0

Traveloka TH

03 May 2024 - 2 min read

ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) จองตั๋วเครื่องบินสุดพิเศษ ล่องเรือสุดโรแมนติกที่อิตาลี!

ทะเลสาบโคโม่

เมื่อต้องพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอิตาลีที่สวย ๆ และน่าประทับใจ หนึ่งในสถานที่เหล่านั้นต้องมี ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ทะเลสาบที่ขึ้นชื่อว่ามีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เพราะล้อมรอบไปด้วยวิวภูเขาที่สลับทับซ้อนกันอย่างงดงาม และนอกจากความงามของวิวรอบ ๆ ทะเลสาบโคโม่แล้ว ที่นี่ยังติดอันดับ 3 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลีอีกด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาเยือนสักครั้งในชีวิต

ถ้าหากคุณไม่อยากพลาดสถานที่สุดสวยแห่งนี้ รีบกดจองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลี ที่แอป Traveloka พร้อมให้บริการจองตั๋วเครื่องบินที่สะดวกและรวดเร็ว พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อมแล้ว มาเริ่มทำความรู้จักทะเลสาบโคโม่แห่งนี้กันเลย!

ทำความรู้จักทะเลสาบโคโม่ ความงามดั่งภาพวาด

Lake Como

ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ทะเลสาบที่ชวนให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนต้องตกหลุมรัก เพราะเสน่ห์ของทะเลสาบโคโม่คือความสวยงามที่ใครต่อใครก็บอกว่าเหมือนภาพวาดจากจิตรกรชื่อดัง แต่จริง ๆ แล้วที่นี่คือสถานที่ที่ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาสูงตัดกับทะเลสาบสีฟ้า บวกกับบรรยากาศแสงแดดอ่อน ๆ และลมพัดเย็น ๆ จนทำให้ทะเลสาบโคโม่กลายเป็นสถานที่ที่คู่รักมักจะมาเที่ยวเก็บบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกด้วยกัน

นอกจากบรรยากาศแสนโรแมนติกแล้วนั้น ที่นี่ยังมีที่พักอิตาลีสวย ๆ ให้ทุกคนได้เลือกจองโรงแรม และพักผ่อนหย่อนใจไปพร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบโคโม่ที่หาดูไม่ได้ง่าย ๆ

ประวัติทะเลสาบโคโม่

สำหรับประวัติของทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ต้องย้อนกลับไปในช่วงตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งประมาณหลายพันปีก่อนที่ทะเลสาบแห่งนี้ยังคงเป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ เวลาต่อมาเริ่มกลายเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองต่าง ๆ ก่อนที่จะถูกยึดครองโดยจักรวรรดิโรมันที่ต้องการขยายดินแดนให้กว้างใหญ่ขึ้น

ต่อมาในปี 1859 หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองของหลากหลายอาณาจักรและประเทศ ทะเลสาบโคโม่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิตาลีในที่สุด ซึ่งปัจจุบันทะเลสาบโคโม่ได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดในประเทศอิตาลี

ที่ตั้งของทะเลสาบโคโม่

หลายคนอาจสงสัยว่าทะเลสาบโคโม่ หรือ Lake Como อยู่ที่ไหน? ทะเลสาบโคโม่ตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ (Como) แคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และมีลักษณะที่โดดเด่น คือ ลักษณะของทะเลาสาบแห่งนี้เป็นรูปคล้ายตัว Y หัวคว่ำ มีพื้นที่ของทะเลสาบกว่า 146 ตารางกิโลเมตร ความยาวกว่า 46 กิโลเมตร และมีความลึกกว่า 400 เมตร ด้วยลักษณะแบบนี้ทำให้ทะเลสาบโคโม่กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 จากทะเลสาบทั้งหมดในประเทศอิตาลีนั่นเอง

เราสามารถเยี่ยมชมทะเลสาบโคโม่ได้ช่วงไหนบ้าง

สำหรับช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวจองตั๋วเครื่องบินกันมามากที่สุดของการมาเที่ยวทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) จะเป็นช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม ช่วงนี้ที่ทะเลสาบแห่งนี้จะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

ส่วนใครที่ไม่อยากเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นก็สามารถเดินทางไปที่ทะเลสาบในช่วงเดือนอื่น ๆ เช่น เดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคม หรือจะเป็นช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคมก็ได้เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงสภาพอากาศค่อนข้างดี คุณสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบโคโม่ได้อย่างเต็มที่แน่นอน และคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทะเลสาบโคโม่ได้ที่: ทะเลสาบโคโม่

การเดินทางไปยังทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบอันงดงามแห่งอิตาลี

มาถึงตรงนี้หลายคนคงเริ่มกังวลและสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางไปยังทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่ Traveloka ได้รวบรวมวิธีการเดินทางไปยังทะเลสาบโคโม่ที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมาไว้ให้แล้ว ดังนี้

การเดินทางด้วยเครื่องบิน

สำหรับการเดินทางไปยังทะเลสาบโคโม่ คุณสามารถเดินทางได้อย่างง่ายโดยนั่งเครื่องบินเพื่อมาลงยังสนามบินใกล้เคียงจังหวัดโคโม่ ซึ่งมีสนามบินหลักด้วยกันทั้งหมด 4 สนามบิน ได้แก่ Milano Malpensa (MXP), Milano Linate (LIN), Bergamo Orio al Serio (GBY) และ Zurich (ZRH) เป็นต้น และสามารถเดินทางต่อด้วยรถไฟก็จะถึงทะเลสาบโคโม่

