0

Traveloka TH

03 May 2024 - 1 min read

Palais Garnier สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีมากกว่าความสวย

Palais Garnier คือ

หากพูดว่าอยากไปเที่ยวฝรั่งเศส สิ่งแรกที่ใครหลายคนแนะนำว่าต้องไปคือเมืองหลวงอย่างปารีส ที่ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องของแฟชั่นเท่านั้น แต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีคุณค่าและมีประวัติอันยาวนาน อย่างเช่น Palais Garnier หรือโรงอุปรากรปาแลการ์นีเย โรงละครขนาดใหญ่ที่มีความวิจิตรงดงามและเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังในปารีส

คุณสามารถจองโรงแรมกลางปารีสเพื่อดูความสวยงามของ Palais Garnier ได้เต็มสองตา ที่แห่งนี้เหมาะสำหรับคนที่มีใจรักในด้านดนตรีและศิลปะ ใครเห็นก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าครั้งหนึ่งต้องมาเห็นด้วยตาให้ได้ บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Palais Garnier ที่เมื่ออ่านจบจะต้องอยากซื้อตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสผ่านแอป Traveloka ในทันทีแน่นอน!

ทำความรู้จัก Palais Garnier สถานบันเทิงสุดคลาสสิกแบบฉบับชาวปารีส

Palais Garnier ประวัติ

Palais Garnier คือ สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ตั้งอยู่ในปารีส แหล่งรวมความบันเทิงทางดนตรีและศิลปะสุดคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงศิลปะ ละครเวที และการจัดแสดงคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่สำคัญ อีกทั้ง Palais Garnier แห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานแสดงของสถาบันดนตรีแห่งชาติอีกด้วย

หากคุณเลือกพักโรงแรมฝรั่งเศสแถวใจกลางเมืองปารีส คุณก็สามารถเห็นวิวของ Palais Garnier ได้โดยง่าย เนื่องจากขนาดของ Palais Garnier ที่มีความใหญ่โตอลังการ และหากจินตนาการถึงความงดงามยามที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกและเสน่ห์ของปารีสที่ทำให้คุณไม่รู้ลืม

ประวัติ Palais Garnier

Palais Garnier ถือว่าเป็นโรงอุปรากรที่เก่าแก่สุดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1862 ซึ่งเป็นช่วงของจักรวรรดินโปเลียนที่ 3 สร้างโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชาร์ล การ์นีเย (Charles Garnier) ที่ชนะเลิศในการแข่งขันการสร้างโรงอุปรากร Palais Garnier เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1875 โดยมีพื้นที่กว่า 11,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 2,200 คน และบนเวทียังสามารถรองรับนักแสดงได้ถึง 450 คน จึงทำให้ทุกโชว์ที่จัดแสดงในที่แห่งนี้มีแต่ความยิ่งใหญ่อลังการ

โรงอุปราการ Palais Garnier เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมที่โด่งดังของหลายประเทศ เนื่องจากสไตล์การตกแต่งที่มีลวดลายสวยงาม ดูหรูหรา อลังการตามสไตล์แบบบารอก ภายในของ Palais Garnier ถูกตกแต่งด้วยโมเสก รูปสลัก และรูปวาดฝาผนังที่รังสรรค์ผลงานโดยจิตรกรชื่อดัง เช่น เอเม มิลเลต์ (Aimé Millet), มาร์ค ชากาล (Marc Chagall) และนักจิตรกรชื่อดังท่านอื่น ๆ ที่อยู่ในยุคสมัยของนโปเลียนที่ 3

ที่ตั้งของ Palais Garnier

Palais Garnier ที่ตั้งจะอยู่ใจกลางเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนถนน Boulevard des Capucines ถนนชื่อดังของกรุงปารีส ที่ถือเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมและความบันเทิงชั้นนำ

เราสามารถเยี่ยมชม Palais Garnier ได้ช่วงไหนบ้าง

สำหรับคนที่อยากมาเที่ยว Palais Garnier สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ในช่วงเวลา 10.00-17.00 น. และสามารถซื้อบัตรชมการแสดงได้ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น. ยกเว้นวันที่มีการแสดงช่วงบ่าย ช่วงเวลาปิดทำการเป็นพิเศษ และตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม-ปลายเดือนสิงหาคม

ในช่วงสถานการณ์พิเศษ Palais Garnier อาจจะปิดทำการชั่วคราว และทาง Palais Garnier ก็มีวันหยุดประจำปีคือ วันที่ 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม ดังนั้น ก่อนเดินทางไปเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของที่แห่งนี้ให้ชัดเจน

ในส่วนของค่าเข้าชม Palais Garnier นั้น ผู้ที่มีอายุ 12-25 ปี จะมีราคาตั๋วอยู่ที่ 10 ยูโร ส่วนผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 26 ปี จะมีราคาตั๋วอยู่ที่ 15 ยูโร และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรี

การเดินทางไปยัง Palais Garnier สถาปัตยกรรมเก่าแก่ระดับโลก

หากต้องการไป Palais Garnier ก็เดินทางไม่ยากเลย เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวสะดวกเดินทางแบบไหน Traveloka จะมาแนะนำการเดินทางไปเที่ยว Palais Garnier ด้วยวิธีง่าย ๆ เดินทางสะดวกสบาย ดังนี้

การเดินทางด้วยรถบัส

สำหรับคนที่เลือกเดินทางไป Palais Garnier ด้วยรสบัสก็สามารถเดินทางได้แบบสบาย ๆ เพราะมีรถบัสหลายสายที่ผ่าน Palais Garnier นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นได้ตามจุดจอดรถบัสในแต่ละป้าย โดยรถบัสสายที่ผ่านนั้นมีสาย 20, 45, 52, 66 และ 68 การเดินทางโดยรถบัสใช้ระยะเวลาไม่นาน เช่น หากขึ้นป้าย Rivoli จะใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งคุณต้องลงที่ป้าย Opéra แล้วเดินต่ออีกแค่ 1 นาทีก็ถึงPalais Garnier ค่าโดยสารประมาณ 2 ยูโร

การเดินทางด้วยรถไฟ

การเดินทางไปเที่ยว Palais Garnier ด้วยรถไฟในปารีสก็มีหลายแบบมีทั้งเป็นแบบรถไฟใต้ดินและ RER สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสามารถขึ้นสาย 3, 7, 8 และ 9 ไปลงที่สถานี Opera เมื่อขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินก็จะเจอ Palais Garnier เด่นสง่าอยู่ตรงหน้าเลย แต่หากใครเลือก RER ก็ขึ้นสาย A ลงที่สถานี Auber หลังจากนั้นเดินประมาณ 190 เมตรก็ถึง Palais Garnier เลย

การเดินทางด้วยรถยนต์

การเดินทางด้วยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถเรียกแท็กซี่ในปารีสเพื่อเดินทางมา Palais Garnier ได้เลย หากคุณอยู่ใจกลางปารีสแล้วนั่งมา Palais Garnier ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีเท่านั้น มีค่าโดยสารประมาณ 13 ยูโร

จุดเด่นของ Palais Garnier โรงอุปรากรที่มีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมทั่วโลก

เที่ยว Palais Garnier

Palais Garnier ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงอุปรากรที่ใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าความสวยงาม อลังการนั้นก็ต้องไม่ธรรมดา โดยจุดเด่นแรกที่เราจะเห็นเมื่อเข้าไปภายในโถงของ Palais Garnier คือโถงบันไดหินอ่อนที่สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีแดงและสีขาวจากประเทศอิตาลี ผสมเข้ากับหินอ่อนสีเขียวจากประเทศสเปน

ด้านบนเพดานเป็นภาพจิตรกรรมที่บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ดนตรีโดย Paul Baudry, มีภาพจิตรกรรมปูนเปียกรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวโดย Marc Chagall และประติมากรรม Apollo กับ Poetry and Music ของ Aimé Millet นอกจากนี้ จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ Palais Garnier เป็นที่จดจำคือ การเป็นส่วนหนึ่งในฉากของมิวสิคัลชื่อดังอย่าง The Phantom of the Opera ฉากโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักถึง 6 ตัน โดยภายในของ Palais Garnier เน้นการตกแต่งด้วยสีแดงและสีทอง มีรูปสลักและประติมากรรมต่าง ๆ ทำให้ผู้ชมติดตราตรึงใจกับความอลังการ

หากใครได้ไปเที่ยว Palais Garnier สามารถสังเกตรูปสลักเทพเจ้ากรีกจากตำนานของเสาแต่ละต้น ที่สะท้อนความเป็นฝรั่งเศส และสไตล์ของศิลปะในยุคของนโปเลียนที่ 3 ทั้งยังมีประติมากรรมสำริดครึ่งตัวของคีตกวีเอกมากมาย ซึ่งนอกจาก Palais Garnier จะสะท้อนสไตล์ของสถาปัตยกรรมแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นอีกว่าในยุคนั้นผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับศิลปะและดนตรีเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวจึงห้ามพลาดการมาที่แห่งนี้ เมื่อได้ชมแล้วจะต้องรู้สึกอิ่มเอมใจ และอยากกลับมาเที่ยว Palais Garnier อีกครั้งอย่างแน่นอน

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร