ซูริค (Zurich) เป็นเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนให้ไปเที่ยว และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ไปเยือนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือย่านลินเดนฮอฟห์ (Lindenhof) ย่านเก่าแก่ใจกลางเมืองที่ยังคงกลิ่นอายจากยุคกลางเอาไว้อย่างชัดเจน ที่นี่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนในอดีต รวมถึงตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่ยังปูด้วยหินเหมือนเมืองในยุคโรมัน ทำให้ย่านเเห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวท่ามกลางความศิวิไลซ์ของเมืองยุคใหม่

ย่านLindenhof นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าประทับใจในเมืองซูริคที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างพากันจองตั๋วเครื่องบินเพื่อมาชมความสวยงามกันอย่างไม่ขาดสาย อย่าปล่อยให้เสียเวลา รีบเคลียร์วันให้ว่างแล้วกดจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ผ่านแอป Taveloka บินไปชมความคลาสสิกของย่าน Lindenhof ณ เมืองซูริค กันได้เลย!

ย่านลินเดนฮอฟห์ (Lindenhof) เป็นย่านเก่าที่เปรียบเสมือนหัวใจของเมืองซูริค นอกจากกลิ่นอายความคลาสสิกจากยุคกลางที่รู้สึกได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงแล้ว ย่านนี้ยังมีโบสถ์เก่าแก่, ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น, ร้านเครื่องประดับ, ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถหาที่พักสวิตเซอร์แลนด์ดี ๆ ในเมืองซูริค แล้วนังรถรางไปเดินเล่นช็อปปิงที่นี่ได้เพลิน ๆ ทั้งวัน หรือจะวางแผนจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อนไปเที่ยว Lindenhof ก็ได้เช่นกัน แต่ก่อนจะไป เราลองมาทำความรู้จักย่านเก่าแก่แห่งนี้ให้มากขึ้นกัน

Lindenhof มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวเคลท์ (Celts) โบราณ ต่อมาเมื่อจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจก็มีการก่อสร้างป้อมปราการทางทหารขึ้นบริเวณพื้นที่แห่งนี้ในช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 4 หลักฐานสำคัญคือแนวกำแพงอิฐเก่า และมีการค้นพบหลุมศพของชาวโรมันโบราณในพื้นที่บริเวณนี้

นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณย่าน Lindenhof ยังเคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ประทับของพระราชนัดดาของพระเจ้าชาร์เลอมาญ (Charlemagne) กษัตริย์แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย นับว่าย่าน Lindenhof เป็นพื้นที่เก่าเเก่ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ซึ่งหลักฐานบางอย่างจากยุคสมัยนั้นก็ยังคงมีเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

ย่าน Lindenhof ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ด้านทิศตะวันตก ภายในพื้นที่เขต 1 (District 1) ของเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับทะเลสาบซูริคด้านทิศใต้ ทำให้ย่านนี้เป็นเหมือนเมืองท่าที่นักท่องเที่ยวนิยมมาลงเรือเพื่อนั่งไปชมทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบกันอย่างมากมาย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5ZjcLYH1qFdvqVSk6

ลินเดนฮอฟห์ (Lindenhof) เป็นย่านท่องเที่ยวที่สามารถเดินเที่ยวชมได้ตลอดเวลา โดยในเวลาปกติร้านค้าต่าง ๆ จะเริ่มเปิดทำการในช่วงสาย ๆ ไปจนถึงช่วงค่ำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด แต่ในวันอาทิตย์ ร้านค้าส่วนใหญ่มักจะปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของชาวเมือง บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบกว่าวันอื่น ๆ แต่ก็ยังสามารถเดินเที่ยวชมย่าน Lindenhof ได้ตามปกติ

ในช่วงฤดูร้อนราวเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายนจะเป็นช่วงที่ Lindenhof มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมากที่สุดเพราะมีอากาศอบอุ่น ขณะที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิราวเดือนเมษายน-เดือนมิถุนายน ที่นี่ก็จะมีดอกไม้สวย ๆ ที่กำลังผลิบานให้ชมอีกด้วย ส่วนในฤดูหนาวอุณหภูมิจะหนาวเย็นจนถึงขั้นติดลบ และทั้งเมืองก็จะมีการตกแต่งประดับประดาด้วยไฟเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทั้งยังมีหิมะโปรยปรายในบางวัน นับเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง

ย่านลินเดนฮอฟห์(Lindenhof) เดินทางไปไม่ยากเพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองซูริค นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสประจำทางหรือนั่งรถรางไปได้อย่างสะดวก แต่ถ้าต้องการเช่ารถขับไปเที่ยวเองก็ได้เช่นกัน โดยรายละเอียดการเดินทางมีดังนี้

คุณสามารถนั่งรถบัสประจำทางสาย N11 หรือ N16 มาลงที่ป้าย Rennweg ซึ่งเป็นป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้กับย่าน Lindenhof มากที่สุด อีกหนึ่งเส้นทางคือนั่งรถบัสประจำทางสาย N91 มาลงที่ป้าย Rathaus จากนั้นเดินข้ามสะพาน Rathausbrücke มายัง Lindenhof จะใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

รถรางในซูริคเป็นระบบขนส่งมวลชนที่สะดวก ปลอดภัย และตรงเวลามาก ๆ สามารถนั่งรถรางสาย 4, 6, 7, 11, 13 และ 17 มาลงที่ป้าย Rennweg ซึ่งเป็นป้ายที่อยู่ใกล้กับย่าน Lindenhof มากที่สุด อีกป้ายที่ลงได้คือป้าย Rathaus ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำลิมมัต จากนั้นเดินข้ามสะพาน Rathausbrücke มายัง Lindenhof ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวก็สามารถเช่ารถยนต์แถว ๆ สถานีรถไฟซูริค แล้วขับไปเที่ยวย่าน Lindenhof ด้วยตัวเองได้เช่นกัน ระยะทางจากสถานีรถไฟซูริคไป Lindenhof ประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 5 นาที อย่างไรก็ตาม แถวย่าน Lindenhof ไม่มีที่จอดรถสาธารณะ อาจต้องจอดในบริเวณรอบนอกแล้วเดินเข้าไปเที่ยวชม

ย่านลินเดนฮอฟห์ (Lindenhof) เปรียบเสมือนหัวใจของเมืองซูริคที่ทุกคนต้องไปเยี่ยมชมให้ได้ ขณะเดียวกัน บริเวณรอบ ๆ ย่านลินเดนฮอฟห์แห่งนี้ก็ยังมีจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดอีกหลายจุดเช่นกัน ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

เริ่มที่จุดเช็กอินแรกอย่าง Lindenhof Hill คือจุดศูนย์กลางของย่านลินเดนฮอฟห์ที่ทุกคนต้องไป เพราะที่นี่เป็นเนินเขาสูงใจลางเมืองที่เคยเป็นป้อมปราการของโรมันในอดีต จากบนนี้จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำลิมมัตและเมืองซูริคฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเป็นสถานที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจที่มีต้นไม้ร่มรื่น นอกจากนี้ ในบางวันจะมีชาวเมืองมานั่งเล่นหมากรุกกันที่นี่ด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/y2Uaj4n1F1xJHmNw7

จุกเช็กอินต่อมาคือโบสถ์ฟราวมุนสเตอร์ (Fraumünster) โบสถ์เก่าแก่ที่เป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมืองซูริค โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก มีจุดเด่นคือหอนาฬิกาหลังคาแหลมสีเขียวมองเห็นได้แต่ไกล โบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 853 ภายในโบสถ์มีกระจกสี (Stain Glass) ขนาดใหญ่ 5 บานที่เรียกว่ากระจกชากาล ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินชื่อ มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall) อีกทั้งยังมีออร์แกนโบราณขนาดยักษ์ และพิพิธภัณฑ์ใต้ดินให้ชมอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/tkbjetrsq71MYT2RA

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s) มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าหอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ตั้งอยู่ติดกับ Lindenhof Hill ที่นี่เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซูริค ตามประวัติแล้วถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 ก่อนพื้นที่บริเวณนี้จะถูกครอบครองโดยจักรวรรดิโรมัน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ผสมกอทิกที่มีความสวยงาม จุดเด่นคือหอนาฬิกาที่มีหน้าปัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.7 เมตร ถือเป็นหน้าปัดนาฬิกาบนหอคอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EenWpzrZPXCK51aS7

โบสถ์ออกัสตินเนอร์ (Augustinerkirche) เป็นอีกหนึ่งโบสถ์เก่าแก่ในย่าน Lindenhof ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s) บริเวณจัตุรัส Münzplatz บนถนน Augustinergasse โบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1270 ตามแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ผสมกอทิกที่มีความสวยงามและกลมกลืนไปกับอาคารรอบข้าง จุดเด่นคือหอนาฬิกาสีเขียวบนหลังคา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังของคริสโตฟอรัส และยังเป็นโบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์อยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1Zf33qb7Qqy7VQKQ7

โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmünster) เป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมืองซูริค ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) มีจุดเด่นคือหอคอยแฝดอันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองซูริค ที่นี่เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1100 และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ด้วย

ภายในโบสถ์มีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีบานประตูแกะสลักในศิลปะยุคกลาง หน้าต่างถูกประดับด้วยกระจกสีอันวิจิตรงดงาม และยังมีประตูทองสัมฤทธิ์ตั้งอยู่ทางเข้าฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองซูริคบนหอคอยได้อีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8rwkVHfCqjLA1Zdt8

จุดเช็กอินสำคัญที่จะพลาดไปไม่ได้คือแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านกลางเมืองลงสู่ทะเลสาบซูริค เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเมืองที่ถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรในสมัยโบราณ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลของเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงาม บรรยากาศดี และน้ำในแม่น้ำใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีบริการเรือนำเที่ยวพาชมความสวยงามของสองฝั่งแม่น้ำอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/X1biNCe3kJrnumHZ6

จุดเช็กอินสุดท้ายที่จะมาแนะนำกันคือถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) ที่นี่เป็นถนนการค้าสายเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ตลอดสองฝั่งถนนเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าหรูและร้านแบรนด์เนมชื่อดังของโลก จนได้ชื่อว่าเป็น ‘ถนนช็อปปิงที่แพงที่สุดในโลก’ นอกจากนี้ยังมีร้านนาฬิกาหรูหลากหลายแบรนด์ รวมถึงร้านขนมชื่อดังอย่าง Confiserie Sprüngli ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองช็อกโกแลตสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ กันอีกด้วย ถือเป็นจุดเช็กอินที่สายแฟชั่นและสายช็อปปิงทั้งหลายไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MUPeYB1Du7yzgNYy6