การเดินทางด้วยรถไฟ

การเดินทางด้วยรถไฟคือหนึ่งรูปแบบที่สะดวกสบายและเป็นที่นิยม ซึ่งบริษัทรถไฟที่ให้บริการเดินทางไปถึงทะเลสาบโคโม่ ได้แก่ Trenitalia, Trenord และ TILO เป็นต้น โดยคุณจะนั่งมายังสถานีซานจีโอวานนี (Como San Giovanni Station) ที่จังหวัดโคโม่ และเดินทางต่อด้วยรถสาธารณะหรือรถเช่าส่วนตัวเดินทางต่อไปอีกประมาณ 50 กิโลเมตร

การเดินทางด้วยรถยนต์

นอกจากนี้คุณสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถยนต์ไปยังทะเลสาบโคโม่ได้อย่างง่ายดายมาก เพราะทะเลาสาบโคโม่สามารถเดินทางได้จากมิลานภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

เส้นทางล่องเรือชมทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลี

ล่องเรือทะเลสาบโคโม่

แน่นอนว่ากิจกรรมที่นักท่องเที่ยวตั้งเป้าหมายไว้เมื่อไปเยือนทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) นั่นก็คือ การนั่งเรือชมเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกล่องเรือได้หลากหลายประเภท ได้แก่ นั่งเรือใบ เรือคายัก และเรือยอชต์ แน่นอนว่าเรือแต่ละประเภทจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยเส้นทางการล่องเรือทะเลสาบโคโม่ได้ทั้งหมด 3 เส้นทาง ดังนี้

เมืองโคโม่-เมืองโคลิโค่ (Como-Colico)

หนึ่งในเส้นทางล่องเรือทะเลสาบโคโม่สุดฮิต เพราะจะเป็นเส้นทางล่องเรือจากทางตอนใต้สู่ทางเหนือของอิตาลี โดยตลอดเส้นทางการล่องเรือครั้งนี้จะสามารถมองเห็นความงดงามของวิวทิวทัศน์และธรรมชาติ พร้อมกับเมืองต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

เมืองโคโม่-เมืองเบลลาจิโอ-เมืองเวเรนา-เมืองเมนากจิโอ (Como-Bellagio-Verena-Menaggio)

สำหรับการล่องเรือชมทะเลสาบโคโม่เส้นทางนี้ จะเป็นการล่องเรือผ่าน 4 เมืองหลักที่โด่งดังอันเต็มไปด้วยสีสันของสถานที่ท่องเที่ยวและผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเหล่านี้

เมืองเลกโก-เมืองเบลลาจิโอ (Lecco-Bellagio)

เส้นทางล่องเรือที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสเมืองเก่าแก่ของอิตาลีก่อนจะล่องเรือต่อไปยังเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม่ (Pearl of the lake)

เที่ยวเมืองรอบทะเลสาบโคโม่ ตะลุยเก็บภาพแลนด์มาร์กสำคัญ

นอกจากทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญให้คุณได้ยืนถ่ายรูปวิวหลักอันแสนงดงาม ยังมีเมืองต่าง ๆ ให้คุณแวะไปเที่ยวถ่ายรูปกับสถานที่สวย ๆ ดังนี้

เมืองโคโม่ (Como)

Como

เมืองโคโม่ (Como) จุดหมายแรกของการเดินทางมาเที่ยวที่ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) เพราะที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางที่ไม่ว่าจะเดินทางมาจากที่ไหนก็ต้องแวะที่นี่เป็นจุดแรก แถมเมืองโคโม่ยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และยังคงสถาปัตยกรรมสวย ๆ อย่าง Como Cathedral วิหารทรงโกธิค (Gothic) ให้นักท่องเที่ยวได้แวะไปเก็บภาพความสวยงามแห่งอิตาลีอีกด้วย

เมืองเบลลาจิโอ (Bellagio)

Bellagio

ต่อมาเป็นเมืองที่ถูกเรียกว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม่ (Pearl of the lake)” เนื่องจากเมืองเบลลาจิโอ (Bellagio) ตั้งอยู่ระหว่างแขนของตัว Y ที่เป็นลักษณะของทะเลสาบโคโม่ จึงทำให้เมื่อมองบรรยากาศรอบ ๆ จะเห็นเทือกเขาแอลป์ทางทิศเหนือได้อย่างชัดเจนนั่นเอง

เมืองเลกโก (Lecco)

Lecco

เมืองเลกโก (Lecco) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกตอนใต้ของทะเลสาบโคโม่ เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ เมืองนี้จะค่อนข้างเงียบกว่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชื่นชมความงามของทะเลสาบโคโม่แบบส่วนตัวและไม่ต้องการพบเจอนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ มากนัก

เมืองเวเรนา (Varenna)

Verena

เมืองเวเรนา (Varenna) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่พลาดไม่ได้เมื่อเดินทางมาที่ทะเลสาบโคโม่ เพราะที่นี่มี Villa Monastero ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ทำให้มองเห็นวิวทะเลสาบแห่งนี้ได้อย่างสวยงามและแสนโรแมนติก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ The House Museum พิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของงานศิลปะที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละยุคอีกด้วย

เมืองเมนากจิโอ (Menaggio)

Menaggio

เมืองเมนากจิโอ (Menaggio) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของทะเลสาบโคโม่ อีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ เพราะที่นี่คุณสามารถชมวิวทะเลสาบโคโม่หรือเดินเล่นเลียบหาดได้ที่ Menaggio’s Lakefront แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น โบสถ์ Santo Stefano, โบสถ์ Santa Marta และ Villa Mylius Vigoni ซึ่งภายในเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้มากมายให้คุณสามารถเดินเล่นและถ่ายรูปอวดลงโซเชียลได้เช่นเดียวกัน

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร