สวิตเซอร์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่หลายคนอยากจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อบินไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต เนื่องด้วยประเทศนี้โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามตระการตาไม่เหมือนที่ใดในโลก โดยเฉพาะที่เที่ยวชื่อดังอย่างยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้าเสมือนเป็นมงกุฎของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นับเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากจะไปเห็นกับตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต

ใครที่ต้องการไปชมความสวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) อย่ารอช้า รีบหาวันว่างแล้วจองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ผ่านแอป Traveloka แล้วเตรียมตัวบินไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตกันได้เลย!

ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขารูปทรงพีระมิดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายล้านคน นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับเมืองท่องเที่ยวชื่อดังอย่างแซร์มัท (Zermatt) คุณสามารถหาที่พักสวิตเซอร์แลนด์ดี ๆ ในเมืองแล้วนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปชื่นชมความสวยงามของยอดเขาได้อย่างใกล้ชิด แต่ก่อนจะเริ่มเดินทาง เราลองมาทำความรู้จักยอดเขาที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ให้มากขึ้นกัน

ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นเกิดจากการเคลื่อนตัวมาชนกันของแผ่นเปลือกโลกทวีปแอฟริกาและแผ่นเปลือกโลกทวีปยุโรปเมื่อประมาณ 50 ล้านปีก่อน โดยยอดพีระมิดแหลมที่สวยงามของภูเขาลูกนี้เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง และหิมะที่ละลายลงในช่วงฤดูร้อนมาเป็นเวลานับล้านปี เกิดเป็นยอดเขาสูงตระหง่าน 4,478 เมตร ที่มีรูปทรงสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

สำหรับชื่อแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) แปลว่า ‘จุดสูงสุดของทุ่งหญ้า’ มีที่มาจากการผสมคำภาษาเยอรมัน 2 คำเข้าด้วยกันคือคำว่า Matte ที่แปลว่า ‘ทุ่งหญ้า’ กับคำว่า Horn ที่แปลว่า ‘เขาสัตว์’ หรือ ‘ยอดพีระมิดแหลม’ บ่งบอกถึงลักษณะทางกายภาพของภูเขาลูกนี้ที่มียอดแหลมสูง และมีส่วนฐานเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีในฤดูร้อนนั่นเอง

ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอลป์ (Alps) ในเขตเมืองแซร์มัท (Zermatt) รัฐวาเล (Valais) ตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นยังถูกใช้เป็นจุดแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับประเทศอิตาลีด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Bw2QTsd8Jgu9zh4T8

ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) สามารถท่องเที่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปี โดยยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมทุกฤดู แต่ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นช่วง High Season ที่จะมีการจองที่พักอย่างหนาแน่น และมีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าช่วงฤดูหนาว แต่ความสวยงามนั้นไม่แพ้กันเลย ในแต่ละฤดูก็จะมีกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังสามารถท่องเที่ยวหรือเล่นสกีในเวลากลางคืนได้อีกด้วย

สำหรับเวลาเข้าชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) จะไม่มีกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป เช่น สถานีกระเช้าลอยฟ้า Klein Matterhorn จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 09:00-16:15 น. ของทุกวัน ทั้งนี้ หากพักที่โรงแรมหรือรีสอร์ตบนภูเขาก็สามารถชมวิวยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้ตามต้องการตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทางขึ้นไปชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) จะมี 2 วิธีด้วยกันคือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้ากับการนั่งรถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีที่ตัวเองสะดวกได้เลย โดยมีจุดเริ่มต้นเดินทางที่เมืองแซร์มัท (Zermatt) รายละเอียดการเดินทางแต่ละวิธีมีดังนี้

จากเมืองแซร์มัท (Zermatt) สามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สถานี Zermatt ZBAG-Iz ทางใต้สุดของเมือง นั่งกระเช้าผ่านสถานี Furi และ Trockener Steg แล้วจึงลงที่สถานี Klein Matterhorn โดยที่นี่เป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่สูงที่สุดในยุโรป มีระดับความสูงถึง 3,883 เมตร บริเวณสถานีจะมีระเบียงสำหรับชมวิวยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์รอบด้านแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นยอดเขาสำคัญได้อีกหลายลูก ซึ่งรวมถึงยอดเขามงบล็อง (Mont Blanc) ด้วย

การเดินทางขึ้นไปชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ด้วยรถไฟนั้น นักท่องเที่ยวต้องขึ้นรถไฟสาย Gornergrat Bahn ที่สถานี Zermatt GGB ในเมืองแซร์มัท (Zermatt) โดยรถไฟสายนี้เป็นรถไฟสายท่องเที่ยวระยะสั้นที่มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทาง Gornergrat ที่อยู่บนภูเขาในระดับความสูง 3,089 เมตร บริเวณสถานีมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน และยังมีทั้งร้านอาหาร โรงแรม และร้านขายของที่ระลึกให้ทุกคนได้เที่ยวชมอย่างเพลิดเพลิน

หากใครดูภาพยนตร์บ่อย ๆ ก็น่าจะเคยเห็นไตเติลก่อนเข้าภาพยนตร์ของค่าย Paramount Pictures ที่จะเป็นดวงดาววิ่งผ่านทะเลสาบไปสู่ยอดเขาลูกหนึ่ง ใช่แล้ว ยอดเขาลูกที่เห็นก็คือยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง นอกจากนี้ ภาพยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นยังถูกนำไปใช้เป็นโลโก้ของขนมช็อกโกแลตรูปสามเหลี่ยมทอปเบอโรน (TOBLERONE) ที่หลายคนโปรดปรานอีกด้วย ถือเป็นสัญลักษณ์เด่นที่กลายมาเป็นภาพจำของผู้คนมากมาย และทำให้ยอดเขาแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก