“แม่สอด” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์พร้อมกับซึมซับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่ผสมผสานระหว่างสองประเทศคือไทยกับเมียนมาร์ นอกจากจะเป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจแล้ว แม่สอดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าเช็กอินจำนวนมากรอให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยือน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อาทิ ชุมชน, หมู่บ้าน, ตลาด, วัดวาอาราม ที่ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหน ๆ วันนี้ Traveloka เลยได้รวบรวม 20 ที่เที่ยวแม่สอดสวย ๆ และน่าไปเที่ยวมาฝาก รับรองความสวยและดีต่อใจ ไปแล้วจะต้องร้องว้าวแน่นอน

และเพื่อให้การเที่ยวแม่สอดเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและราบรื่น แนะนำให้เดินทางไปแม่สอดด้วยเครื่องบิน สะดวก รวดเร็ว จากกรุงเทพฯ สามารถบินตรงสู่สนามบินแม่สอดได้ทันทีแล้วไปเที่ยวต่อได้เพลิน ๆ หากสนใจสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปแม่สอดได้ในแอป Traveloka ได้เลย นอกจากตั๋วเครื่องบินราคาสุดคุ้มแล้ว ก็ยังสามารถจองที่พัก รวมถึงบริการรถเช่าและรถรับส่งสนามบินได้อีกด้วย ให้คุณได้เที่ยวอย่างสบายใจไร้กังวล สะดวกสบาย ครบจบในแอปเดียว

เริ่มต้นที่แรกด้วย ถ้ำสีฟ้า ที่เที่ยวแม่สอดสุด Unseen ที่ทุกคนต้องไป ภายในมีลักษณะเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยและห้องโถงจำนวนมาก ซึ่งผนังของถ้ำจะมีลักษณะเด่นคือเป็นสีเทาอมฟ้าสลับริ้วสีขาว ดูสวยงามอลังการแตกต่างจากถ้ำอื่น ๆ ในถ้ำมีการติดไฟส่องสว่างในจุดที่เป็นไฮไลท์สำหรับการถ่ายรูป สามารถเดินเที่ยวชมเองได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ บริเวณโถงด้านหน้าถ้ำยังมีพระพุทธรูปศิลปะแบบพม่าให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ควรแวะไปชมให้เห็นจริงกับตา

ดอยมณฑา ชื่อนี้อาจยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ถ้าคุณชอบการผจญภัยหรือเป็นสายเดินป่า นี่คืออีกหนึ่งดอยในแม่สอดที่น่าไปพิชิต ดอยมณฑาอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เป็นยอดเขาที่แบ่งแนวเขตระหว่างอำเภอแม่สอดและอำเภอเมืองตาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,057 เมตร ยอดดอยข้างบนมีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกได้ 360 องศา การจะพิชิตดอยมณฑาต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้นซึ่งจะต้องติดต่อทางอุทยานก่อน และจะเปิดให้เดินช่วงเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคมเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดที่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติแบบเต็ม ๆ เหมาะกับสายแอดเวนเจอร์ตัวจริง

แม่สอดมีน้ำตกจำนวนมาก ซึ่งน้ำตกพาเจริญแห่งนี้ยืนหนึ่งเรื่องความสวยงามอย่างแท้จริง นี่คือน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน ลักษณะพิเศษคือด้านบนจะเป็นชั้นใหญ่ 1 ชั้น และจะมีชั้นย่อย ๆ ลดหลั่นกันลงมาอีก 97 ชั้น เกิดเป็นภาพสายน้ำที่สวยงามและแอ่งน้ำใสสะอาดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ให้ได้แช่ตัวผ่อนคลายความเมื่อยล้า นับเป็นที่เที่ยวแม่สอดอีกแห่งที่น่ามาเช็กอินสุด ๆ แนะนำให้มาช่วงปลายฤดูฝนเพราะเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะและสวยที่สุด

อีกหนึ่งน้ำตกสวยที่อยากให้มาเช็กอินกันก็คือ น้ำตกธารารักษ์ หรืออีกชื่อคือ น้ำตกผาชัน จุดเด่นคือเป็นน้ำตกธรรมชาติไหลลงมาจากหน้าผาสูง 30 เมตร สู่อ่างเก็บน้ำด้านล่าง บริเวณอ่างเก็บน้ำมีสะพานไม้ให้เดินชมวิวและมีมุมถ่ายรูปที่มองเห็นตัวน้ำตกเป็นฉากหลัง นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปด้านบนน้ำตกได้ ซึ่งข้างบนจะมีพระพุทธรูปปางสมาธิและมหาเจดีย์ธารารักษ์ให้กราบไหว้บูชา และยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงอีกด้วย ถือเป็นที่เที่ยวแม่สอดที่เดินทางไปง่าย รถยนต์เข้าถึง บริเวณโดยรอบมีร้านอาหารและศาลานั่งพักผ่อนหย่อนใจ เหมาะสำหรับพาครอบครัวและเด็ก ๆ มาเที่ยวเอาบรรยากาศเพลิน ๆ

น้ำตกแม่กาษา น้ำตกสวยบรรยากาศร่มรื่นที่เหมาะแก่การเล่นน้ำหรือนั่งชิลเพลิน ๆ บริเวณโดยรอบน้ำตกเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น น้ำตกมี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนใครอยากขึ้นไปชั้นบนก็สามารถเดินไปตามทาง ขึ้นบันไดนิดหน่อย ก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ 2 ซึ่งจะมีถ้ำและสามารถมองลงมาเห็นวิวมุมกว้างของแอ่งน้ำข้างล่างได้ชัดเจน นอกจากนี้บริเวณน้ำตกยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ เรียกว่าสะดวกสบายเหมาะแก่การลงเล่นน้ำสุด ๆ เป็นที่เที่ยวแม่สอดอีกแห่งที่น่ามาเช็กอิน

หากใครต้องการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ แนะนำให้มาพักกายพักใจที่บ้านแม่กาษา นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและป่าเขา พร้อมบรรยากาศที่เงียบสงบท่ามกลางอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ที่บ้านแม่กาษามีที่พักหลายรูปแบบให้บริการ อาทิ โฮมสเตย์, ฟาร์มสเตย์ ไปจนถึงลานกางเต็นท์ ซึ่งบางแห่งจะมีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติให้บริการด้วย ถือเป็นที่เที่ยวแม่สอดสำหรับคนอยากพักผ่อนชาร์จแบตฯ ร่างกาย มาที่นี่รับรองว่าได้พลังงานดี ๆ กลับไปแน่นอน

บ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่ในหมู่บ้านแม่กาษา ห้อมล้อมไปด้วยป่าร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบ อุณหภูมิของน้ำในบ่อประมาณ 60-80 องศาเซลเซียส น้ำจากน้ำพุจะมีความใส มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ ที่ไม่เป็นอันตราย และมีไอน้ำลอยกรุ่นตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถต้มไข่ในบ่อได้ ใช้เวลาในการต้มประมาณ 20 นาที นอกจากนี้มีบ่อสำหรับนั่งแช่เท้าเพื่อความผ่อนคลายและมีห้องอาบน้ำแร่ให้บริการด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวแม่สอดที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนแช่น้ำร้อนชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ

สำหรับคนที่อยากแช่น้ำแร่ร้อน ๆ แบบทั้งตัวแนะนำให้ไปที่ อโรคยาศาลโป่งคำราม หรือ บ่อน้ำแร่โป่งคำราม ที่นี่คือแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ จุดเด่นของที่นี่คือการนอนแช่น้ำแร่ในถังไม้โอ๊กที่ให้ฟีลเหมือนการแช่น้ำแร่ออนเซ็นแบบญี่ปุ่น โดยถังไม้โอ๊กเหล่านี้ใช้น้ำแร่อุณหภูมิน้ำประมาณ 60 องศาเซลเซียส สูบขึ้นมาจากใต้ดินให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปนอนแช่ตัว ซึ่งนอกจากจะให้ความผ่อนคลายแล้วก็ยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย นอกจากนี้ ที่อโรคยาศาลโป่งคำรามยังมีบริการนวดผ่อนคลายและคาเฟ่วิวทุ่งนาสวย ๆ ให้ได้นั่งชิลกัน ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ เปิดให้บริการทุกวันเวลา 06.00 - 20.00 น.

โค้ง 33 บ้านแม่โกนเกน แลนด์มาร์คแม่สอดที่สายขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวต้องไปเยือนให้ได้ นี่คือถนนสวยใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาร์ จุดเด่นคือทางโค้งคดเคี้ยวไปตามภูเขาที่มีลักษณะคล้ายเลข 3 ต่อกันจึงได้ชื่อว่าโค้ง 33 นั่นเอง ขณะที่สองข้างทางก็เต็มไปด้วยไร่ข้าวโพดสลับกับเนินหญ้าสีเขียวสูง-ต่ำ มองไปทางไหนก็มีแต่ความสวยสบายตา ที่นี่จึงเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ของบ้านแม่โกนเกนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โค้ง 33 เป็นที่เที่ยวแม่สอดที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สามารถขับรถไปเที่ยวและถ่ายรูปเช็กกันอินได้เลย

วัดไทยวัฒนาราม หรือ วัดไทยใหญ่ อีกหนึ่งวัดสวยในแม่สอดที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ วัดแห่งนี้สร้างด้วยศิลปะแบบพม่า ทั่วทั้งวัดมีการประดับด้วยลวดลายแกะสลักสีทองอันวิจิตรงดงาม ภายในวัดมีวิหารพระมหามุนีซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามุนี พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ชาวแม่สอดให้ความเลื่อมใสศรัทธา นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์โกนาวินสีทองอร่าม รวมถึงรูปปั้นหงส์และสิงห์สีทองโดดเด่นสะดุดตา ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดในตัวเมืองที่ควรไปเห็นความงามให้ได้กับสองตาของตัวเอง

วัดมณีไพรสณฑ์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่สอด ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจคือเจดีย์วิหารสัมพุทเธ เป็นเจดีย์ศิลปะแบบพม่า จุดเด่นคือรอบ ๆ องค์เจดีย์จะมีเจดีย์เล็ก ๆ ล้อมรอบอยู่จำนวนมาก เป็นความแปลกตาที่ดูสวยงามและแตกต่างไม่เหมือนเจดีย์องค์ไหน ๆ นอกจากนี้ในวัดยังมีวิหารหลวงพ่อทันใจซึ่งภายในมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม รวมถึงมีโบสถ์เก่าอายุกว่า 200 ปีให้ได้ชมด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดในตัวเมืองแม่สอดที่น่าแวะไปเที่ยวชมอย่างยิ่ง

วัดชุมพลคีรี อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของเมืองแม่สอด วันนี้มีอายุกว่า 200 ปี ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจคือองค์พระเจดีย์ใหญ่สีทองสูง 20 เมตร ที่จำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองของพม่า ล้อมรอบด้วยเจดีย์ขนาดเล็กสีทอง 20 องค์และกำแพงแก้ว ดูสวยงามและโดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างโดยเฉพาะเวลาถูกแสงแดด นอกจากนี้ยังมีอุโบสถที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย และมีกลองโบราณอายุกว่า 200 ปี เก็บรักษาอยู่ภายในวิหารให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม เป็นอีกหนึ่งวัดสวยที่ควรรวมอยู่ในแพลนเที่ยวแม่สอดแบบ One Day Trip ในตัวเมือง

วัดพระธาตุดอยหินกิ่ว ตั้งอยู่นอกเมืองแม่สอดออกไปไม่ไกล ไฮไลท์ของที่นี่คือการไปชมความมหัศจรรย์ขององค์พระธาตุที่ตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ที่มีฐานคอดกิ่วริมหน้าผา ทั้งพระธาตุและก้อนหินถูกทาด้วยสีทองโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งการจะขึ้นไปชมพระธาตุจะต้องเดินขึ้นบันไดไป ทั้งนี้ บริเวณองค์พระธาตุยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเมยและประเทศเมียนมาร์ได้ชัดเจน นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังมีเรือโบราณที่มีอายุประมาณ 200 ปีให้ชมอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดที่สายไหว้พระทำบุญไม่ควรพลาด

ขอพาเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินช้อปในตลาดกันบ้าง เริ่มกันที่ตลาดริมเมย ตั้งอยู่ในตัวเมืองแม่สอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเมยใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่นี่เป็นตลาดขนาดใหญ่ บรรยากาศคึกคัก ขายสินค้าหลากหลายทั้งของไทย, พม่า, จีน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพื้นเมือง อาทิ ขนม, อาหารแห้ง, เครื่องประดับ, ของที่ระลึก, เสื้อผ้า, เครื่องหนัง, เฟอร์นิเจอร์, สุรา, บุหรี่ รวมถึงอัญมณี เช่น หยก, ทับทิม และพลอยสีจากพม่า จัดเป็นที่เที่ยวแม่สอดสำหรับการซื้อของที่ระลึก ใครเป็นสายช้อปปิ้งห้ามพลาดเด็ดขาด

ต่อกันที่ ตลาดดอยมูเซอใหม่ เป็นตลาดขนาดใหญ่บรรยากาศคึกคักริมถนนสายตาก-แม่สอด สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตรของพี่น้องชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอในละแวกใกล้เคียง มีให้เลือกช้อปเยอะและหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นผักและผลไม้เมืองหนาว, กาแฟ, ชา, ของป่า, สมุนไพร, ผลิตภัณฑ์แปรรูป ไปจนถึงเสื้อผ้า, เครื่องประดับ และของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญคือสินค้าแต่ละอย่างราคาไม่แพง สามารถเลือกซื้อกันได้อย่างตามอัธยาศัย ใครเป็นสายช้อปปิ้งแล้วไม่แวะถือว่าพลาด

ใครที่อยากช้อป ชิม ชิล พร้อมสัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวเมืองแม่สอดแบบใกล้ชิด แนะนำ ถนนคนเดินแม่สอด นี่คือตลาดที่รวมของกินอร่อย ๆ ของแม่สอดให้ได้ตระเวนกินกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังมีโซนเสื้อผ้า, ของที่ระลึก, ของฝาก, สินค้าพื้นเมือง ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้านำมาวางขายในราคาเป็นกันเองให้นักท่องเที่ยวได้เดินช้อปกันแบบเพลิน ๆ ตลาดมีทุกวันเสาร์ สามารถเดินเล่นชิล ๆ ได้ยาว ๆ ตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 โมง - 3 ทุ่ม ถือเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวแม่สอดที่อาจจะไม่ได้เปิดทุกวัน แต่ถ้าเปิดเมื่อไรก็ไม่ควรพลาดจริง ๆ

จุดเช็กอินสุดชิคที่สายโซเชียลไม่ควรพลาดเลยก็คือ สกายวอล์คแม่สอด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเคียงดอยรีสอร์ต ที่นี่เป็นสกายวอล์คแห่งเดียวในแม่สอด ทอดตัวผ่านสวนดอกไม้และต้นไม้ร่มรื่นโดยมีวิวกว้าง ๆ ของทุ่งนาและภูเขาเป็นฉากหลัง บรรยากาศดี อากาศบริสุทธิ์ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ ที่นี่ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมี Mini Zoo ให้เข้าชมอีกด้วย เรียกว่าเป็นที่เที่ยวแม่สอดที่สามารถฝังตัวอยู่ได้ทั้งวัน มาแล้วจะไม่ผิดหวัง

La-Or Flower Garden หรือ สวนละออ อีกหนึ่งจุดเช็กสุดชิกที่สายโซเชียลและสายถ่ายรูปต้องไป ที่นี่เป็นทั้งสวนดอกไม้และคาเฟ่บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เป็นกันเอง ภายในเป็นสวนดอกไม้สวยงามนานาชนิด มีการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซน ๆ ให้เข้าชม ทั้งยังมีสวนผลไม้และสวนปาล์มเรียงรายสวยงาม ในส่วนของคาเฟ่ก็มีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองกันอย่างจุใจ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแม่สอดที่สาว ๆ หรือคนรักดอกไม้ไม่ควรพลาด สวนเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น.

อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด เป็นที่เที่ยวแม่สอดบรรยากาศดีที่เหมาะกับการใช้เวลาช้า ๆ ชมวิวภูเขาสวย ๆ และนั่งดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของคนแม่สอดที่นิยมมานั่งปิกนิกทานอาหารเย็น รวมถึงมาเดินเล่น ปั่นจักรยาน และวิ่งออกกำลังกาย ที่นี่วิวสวย เงียบสงบ อากาศดี เหมาะแก่การมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารคอยให้บริการครบครัน

ปิดท้าย 20 ที่เที่ยวแม่สอดในบทความนี้กันที่ ม่อนหมอกตะวัน สถานที่สุดโรแมนติกบนภูเขาสูง 1,100 เมตร ที่ชาวบ้านได้พัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว บนม่อนหมอกตะวันมีทั้งสวนดอกไม้เมืองหนาว รวมถึงคาเฟ่ ร้านอาหาร โฮมสเตย์ และลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักแรม ตอนเช้าสามารถมองวิวทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมาก ๆ ใครชอบวิวธรรมชาติแบบสวยอลังการ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง

แม่สอดเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ชวนให้ไปเที่ยวจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย รวมถึงผู้คนที่น่ารัก และวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างไทยกับพม่า นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ก่อนที่จะเริ่มท่องเที่ยวแม่สอด ลองมาทำความรู้จักเมืองนี้ให้มากขึ้นกันสักเล็กน้อย

แม่สอด เป็นอำเภอหนึ่งทางตอนกลางของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบระหว่างเทือกเขาถนนธงชัยในฝั่งประเทศไทยกับแม่น้ำเมย มีพื้นที่ประมาณ 1,986 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงซับซ้อนสลับกับหุบเขาแคบ ประมาณ 80% ของพื้นที่เป็นป่า อำเภอนี้จึงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก

อาณาเขตติดต่อ

แม่สอดมีทั้งหมด 10 ตำบล 88 หมู่บ้าน มีประชากรทั้งหมดราว 1.7 แสนคน (ข้อมูลปี 2564) ประชากรมีความหลากหลายทั้งชาวไทยภูเขา ชาวไทยพื้นเมือง รวมทั้งชาวพม่าที่ข้ามฝั่งมาทำมาหากินในฝั่งไทย แม่สอดได้รับการยกสถานะให้เป็นเทศบาลนครจากจำนวนประชากรและขนาดของเมืองที่มีความเจริญเทียบเท่าเมืองใหญ่หลาย ๆ เมืองของไทย มีระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบาย รวมถึงระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัยและครบครัน

แม่สอดเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐิจและการค้าที่สำคัญของไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมาร์ เป็นที่ตั้งของจุดผ่านแดนถาวรด่านพรมแดนแม่สอด มีสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ 2 แห่ง นอกจากนี้แม่สอดยังได้รับอิทธิพลหลาย ๆ อย่างมาจากเมียนมาร์ อาทิ ภาษา วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้

แม่สอดมีสนามบิน 1 แห่ง ตั้งอยู่ในตำบลท่าสายลวด วิธีเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วคือการนั่งเครื่องบินไปแม่สอด โดยปัจจุบันมีเพียงสายการบินเดียวที่ให้บริการคือ Nok Air เส้นทางบินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่สนามบินแม่สอด มีเที่ยวบินให้บริการวันละ 2 เที่ยว ใช้เวลาบินประมาณ 50 นาที นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปแม่สอดด้วยเครื่องบินสามารถจองตั๋วภายในแอป Traveloka ได้เลย

เมื่อเดินทางถึงแม่สอดแล้ว หากใช้รถยนต์ส่วนตัวนักท่องเที่ยวสามารถขับรถเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในแม่สอดเองได้ทันที ถนนหนทางต่าง ๆ มีความสะดวกสบาย ขับขี่ง่าย แต่มีข้อควรระวังคือการขับขี่บนเส้นทางขึ้น-ลงเขาเพราะมีความลาดชัน แคบ และคดเคี้ยว ผู้ที่ไม่ชินทางยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ

หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปแม่สอดด้วยเครื่องบิน สามารถใช้แอป Traveloka เช่ารถขับเที่ยวแม่สอดด้วยตัวเอง หรือเช่ารถพร้อมคนขับให้พาเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ วิธีนี้ทั้งสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย มีรถให้บริการตั้งแต่หน้าสนามบิน หรือถ้าหากวันนั้นยังไม่มีแพลนเที่ยวแม่สอดที่ไหนก็สามารถใช้บริการรถรับส่งสนามบินจากแอป Traveloka ให้ไปส่งยังที่พักก่อนก็ได้เช่นกัน

ส่วนใครที่อยากซึมซับวิถีชีวิตของชาวแม่สอด หรือเป็นสาย Backpack ลุยเที่ยวแม่สอดคนเดียว ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวรอบแม่สอดด้วยรถประจำทางสาธารณะหรือรถรับจ้างท้องถิ่นก็ได้ ให้ความสนุกไปอีกแบบดีเหมือนกัน

อำเภอแม่สอดมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นเช่นเดียวกับภาคอื่น ๆ ของไทย ใน 1 ปีจะมี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ - กลางเดือนพฤษภาคม, ฤดูฝน เป็นฤดูที่ยาวนานที่สุด เริ่มตั้งแต่ กลางเดือนพฤษภาคม - ปลายเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนกุมภาพันธ์

นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวแม่สอดได้ตลอดทั้งปีซึ่งแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ช่วงที่พีคที่สุด หรือช่วง High Season คือช่วงฤดูหนาวเพราะอากาศจะเย็นสบาย ฝนตกน้อย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีพายุฝน เหมาะแก่การท่องเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ ดูทะเลหมอก ดูดาวบนยอดดอย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสลมหนาวกันอีกด้วย