0

Traveloka TH

29 Apr 2024 - 2 min read

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ตึกที่สูงที่สุดใจกลางกรุงโตเกียว

ที่พักโตเกียวสกายทรี

หากพูดถึงตึกที่สูงที่สุดในโลกแถบฝั่งเอเชีย โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) คงเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนนึกถึงอย่างแน่นอน หอคอยสูงที่ตั้งโดดเด่นใจกลางนครโตเกียวซึ่งไม่ได้มีดีแค่จุดชมวิวที่สวยงามเท่านั้น แต่ที่เที่ยวแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยจุดเช็กอิน และกิจกรรมสนุก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ตามเก็บเช็กลิสต์กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มุมถ่ายรูปสุดชิค, เยี่ยมชมงานศิลปะ, ช้อปของที่ระลึก ตลอดจนเดินเล่นตามจุดท่องเที่ยวรอบ ๆ โตเกียวสกายทรี

หากไม่อยากพลาดขึ้นมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษบนหอคอยแห่งนี้ก็ต้องรีบกดจอง ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นจากแอป Traveloka พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ และบริการมากมายสำหรับคุณโดยเฉพาะ แล้วเดินทางไปเที่ยวโตเกียวสกายทรีตามบทความนี้กันเลย!

ทำความรู้จักโตเกียวสกายทรี แลนด์มาร์กสำคัญห้ามพลาดของญี่ปุ่น

จุดถ่ายรูปโตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นหอคอยที่ผสมผสานการออกแบบดั้งเดิมกับความทันสมัยไว้อย่างลงตัว โดยในปี 2011 หอคอยแห่งนี้ถูกบันทึกว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกจากกินเนสส์ เวิลด์ (Guinness World Records) ซึ่งแน่นอนว่ารอบ ๆ บริเวณโตเกียวสกายทรีต่างเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิงที่อยู่ใกล้กับรถไฟหลากหลายสาย หากได้นอนพักในโรงแรมญี่ปุ่นใกล้ ๆ บริเวณนี้ ก็สามารถเดินทางไปตะลอนเที่ยวจุดเช็กอินต่าง ๆ ในโตเกียวได้ง่าย ๆ เลย

ประวัติโตเกียวสกายทรี

ประวัติโตเกียวสกายทรีTokyo Skytree หรือ New Tokyo Tower นั้นเริ่มแรกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหอคอยกระจายสัญญาณแบบดิจิทัลในเมืองหลวงแทนโตเกียวทาวเวอร์ ที่ไม่สามารถส่งสัญญาณคลื่นให้ครอบคลุมทั่วเมืองได้ ที่เที่ยวแห่งนี้ถูกสร้างเสร็จในปี 2012 กับความสูง 634 เมตร โดยบริษัทญี่ปุ่น Tobu Railway ใช้เวลาสร้างประมาณ 5 ปี ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ชมวิวเมืองโตเกียวของนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก

ที่ตั้งของโตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรีตั้งอยู่ในเขตซูมิดะ (Sumida) เป็น 1 ใน 23 เขตพิเศษของเมืองโตเกียว และจัดอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู (Honshu) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบขนาดใหญ่ ที่เที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในโตเกียว เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมิดะ ห้างโตเกียวโซลามาจิ สวนดอกไม้มูโกจิมะ เป็นต้น

เราสามารถเยี่ยมชมโตเกียวสกายทรีได้ช่วงไหนบ้าง

คุณสามารถมาเที่ยวโตเกียวสกายทรีได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว ในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมกับเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคมนั่นเอง เพราะมีสภาพอากาศเย็นสบาย และท้องฟ้าปลอดโปร่งทำให้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมกับทิวทัศน์เมืองโตเกียวได้อย่างงดงาม โดยมีค่าเข้าชมเริ่มต้นอยู่ที่ 1,100 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 550 เยนสำหรับเด็ก ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือกดซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่นี่ จองตั๋ว Tokyo Skytree Observation Deck

การเดินทางไปยังโตเกียวสกายทรี

คุณสามารถเดินทางไปโตเกียวสกายทรีได้หลากหลายวิธีการเดินทาง แต่วิธีที่สะดวก และรวดเร็วที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองก็คือ รถไฟและรถบัส Traveloka เราได้รวบรวมวิธีการเดินทางมาให้คุณแล้ว สามารถเลือกวิธีการเดินทางที่คุณชื่นชอบได้ตามรายละเอียดด้านล่างกันเลย

การเดินทางด้วยรถไฟ

การเดินทางไปเที่ยวโตเกียวสกายทรีด้วยรถไฟสามารถเดินทางได้หลากหลายสาย ดังนี้

นั่งจากสายโทบุสกายทรี (Tobu Skytree Line) มาลงสถานี Tokyo Skytree หากขึ้นจากสถานี Asakusa ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดในการเดินทาง จะใช้ระยะเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นเดินต่ออีก 1 นาทีจะถึงจุดหมายนั่นเอง
นั่งจากสายเคเซ (Keisei Line) หรือสายฮันโซมง (Tokyo metro Hanzomon Line) หรือสายอาซากุสะ (Toei Asakusa Line) มาลงสถานี Oshiage Station หลังจากนั้นเดินต่ออีก 7 นาทีจะถึงจุดหมาย
นั่งจากสายกินซ่า (Tokyo Metro Ginza Line) มาลงสถานี Asakusa Station หลังจากนั้นเดินต่ออีก 15-20 นาทีจะถึงโตเกียวสกายทรี

การเดินทางด้วยรถบัส The Skytree

เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะมีรถบัสให้บริการรับส่งคุณถึงโตเกียวสกายทรีได้

แบบสบาย ๆ ซึ่งรถบัสที่ให้บริการมีประจำอยู่หลายบริเวณ ได้แก่ สนามบินฮาเนดะ, สถานีโตเกียว, โตเกียวดิสนีย์ รีสอร์ท, จุดรับส่งระหว่างอูเอะโนะและอาซากุสะ เป็นต้น สำหรับจุดรับส่งระหว่างอูเอะโนะและอาซากุสะรถบัสจะให้บริการทุก ๆ 10-30 นาที มีราคาโดยสารอยู่ที่ 200 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 110 เยนสำหรับเด็ก สามารถดูตารางเวลารถบัสได้ที่เว็บไซต์หลัก https://www.tobu-bus.com/en/skytree/ueno_asakusa.html

จุดเช็กอินน่าสนใจรอบโตเกียวสกายทรี

แน่นอนว่าโตเกียวสกายทรีมีจุดเช็กอินสำหรับนักท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวกรุงโตเกียว งานแสดงศิลปะ และร้านค้าขายของฝากสุดน่ารักที่เรารวบรวมมาให้คุณแล้ว จุดเช็กอินยอดฮิตรอบโตเกียวสกายทรีจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันที่ด้านล่างนี้เลย

จุดชมวิวที่ความสูง 350 เมตร (Tembo Deck)

จุดชมวิวที่ความสูง 350 เมตร

พบกับแลนด์มาร์กโตเกียวสกายทรียอดนิยมบน “จุดชมวิวที่ความสูง 350 เมตร” หรือชั้น Tembo Deck เป็นจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นเมืองโตเกียวได้แบบรอบทิศกับแม่น้ำซูมิดะให้คุณถ่ายรูปมุมต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีเบื่อ กิจกรรมน่าเล่นในชั้นนี้คือ Tokyo Space-Time Navigator เป็นการชมวิวด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย นอกจากนี้โตเกียวสกายทรียังมี ‘สกายทรี คาเฟ่’ ให้คุณนั่งจิบเครื่องดื่มไปพร้อมกับวิวหลักล้านสวย ๆ กันอีกด้วย

จุดชมวิวความสูง 450 เมตร (Tembo Galleria)

หากความสูงจากชั้น Tembo Deck ยังไม่ตื่นเต้นพอเราขอแนะนำให้คุณขึ้นมา “จุดชมวิวความสูง 450 เมตร” หรือ ชั้น Tembo Galleria ที่สามารถมองเห็นวิวทั่วเมืองได้กว้างมากขึ้นจากกระจกใสล้อมรอบทั่วอาคารแบบ 360 องศา พร้อมสัมผัสความหวาดเสียวบนจุด Sorakara Point ซึ่งเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดในระดับ 451.2 เมตรนั่นเอง ภายในโตเกียวสกายทรีชั้นนี้มีจัดนิทรรศการ และการแสดงหลากสีให้เข้ากับช่วงเทศกาลพิเศษอีกด้วย

โถงแสดงงานศิลปะ (Skytree Gallery)

โถงแสดงงานศิลปะ

อีกหนึ่งที่เที่ยวโตเกียวสกายทรีที่นักท่องเที่ยวแวะชมเป็นประจำก็คือ “โถงแสดงงานศิลปะ” ที่จัดแสดงเกร็ดความรู้ของหอคอยแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นประวัติ, โครงสร้าง, ภาพถ่ายเมืองบนอาคาร รวมถึงแวะชมประติมากรรมงานฝีมือที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโตเกียวสกายทรี โดยคุณสามารถเข้าชมที่เที่ยวแห่งนี้ได้บริเวณชั้น 1 ของอาคาร

ร้านขายของที่ระลึก The Skytree Shop

หากใครกำลังมองหาร้านขายของฝากก็สามารถแวะมาที่ “ร้านขายของที่ระลึก The Skytree Shop” กันได้ ภายในร้านเต็มไปด้วยสินค้าญี่ปุ่นแบรนด์ดัง และสินค้าที่จัดทำขึ้นพิเศษเฉพาะที่โตเกียวสกายทรี ไม่ว่าจะเป็นที่ห้อยพวงกุญแจ โปสการ์ด โตเกียวสกายทรีไซซ์จำลอง เป็นต้น โดยร้านขายของที่ระลึกเปิดให้บริการหลายชั้น ได้แก่ ชั้น 1 ชั้น 5 และชั้น Tembo deck

SKYTREE ROUND THEATER

หากใครชมวิวและถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็สามารถแวะ “SKYTREE ROUND THEATER” จุดฉายภาพบนจอกว้างแบบพาโนรามาที่ติดอยู่บนชั้น Tembo Deck จุดเช็กอินนี้คุณจะได้เพลิดเพลินภาพโตเกียวสกายทรีในรูปแบบดิจิทัล โดยโปรแกรมการฉายภาพจะมีให้นักท่องเที่ยวชมแตกต่างกันไปตามฤดูกาล หากใครได้แวะมาเที่ยวโตเกียวสกายทรีอย่าลืมเช็กรอบฉายด้วยนะ

พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ญี่ปุ่น (Postal Museum Japan)

มาเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ญี่ปุ่น” ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวสกายทรี ตั้งอยู่ใน ‘ห้างโซลามาจิ’ ชั้น 9 ภายในจัดแสดงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับไปรษณีย์ญี่ปุ่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสารของชาวญี่ปุ่นสมัยก่อน และจัดแสดงเอกสารสำคัญตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะมากกว่า 400 ชิ้นเลยทีเดียว หากคุณได้มาส่งจดหมายในที่เที่ยวแห่งนี้ก็จะได้ประทับตราที่มีสัญลักษณ์โตเกียวสกายทรีด้วยนะ

กิจกรรมห้ามพลาดที่โตเกียวสกายทรี

นอกเหนือจากการไปโตเกียวสกายทรีเพื่อขึ้นมาชมวิวที่สามารถมองเห็นกรุงโตเกียวได้แบบรอบทิศ 360 องศาแล้ว รอบ ๆ ที่เที่ยวแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมายทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน รับรองว่าได้มุมถ่ายรูปโตเกียวสกายทรีสวย ๆ และของที่ระลึกเก็บกลับไปเป็นของฝากอย่างแน่นอน

ชมแสงสีของโตเกียวสกายทรียามค่ำคืน

ชมแสงสีของโตเกียวสกายทรี

นอกจากจะมาชมโตเกียวสกายทรีในตอนกลางวันแล้ว วิวหอคอยแห่งนี้ยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบเช่นกัน เพราะคุณจะได้เห็นไฟประดับโตเกียวสกายทรีหลากสีทั่วทั้งอาคาร โดยแต่ละสีนั้นสะท้อนออกมาตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น ได้แก่ สีม่วง (สีแห่งความงาม) สีฟ้า (สีแห่งสายน้ำ) และสีส้ม (สีแห่งความโชคดี) หากเป็นช่วงวันพิเศษก็จะได้เห็นหลากหลายสีเลยทีเดียว ใครแวะมาเที่ยวโตเกียวห้ามพลาดเชียว

เก็บตราปั๊มสำหรับส่งโปสการ์ดพิเศษ

หนึ่งในกิจกรรมสุดพิเศษที่ให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาชมวิวชั้น Tembo Deck บนโตเกียวสกายทรีนั่นก็คือ การส่งจดหมายหรือโปสการ์ด พร้อมกับปั๊มตราประทับสุดเอกซ์คลูซีฟก่อนใส่ลงตู้ไปรษณีย์โตเกียวสกายทรีสีแดงขนาดจิ๋ว เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการเช็กอินบนตึกสูงให้แก่ครอบครัวหรือเพื่อนสนิทของคุณนั่นเอง แสตมป์และโปสการ์ดก็มีหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกตามความชอบ

แวะชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมิดะ (Sumida Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมิดะ

อีกหนึ่งที่เที่ยวรอบโตเกียวสกายทรีที่ไม่ควรพลาดอย่าง การแวะชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมิดะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 และ 6 ในโตเกียวสกายทรี ที่เที่ยวแห่งนี้มีฝูงเพนกวิน และแมวน้ำแหวกว่ายในแทงก์น้ำขนาดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้มาแวะถ่ายรูปกัน นอกจากนี้ ไฮไลต์สำคัญของที่นี่ก็คือ ‘แทงก์น้ำโอกาซาวาระ’ ที่จำลองท้องทะเลตามหมู่เกาะโอกาซาวะระให้คุณได้ใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำมากขึ้นนั่นเอง ใครชื่นชอบสัตว์น้ำต้องไม่พลาด!

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร