ไปเที่ยวคนเดียวก็ดีนะ แต่ไปเที่ยวกับเธอก็ดีกว่า 20 ที่เที่ยวจูงมือไปกับแฟน

ใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวบรรยากาศดีเหมาะแก่การควงแฟนไปเติมความหวานกระชับรักให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือ 20 ลิสต์ที่เที่ยวสุดโรแมนติกที่เราคัดสรรมาแล้วว่าตอบโจทย์คนมีคู่ได้ดีงามเป็นที่สุด เพราะแต่ละที่มีความโดดเด่นทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วิวทิวทัศน์ตระการตา รวมถึงสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ “ไปเที่ยวคนเดียวก็ดีนะ แต่ไปเที่ยวกับเธอก็ดีกว่า 20 ที่เที่ยวจูงมือไปกับแฟน”

จองตั๋วเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ กับ Traveloka Xeperince

1. เวนิส (Venice) อิตาลี

ตัวท็อปที่ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวมัสต์แฮฟของเหล่าคู่รักจากทุกโพลต้องยกให้ “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” นี้ โดย “เวนิส” สร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ ในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย โดยอาคารบ้านเรือนหรือสถานที่เที่ยวสำคัญต่างๆ จะตั้งอยู่ลัดเลาะไปตามคลอง นอกจากสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยสิ่งก่อสร้างภายในเมืองที่มีดีไซน์งดงามเลอค่าแล้ว “เมืองแห่งสายน้ำ” แห่งนี้ยังมีสะพานสวยๆ มากมาย โอบล้อมด้วยบรรยากาศโรแมนติกทั้งกลางวันและยามค่ำคืน

2. ปารีส (Paris) ฝรั่งเศส

ติดโผหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนาน เนื่องจาก “ปารีส” เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งยังเป็นเมืองชั้นนำด้านแฟชั่นและอาหาร รวมถึงเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมที่สาวๆ ปลื้มมาก ใครอยากสร้างโมเม้นท์หวานๆ ให้ตราตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน แนะนำให้จูงมือแฟนไปเดินชมวิวแถวๆ หอไอเฟลในช่วงประมาณ 4 ทุ่ม เพราะจะมีการแสดงแสง สี และไฟบนหอไอเฟล บอกเลยว่าสวยงามมากๆ

3. ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ออสเตรีย

ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เสน่ห์ของ “ฮัลล์สตัทท์” คือ ทิวทัศน์สวยชวนตะลึงอันประกอบด้วยอาคารบ้านเรือนดีไซน์น่ารัก ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและอากาศแสนบริสุทธิ์ โดยมีเทือกเขาสูงตระหง่านล้อมรอบทะเลสาบสีน้ำเงินเอาไว้อย่างนุ่มนวล สำหรับพิกัดเช็คอินที่ห้ามพลาด ได้แก่ จุดชมวิวบนถนน Gosaumühlstraße, โบสถ์ Hallstatt Lutheran, จุดชมวิวบนภูเขาเกลือ Salzberg ได้ใช้เวลาอยู่กับหวานใจท่ามกลางวิวสวยๆ บอกเลยว่าฟินมาก

4. บรูจส์ (Bruges) เบลเยียม

ให้กลิ่นอายคล้ายๆ เวนิส เนื่องจากเมืองท่าขนาดใหญ่ของประเทศเบลเยียมแห่งนี้ เต็มไปด้วยลำคลองที่สอดแทรกอยู่รายรอบบริเวณตัวเมืองโบราณที่คับคั่งไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆ มากมาย ความที่ “บรูจส์” มีขนาดค่อนข้างเล็กจึงสามารถเดินชมเมืองได้ครบจบภายใน 4 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกแนะนำให้เที่ยวชมเมืองด้วยการล่องเรือเลาะรอบลำคลองท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นโดยมีกัปตันเรือคอยเล่าเรื่องราวของเมืองให้ฟังอย่างเพลิดเพลิน (ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง)

5. กอเตอร์ (Kotor) มอนเตเนโกร

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่ต้องการเติมความหวานให้กันและกันด้วยการดื่มด่ำกับธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่งดงามท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ โดย “กอเตอร์” เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 2,000 ปี มีภูมิประเทศสวยงาม รายล้อมด้วยเทือกเขาและอ่าวขนาดใหญ่ ภายในเมืองมีกำแพงเมือง ป้อมปราการจากอดีต คูคลองที่เชื่อมกับอ่าว มีโบสถ์ โรงเรียน และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่แบบยุโรปยุคกลาง ส่วนบ้านเรือนปกติ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหารจะอยู่ภายนอกกำแพง

6. ปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก

เมืองหลวงที่มีทั้งความงดงามและเงียบสงบท่ามกลางขุนเขา ความที่ “ปราก” เป็นเมืองเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเมืองจึงเต็มไปด้วยศิลปะที่งดงามเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น Prague Castle ปราสาทโบราณอายุกว่า 1,000 ปี, Charles Bridge สะพานคนเดินทำจากหินอายุกว่า 600 ปี, Nicholas Church ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อนแกะสลักและภาพวาดบนเพดาน, Powder Tower ซุ้มประตูเมืองที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค ด้านบนเป็นหอคอยซึ่งเป็นจุดชมวิวสุดฮิต

7. ลูเซิร์น (Lucerne) สวิตเซอร์แลนด์

หากพูดถึงสถานที่สุดโรแมนติก “สวิตเซอร์แลนด์” คงจะติดท็อปลิสต์ในใจใครหลายคน โดยเฉพาะ “ลูเซิร์น” เมืองโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์นที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำรอยส์ ทำให้มีภูมิประเทศที่งดงาม โดยมีเทือกเขาล้อมอยู่อีกด้าน สำหรับพิกัดฮิตของที่นี่ ได้แก่ Chapel bridge สะพานไม้ที่เก่ากี่สุดในโลก ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนประวัติความเป็นมาของสวิตฯ, Mount Pilatus ยอดเขาสูงคู่เมือง การนั่งรถรถไฟขึ้นเขาเป็นอะไรที่เร้าใจมาก เพราะเส้นทางสูงชันแต่มีธรรมชาติที่งดงามสุดๆ

8. อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เนเธอร์แลนด์

เมืองหลวงแห่งเนเธอร์แลนด์นี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเตล รายล้อมด้วยทัศนียภาพที่งดงามและตึกรามบ้านช่องอันเป็นเอกลักษณ์ ในส่วนของการเที่ยวชมเมืองนั้นสามารถชิลล์ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่งเรือ หรือปั่นจักรยาน ซึ่งล้วนมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน สำหรับคู่รักสายชิคสายแนวรับรองต้องเลิฟ “อัมสเตอร์ดัม” เพราะเมืองนี้มีกิจกรรมเก๋ๆ ให้ใช้เวลาร่วมกันเพียบ อาทิ บุกพิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ(Van Gogh Museum, Rijksmuseum, Heineken Experience), ชมช้อปชิมที่ตลาดขายดอกไม้และตลาดอัลแบร์เคิพ

9. เอีย (Oia) กรีซ

คุ้นตากันดีกับภาพถ่ายมุมยอดฮิตของ “เอีย” ที่แสดงให้เห็นความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากภูมิประเทศอันงดงามที่ผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์ไซดลาดิก (เน้นรูปทรงเรขาคณิต) ได้อย่างลงตัว อาคารทั้งหมดในหมู่บ้านสร้างด้วยอิฐทาสีขาว ตัดกับท้องฟ้าสีครามและน้ำทะเลสีน้ำเงิน แถมยังตั้งลดหลั่นตามหน้าผาสูงชัน ไฮไลท์ในการมาเยือนเอียคือ การชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งมีหลายจุดให้เลือก เช่น Oia Castle หรือจะจองร้านอาหารหม่ำเมนูกรีกพร้อมชมวิวก็โรแมนติกและเป็นส่วนตัวมากๆ

10. คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ตุรกี

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวตุรกี เชื่อว่าภาพแรกที่ผุดขึ้นในหัวของหลายๆ คนคงหนีไม้พ้น บอลลูนหลากสีบนท้องฟ้า แค่นึกก็แฮปปี้แล้ว ยิ่งได้ไปกับแฟนบอกเลยยิ่งฟิน โดยจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด คือ “คัปปาโดเกีย” เมืองมรดกโลกที่โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์มหัศจรรย์จากหินหลากหลายรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม หุบเขาดอกเห็ด ภัตตาคารถ้ำโรงแรมถ้ำ เรียกว่ามีที่เที่ยวให้ชมความอัศจรรย์เพียบ แต่ไฮไลท์สุดเด็ดที่ต้องจัดคือ การขึ้นบอลลูนชมวิวช่วงพระอาทิตย์ขึ้น

11. มิวนิค (Munich) เยอรมนี

คู่รักที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อคและเรอเนสซองส์ มาที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะในมิวนิคมีสถานที่เที่ยวเลอค่าให้เยี่ยมชมมากมาย อาทิ Neuschwanstein Castle ปราสาทสวยพีคระดับโลก ที่งดงามไม่ผิดกับปราสาทในเทพนิยายที่จินตนาการกันทีเดียว, Marienplatz จตุรัสนี้ประกอบไปด้วยศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเสาสูง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel, Nymphenburg Castle พระราชวังที่สวยเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบาร็อค

12. มอริเชียส (Mauritius)

ที่เที่ยวชื่อไม่คุ้นหูแห่งนี้เป็นเกาะภูเขาไฟ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย “มอริเชียส” มีความโดดเด่นในเรื่องความงามของท้องทะเล หาดทราย ปะการัง และเต่ายักษ์ เป็นที่เที่ยวที่เหมาะแก่การควงกันมาพักผ่อน ปล่อยตัวปล่อยใจดื่มด่ำไปกับเกาะสวรรค์ที่มีท้องทะเลและชายหาดอันงดงามรวมถึงธรรมชาติสุดเจ๋งอื่นๆ เช่น Seven Coloured Earth เนินทรายที่ประกอบด้วยทรายถึง 7 สีไล่ระดับตั้งแต่สีแดงจนถึงเหลือง, Chamarel Waterfall น้ำตกสูงกว่า 100 เมตรตั้งอยู่ใจกลางธรรมชาติสีเขียว

13. มาร์ราเกช (Marrakech) โมร็อกโก

เมืองแห่งการท่องเที่ยวของโมร็อกโก เหมาะสำหรับคู่เลิฟที่ชอบความแปลกใหม่ไม่จำเจเพราะ “มาร์ราเกซ” ให้ฟีลลึกลับชวนพิศวง แต่ก็เต็มไปด้วยความเก๋เท่ ในส่วนของแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองสีชมพูแห่งนี้ ได้แก่ Bahia Palace พระราชวังสุดหรูตกแต่งโดยการแกะสลักปูน วาดลายบนไม้ และประดับประดาด้วยโมเสก, Saadian Tombs สุสานที่มาพร้อมศิลปะแบบมัวริส, Koutoubia Mosque มัสยิดเก่าแก่สุดงดงาม, Djemaa El Fnaa จัตุรัสใจกลางเมืองแหล่งรวมผู้คนที่มาแสดงโชว์ไปจนถึงขายสินค้าต่างๆ

14. ซานฟรานซิสโก (San Francisco) สหรัฐอเมริกา

อีกหนึ่งเมืองยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก เนื่องจากบ้านเมืองสวยงาม มีที่เที่ยวและกิจกรรมให้ทำมากมาย รวมถึงร้านอาหารอร่อยๆ แถมอากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี ไม่แปลกที่ “ซานฟรานซิสโก” จะเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่เหล่านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคู่รักใฝ่ฝัน สำหรับที่เที่ยวสุดเจ๋งของที่นี่ ได้แก่ Golden Gate Bridge, Fisherman’s Wharf and Pier 39, Alcatraz Island, Golden Gate Park, Alamo Square งานนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเพราะระบบคมนาคมของที่นี่สะดวกมากๆ

15. ควิแบก (Quebec) แคนาดา

เมืองเก่าแก่ที่สุดในแคนาดาและทวีปอเมริกาเหนือ เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองโรแมนติกแห่งหนึ่ง แถมผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การจูงมือแฟนเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมและทัศนียภาพที่งดงามเป็นที่สุด โดยจุดที่แนะนำคือ Dufferin Terrace ซึ่งเป็นทางเดินริมแม่น้ำที่อยู่ใต้ Fairmont Château Frontenac โรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง เมื่อเดินไปตามทางจะพบสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

16. เกียวโต (Kyoto) ญี่ปุ่น

มาที่ฝั่งเอเชียกันบ้าง ใครมีแพลนเที่ยวกระชับรักกับหวานใจห้ามพลาดกับทริปญี่ปุ่นอันมีจุดหมายปลายทางที่เกียวโตเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงามของธรรรมชาติทั้งยังมีที่เที่ยวสวยๆ มากมาย เช่น วัดทองคิงคาคุจิ, วัดน้ำใสคิโยมิซุ, วัดเอคันโด, ป่าไผ่ รวมถึงทางรถไฟสายโรแมนติก Sagano ซึ่งเป็นรถไฟนำเที่ยวที่มีเส้นทางวิ่งไปตามแม่น้ำ Hozugawa รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 25นาที จากสถานี Saga Torokko ไปยังสถานี Kameoka Torokko เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนั่งสวีทกับคุณแฟน

17. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) จีน

ประเทศขนาดบิ๊กเบิ้มอย่างจีนซะอย่าง ก็ต้องอัดแน่นด้วยเที่ยวอันงดงามตระการตา ไม่อยากออกนอกเมืองให้เหนื่อยแนะนำให้พาแฟนบินมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากเป็นมหานครที่เจริญที่สุดของจีน เดินทางสะดวก ปลอดภัย ที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตึกสวยสไตล์ยุโรป ถนนสายช้อปปิ้ง วัดเก่าแก่ ธรรมชาติ สวนสนุกระดับโลกอย่างดิสนีย์แลนด์ รวมถึงพิกัดสุดโรแมนซ์อย่าง The Bund ทางเดินเลียบแม่น้ำแสนโรแมนติก, Yuyuan Garden สวนสวยสุดอลัง, เมืองน้ำโบราณ Zhujiajiao

18. มัลดีฟส์ (Maldives)

สวรรค์บนดินของเหล่าคู่รักทั่วโลก โดดเด่นด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ หาดทรายขาว ทะเลสวยน้ำใสแจ๋ว ปะการังและสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ มีโรงแรมสวยๆ มากกว่า 300 แห่ง (ทั้งห้องพักบนเกาะ, ห้องพักติดชายหาด และบ้านพักกลางทะเล) ให้พักผ่อนรวมถึงใช้เวลาสวีทหวานกันเต็มที่ ทั้งยังมีสารพัดกิจกรรมสนุกๆ อาทิ สปา โยคะ พายเรือคายัค เรือแคนู วินด์เซิร์ฟ ดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น ที่เริ่ดก็คือการเดินทางมา “มัลดีฟส์” นั้น สามารถขึ้นเครื่องบินไปลงที่เกาะได้เลย แถมไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย

19. บาหลี (Bali) อินโดนีเซีย

ไม่ต้องไปไกลถึงยุโรปก็ฟินได้แม่แพ้กันกับการเที่ยว “บาหลี” หมู่เกาะเล็กๆ ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแปลกตา ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือสิ่งปลูกสร้าง เช่น วัดทานาล็อต, วัดเบซากิห์, วัดอูลูวาตู, นาข้าวเทกาลาแลง, ป่าลิงอูบุด, ภูเขาไฟบาตูร์, ถ้ำปุรากัวกาจาห์ โดยเฉพาะสารพัดกิจกรรมที่เหมาะกับคู่รัก อาทิ ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ชายหาดคูต้า, นั่งชิงช้าบาหลีสวิงที่อูบุด, แช่บ่อน้ำพุร้อนที่ Batur Natural Hot Spring, ล่องเรือจังโกลานชมโลมายามเช้าที่หาดโลวิน่า

20. กระบี่ (Krabi) ไทย

ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวสุดฮิตของบ้านเราอย่าง “กระบี่” โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน สำหรับคนมีคู่ที่ต้องการกระชับรักให้แนบแน่นแนะนำให้ไปไปเที่ยวทะเลกระบี่เพราะเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ที่ติดตราตรึงใจมาก อาทิ เกาะปอดะ, เกาะพีพี, หาดถ้ำพระนาง, หาดไร่เลย์, เกาะไผ่, หาดนพรัตน์ธารา, เกาะลันตา ฯลฯ โดยแต่ละที่ล้วนประกอบด้วยหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเล ใสสีฟ้าคราม และหมู่ปะการังอันอุดมสมบูรณ์

สวยขนาดนี้ไม่ไปเที่ยวไม่ได้แล้ว อย่าลืมเช็ควันว่างแต่เนิ่นๆ เพื่อแพลนทริปพาแฟนเที่ยวให้ออกมาเป๊ะที่สุด เพื่อความสะดวกแนะนำให้ใช้ตัวช่วยอย่าง Traveloka Xeperince จองที่เที่ยวและกิจกรรมล่วงหน้าเที่ยวสนุกได้ทุกๆ กิจกรรมแบบไม่ต้องต่อคิวซื้อบัตร รับรองประหยัดเวลาไปได้อีกเยอะ แถมยังประเมินค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ได้ด้วย