กิจกรรมทั้งหมดใน City and Borough of Wrangell

ดูจุดหมายปลายทางอื่นๆ
ค้นหา
ช่วงราคา
THB 0 - THB 4,500+
จุดเด่น
เปิดเดี๋ยวนี้
Special Promo
Easy Access
CleanXperience
FlexiBook

ประมาณ 0 รายการ

จัดลำดับ:
ความนิยม
เราไม่พบสิ่งที่คุณต้องการ
ลองเปลี่ยนคำสำคัญเพื่อค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
รีเซ็ตตัวกรอง

สิ่งที่ผู้คนนิยมในCity and Borough of Wrangell

แสดงความคิดเห็นเมื่อคุณทำได้!

สิ่งนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้มากในการวางแผนการเดินทางของพวกเขา

รายละเอียดเกี่ยวกับ City and Borough of Wrangell

เกี่ยวกับแรนเกลล์ (Wrangell), สหรัฐอเมริกา

แรนเกลล์ (Wrangell) คือเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในรัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนเมืองใหญ่ๆ แต่บอกเลยว่าเสน่ห์ของที่นี่คือความเงียบสงบและธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์สุดๆ เหมือนเพื่อนที่ชอบชวนเราไปพักใจหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงนั่นแหละ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบ Unseen ที่ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวอะแลสกันแท้ๆ แรนเกลล์คือคำตอบ!

สถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินห้ามพลาดในแรนเกลล์

ถึงจะเป็นเมืองเล็ก แต่แรนเกลล์ก็มีอะไรให้ทำเยอะกว่าที่คิดนะ! เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วตามไปเก็บแต้มเช็กอินกันเลย:

  • Petroglyph Beach State Historic Park: ชายหาดที่มีภาพสลักหินโบราณอายุหลายพันปี เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เราจะได้เดินเล่นชมศิลปะไปพร้อมๆ กับสูดอากาศบริสุทธิ์
  • Mount Dewey Trail: สายเทรคกิ้งต้องไม่พลาด! เส้นทางเดินป่าขึ้นเขาที่ไม่ยากเกินไป แต่ได้เห็นวิวเมืองแรนเกลล์แบบพาโนรามา
  • Anan Creek Wildlife Observatory: ใครอยากเห็นหมีกริซลี่จับปลาแซลมอนต้องมาที่นี่! เป็นประสบการณ์สุดตื่นเต้นที่เราจะได้ดูสัตว์ป่าในระยะใกล้
  • Wrangell Museum: พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองแรนเกลล์ ตั้งแต่ยุคชนเผ่าพื้นเมือง Tlingit ไปจนถึงยุคที่รัสเซียเข้ามาปกครอง
  • Chief Shakes Island: เกาะเล็กๆ ที่มีบ้านของหัวหน้าเผ่า Shakes ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของชนเผ่า Tlingit เป็นสถานที่ที่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชนเผ่าพื้นเมือง

อะไรที่ทำให้แรนเกลล์ไม่ควรพลาด

สิ่งที่ทำให้แรนเกลล์แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในอะแลสกาคือความเป็นกันเองของคนที่นี่ และความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ลองนึกภาพตัวเองตื่นเช้ามาจิบกาแฟ มองออกไปเห็นภูเขาหิมะและทะเลสีฟ้าคราม แค่นี้ก็คุ้มแล้ว!

  • ประสบการณ์ Immersive วัฒนธรรม: ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชนเผ่า Tlingit ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ การชมการแสดง และการพูดคุยกับคนท้องถิ่น
  • ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์: ได้สัมผัสความงามของป่าดิบชื้น ทะเล ภูเขา และธารน้ำแข็ง
  • กิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย: ไม่ว่าจะเดินป่า พายเรือคายัค ตกปลา หรือดูสัตว์ป่า ก็มีให้เลือกทำได้หมด

ลิสต์ที่ต้องทำในแรนเกลล์

มาแรนเกลล์แล้วต้องทำอะไรบ้าง? นี่คือลิสต์กิจกรรมที่เพื่อนแนะนำเพื่อนว่าห้ามพลาด:

  1. ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง LeConte Glacier: ธารน้ำแข็งสีฟ้าครามขนาดใหญ่ที่ไหลลงสู่ทะเล เป็นภาพที่สวยงามอลังการจนต้องร้องว้าว
  2. ตกปลาแซลมอน: แรนเกลล์เป็นแหล่งตกปลาแซลมอนที่ขึ้นชื่อ ใครอยากลองตกปลาด้วยตัวเองต้องมาที่นี่
  3. เดินป่าใน Tongass National Forest: ป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
  4. แช่น้ำพุร้อน Chief Shakes Hot Springs: ผ่อนคลายร่างกายในน้ำพุร้อนธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา
  5. ชิมอาหารทะเลสดๆ: แรนเกลล์เป็นเมืองท่าที่มีอาหารทะเลสดใหม่ให้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปู หรือกุ้ง

ย่านน่าเที่ยวในแรนเกลล์

ถึงแรนเกลล์จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีหลายย่านที่น่าเดินเล่นและสำรวจ:

  • Downtown Wrangell: ย่านใจกลางเมืองที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
  • Shoemaker Bay: ท่าเรือที่คึกคักไปด้วยเรือประมงและเรือท่องเที่ยว
  • Zimovia Highway: ถนนที่เลียบชายฝั่งและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

ย่านแนะนำสำหรับนักเดินทางแต่ละประเภท

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสไตล์ไหน แรนเกลล์ก็มีมุมที่ตอบโจทย์:

  • คนเที่ยวคนเดียว: Downtown Wrangell เป็นย่านที่ปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • ครอบครัว: Shoemaker Bay เป็นย่านที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ
  • สายแอดเวนเจอร์: Tongass National Forest เป็นสวรรค์ของคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
  • คนรักความหรู: LeConte Glacier เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการล่องเรือชมวิวแบบส่วนตัว

อาหารห้ามพลาดในแรนเกลล์

มาแรนเกลล์แล้วต้องลองชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น:

  • ปลาแซลมอนย่าง: เมนูคลาสสิกที่หากินได้ทุกร้าน
  • ปู Dungeness: ปูเนื้อแน่นหวานฉ่ำที่จับได้จากทะเลแถบนี้
  • กุ้ง Spot Prawn: กุ้งตัวโตเนื้อเด้งที่อร่อยจนหยุดไม่ได้

เทศกาล งานอีเวนต์ และวัฒนธรรมประจำถิ่นในแรนเกลล์

ถ้าอยากสัมผัสวัฒนธรรมของแรนเกลล์อย่างใกล้ชิด ลองมาเที่ยวในช่วงเทศกาลสำคัญ:

  • Wrangell Garnet Festival: เทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อเฉลิมฉลองอัญมณีประจำเมือง
  • Fourth of July Celebration: งานเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกาที่มีขบวนพาเหรด การแสดง และดอกไม้ไฟ
  • Tent City Days: เทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเพื่อรำลึกถึงยุคที่แรนเกลล์เป็นเมืองเหมืองทอง

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวแรนเกลล์

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวแรนเกลล์คือช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) เพราะอากาศอบอุ่นและมีแสงแดดเยอะ แต่ถ้าอยากเห็นหมีกริซลี่จับปลาแซลมอน ต้องมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม)

การเดินทางในแรนเกลล์

การเดินทางในแรนเกลล์สะดวกสบาย เพราะเมืองไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเท้าหรือเช่ารถจักรยานได้ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวที่ไกลๆ อาจจะต้องเช่ารถยนต์

แหล่งช้อปปิ้งในแรนเกลล์

ถ้าอยากซื้อของฝากจากแรนเกลล์ ลองแวะไปที่ร้านค้าใน Downtown Wrangell:

  • Garnet Jewelry: เครื่องประดับที่ทำจากอัญมณี Garnet ซึ่งเป็นอัญมณีประจำเมือง
  • Native Art: งานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยชนเผ่า Tlingit
  • Alaskan Souvenirs: ของที่ระลึกต่างๆ ที่เกี่ยวกับอะแลสกา

จุดลับและที่เที่ยวแบบไม่แมส

ถ้าอยากหนีจากนักท่องเที่ยว ลองไปสำรวจสถานที่เหล่านี้:

  • Rainbow Falls: น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า
  • Volunteer Park: สวนสาธารณะที่เงียบสงบและมีวิวทะเลที่สวยงาม
  • Institute Creek Trail: เส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในแรนเกลล์

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในแรนเกลล์อาจจะไม่เร็วเท่าในเมืองใหญ่ แต่ก็มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีตามร้านกาแฟและโรงแรม

บทสรุป: แรนเกลล์ควรเป็นทริปต่อไปของคุณหรือไม่?

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่เงียบสงบ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น แรนเกลล์คือคำตอบ! ลองจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดและโรงแรมราคาประหยัดกับ Traveloka แล้วออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อะแลสกากัน!

พร้อมเดินทางรอบโลกกับเราหรือยัง?

Traveloka ก่อน แล้วค่อยเที่ยวทั่วโลก ดาวน์โหลดเลย!