0

Traveloka TH

21 Apr 2024 - 3 min read

20 ที่เที่ยวนารา เมืองแห่งกวาง พุทธศาสนา สารพัดวัด และธรรมชาติแสนสวย

ที่เที่ยวนารา

นารา เมืองแห่งกวาง พุทธศาสนา และธรรมชาติสุดรื่นรมย์ อดีตเมืองหลวงเก่าอีกแห่งของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองนี้จะเป็นภูเขาและทุ่งหญ้า สามารถนั่งรถ หรือปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบายอารมณ์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ต้องมาเยือน เมื่อมายังภูมิภาคคันไซ

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ไปกับหลากหลายที่เที่ยวนารา เตรียมแพ็กกระเป๋า เข้าแอป Traveloka กดจองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า แล้วนั่งรถไฟต่อไปนารากัน วันหยุดถัดไปไม่รู้จะเที่ยวไหน ก็มาเที่ยวเมืองกวางแห่งนี้กันเถอะ!

ที่เที่ยวนารา พาชมกวาง และวัดอันดาษดื่น สดชื่นไปกับแหล่งธรรมชาติสุดงดงาม

1. Nara Park

Nara Park

สวนนารา สวนกวางอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนารา ภายในมีกวางอาศัยอยู่กว่า 1,200 ตัว ลักษณะสวนเป็นระบบเปิด นักท่องเที่ยวสามารถพบกวางได้ในทุกบริเวณพื้นที่ของสวน อีกทั้งยังให้ขนมเซมเป้กับกวางได้อีกด้วย โดยกวางจะทำการก้มทำความเคารพ ก่อนรับขนมไปจากเราเสมอ นับว่าเป็นภาพที่น่ารักเอามาก ๆ ใครไปที่เที่ยวนาราแห่งนี้ อย่าลืมซื้อขนมไปป้อนน้องกวางกันด้วยนะ

2. Nara National Museum

พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา ตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนนารา ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1889 มีการจัดแสดงงานศิลปะทางพุทธศาสนาของญี่ปุ่นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นพระพุทธรูป, วัตถุโบราณ และภาพวาดต่าง ๆ สามารถเดินให้อาหารกวางในสวนชิล ๆ และแวะเยี่ยมชมที่เที่ยวนาราแห่งนี้ที่อยู่ระหว่างทางได้

3. Todaiji Temple

Todaiji Temple

วัดโทไดจิ วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงถึง 15 เมตร และได้รับความเคารพนับถือจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ตัวอาคารหลักของวัดถูกสร้างจากไม้ทั้งหลัง และยังได้รับการยกย่องให้เป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย สามารถมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมสวย ๆ และไหว้พระอันศักดิ์สิทธิ์ได้ ณ ที่เที่ยวนาราแห่งนี้เลย

4. Kasuga Taisha

Kasuga Taisha

ศาลเจ้าคาสุกะ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวนารา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ทางเข้าศาลเจ้าจะเป็นป่าสน ที่มีโคมไฟหินเรียงรายอยู่สองข้างทาง ต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่าน เป็นจำนวนกว่า 3,000 ดวง สร้างความรู้สึกลึกลับ และวังเวงในระหว่างทางเดินอยู่ไม่น้อย แต่ก็เป็นทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่นมากเช่นกัน

5. Manyo Botanical Gardens

สวนพฤกษศาสตร์มานโยะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศาลเจ้าคาสุกะ เป็นที่เที่ยวนาราที่จัดแสดงต้นไม้และดอกไม้ต่าง ๆ กว่า 300 ชนิด สามารถซื้อบัตรเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของพันธุ์ไม้นานาพรรณในสวนแห่งนี้ได้ โดยในต้นเดือนพฤษภาคม จะมีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียกว่า 200 ต้นให้ได้ชื่นชมกันเป็นพิเศษ และยังมีโรงน้ำชาให้ได้นั่งพักผ่อน จิบชาร้อน ๆ ท่ามกลางดอกไม้สวย ๆ อีกด้วย

6. ภูเขา Wakakusa

Wakakusa

ภูเขาวาคาคุสะ ที่เที่ยวนาราที่สามารถมองเห็นทั้งเมืองได้จากมุมสูง ตั้งอยู่ด้านหลังของสวนกวางนารา มีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร เหมาะสำหรับใครที่อยากมาปีนเขาเบา ๆ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน และความยากไม่มากนัก ทางเขาเปิดให้ขึ้นได้ในเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของธรรมชาติอันสวยงาม ให้อยู่คู่เมืองนาราไปนาน ๆ

