จุดแลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอย่าง “วัดอาซากุสะ” ที่ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองโตเกียวมาอย่างยาวนาน มีจุดเด่นที่ทุกคนต้องเคยผ่านตา นั่นก็คือ ‘โคมสีแดง’ ขนาดใหญ่ตรงประตูทางเข้านั่นเอง แม้ว่าหลายคนจะรู้จักวัดแห่งนี้อยู่แล้ว แต่อาจไม่ทราบถึงประวัติความเป็นมา รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจก็เป็นได้

บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับวัดอาซากุสะ (Asakusa) ไม่ว่าจะเป็นประวัติของวัดแห่งนี้ ช่วงเวลาที่สามารถเข้าเยี่ยมชม รวมไปถึงข้อมูลของสิ่งที่น่าสนใจรอบ ๆ วัดอาซากุสะ เพื่อเป็นแนวทางให้กับใครที่กำลังสนใจ และวางแผนมาเที่ยววัดอาซากุสะ ถ้าพร้อมแล้ว จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka เพื่อเดินทางไปเที่ยวกันเลย!

ใครหลายคนที่กำลังวางแผนในการไปเที่ยวโตเกียว มักมีวัดเซ็นโซจิหรืออาซากุสะแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายของการเดินทาง ดังนั้น Traveloka จึงได้รวบรวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับวัดแห่งนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับคุณ ทั้งการวางแผนการเดินทางและจองโรงแรมญี่ปุ่นให้เหมาะกับทริปของคุณมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว สามารถอ่านข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้านล่างนี้

วัดโคมแดง หรือ วัดอาซากุสะ (Asakusa) เป็นวัดพุธที่มีพระโพธิสัตว์คันนนหรือเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระประธาน เนื่องจากในปี ค.ศ. 628 ได้มีพี่น้องชาวประมง 2 คน พบรูปปั้นพระโพธิสัตว์คันนนทองคำที่แม่น้ำซูมิดะ (Sumida) จึงนำกลับมาที่หมู่บ้าน และมอบให้หัวหน้าหมู่บ้านเพื่อประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมไว้ที่บ้าน จากนั้นหัวหน้าหมู่บ้านจึงเปิดให้บ้านของตนเองเป็นวัดขนาดเล็ก ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาสามารถเข้ามาสักการบูชาได้ ภายหลังจึงได้มีการบริจาคที่ดินให้สร้างเป็นวัดอาซากุสะนั่นเอง

แม้ว่าวัดแห่งนี้จะได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นอย่างมาก แต่ได้รับการบูรณะโดยการสร้างตัวอาคารขึ้นมาใหม่ทั้งหมด วัดอาซากุสะจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และความสงบสุขสำหรับคนญี่ปุ่น

วัดอาซากุสะตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เขตไทโต เมืองโตเกียว ซึ่งถือเป็นย่านที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยรอบตัววัดอาซากุสะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งให้ได้ไปเยี่ยมชม เช่น สวนริมแม่น้ำซูมิดะ, ถนนนากามิเสะ, ตึกสำนักงานใหญ่อาซาฮีกรุ๊ป และอื่น ๆ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HMxnk6Dx1Ru1R5SQA

อาคารหลักของวัดอาซากุสะเปิดให้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 6.00-17.00 น. ส่วนในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคม จะเปิดตั้งแต่เวลา 6.30 น. ดังนั้นควรวางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้าให้ดีก่อนการเดินทาง

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาต่าง ๆ อาจมีเทศกาลที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช่น เทศกาลเซ็ตสึบุน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์, ฮอนซอน จิเกน-เอะ ในวันที่ 18 มีนาคม, ฮินะ มัตสึริ ในวันที่ 8 เมษายน และอื่น ๆ อีกมากมาย หากต้องการเที่ยววัดอาซากุสะให้ตรงกับช่วงเทศกาล สามารถเช็กได้ในเว็บไซต์ https://www.senso-ji.jp/

เมื่อรู้ถึงประวัติและข้อมูลเบื้องต้นของวัดอาซากุสะไปแล้ว หลายคนอาจกังวลว่า การเดินทางไปเที่ยวยังวัดแห่งนี้จะไม่ง่ายนัก เราจึงได้รวบรวมวิธีการเดินทางแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจจะไปท่องเที่ยวยังวัดอาซากุสะไว้แล้ว

หากคุณต้องการไปยังวัดอาซากุสะ การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยสามารถเลือกขึ้นรถไฟของบริษัทที่ให้บริการ ดังนี้

ทั้งนี้ รถไฟใต้ดินในเมืองโตเกียวจะมีผู้ให้บริการที่หลากหลาย ดังนั้น คุณจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง เพื่อที่จะสามารถเดินทางได้สะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยอาจใช้ IC Card ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินที่ใช้ได้กับทุกสถานี หรือเป็นการซื้อตั๋วเที่ยวเดียวจากหน้าสถานีก็ได้เช่นกัน

