Traveloka TH
02 May 2024 - 1 min read
“พระราชวังเมืองเว้” หรือ Imperial Citadel Hue เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเวียดนามที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะพระราชวังเว้แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่งดงาม
หากต้องการเดินทางไปเยือนพระราชวังเว้ นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเวียดนามผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka ได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน โดยให้บริการหลากหลายสายการบิน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความสะดวก และที่สำคัญยังมีส่วนลดกับโปรโมชันมากมายที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
พระราชวังเว้ ประเทศเวียดนาม เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเป็นวังของราชวงศ์เหงียนซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม หากใครต้องการไปเที่ยวหรือเยี่ยมชมพระราชวังเว้แบบใกล้ชิด แนะนำให้จองโรงแรมเวียดนามที่อยู่ในพื้นที่ของเมืองเถื่อเทียนเว้ (Thua Thien Hue) เพราะจะทำให้คุณสามารถเดินทางไปยังพระราชวังได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยก่อนจะออกเดินทางไปที่พระราชวังแห่งนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นที่น่ารู้ไว้แล้ว ดังนี้
พระราชวังเว้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2348 ในยุคสมัยของพระเจ้ายาลอง กษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์เหงียน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมจีนอย่างชัดเจน โดยมีการใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ และเป็นสถานที่พักอาศัยของกษัตริย์พร้อมครอบครัวตลอดระยะเวลากว่า 140 ปี
นอกจากนี้ ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย แต่ในช่วงสงครามเวียดนามพระราชวังเว้ถูกทำลายอย่างหนัก ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลเวียดนามได้ทำการบูรณะพระราชวังแห่งนี้ขึ้นใหม่จนสวยงามดังเดิม และในปัจจุบัน พระราชวังเว้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วโลกนิยมมาเยี่ยมชม
พระราชวังเว้ ตั้งอยู่ที่เมืองเถื่อเทียนเว้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่บริเวณตอนกลางของประเทศเวียดนาม มีอาณาเขตติดกับจังหวัดกว๋างจิ จังหวัดกว๋างนาม และประเทศลาว โดยอยู่ห่างจากเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างดานังประมาณ 90 กิโลเมตร
สำหรับค่าเข้าชมพระราชวังเว้อยู่ที่ราคา 150,000 ดอง (ประมาณ 200 บาท) หรือสามารถเลือกที่จะเข้าชมพระราชวังเว้พร้อมกับสุสานจักรพรรดิมิงห์หม่าง และสุสานจักรพรรดิไคดิงห์ในราคา 280,000 ดอง (ประมาณ 392 บาท) ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ครบถ้วนและหลากหลายมากขึ้น
โดยพระราชวังเว้เปิดให้เข้าชมทุกวันตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยวันพฤหัสบดีสามารถเข้าชมได้ถึง 22.00 น. จึงเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของพระราชวังเว้ในตอนกลางคืน
แม้พระราชวังเว้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลักของเวียดนาม แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางไปพระราชวังเว้ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งมีตัวเลือกอยู่หลายวิธีตามงบประมาณ โดยมีวิธีเดินทางหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ดังนี้
การเดินทางไปพระราชวังเว้ด้วยรถไฟเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หากเดินทางจากสถานีดานังไปยังสถานีเว้มีระยะทางประมาณ 103 กิโลเมตร และมีรถไฟให้บริการใน 4 ประเภทคือ SE2, SE4, SE6 และ SE8 ซึ่งเป็นรถไฟของ Reunification Express รวมระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไป-กลับระหว่างดานังและเถื่อเทียนเว้ในวันเดียวกันได้ ซึ่งขบวนรถไฟมีที่นั่งหลายแบบให้เลือก เช่น เบาะแข็ง เบาะนุ่ม และเบาะแบบที่นอน เป็นต้น โดยมีเครื่องปรับอากาศพร้อมให้บริการในระหว่างการเดินทางด้วย
รถบัสที่ใช้เดินทางจากดานังไปยังพระราชวังเว้นั้น มีให้บริการเบื้องต้น 2 แบบคือ รถโดยสารสาธารณะ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทรถบัสของรัฐบาล โดยจะวิ่งทุก ๆ 14 นาที ในบางช่วงอาจค่อนข้างหนาแน่น เพราะคนในพื้นที่ส่วนใหญ่มักจะเลือกการเดินทางประเภทนี้เพราะเป็นการเดินทางที่ประหยัดนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งรถบัสส่วนใหญ่จะเป็นรถบัสนอนที่มีสองชั้น โดยข้อดีของการเดินทางด้วยรถบัสคือ ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับการเดินทางแบบอื่น ทำให้คุณสามารถเก็บเงินไว้ใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ ได้
