ข้อมูลสินค้านี้แปลโดยระบบอัตโนมัติและอาจให้ข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ โปรดพิจารณาก่อนทำการสั่งซื้อ หรือติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์หากมีคำถามเพิ่มเติม

วัดคัตสึโอจิได้รับการบูชาเป็นวัดแห่งชัยชนะมาเป็นเวลา 1,300 ปีแล้ว ปัจจุบัน วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะวัดที่ผู้คนมาขอพรให้โชคดี เช่น ความก้าวหน้าทางการศึกษา สุขภาพที่ดี และปัดเป่าโชคร้าย มีแก้วดารุมะและไม้เสี่ยงทายดารุมะจัดแสดงอยู่ทุกแห่งในวัด นอกจากนี้ เนื่องจากวัดมีการปลูกดอกซากุระ ดอกไฮเดรนเยีย และใบไม้สีแดง จึงมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันและดอกไม้สวยงามตลอดทั้งปี คุณสามารถซื้อ Victory Daruma Tumbler ได้ที่นี่เพื่อเพิ่มโชคของคุณ!

[พิเศษสำหรับการเดินทางจากโอซาก้า] วัดคิโยมิซุเดระ - ชื่อวัดมาจากคำว่า "โอโตวะ ทาคิ" ซึ่งเชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากวัดสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกชนิด ศาลเจ้าจิชูซึ่งอุทิศให้กับเทพเจ้าเยว่เซียเหล่าเหรินมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศในด้านการทำนายดวงชะตาความรัก ผู้ที่ต้องการขอพรให้คู่ครองสมหวัง ควรลองหินแต่งงาน ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาการแต่งงานมาให้หากคุณเดินจากด้านหนึ่งของหินไปยังอีกด้านหนึ่งโดยหลับตาจนกว่าจะสัมผัสหิน นอกจากนี้ เส้นทางซันนิงยาว 200 เมตรด้านหน้าวัดยังเรียงรายไปด้วยร้านค้าสไตล์ปักกิ่งที่รอให้คุณไปสำรวจ นอกจากนี้ วัดคิโยมิซุเดระยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโกในปี 1994 อีกด้วย จากที่นี่คุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเกียวโตได้ทั้งเมือง ทิวทัศน์อันสวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นและต่างประเทศจำนวนมากทุกปี โดยเฉพาะเมื่อใบไม้สีแดง ดอกซากุระ และต้นไม้สีเขียวใหม่บานสะพรั่ง ทิวทัศน์ที่แตกต่างกันจะยิ่งมีเสน่ห์และทำให้ผู้คนหยุดมอง

[ทัวร์พิเศษจากโอซาก้า] อาราชิยามะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนเมืองเกียวโตและเป็นสถานที่ถ่ายทำละครย้อนยุคยอดนิยม สะพานโทเก็ตสึเคียวในอาราชิยามะมีความยาวประมาณ 200 เมตร และยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมของศตวรรษที่ 17 ที่ได้รับการบูรณะด้วยโครงเหล็ก เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามของอาราชิยามะจากสะพานที่เต็มไปด้วยแนวคิดทางศิลปะในความเงียบสงบ ราวกับว่าเวลาและสถานที่ถูกย้อนคืน ช่วยให้คุณหวนนึกถึงฉากชีวิตในเกียวโตโบราณ

[พิเศษสำหรับการเดินทางจากเกียวโต] วัดเบียวโดอินเป็นผลงานชิ้นเอกของตระกูลฟูจิวาระที่นำสวรรค์แห่งความฝันกลับคืนสู่โลก ในช่วงรุ่งเรืองของระบอบการปกครองตระกูลฟูจิวาระในสมัยเฮอัน ฟูจิวาระ โนะ โยริมิจิได้สร้างวัดเบียวโดอินขึ้นเป็นวิลลาส่วนตัวของเขาเอง น้ำจากแม่น้ำอุจิถูกนำเข้ามาในลานภายใน ดอกซากุระ ดอกกุหลาบพันปี และดอกบัวในสวนล้วนส่งกลิ่นหอมและสวยงาม อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในลานภายในคือหอฟีนิกซ์ เดิมทีหอฟีนิกซ์มีชื่อว่าหออมิตา เนื่องจากมีรูปปั้นพระอมิตาคาตะประทับนั่ง ต่อมาเนื่องจากรูปร่างหน้าตาของรูปปั้นคล้ายนกกำลังกระพือปีกและกำลังจะบิน และมีนกฟีนิกซ์อยู่ทั้งสองข้างของคานและเสา จึงเรียกกันว่าหอฟีนิกซ์ อาคารที่มีลวดลายสลักบนแผ่นทองแดง 10 เยนคือหอฟีนิกซ์ ซึ่งแสดงถึงสถานะของอาคารนี้

[สิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางจากเกียวโต] วัดโทไดจิ เมืองนารา – ผลงานชิ้นเอกจากยุครุ่งเรืองของพุทธศาสนาในสมัยนารา ถือเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากวัดโทไดจิได้รับการสร้างขึ้นเป็นวัดโคคุบุนจิ จึงกลายเป็นสถานที่ขอพรให้โลกมีสันติภาพ สถานที่ที่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขความเจริญ ในเวลาเดียวกัน วัดโทไดจิยังมีหน้าที่ในการศึกษาหลักคำสอนของศาสนาพุทธและฝึกอบรมพระภิกษุอีกด้วย วัดแห่งนี้ได้ก่อตั้งนิกายทั้งหกของยุคนารา รวมถึงนิกายเคงอน และต่อมาได้เพิ่มสถาบันวิจัยต่างๆ (โซโช) ของนิกายเท็นไดและนิกายชินงอนของยุคเฮอัน จนกลายมาเป็นวัดที่เน้นการศึกษาทั้งแปดนิกาย

[มีเฉพาะที่เกียวโตเท่านั้น] สวนสาธารณะนาราตั้งอยู่เชิงเขาวากาคุสะในเมืองนารา วัดโทไดจิ ศาลเจ้าคาสุกะไทฉะ และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ในเมืองนาราล้วนอยู่ที่นี่ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนาราต้องไปเยือนให้ได้ ภูเขาวากากุสะซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ของเมืองนารา และมีงานประเพณีดั้งเดิมเช่น "ภูเขาวากากุสะเผา" จัดขึ้นที่นี่ทุกเดือนมกราคม การเดินเล่นสบาย ๆ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมอุทยานแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีกวางชุกชุมที่สุด และการให้อาหารกวางก็เป็นจุดดึงดูดใจที่สุดเช่นกัน กวางที่นี่ก็มีความศักดิ์สิทธิ์มากเช่นกัน และถือเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้า พวกมันจะมาหาคุณเมื่อเห็นคุกกี้กวางในมือของคุณ คุณสามารถถ่ายรูปกับกวางน่ารักเหล่านี้ได้ในช่วงเวลานี้