Leh Ladakh เป็นหนึ่งในดินแดนที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย ที่นี่มีความสวยงามและมีเสน่ห์พิเศษที่ควรไปสัมผัสด้วยตนเองสักครั้งในชีวิต เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตาและวัฒนธรรมอันยาวนาน จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และคนที่ต้องการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเอเชียอันเก่าแก่

สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเยือน Leh Ladakh คนเดียวหรือไปเป็นกลุ่มก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงจองตั๋วเครื่องบินไปอินเดียผ่าน Traveloka โดยเลือกจุดหมายปลายทาง สายการบิน และวันเวลาที่ต้องการเดินทาง จากนั้นคุณสามารถเปรียบเทียบราคาและเลือกจองได้อย่างสะดวกสบาย

Leh เป็นเมืองหลวงของแคว้น Ladakh เขตแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย โดย Leh Ladakh มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 3,500 เมตร ล้อมรอบด้วยเทือกเขาหิมาลัยอันตระการตา เมืองแห่งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวในแคว้น Ladakh สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม สัมผัสวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และท้าทายกับกิจกรรมผจญภัย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยว Leh Ladakh แบบไม่ต้องเดินทางเยอะ ขอแนะนำให้พักที่โรงแรมอินเดียในเมือง Leh ได้เลย เพราะนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังมีวิวสวย ๆ ให้ได้ชื่นชมอีกด้วย โดยที่พักในเมือง Leh หลายแห่งมีวิวหลักล้านที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยได้อย่างชัดเจน รับรองว่าคุ้มค่ากับการมาเยือน Leh Ladakh อย่างแน่นอน

Leh Ladakh เป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย โดยมีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่ามีมนุษย์ยุคหินเคยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ในอดีตมีชาวดาร์ด (Dards) ซึ่งเป็นเชื้อชาติอินโด-อารยัน อพยพจากทิเบต และมาอาศัยอยู่ใน Leh Ladakh ต่อมาก็มีชาวพื้นเมืองอื่น ๆ อพยพเข้ามาด้วย แต่วัฒนธรรมและลักษณะทางเชื้อชาติของชาวทิเบตและชาวดาร์ดมีความคล้ายคลึงกัน จึงสามารถผสมผสานกลมกลืน และอยู่อาศัยร่วมกันจนถึงปัจจุบัน

Leh Ladakh ตั้งอยู่ทางบริเวณตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย ใกล้กับชายแดนของประเทศจีน โดยมีพื้นที่รวมกว่า 86,909 ตารางกิโลเมตร ลักษณะของภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงที่มีความสลับซับซ้อน ซึ่งภูเขานี้ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยและยาวไปจนถึงเทือกเขาคุนหลุน

พิกัด https://maps.app.goo.gl/jANEx3zvhiF1LkLi8

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า ถ้าจะไปเที่ยวเลห์ ลาดักห์ ควรไปเดือนไหนดี? โดย Leh Ladakh มีภูมิอากาศที่แตกต่างกันตามฤดูกาล ในช่วงฤดูหนาวท้องทุ่งจะปกคลุมไปด้วยหิมะ และอุณหภูมิอาจลดลงได้ถึง -40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิยังคงหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมอยู่ ฤดูร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อเพลิดเพลิน ในท้องทุ่งที่มีสีสันและวิวทิวทัศน์อันงดงาม อยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน

โดยการเตรียมตัวในการเยือน Leh Ladakh นั้น ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคนที่ไม่เคยไปที่ที่สูงมาก ๆ อาจมีความเสี่ยงเรื่องอาการแพ้ความสูง (High Altitude Sickness) ซึ่งควรพักผ่อนให้เพียงพอ เคลื่อนไหวร่างกายให้ช้าลง และดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

การเดินทางจากประเทศไทยไป Leh Ladakh ในปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรง โดยนักท่องเที่ยวจะต้องต่อเครื่อง 1 ครั้งที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ซึ่งระยะเวลาในการเดินทางจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่พักเครื่อง โดยเมื่อไปถึงอินเดียแล้วก็มีวิธีการเดินทางต่อ ดังนี้

สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเลห์ ลาดักด้วยค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ขอแนะนำการเดินทางภายในประเทศอินเดียโดยการใช้รถบัสเป็นหลัก ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางแบบแบ็คแพ็ค คุณสามารถเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองต่าง ๆ ในอินเดียมายัง Leh Ladakh ได้ รวมถึงจากนิวเดลีเอง โดยมีระยะทางประมาณ 1,026 กิโลเมตร หรือใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง ซึ่งจะมีรถบัสหลายแบบให้เลือก และสามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้เลย