รถแท็กซี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยี่ยมชมพระราชวังเว้ เพราะมีความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว โดยมีทั้งแบบกดมิเตอร์กับแบบเหมาจ่าย ซึ่งแนะนำให้ตกลงราคากับคนขับให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกรถผ่านแอปต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับที่ประเทศไทย โดยมีทั้งรถแบบธรรมดาจำกัดผู้โดยสารสูงสุด 4 ที่นั่ง ไปจนถึงรถแท็กซี่แบบ 7-9 ที่นั่ง จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มหรือครอบครัว ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อพูดคุยกันได้ในระหว่างการเดินทาง
พระราชวังเว้มีพื้นที่รวมกว่า 5.2 ตารางกิโลเมตร โดยพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 ชั้น แต่ละชั้นมีอาคารและสวนที่สวยงาม ซึ่งเต็มไปด้วยจุดเช็กอินมากมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ในหัวข้อนี้ เราขอแนะนำจุดแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรไปเยี่ยมชมเมื่อไปเยือนพระราชวังเว้ โดยมีทั้งหมด 7 แลนด์มาร์กหลัก ดังนี้
“ประตูโงมน” หรือ ประตูเมริเดียน เป็นส่วนหน้าของกำแพง และเป็นประตูหลักที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศใต้ของพระราชวังเว้ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามิงห์หม่าง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์เหงียน ในช่วงปี พ.ศ. 2376 โดยก่อนหน้านี้เคยมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ในบริเวณนี้ แต่ถูกรื้อออกทั้งหมดเพื่อสร้างประตูดังกล่าว ข้างประตูโงมนยังมีประตูอีกสองบานทางฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งถือเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของพระราชวังเว้
“ตำหนักไท่ฮัว” สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2348 ในบริเวณเดียวกับพระราชวังเว้ โดยเป็นสถานที่ที่ใช้เฉลิมฉลองพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ เช่น วันครบรอบ พิธีราชาภิเษก นอกจากนี้ยังใช้ในการต้อนรับเอกอัครราชทูตประเทศอื่นหรือพิธีทางการทูตอีกด้วย จุดเด่นหลักภายในตำหนักคือ บัลลังก์ทองคำที่จักรพรรดิเคยประทับและทรงงานของราชสำนัก รวมถึงเสาไม้เคลือบสีแดงที่มีสัญลักษณ์มังกรทองอีกด้วย
หอสมุดหลวงเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่แห่งพระราชวังเว้ ในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่ที่กษัตริย์เสด็จมาอ่านหนังสือหรือพักผ่อน โดยในหอสมุดส่วนใหญ่จะเป็นตำราภาษาจีนที่รวบรวมโดยกลุ่มนักวิชาการช่วงต้นสมัยซ่งไท่จง ซึ่งเต็มไปด้วยเอกสารประเภทต่าง ๆ รวมกว่า 2,579 รายการ ตั้งแต่หนังสือ, บทกวี, เพลงพื้นบ้าน, สุภาษิต, จารึก ไปจนถึงงานอื่น ๆ หอสมุดแห่งนี้มีลักษณะเป็นศาลาที่ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกอย่างดี มองเห็นทะเลสาบและสวนหินที่ตั้งตระหง่าน ผสมผสานกันเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงาม
“ศาลาเฮียนลัม” เป็นงานสถาปัตยกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเว้ มีความสูงถึง 17 เมตร และถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีโครงสร้างสูงที่สุดในป้อมจักรพรรดิ ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงความสำเร็จของกษัตริย์เหงียนและราชวงศ์แมนดารินผู้ยิ่งใหญ่ โดยมีการก่อสร้างที่วิจิตรงดงาม พร้อมงานประติมากรรมที่มีความละเอียดและซับซ้อน นับเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าแห่งเมืองเว้ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
พระราชวังเดียนโถตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองต้องห้ามในพื้นที่พระราชวังเว้ ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระราชินี หรือพระมารดาของราชวงศ์เหงียนหลายพระองค์ ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตเมืองหลวงเก่าของเมืองเว้ มีพื้นที่กว้างประมาณ 17,500 ตารางเมตร โดยหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์เหงียน แม้ว่าอาคารหลายแห่งในป้อมปราการจะได้รับความเสียหายอย่างหนักหรือสูญหายไป แต่บริเวณทั้งหมดของพระราชวังเดียนโถยังคงอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์
ในอดีต พระราชวังพุงเตียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเว้ได้ถูกทำลายลงหลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางประวัติศาสตร์หลายครั้ง โดยหลังจากปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา กลุ่มอาคารของพระราชวังพุงเตียนก็ได้รับการบูรณะอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างเวียดนามและเยอรมนี เพื่อรักษาโครงสร้างที่เหลืออยู่ และฟื้นฟูรูปร่างให้คงไว้ตามแบบดั้งเดิมมากที่สุด
พระราชวังส่วนตัวของกษัตริย์ที่ตั้งอยู่ในพระราชวังเว้ เป็นพื้นที่ที่ใช้เป็นบ้านพักส่วนตัวของกษัตริย์ในอดีต โดยสถาปัตยกรรมของพระราชวังแห่งนี้นับว่างดงาม และมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก อีกทั้งยังถือเป็นหลักฐานอันน่าทึ่งที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ การไปเยี่ยมชมพระราชวังส่วนตัวจึงเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์ และความทรงจำที่ล้ำค่าในสมัยโบราณของเวียดนาม