อีกหนึ่งในวิธีการเดินทางไปยังวัดอาซากุสะนั่นก็คือการขึ้นรถบัส โดยคุณสามารถขึ้นรถบัสสาย 都08 (T08), 東42甲, 上46 หรือ 草64 จากสถานีที่ใกล้ที่สุด เพื่อไปยังป้ายใกล้วัดอาซากุสะ หรือสามารถขึ้นรถรับส่งประจำทาง The Skytree Shuttle Bus และ Megurin Sightseeing Bus ที่ให้บริการจุดต่าง ๆ ได้ด้วย ถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกสบายไม่น้อย

อาจยังมีหลายคนที่สงสัยว่าการมาเที่ยววัดอาซากุสะนั้น มีจุดใดบ้างที่น่าสนใจหรือเป็นไฮไลต์ห้ามพลาด Traveloka จึงได้รวบรวมจุดเด่นของวัดอาซากุสะมาให้ทุกคนแล้ว ไปดูกันเลย!

“ประตูคามินาริมง” ถือเป็นจุดเด่นที่ผู้คนต้องเคยเห็นกันอย่างแน่นอน ด้วยโคมสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าวัดอาซากุสะ ทำให้เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และด้านใต้ของโคมแดงขนาดใหญ่นี้ยังมีประติมากรรมลายมังกรซ่อนอยู่ด้วย เนื่องจากมีความเชื่อว่า มังกรเป็นหนึ่งในเทพที่คอยปกปักรักษาวัดอาซากุสะนั่นเอง

อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าประตูวัดนั่นก็คือ “เจดีย์ 5 ชั้น” ที่มีความสูงถึง 64 เมตร โดยใช้วิธีชิมบาชิระในการสร้าง หรือก็คือการลงเสาตรงกลางเจดีย์ ซึ่งวิธีการสร้างแบบนี้ทำให้ตัวเจดีย์ 5 ชั้นไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวนั่นเอง

ขอแนะนำอีกหนึ่งแห่งที่ห้ามพลาดหากมาเที่ยวอาซากุสะ “ถนนนากามิเสะ” แหล่งของกินและของฝากหน้าวัดอาซากุสะ โดยถนนแห่งนี้มีความยาวกว่า 200 เมตร ตลอดทางจะมีร้านขนมญี่ปุ่น ของกินเล่น และของฝากมากมายให้คุณได้เลือกชิมเลือกซื้อก่อนเข้าสู่ตัววัด

เมื่อมาถึงวัดอาซากุสะแล้ว แน่นอนว่าต้องเข้าไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของวัดแห่งนี้กันก่อน แต่ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ลองทำ เราจึงขอแนะนำกิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาที่วัดอาซากุสะ ดังนี้

พระโพธิสัตว์คันนน ซึ่งเป็นพระประธานของวัดอาซากุสะได้รับการประดิษฐานภายในตัวอาคารหลัก คุณสามารถสักการบูชา และรับควันธูปจากกระถางธูปด้านหน้าอาคารหลักเพื่อเพิ่มความโชคดีตามความเชื่อ นอกจากนี้ อีกหนึ่งทริกสำคัญคือ การทำบุญด้วยเหรียญ 5 เยน เพราะภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่าโกะเอน (Go-en) ซึ่งพ้องกับคำว่า ‘วาสนา’ นั่นเอง

สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมายังวัดอาซากุสะนั่นก็คือ การเช่าเครื่องรางมงคล เนื่องจากวัดแห่งนี้มีเชื่องเสียงเรื่องเครื่องราง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางเสริมเรื่องความโชคดี, เครื่องรางเสริมเรื่องการเงิน, เครื่องรางเสริมเรื่องความสมหวัง และเครื่องรางเสริมเรื่องความรักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

หากมาย่านอาซากุสะแล้ว หนึ่งสิ่งที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับทริปท่องเที่ยวของคุณนั่นก็คือ การทัวร์ย่านนี้ด้วยรถลากด้วยคน หรือจินริคิฉะ โดยบริเวณหน้าวัดอาซากุสะ หรือซุ้มประตูคามินาริมงจะมีผู้ที่ให้บริการรถลากนี้ เพื่อพาเราไปชมจุดท่องเที่ยวน่าสนใจของย่านอาซากุสะ โดยค่าบริการจะขึ้นอยู่กับจำนวนคนและระยะเวลา

ขนมญี่ปุ่นถือว่าเป็นขนมที่มีความประณีตและรสชาติดี บริเวณถนนนากามิเสะมีร้านขนมญี่ปุ่นที่หลากหลาย โดยมีทั้งขนมโบราณ หรือขนมแบบประยุกต์ ทำให้คุณสามารถเลือกชิมตามรสชาติที่ตัวเองชอบหรืออยากลองได้มากมายตามต้องการ