Traveloka TH
17 May 2022 - 8 min read
ล่องเรือเที่ยว Udaipur – อุทัยปุระ เมืองโรแมนติกที่สุดในประเทศอินเดีย! 2 วัน 1 คืน :)
ลืมภาพอินเดียในความทรงจำไปได้เลย!
ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมือง ‘Udaipur – อุทัยปุระ’ ประเทศอินเดีย
เมืองที่มีสถานที่เช็คอินสวยๆ ให้ได้ไปตามรอยถ่ายรูปลง Instagram อวดเพื่อนๆ
เมืองที่ถูกขนานนามว่า “โรแมนติกที่สุดในประเทศอินเดีย”
และเมื่อได้มาเยือนจริงๆแล้ว ที่นี่ก็สวยหวานโรแมนติกมากจริงๆ ไม่ได้โฆษณาเกินจริงเลยนะเธอจ๋า!
อุทัยปุระ “เมืองแห่งอาทิตย์อุทัย” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศอินเดียภาคตะวันตก ในรัฐราชสถาน หรือ รัฐแห่งพระราชา ซึ่งนับว่าเป็นเมืองเก่าเมืองแก่มากๆแห่งหนึ่ง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า City of Lakes เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีทะเลสาบล้อมรอบ เหมาะแก่นักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติมากๆ ที่เน้นเดินเที่ยวเมืองชมวิว บรรยากาศยามเย็น พบปะผู้คน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนพื้นที่ เป็นเมืองที่เรารู้สึกว่า สงบ สวย ยืนนิ่งๆได้นาน : )
DAY 1-
เราเดินทางมาจากเมืองอาห์เมดาบัด ซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงก็เป็นช่วงเย็นแล้ว ในวันแรกนี้เลยเน้นเดินเล่นแถวเมืองดูบรรยากาศไปก่อน ซึ่งอุทัยปุระก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆนะ
หลงรักตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเลย
วิวริมทะเลสาบสวยมากๆ บ้านเมืองแบบเก่าแก่ ดูขลัง และก็ดูมีอะไรอ่ะ
แบบมันมีเสน่ห์น่าค้นหา เป็น Mood and Tone ที่เราชอบมากๆ สามารถยืนมองอะไรแบบนี้ได้นานๆ
สีสันของบ้านเมืองก็แบบคุมโทนมากๆ มองแล้วสบายตา สบายใจ
คนที่เมืองนี้ก็จะชอบมาเดินเล่นดูวิวรอบทะเลสาบเหมือนนักท่องเที่ยวนั่นแหละ เราจะพบปะคนอินเดียได้ทั่วไปเลย หลากหลายเพศและวัย แต่ก็ขอย้ำอีกทีว่าเราไปเที่ยวอินเดียมาหลายเมืองมากๆ ที่นี่สงบสุดแล้ว
หลังจากเก็บภาพบรรยากาศรอบๆทะเลสาบจนสมใจแล้ว เราก็ดูนาฬิกา และ รู้ว่ายังมีเวลามากพอที่จะไปเก็บให้ได้ซักแลนด์มาร์คนึงในวันแรกนี้
: Jagdish Temple :
ค่าเข้าชม: ฟรี
วัดนี้เป็นวัดฮินดู เป็นวัดขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ 1651 โดดเด่นด้วยงานแกะสลัก ที่ถูกตกแต่งอยู่รอบๆบริเวณวัดแห่งนี้ ที่นี่มีงานแกะสลักและรูปปั้นที่งดงามเยอะมากๆ เดินเล่นได้เพลินๆ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุทัยปุระเลย ไม่ไกลจาก City Palace ด้วย สามารถเดินไปได้ง่ายมาก แถมแถวนี้ก็มีร้านค้าให้ได้ช้อปปิ้งของพื้นเมืองต่างๆ เพียบเลยนะ แนะนำเลยว่าต้องมา!
หลังจากเดินชมบรรยากาศรอบๆวัดจนทั่วแล้ว เราก็เดินออกมาช้อปปิ้งต่อ
ตลาดที่นี่น่าเดินมาก มีของหลากหลายมาก เน้นเป็นของพื้นเมือง ของพื้นถิ่น ที่เหมาะจะซื้อเป็นของฝาก หรือเก็บเป็นที่ระลึกว่าครั้งนึงเคยได้มาที่นี่นะ เดินจนได้ของฝากครอบครัวแล้ว ก็กลับเข้าพักที่โรงแรม
: Zostel :
เราพักที่โรงแรมที่ชื่อว่า Zostel จริงๆที่นี่ก็มีที่พักหลากหลายให้เลือก มีทั้งที่เห็นวิวทะเลสาบแบบที่เรานอน สามารถเลือกได้เลยนะ เพราะบริเวณรอบทะเลสาบก็เป็นจุดศูนย์กลางทั้งหมดเลย นอนที่ไหนก็ได้
และนี่ก็เป็นวิวจากที่พักของเราเอง ถือว่าเด็ดดวงมาก
เป็นอันว่าจบทริปวันแรก พรุ่งนี้เรามาเที่ยวอุทัยปุระแบบเต็มๆวันกันต่อ : )
DAY 2-
วันนี้เราตั้งใจจะเก็บแลนด์มาร์คของเมืองนี้ให้ครบให้ได้ เลยเริ่มต้นวันเช้าหน่อย เพราะมีเวลาอยู่เมืองนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว! วันนี้แพลนคร่าวๆคือตั้งใจจะไปพระราชวัง และ ไปล่องเรือรอบทะเลสาบ ชมบรรยากาศเมืองอีกมุมมองนึง
: City palace of Udaipur :
ค่าเข้าชม: 300 รูปี
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของเมืองนี้ ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางของเมืองเลย ก็คือพระราชวังแห่งนี้แหละ เป็นพระราชวังที่สวยงามมาก (สวยจริงจัง)พระราชวังนี้ใหญ่ที่สุดในรัฐราชสถาน หรือ รัฐแห่งพระราชา ถูกสร้างโดย Maharana Udai Singh เมื่อปี ค.ศ. 1559
ส่วนของพระราชวังภายใน แค่เดินตามป้ายก็ใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากมีห้องเยอะมากๆ มุมถ่ายรูปเพียบจ้า เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว มีรูปอัพยาวๆไปตลอดทั้งปี ด้วยความที่พระราชวังถูกสร้างมานานมาก และเก่าแก่มาก ทำให้มีการต่อเติมจากหลายยุคหลายสมัย จึงทำให้มีหลายๆส่วนภายในให้ชม และน่าสนใจทุกจุดเลยเธอ เราแนะนำว่าให้ใช้เวลากับที่นี่หน่อยนะ เดินเพลินๆดี
มุมสวยๆเยอะมากจริงๆ ตัวพระราชวังถูกสร้างจากหินแกรนิตและหินอ่อนเป็นหลัก
แกะสลักแบบสวยงามมาก ภายในคือถ้าได้ตั้งใจเดินดูจริงๆนะ ทุกส่วนคือเป็นงานศิลป์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาแบบละเอียดอ่อนมาก ตกแต่งวิจิตรงดงามมากๆ
นี่ห้องต่างๆที่ว่า คือมันมีเยอะมากๆ หลายมุม หลายสไตล์ แบบตกแต่งจากหลายๆยุคสมัยอย่างที่เราบอกไป ถือว่าทุกห้องมีเสน่ห์ในตัวเองมาก เพราะโดดเด่นกันคนละแบบเลย
ระหว่างที่เดินชมแต่ละห้องแบบตั้งใจ เราก็รู้สึกว่าสถาปัตยกรรมของอินเดียถ่ายรูปออกมายังไงก็สวยอ่ะ
ด้วยรูปแบบของการตกแต่งด้วยแหละ มันทำให้ Mood ภาพทุกอย่างมันสวยมาก แทบไม่ต้องแต่งอะไรมากเลย
คนในพระราชวังจะเยอะประมาณนึงนะ เพราะอย่างที่บอกว่าที่นี่คือไฮไลท์ของเมืองนี้ที่ทุกคนต้องมา ทำให้มีทั้งทัวร์ลง คนอินเดียพาครอบครัวมาเที่ยว เด็กๆมาทัศนศึกษา และก็พวกเราเหล่านักท่องเที่ยวนี่แหละ เพราะฉะนั้นคำแนะนำคือ อยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆเดินชมความสวยงามไปเรื่อยๆ รอจังหวะดีๆ ก็จะได้รูปสวยๆที่ไม่ค่อยติดคน
เสร็จจากการทัวร์พระราชวัง ก็ไปล่องเรือรอบทะเลสาบกัน!
: ทะเลสาบ Pichola :
ค่าตั๋ว : 500 รูปี
จากตัว City Palace จะมีที่ให้ซื้อตั๋วสำหรับล่องเรือทะเลสาบ Pichola โดยท่าเรือจะตั้งอยู่หลัง City Palace เลย หาไม่ยาก เมื่อได้ตั๋วลงเรือเรียบร้อย เรือก็จะพาล่องเข้าไปในเมือง
สำหรับเราก็เป็นการล่องเรือที่เพลินๆดีนะ ดูวิวไปเรื่อยๆ ปลายทางของเรือเที่ยว จะไปจบที่ Lake Garden Palace ซึ่งปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหารกลางทะเลสาบไปแล้ว
อุทัยปุระ เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ มีความคลาสสิคมากๆ พร้อมด้วยความสวยงามทางโบราณสถาน ผู้คนเป็นมิตรยิ้มแย้ม และชอบถ่ายรูปมากๆ แค่ยกกล้องทุกคนก็พร้อมยิ้มให้ เราบอกแล้วว่าคนอินเดียน่ารักจริงๆนะ 555
เห็นรอยยิ้มพวกนี้แล้วอยากมาเที่ยวอินเดียมากขึ้นมั๊ย ? : )
เสร็จจากการล่องทะเลสาบก็เป็นอันจบทริปสั้นๆที่เมืองอุทัยปุระของเราแล้ว
ระยะเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวอุทัยปุระได้หลายแลนด์มาร์คนะ ใครมีแพลนจะมาแวะเที่ยวที่เมืองนี้อยู่แล้ว ก็สามารถลอกรูทเราได้เลย ไม่แน่นจนเกินไป เราเน้นใช้เวลาไปกับการอินกับวัฒนธรรม และ โบราณสถานของเค้ามากกว่า
โบกมือลา “อุทัยปุระ” ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ
โดยรวมเราชอบเมืองนี้มากนะ วิวสวย สถาปัตยกรรมอลังการ ผู้คนก็น่ารัก !
อินเดียเป็นอีกรูทที่น่าสนใจมากนะ
เหมาะกับการมากับแก๊งเพื่อน ราคาถูก ได้ฟิลแบบ EXOTIC INDIA จริงๆ
เราอยากให้ทุกคนลบภาพอินเดียที่คิดไว้ในหัว แล้วออกเดินทางไปดูด้วยตัวเอง
สิบปากว่า ไม่เท่าหนึ่งตาเห็นนะเชื่อเราเหอะ เปิดใจซะ !
ฝากติดตามรีวิวเจ๋งๆอีกเยอะแยะบานเบอะ ทั้งในไทยและต่างประเทศได้ที่…
FB: RelationTrips https://www.facebook.com/relationtripsss :)
หวังว่าทุกคนจะหลงรัก ‘อุทัยปุระ’ เหมือนเรานะ : )
Instagram
TikTok
Youtube
Twitter
