ถ้าเคยดูหนัง Avatar แล้วเคยคิดเล่น ๆ ว่า โห สุดจะคูล ถ้ามีจริงก็ดีอะดิ! ก็บอกเลยว่ามีจริง! เพราะที่ หุบเขาอวตาร ในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย หรือเรียกอีกชื่อว่า เขาเทียนจื่อซาน (Tianzi Shan Mountain, 天子山) มีวิวธรรมชาติที่เหมือนหลุดมาจากจินตนาการ ผาหินทรงแปลกตาสูงเสียดฟ้าโผล่ขึ้นมาท่ามกลางทะเลหมอก เส้นทางเดินผจญภัยสุดระทึก และจุดชมวิวที่สวยจนหยุดหายใจ ที่นี่แหละคือแรงบันดาลใจในการออกแบบดาว Pandora ในภาพยนตร์ระดับตำนาน!

ที่สำคัญคือ ที่นี่เข้าถึงไม่ยากอย่างที่คิด เดินทางสะดวกจากเมืองใหญ่ของจีน ทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือกวางโจว มีรถไฟความเร็วสูงและเที่ยวบินตรง ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่สไตล์ธรรมดาไปจนถึงรีสอร์ทหรู วิวดีแบบเห็นภูเขาอวตารจากหน้าต่างห้อง

บทความนี้จะพาไปปักจุดเช็คอินหุบเขาอวตาร ที่ห้ามพลาด ชี้เป้าเส้นทางเดินทางจากไทย กิจกรรมห้ามพลาด และแนะนำที่พักที่น่าเช็กอิน พร้อมเคล็ดลับที่ช่วยให้ทริปนี้สะดวกขึ้น จะได้เที่ยวกันแบบลื่น ๆ ไม่ติดขัด ถ้าพร้อมจะออกเดินทางแล้ว ลุยไปด้วยกันเลย!

หนึ่งในจุดที่อลังการที่สุดของหุบเขาอวตาร ก็คือ ภูเขาเทียนจื่อ หรือ “ภูเขาของจักรพรรดิ” ที่มีหน้าผาหินตั้งตระหง่านนับร้อยยอดโผล่พ้นทะเลหมอก เสน่ห์อยู่ตรงที่แต่ละยอดมีรูปร่างแปลกตาและเปลี่ยนไปตามแสงในแต่ละช่วงวัน วิวจากจุดชมบนยอดเทียนจื่อสามารถมองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นมุมมหากาพย์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์รัว ๆ ๆ ๆ ๆ เพราะที่นี่คือที่เที่ยววิวธรรมชาติที่มีความสวยเกินจริงระดับที่มีคนเอาไปเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบดาวนอกโลกอะคิดดู๊!

การขึ้นเขาไม่จำเป็นต้องเหนื่อยเสมอไป เพราะที่นี่มีลิฟต์ไป่หลง ซึ่งเป็นลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ความสูงกว่า 300 เมตร ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการพาขึ้นสู่ระดับยอดเขา จุดนี้ไม่ใช่แค่ทางลัดสู่วิวสวยระดับโลกนะ แต่ยังเป็นประสบการณ์สุดว้าวสำหรับคนที่อยากชมวิวแบบพาโนราม่าระหว่างทางขึ้นอีกด้วย ใครที่มาเที่ยวจางเจียเจี้ยแล้วไม่ขึ้นลิฟต์นี้ ถือว่าพลาดประสบการณ์ว้าว ๆ ที่หาได้เฉพาะที่นี่ที่เดียว

ตรงจุดนี้คือหัวใจของภูเขาอวตาร จางเจียเจี้ยที่แฟนหนัง Avatar จะต้องร้องว้าว เพราะเป็นสถานที่จริงที่ทีมผู้สร้าง Avatar มาเก็บแรงบันดาลใจไปสร้างภาพยนตร์ เส้นทางเดินชมวิวมีทั้งทางเดินไม้และจุดชมวิวข้างบนสุด จุดเด่นคือ "เสาหินฮัลลีลูยา" ที่ตั้งโดดเด่นท่ามกลางหมอก ดูแล้วเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ มุมนี้แหละที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักหุบเขาอวตาร

สะพานแก้วสุดโด่งดังของจางเจียเจี้ย เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด ถ้ากล้าพอที่จะเดินบนสะพานที่พื้นเป็นกระจกใสยาวกว่า 400 เมตร ทอดตัวข้ามหุบเหวลึกแบบสุดลูกหูลูกตา มันทั้งเสียวและสวยในเวลาเดียวกัน วิวจากตรงนี้เห็นทั้งหุบเขา น้ำตก และแนวผาหินด้านล่าง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินหุบเขาอวตารที่สร้างความทรงจำไม่รู้ลืม

หุบเขาอวตารตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ธรรมชาติที่แปลกตาที่สุดในโลก การเดินทางมายังที่นี่สะดวกกว่าที่คิด เพราะมีระบบขนส่งสาธารณะที่พัฒนาแล้ว ทั้งรถไฟความเร็วสูง สนามบินในเมือง และรถบัสท้องถิ่นที่เข้าถึงอุทยานโดยตรง ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากเมืองใหญ่หรือบินตรงจากไทยก็สามารถจัดทริปได้แบบไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ ภายในอุทยานยังมีบริการรถไฟฟ้าและลิฟต์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงจุดชมวิวหลัก ช่วยประหยัดแรงและเวลาได้มาก เหมาะมากสำหรับทั้งสายลุยและสายชิลล์ที่อยากมาสัมผัสเที่ยวธรรมชาติที่จีนแบบสวยสะกดจิตสะกดใจแต่ไม่เหนื่อยเกินไป

จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้ที่ Traveloka

หากคุณมีแพลนเที่ยวเมืองใหญ่ ๆ ก่อนมาเที่ยวหุบเขาอวตารที่จางเจียเจี้ย สามารถเดินทางจากเมืองใหญ่ ๆ ได้ ดังนี้

สิ่งที่ทำให้หุบเขาอวตารไม่เหมือนที่เที่ยวธรรมชาติทั่วไป คือภูมิประเทศที่ดูเหมือนไม่มีจริงในโลก จริง ๆ หน้าผาหินทรายที่ตั้งเรียงรายเป็นพัน ๆ ยอด มีรูปร่างแปลกตาและแหลมสูงเหมือนเสาเข็มธรรมชาติ บางยอดสูงถึง 1,000 เมตร ล้อมรอบด้วยหมอกที่ลอยผ่านตลอดวัน จนดูคล้ายกำลังลอยอยู่ในอากาศ ภาพทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อ “ภูเขาอวตาร” และเป็นแรงบันดาลใจให้กับโลก Pandora ในภาพยนตร์ระดับตำนาน

นอกจากความแปลกตา วิวที่เห็นจากจุดชมต่าง ๆ ยังเปลี่ยนไปตามแสงและฤดูกาล ทำให้แต่ละครั้งที่มา เที่ยวหุบเขาอวตาร คุณจะได้อารมณ์ไม่เหมือนกันเลย แถมยังมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ทั้งนั่งกระเช้าลอยฟ้า เดินบนสะพานแก้วสุดเสียว หรือขึ้นลิฟต์กลางหน้าผาเพื่อขึ้นไปชมวิวระดับเทพ เป็นการเที่ยวที่ทั้งตื่นเต้นและได้ซึมซับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติไปพร้อมกัน

หุบเขาอวตาร เที่ยวได้ทั้งปี แต่แต่ละฤดูก็ให้ฟีลต่างกันแบบชัดเจน ถ้าอยากเจอบรรยากาศแบบเทพนิยายสุด ๆ

สรุปง่าย ๆ ถ้าชอบวิวหมอกสวย ๆ ให้ไปช่วงใบไม้ผลิ ถ้าอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีจัด ๆ ให้ไปช่วงปลายฝนต้นหนาว ส่วนใครอยากเจอหิมะ ก็จัดช่วงปลายปีได้เลย

ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติแบบฟิน ๆ ต้องลองเดินป่าอวตาร เส้นทางจะพาไต่ระดับจากพื้นล่างขึ้นไปบนยอดเขา ผ่านป่าไม้ หินผาทรงแปลก และจุดชมวิวซ่อนอยู่ตามทาง เดินไปเรื่อย ๆ จะเจอหมอกบาง ๆ คลอเคลียหน้าผา บางช่วงเหมือนเดินอยู่ในโลก Avatar จริง ๆ เลย เส้นทางการเดินก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักเดินป่า เหมาะกับคนที่ชอบเดินกินลมชมวิวชิล ๆ ได้ซึมซับความงามของหุบเขาอวตารแบบเต็มอิ่ม

ใครที่ไม่อยากเดินไกล แต่อยากได้วิวสุดตะลึงต้องขึ้นกระเช้า! กระเช้าจะพาขึ้นเขาแบบช้า ๆ ให้เห็นวิวพาโนราม่าของหน้าผาหินนับร้อยยอด หมอกลอยสลับกับยอดเขาที่ดูเหมือนลอยได้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและสายถ่ายรูป วิวจากด้านบนคือที่สุดของการเที่ยวหุบเขาอวตารที่ควรค่าแก่การเก็บภาพเอาไว้ ถ่ายตรงไหนก็สวย กด ๆ ไปเถอะ

มุมถ่ายรูปในหุบเขาอวตารมีให้เลือกเพียบบบ ทั้งระเบียงชมวิว หน้าผา เสาหิน หรือสะพานลอยฟ้า ถ่ายออกมายังไงก็ดูอลังแบบไม่ต้องแต่งเยอะ ยิ่งช่วงที่มีหมอกบาง ๆ หรือแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ตอนเช้า ภาพที่ได้จะดูเหมือนหลุดมาจากหนังแฟนตาซีแบบเป๊ะ ๆ ระหว่างเดินเล่นก็มีจุดให้แวะถ่ายรูปเยอะมาก สวยเหมือนไม่มีจริงทุกจุดเลย! รับรองว่าจะได้ทั้งภาพและยอดไลก์เพียบแน่นอน

สำหรับสายลุยและคนที่อยากลองของ ห้ามพลาด สะพานแก้วจางเจียเจี้ย ที่ทอดยาวข้ามหุบเหวลึกด้วยกระจกใส เดินไปเห็นวิวใต้เท้าแบบชัดแจ๋ว เสียวแบบขาสั่นหงัก ๆ ๆ แต่ก็ฟินสุด ๆ สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูง เป็นกิจกรรมที่ทั้งท้าทาย ได้ชมวิวแบบเต็มตา และได้รูปจำนวนมากกก ถ้าอยากได้อะไรที่น่าจดจำสุด ๆ ในทริปเที่ยวหุบเขาอวตารต้องลองไปเดินบนสะพานแก้วนี้เลย

เหมาะกับ: คู่รัก / สายรักสบาย / ครอบครัว / สายติดแกลม

Zhangjiajie Pullman Hotel เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ทำเลดีมากเพราะสามารถเดินทางไปยังหุบเขาอวตารได้ง่าย ห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งอ่างอาบน้ำ วิวภูเขา และบริการอาหารเช้าระดับโรงแรมหรู จุดเด่นคือมี shuttle bus ไปส่งยังสถานที่ท่องเที่ยวหลัก และยังมีบริการไกด์ท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี เหมาะกับใครที่อยากพักผ่อนแบบเต็มที่หลังลุยเดินเขาทั้งวัน บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ มีสวนและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ช่วยเติมพลังให้ทริปเที่ยวหุบเขาอวตารสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

เหมาะกับ: สายชิล / สายเที่ยวคนเดียว / กลุ่มเพื่อน / สายรักความสะดวก

โรงแรมสไตล์บูติกหรูที่ขึ้นชื่อในหมู่นักเดินทางต่างชาติ Qinghe Jinjiang International Hotel ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าอุทยานแค่ไม่กี่นาที มีบริการรับส่งสนามบิน และสามารถจัดทัวร์ท้องถิ่นได้ครบจบในที่เดียว จุดเด่นคือห้องพักบางห้องสามารถมองเห็นวิวเขาโดยตรง โดยเฉพาะตอนเช้าจะเห็นหมอกลอยคลอเคลียยอดเขาแบบชัด ๆ ภายในห้องตกแต่งทันสมัยแต่ยังมีความเป็นจีนประยุกต์ สะอาด สบาย มีทั้งร้านอาหาร ฟิตเนส และคาเฟ่บรรยากาศดี เหมาะกับคนที่อยากพักที่สวย ฟังก์ชันครบ และเข้าถึงหุบเขาอวตารได้ง่ายไม่ว่าจะเช้าหรือเย็น

เหมาะกับ: สายประหยัด / Backpacker / สายชิลล์

โฮสเทลคุณภาพสูง ตั้งอยู่ห่างจากทางเข้าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยเพียงเดิน 5 นาที เท่านั้น ห้องมีทั้งแบบ private และ dorm สะอาด มีแอร์ น้ำอุ่น และ Wi‑Fi ฟรี จุดเด่นคือมี common room อ่านหนังสือ เล่นเกม และห้องครัวให้ใช้ รวมถึงบริการรับจองทัวร์ในพื้นที่ ที่จอดรถ ฟรี และพนักงานเป็นกันเองมาก แม้จะไม่หรูหรา แต่โลเคชันดี เดินทางสะดวก เข้าถึงจุดเช็คอินหุบเขาอวตารได้ง่าย Destination Youth Hostel เป็นคำตอบ สำหรับคนประหยัดอยากเอาเงินไปลงกับค่าเข้าสถานที่และกิจกรรมมากกว่า

ถ้ามีคนในกลุ่มที่กลัวความสูงหรือเป็นโรคหัวใจ บางจุดของหุบเขาอวตาร เทียนจื่อซานอาจไม่เหมาะ เช่น ทางเดินกระจกหรือจุดชมวิวริมผาสูง ควรประเมินร่างกายก่อนขึ้นเขา

หุบเขาอวตาร เทียนเหมินซาน คือจุดหมายที่รวมธรรมชาติสุดอลัง บรรยากาศฟีลหนังจีนกำลังภายใน และความตื่นเต้นไว้ในที่เดียว ไม่ว่าคุณจะสายธรรมชาติ สายผจญภัย หรือสายถ่ายรูป ที่นี่คือ "ต้องไปสักครั้งในชีวิต"! ถ้าพร้อมแล้ว 👉 จองตั๋วเครื่องบินและที่พักใกล้หุบเขาอวตารในจางเจียเจี้ยแบบง่าย ๆ ได้เลยที่ Traveloka สะดวก ครบ จบในที่เดียว