7. Nara Kingyo Museum

พาไปชมพิพิธภัณฑ์ปลาทองสุดเก๋กันบ้าง ที่เที่ยวนาราแห่งนี้ เต็มไปด้วยปลาทองกว่า 3,000 ตัว ซึ่งถูกจัดแสดงคู่กับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างสวยงาม มีการตกแต่งสุดอลังการที่ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน ด้วยดอกไม้ สวนขวดแก้ว ลูกบอลกระจก และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ให้ความตื่นตาตื่นใจไม่ซ้ำรูปแบบ ลองมาเที่ยวชมอควาเรียมแห่งศิลปะสุดแฟนซีได้ที่นี่เลย

8. Yakushiji Temple

วัดยะคุชิจิ หนึ่งในพุทธศาสนสถานที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ มีจุดเด่นอยู่ที่เจดีย์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณดั้งเดิมของญี่ปุ่น ภายนอกมีลักษณะเหมือน 6 ชั้น แต่ความจริงแล้วเป็นโครงสร้างหลอกตา ภายในมีเพียง 3 ชั้นเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีอาคารจัดแสดงผลงานจากจิตรกรชื่อดังของญี่ปุ่นให้เยี่ยมชมอีกด้วย นับว่าเป็นที่เที่ยวนาราสุดเก่าแก่ และน่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง

9. Horyuji Temple

Horyuji Temple

วัดโฮริวจิ วัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกในญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นสิ่งปลูกสร้างด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 14 ศตวรรษ ที่เที่ยวนาราแห่งนี้ เต็มไปด้วยสมบัติชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมมากมายอยู่ภายในบริเวณวัด นับเป็นที่เที่ยวแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองนารา ที่ห้ามพลาดเลยล่ะ

10. Kofukuji Temple

Kofukuji Temple

วัดโคฟุคุจิ ที่เที่ยวนาราซึ่งมีความเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีไฮไลต์อยู่ที่เจดีย์ไม้ 5 ชั้น ความสูง 50 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสูงมากที่สุดเป็นอันดับสองในญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงผลงานต่าง ๆ เช่น รูปปั้นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงอย่างอาชูร่า ปางสามหน้า-หกมือ อีกด้วย พื้นที่บริเวณรอบนอกของวัดเข้าชมฟรี แต่ถ้าหากอยากเข้าชมภายในอาคารต่าง ๆ จะต้องเสียค่าเข้าชมเล็กน้อยนะ

11. Heijo Palace

Heijo Palace

พระราชวังเฮโจ อดีตที่ประทับของจักรพรรดิ เมื่อสมัยที่นารายังเป็นเมืองหลวงอยู่ พระราชวังแห่งนี้ ในปัจจุบันได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมวัตถุโบราณ, สิ่งประดิษฐ์, โมเดลจำลอง, แผนที่ และรูปภาพต่าง ๆ ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิตในอดีตของชาวญี่ปุ่น นับเป็นหนึ่งในที่เที่ยวนาราอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ห้ามพลาดเลยล่ะ

12. Mount Yoshino

Mount Yoshino

ที่เที่ยวนาราอันเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ภูเขาโยชิโนะลูกนี้ มีต้นซากุระปกคลุมเขาอยู่ราว 30,000 ต้น ทำให้เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ภูเขาทั้งลูกจึงเบ่งบานไปด้วยสีชมพูของซากุระอย่างเต็มพื้นที่ และในฤดูใบไม้ร่วง ก็อุดมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน อันสวยงามไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวสามารถมาปีนเขาชมบรรยากาศ และนั่งปิกนิกกันอย่างสนุกสนานได้เลย

13. Yoshimizu Shrine

ศาลเจ้าโยชิมิซุ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนภูเขาโยชิโนะ และถูกสร้างขึ้นมาร่วม 1,300 ปีแล้ว ปัจจุบัน เป็นที่เก็บโบราณวัตถุจำนวนมาก ของอดีตผู้นำญี่ปุ่นท่านหนึ่ง สามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาแห่งนี้ได้โดยนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระบนภูเขาโยชิโนะที่วิวดีที่สุด และยังเป็นที่เที่ยวนาราสุดเก่าแก่ ที่ไม่มีทางผิดหวังแน่นอนเมื่อปีนขึ้นไปชม

14. Tanzan Shrine

ศาลเจ้าทานซาน ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของเมืองนารา เป็นศาลเจ้าที่มีจุดเด่นจากเจดีย์ไม้ 13 ชั้น ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น และยังเป็นเจดีย์ที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในประเทศอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมความงดงามของศาลเจ้า และธรรมชาติบนเขาได้ตลอดทุกฤดูกาล โดยในเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวนาราอีกแห่งที่เหมาะกับการมาชมเหล่าใบไม้แดงเป็นที่สุด