นักท่องเที่ยวที่มาจากเมืองอื่น ๆ ของอินเดียสามารถเดินทางต่อไปยัง Leh Ladakh ได้โดยใช้รถไฟ โดยสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ Jammu Tawi ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ ตั้งอยู่ห่างจาก Leh Ladakh ประมาณ 700 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟจากนิวเดลีไปยัง Jammu Tawi นั้นจะใช้เวลาประมาณ 9-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟ โดยรถไฟนั้นมีให้บริการทุกวัน สามารถเลือกทั้งรถไฟชั้นธรรมดาและชั้นหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ของอินเดียนเรลเวย์ (Indian Railways)

การเดินทางไปยัง Leh Ladakh ด้วยรถแท็กซี่ถือเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและยืดหยุ่น โดยเฉพาะในตัวเมือง Leh คุณสามารถเช่ารถแท็กซี่ได้ง่าย ๆ ด้วยการจองออนไลน์หรือโบกเรียกได้เลย ไม่ว่าคุณจะต้องการรถแท็กซี่จากที่สนามบินหรือตามพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง ก็จะมีตัวเลือกมากมายให้ได้เลือกสรร ซึ่งถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ใน Leh Ladakh การจองรถแท็กซี่ซึ่งมีคนขับเป็นคนในท้องถิ่นที่รู้เส้นทางดีอยู่แล้ว ก็เป็นวิธีที่สะดวกและน่าสนใจทีเดียว

Leh Ladakh ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทิเบตน้อย” เนื่องจากมีวัฒนธรรมและศาสนาที่คล้ายคลึงกับทิเบต โดยผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต และใช้ภาษาทิเบตเป็นภาษาหลัก โดยชาว Ladakh มีความศรัทธาในศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้ง และเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอยู่เสมอ ทำให้ Leh Ladakh ถือเป็นดินแดนแห่งความศรัทธาและวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การไปเยือน เพราะนอกจากธรรมชาติอันตระการตาแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของผู้คนในท้องถิ่น และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศาสนาอันยาวนานของดินแดนแห่งนี้

Leh Ladakh เป็นดินแดนอันขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขุนเขาสูงตระหง่าน ทะเลสาบสีมรกต และทุ่งดอกไม้หลากสีสัน จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและสายถ่ายรูป

นอกจากธรรมชาติอันงดงามแล้ว Leh Ladakh ยังมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมของชาว Ladakh ผ่านวัดวาอาราม และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ โดยมีแลนด์มาร์กห้ามพลาด ดังนี้

Hunder Sand Dunes ตั้งอยู่ในหุบเขา Nubra เป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ Leh Ladakh โดดเด่นด้วยทรายสีขาวนวลละเอียด สันทรายไม่สูงมาก แต่มีภูเขาสูงล้อมรอบ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนและถ่ายรูป โดยกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ Hunder Sand Dunes คือการขี่อูฐ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกขี่แบบ 15 นาที หรือ 30 นาที ได้ตามความต้องการ

Pangong Lake เป็นทะเลสาบน้ำเค็มแห่ง Leh Ladakh ที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก โดยน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนสีสันไปตามอุณหภูมิของแสงอาทิตย์ในแต่ละช่วง โดยการเดินทางมาที่นี่อาจต้องใช้เวลาและเหนื่อยยาก แต่ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้จะทำให้คุณลืมความเหนื่อยล้าไปได้เลย

Diskit Gompa (Diskit Monastery) เป็นวัดเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในหุบเขา Nubra โดยมีพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรยตั้งเด่นสง่าอยู่กลางเนินเขา ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า งดงามตระการตา ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่มีอายุเก่าแก่ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ของ Leh Ladakh โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดได้

Hemis Monastery เป็นวัดทิเบตนิกายหมวกแดงที่ใหญ่ที่สุดใน Leh Ladakh มีชื่อเสียงด้านงานศิลปะและวัฒนธรรมที่งดงาม ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณอายุเก่าแก่ นอกจากนี้ ยังมีวัตถุโบราณล้ำค่ามากมาย โดยในทุก ๆ ปี ที่วัดแห่งนี้จะจัดงานฉลองเต้นรำหน้ากาก ซึ่งเป็นเทศกาลทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมือง นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลายคนเดินทางมาชมงานฉลองนี้เพื่อชมการแสดงที่งดงามและทรงพลัง

Magnetic Hill เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตซึ่งเป็นถนนที่ตัดผ่านเนินเขาสูงชันของ Leh Ladakh โดยถ้าจอดรถไว้ที่จุดที่กำหนดนั้นจะดูเหมือนรถไหลขึ้นเนินเขาได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว ถนนนี้เป็นทางลงเขา ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดจากภาพลวงตา จึงเป็นอีกจุดหมายที่ทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่น่าตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย

Sangam Viewpoint เป็นจุดชมวิวของ Leh Ladakh ที่แม่น้ำสินธุและซันสการ์ไหลมาบรรจบกัน ซึ่งมีความแตกต่างของสีแม่น้ำทั้งสองสาย ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่าน ทำให้วิวทิวทัศน์ของที่นี่ยิ่งงดงามมากขึ้น