแถวละแวกอ่าวสัตหีบ จึงทรงเห็นว่าละแวกนี้มีชัยภูมิเหมาะที่จะตั้งหน่วยเรือ เนื่องจากมีเกาะแก่งน้อยใหญ่ช่วยในการกำบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี และเมื่อทราบถึงพระประสงค์ ทางเจ้าของที่ดินจึงยินดีที่จะถวายที่ให้พระองค์ได้ใช้ตามพระประสงค์ ส่วนที่มาของชื่อสัตหีบนั้น มีหลักฐานจากกองประวัติศาสตร์ทหารเรือ ระบุไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ทรงมีการเสด็จตรวจเยี่ยมหัวเมืองทางชายฝั่งทะเล เนื่องจากทรงดำริจะสร้างแนวป้องกันชายฝั่งทะเลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากป้อมพระจุลจอมเกล้าที่อำเภอปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการนั้น อยู่ใกล้กับเขตเมืองหลวงจนเกินไป ภายหลังจากได้มาเจอพื้นที่ในบริเวณนี้ จึงได้ทรงพระราชทานนามเอาไว้ว่า “สัตหีบ” หมายถึงที่กำบัง 7 แห่ง เนื่องจากทรงเห็นเกาะเล็กๆ จำนวน 7 เกาะ ซึ่งจะเป็นที่กำบังลมให้แก่หมู่เรือได้ดี ซึ่งประกอบด้วย เกาะพระ เกาะยอ เกาะหมู เกาะเตาหม้อ เกาะเณร เกาะสันฉลาม และเกาะเลา
ปัจจุบันสัตหีบนับเป็นเมืองพักผ่อนชายทะเลซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่ยังคงบรรยากาศของความเงียบสงบเอาไว้ได้อย่างดี แถมยังกลายเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ รวมถึงกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังที่มาแรงและได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีความสวยงามใต้ท้องทะเลค่อนข้างมาก ในขณะที่เดินทางง่าย และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก
แม้จะเป็นเพียงอำเภอท่องเที่ยวที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่ได้คึกคักครึกโครมเหมือนพัทยา แต่สัตหีบก็ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวในรูปแบบของตัวเองอยู่เสมอ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ใช้เวลาเดินทางจากสัตหีบไม่นานนัก จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นที่พักใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในสัตหีบเป็นระยะๆ โดยมีทั้งในรูปแบบบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ทขนาดเล็กและใหญ่ ไปจนถึงรูปแบบที่พักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่รูปแบบซึ่งจะใกล้ชิดกับธรรมชาติอันเงียบสงบ ทั้งภูเขาและท้องทะเล แถมยังมีการพัฒนารูปแบบให้น่าเข้าพักและน่าสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวแบบคนรุ่นใหม่อีกด้วย สนใจมองหาที่พักในสัตหีบ ลองดู
ที่พักในสัตหีบแห่งนี้ตกแต่งด้วยโทนสีขาวเป็นหลัก ผสมผสานกับการใช้ข้าวของสีหวานโทนพาสเทล เพิ่มความสะอาดสบายตา มองเห็นวิวทะเลได้จากในห้องพัก มีสนามหญ้าริมทะเลให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจรับไอสดชื่นจากทะเลแบบเต็มๆ เพิ่มความสงบและสบายให้กับวันพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ถ้ามองหาเกสท์เฮ้าส์เท่ๆ เป็นที่พักในทริปสัตหีบคราวนี้ ที่นี่เหมาะมาก ตัวที่พักตั้งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมือง จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความสะดวกสบาย การตกแต่งภายในเน้นการผสมผสานข้าวของเครื่องใช้น่ารักๆ ทั้งหลายที่ให้อารมณ์ของสะสม ดาดฟ้าเป็นที่นั่งชิลล์ชมวิว จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ได้แบบสุดผ่อนคลาย ถูกใจวัยฮิปแน่นอน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ที่พักน่ารัก ให้อารมณ์ยุโรปเล็กๆ ในสัตหีบแห่งนี้ ตัวที่พักด้านในเน้นใช้โทนสีขาวเป็นสีหลัก ทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย ไม่อึดอัด มีมุมน่ารักๆ ที่น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูปพอประมาณ เดินทางไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเพียงแค่ 3 กิโลเมตรนิดๆ เท่านั้น
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ที่พักแนวรีสอร์ทหน้าตาน่ารักในสัตหีบ บ้านพักเป็นหลังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ดีไซน์ตัวบ้านแปลกตาน่าเอ็นดูด้วยการใช้สีสันที่สดใส มีพื้นที่สนามหญ้าและสระว่ายน้ำส่วนกลางให้ได้เดินเล่นและออกกำลังกายกันแบบสบายๆ ในบรรยากาศเป็นกันเอง
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ห้องพักสไตล์รีสอร์ทขนาดเล็กที่ใช้โทนสีครีมและน้ำตาลเป็นสีหลักให้อารมณ์ผ่อนคลายสบายตา มีที่จอดรถกว้างขวางเป็นสัดส่วน มีสนามหญ้าสำหรับนั่งเล่นเอกเขนกรับลมเย็นได้พอสดชื่น เงียบสงบ และให้ความรู้สึกค่อนข้างเป็นส่วนตัว
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
บ้านพักสไตล์รีสอร์ทขนาดไม่ใหญ่ ให้อารมณ์เป็นกันเองสบายๆ เหมือนได้มาเที่ยวบ้านญาติ ห้องพักมีให้เลือกหลายรูปแบบตามจำนวนผู้เข้าพัก พื้นที่สวนส่วนกลางมีมุมนั่งเล่นหลายมุม สำหรับรับลมเย็นในช่วงเช้าหรือย่ำค่ำ
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
โรงแรมขนาดไม่ใหญ่ เน้นการตกแต่งในสไตล์คลาสสิกด้วยไม้โทนสีขรึม ให้ความรู้สึกสงบ เดินทางง่ายเพราะอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่าย พร้อมของใช้และเครื่องอำนวยความสะดวกสบายครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
หากมองหาที่พักแบบเรียบง่ายในสัตหีบ บ้านร่มไม้อาจเป็นคำตอบที่คุณต้องการ มีทั้งแบบบ้านหลังเล็กเป็นสัดส่วนและแบบห้องพัก โดดเด่นที่สีสันแสนสดใส ห้องพักเป็นสไตล์เรียบง่าย แต่มีเครื่องใช้ครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
เป็นเรือธงและเรือบรรทุกอากาศยานลำแรกและลำเดียวของราชนาวีไทย ต่อขึ้นจากประเทศสเปน โดยนำแบบมาจากเรือปรินซีเปเดอัสตูเรียส (Principe de Asturias) ของกองทัพเรือสเปน แนวความคิดในการสร้างเรือลำนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ครั้งประเทศไทยประสบภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นเกย์ ซึ่งทางกองทัพเรือได้ส่งเรือที่มีอยู่ในขณะนั้นเข้าร่วมภารกิจเข้าร่วมค้นหาผู้สูญหายและกู้ภัย แต่ประสบปัญหาตรงที่เรือขนาดใหญ่ที่มีอยู่ในขณะนั้นไม่สามารถทนสภาวะคลื่นลมแรงที่พบเจอได้ กองทัพเรือไทยจึงเห็นความจำเป็นในการต้องมีเรือรบขนาดใหญ่ที่ใช้บรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เพื่อการบรรเทาภัยพิบัติหรือเหตุร้ายแรงทางท้องทะเลต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต โดยเรือรบหลวงลำนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำพิธีเจิมและพระราชทานชื่อให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและความเป็นสิริมงคล โดยชื่อจักรีนฤเบศร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี พร้อมมีคำขวัญว่า ครองเวหา ครองนที จักรีนฤเบศร สำหรับที่พักใกล้กับเรือหลวงจักรีนฤเบศรที่น่าสนใจ ลองดูตัวอย่างที่พักได้ อาทิ
วันและเวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
เขาชีจรรย์โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปสลักบนหินผาสูง 109 เมตร น้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพ และงดใช้เสียงดังขณะเข้าชม
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.
ใครที่อยากรู้จักสิ่งมีชีวิตที่น่ารักตัวนี้ให้มากขึ้นต้องมาที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ่เต่าทะเล ศูนย์อนุบาลเต่าแห่งนี้เป็นศูนย์วิจัยการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ดูแลการฟักไข่ ช่วยอนุบาลเต่าน้อยใหญ่ให้แข็งแรงและกลับคืนสู่ท้องทะเลอย่างปลอดภัย คุณจะได้เข้าชมบ่ออนุบาลเต่าทะเลพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งเรียนรู้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์เต่าทะเล
วัดสัตหีบเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสัตหีบสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยหลวงพ่ออี๋หรือพระครูวรเวทมุนีผู้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก หลวงพ่ออี๋มีเมตตาช่วยเหลือชาวบ้านจึงเป็นที่เคารพและศรัทธา ครั้นมรณภาพในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ชาวบ้านจึงรูปหล่อเพื่อระลึกถึง
ตั้งอยู่ภายในหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ อยู่บริเวณริมหาดเตยงาม บรรยากาศโล่ง โปร่งสบาย ให้ได้นั่งชิลล์ๆ รับลมสดชื่นจากทะเลกันไปแบบเต็มๆ เมนูที่ขอแนะนำคือปลาอินทรีผัดพริกไทยดำ สดและอร่อยแน่นอน
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
ร้านยอดฮิตของสัตหีบที่เปิดมากว่า 16 ปี เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ ให้อารมณ์เป็นกันเอง แต่เน้นที่รสชาติจัดจ้านของอาหารแต่ละจาน และวัตถุดิบที่สดใหม่ เมนูที่อยากให้ลองคือทะเลลวกจิ้ม ที่กินพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดโดนใจ
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
เป็นอีกหนึ่งร้านที่โด่งดังขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้คนในท้องถิ่น ตั้งอยู่ริมถนนเลียบชายหาด บริเวณอ่าวดงตาล ในเขตของทหารเรือ ร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ให้บรรยากาศเป็นกันเอง เน้นที่ตัววัตถุดิบสดใหม่ ปรุงสด รสจี๊ดจ๊าด เมนูเด็ดที่แนะนำคือ ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลาและแกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 01.00 น.
สนามบินที่ใกล้สัตหีบมากที่สุดคือ
สามารถใช้ได้หลายเส้นทาง ได้แก่
- เส้นทางสายบางนา - ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี
- เส้นทางสายกรุงเทพฯ - มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 ซึ่งจะผ่านทางฉะเชิงเทรา, บางปะกง และเข้าชลบุรี
- ใช้เส้นทางสายเก่าถนนสุขุมวิททางหลวงหมายเลข 3 ผ่านสมุทรปราการ ถึงแยกอำเภอบางปะกง จึงใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าชลบุรี
จากกรุงเทพฯ
สามารถโดยสารรถไฟสายตะวันออกและลงที่สถานีบ้านพลูตาหลวง ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของทางรถไฟสายนี้ โดยมีรอบเดินทางออกจากกรุงเทพฯ รอบแรกเวลา 06.55 น.
จากพัทยา
สามารถโดยสารรถไฟชั้น 3 จากพัทยาไปลงที่สถานีบ้านพลูตาหลวง โดยมีรอบเดินทางออกจากพัทยารอบแรกเวลา 10.18 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที
สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งเอกมัย โดยมีรถออกจากสถานีทุกๆ 50 นาที ตั้งแต่เวลา 4.00-20.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
จากชลบุรี สามารถโดยสารรถสองแถว (สีขาว) ที่พบได้ตามถนนสุขุมวิทในเขตจังหวัดชลบุรีเพื่อเดินทางไปสัตหีบ ค่าโดยสาร 20 บาทต่อคน
จะพบรถโดยสารสองแถวทั่วไปในสัตหีบ ซึ่งคิดค่าบริการตามระยะทางประมาณ 10-30 บาทต่อคน แต่หากต้องการเดินทางไปที่ต่างๆ เป็นกลุ่มแบบส่วนตัว สามารถติดต่อคนขับรถและตกลงราคาก่อนเดินทาง
แท็กซี่เป็นอีกหนึ่งรถโดยสารที่สามารถพบเจอได้ทั่วไปในสัตหีบ