15. Isuien Garden

Isuien Garden

สวนอิซุยเอ็ง ที่เที่ยวนาราสุดสวยงามหรูหรา ที่สมัยก่อนสงวนไว้ให้ชนชั้นสูงเยี่ยมชมเท่านั้น สวนแห่งนี้ มีการจัดแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งเน้นตกแต่งให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ แต่จะออกไปในแนวทางมองแล้วสวยงาม อลังการ ตื่นตาตื่นใจ มากกว่าเน้นไปในความสงบอย่างสวนตามวัดต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการจัดแบ่งสวน เป็นโซน ๆ มีฝั่งโรงน้ำชาให้ได้นั่งพูดคุย ชมวิว พักผ่อนหย่อนใจกัน และมีส่วนที่ไว้สำหรับเดินเล่นชมสวนโดยเฉพาะ

16. Mitarai Valley

หุบเขามิตะไร มีไฮไลต์อยู่ที่เส้นทางการเดินป่าเลียบหน้าผา ซึ่งสามารถชื่นชมน้ำตกขนาดเล็กใหญ่ต่าง ๆ และความสวยงามของหินผาตามธรรมชาติ ได้ตลอดระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร จุดถ่ายรูปยอดฮิตของที่เที่ยวนาราแห่งนี้ จะอยู่ที่สะพานแขวนเหนือช่องเขาลึก ถ้าใครมาเที่ยว ก็อย่าลืมไปแชะภาพเช็กอินกับแลนด์มาร์กที่นาราจุดนี้กันด้วยนะ

17. Mount Katsuragi

ภูเขาคัตสึระกิ เป็นภูเขาที่ขึ้นชื่อในการมาชมดอกไม้แดง ซึ่งก็คือดอกกุหลาบพันปี ที่ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งภูเขานั่นเอง สามารถมาชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้แดงเหล่านี้ได้ ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น โดยเดินทางผ่านกระเช้าไฟฟ้าเป็นเวลา 1 ชั่วโมงนิด ๆ ก็จะถึงยอดเขา ให้เราได้มาถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์ และชื่นชมความงดงามของที่เที่ยวนาราแห่งนี้กัน

18. Inabuchi Terraced Rice Fields

นาขั้นบันไดอินะบูชิ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทของเมืองนารา มีลักษณะเป็นทุ่งนาขั้นบันไดที่ลดหลั่นเรียงรายกันลงมาตามแนวเชิงเขา แสดงออกถึงภูมิปัญญาการทำเกษตรกรรมของชาวญี่ปุ่น สามารถมาชมความสวยงามของที่เที่ยวนาราแห่งนี้ได้ในช่วงเดือนกันยายน เพราะช่วงนั้นจะมีดอกพลับพลึงแดงบานเรียงราย เพิ่มความสวยงามให้ทุ่งนาแห่งนี้มากขึ้นไปอีก ใครอยากมาสัมผัสชนบทของญี่ปุ่น ต้องแวะมาที่นี่เลย

19. Higashimuki Shopping Street

ถนนช้อปปิ้งฮิกาชิมูกิ ตั้งอยู่ติดกับบริเวณสถานีรถไฟ Kintetsu Nara สามารถเดินช้อปก่อนขึ้นรถไฟกลับกันได้เลย ถนนนี้เป็นแหล่งขายของที่ระลึก ของฝาก และร้านอาหารมากมาย ซึ่งบางอย่างเป็นอาหารท้องถิ่นที่จะสามารถหาทานได้แค่ที่เมืองนาราเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินชิม ช้อปได้อย่างสบายใจ แม้ฝนตกก็ไม่หวั่น เพราะถนนนี้เขามีหลังคาให้ด้วย อย่าลืมมาแวะที่เที่ยวนาราแห่งนี้ก่อนเดินทางกลับกันนะ

20. Nakatanidou Mochi Store

หากเดินเล่นในถนนช้อปปิ้งฮิกาชิมูกิจนสุดทางแล้ว ก็อย่าเพิ่งรีบเลี้ยวกลับ เดินต่อไปอีกสักหน่อย และข้ามถนนไป ก็จะพบกับร้านโมจิญี่ปุ่นที่อร่อยระดับรายการ TV Champion ขอการันตี ร้านโมจินี้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก เนื่องจากความอร่อย และมีโชว์การตำโมจิสด ๆ ให้ได้เห็นกัน อีกทั้งยังมีขนมอื่น ๆ ให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวนาราแห่งสุดท้ายที่ควรแวะก่อนกลับจริง ๆ เพราะโมจิของเขาอร่อยสุด ๆ รับประกันเลย

มาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวนารา

สำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ไปยังที่เที่ยวนาราต่าง ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องขอวีซ่า หากพักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน แต่ต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web ให้เรียบร้อยก่อนเข้าประเทศ ส่วนมาตรการเรื่องโควิด ในปัจจุบันไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีน หรือผลตรวจโควิดแล้ว เดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติเลย

ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวนารา

นาราเป็นเมืองยอดฮิตสำหรับการมาชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี ควรศึกษาฤดูกาล และติดตามพยากรณ์อากาศให้ดีก่อนมาเที่ยว ซึ่ง Traveloka รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้ว เตรียมความพร้อมก่อนไปตะลอนในที่เที่ยวนารากัน

ข้อมูลเมืองนาราในเบื้องต้น

นารา (Nara) เป็นอดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ มีพื้นที่ติดกับจังหวัดโอซาก้า, เกียวโต, วากายามะ และมิเอะ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสลับหุบเขา จึงทำให้มีพื้นที่ใช้สอยน้อยที่สุดในญี่ปุ่น และส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติให้เยี่ยมชม

การเดินทางไปท่องเที่ยวนารา

เมืองนารายังไม่มีสนามบิน จึงไม่สามารถบินตรงไปลงที่เมืองนี้ได้ ต้องบินจากกรุงเทพฯ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เมืองโอซาก้าเท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางโดยรถไฟเข้าเมืองโอซาก้า และเปลี่ยนสายหนึ่งครั้งไปยังเมืองนารา หรือจะนั่งรถบัสก็ได้เช่นกัน สามารถนั่งยาว ๆ จากสนามบินไปถึงนาราได้เลย

สายการบินที่บินตรงไปยังโอซาก้า มีหลายสายการบินให้บริการ เช่น Thai Air Aisia X, Peach Airline, Thai Airways, Japan Airlines, Bangkok Airways และ All Nippon Airways เป็นต้น สามารถเลือกจองตั๋วเครื่องบิน ก่อนต่อรถไปนาราได้เลยที่แอป Traveloka โหลดเลยวันนี้ เพื่อตั๋วบินราคาดี ที่มาพร้อมโปรโมชั่นมากมาย เลือกจองตั๋วเครื่องบินและที่พักได้ในแอปเดียว

การเดินทางภายในประเทศไปยังที่เที่ยวนารา

ถ้ามาจากเกียวโตหรือโอซาก้า สามารถนั่งรถไฟ JR และรถไฟเอกชน Kintetsu มายังเมืองนาราได้ ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน หากมาจากโตเกียว ก็ให้นั่งรถไฟไปลงเกียวโตหรือโอซาก้าก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนสายมายังนารา หรือสามารถนั่งรถบัสตรงจากโตเกียวมานาราเลยก็ได้ ใช้เวลาในการเดินทาง 8 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางภายในจังหวัดไปยังที่เที่ยวนาราต่าง ๆ สามารถนั่งรถไฟ รถบัส หรือปั่นจักรยานก็ได้เช่นกัน

ภาษาที่ใช้ในที่เที่ยวนารา

นาราก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารเป็นหลัก เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่น และเพราะเป็นเมืองเล็ก มีที่ท่องเที่ยวชื่อดังไม่มาก อาจมีคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยเช่นกัน สามารถใช้แอปแปลภาษาในการท่องเที่ยวได้ เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น

เงินตราสำหรับใช้จ่ายในที่เที่ยวนารา

ที่นาราและญี่ปุ่น จะใช้สกุลเงินเยน (JPY) โดยอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1 เยนญี่ปุ่น เท่ากับ 0.24 บาทไทย ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2023

ข้อมูลเวลาสำหรับท่องเที่ยวนารา

เวลาของเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง โดยอยู่ในเขตเวลามาตรฐานญี่ปุ่น (JST) ที่ GMT+9

ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวนารา

ที่เที่ยวนาราสามารถไปเยือนได้ทุกฤดู แต่จะสวยเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสี ควรศึกษาฤดูกาล และติดตามพยากรณ์อากาศ เพื่อที่จะได้วางแพลนเที่ยวนาราได้อย่างตรงใจมากขึ้น โดยนารามีทั้งหมด 4 ฤดูด้วยกัน ได้แก่

ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม มีอากาศเย็นสบาย และจะอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าใกล้กลางปี เป็นฤดูที่สามารถมาชมดอกซากุระได้อย่างสวยงามที่สุด
ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนตกชุกมากกว่าช่วงฤดูอื่น ๆ
ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นขึ้น ยังมีฝนอยู่บ้าง หากอยากมาชมธรรมชาติสวย ๆ และใบไม้เปลี่ยนสี ต้องมาฤดูนี้เลย
ฤดูหนาว เดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็น และอาจมีหิมะได้ในบางช่วง แต่จะมีวันที่หิมะตกน้อยมาก ไม่เกิน 2-3 วันต่อเดือนเท่านั้น อิงจากข้อมูลภูมิอากาศโดยเฉลี่ย
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร