นราธิวาส คือจังหวัดหนึ่งในโซนใต้สุดของประเทศไทยที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยได้เคยทำความรู้จักซักเท่าไหร่นัก ทั้งที่จริงๆ แล้วที่นี่มีพิกัดน่าปักหมุดกันหลายจุดเลยเชียวละ จะเป็นทะเล น้ำตก หรือผืนป่า ก็บอกได้เลยว่าของเค้าดีนะจ๊ะ ใครกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนบรรยากาศสงบสบายไม่พลุกพล่าน ลองมาจัดกันซักแม็ทช์ได้เลยจ้า เดินทางก็ง่ายนะ แค่จองตั๋วเครื่องบินนราธิวาสกับ Traveloka ก็บินตรงมาลงนราธิวาสกันได้เลยละ ก่อนอื่นไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่เที่ยวน่าสนใจในนราธิวาสน่ะมีอะไรบ้าง

หลายคนอาจจะรู้จักที่นี่ในชื่อทะเลหมอกบ้านภูเขาทอง เพราะตั้งอยู่ที่ตำบลภูเขาทองในอำเภอสุคิริน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าฮาลา - บาลา ทะเลหมอกที่นี่เดินทางไม่ยากเท่าไหร่นะ จากบริเวณจุดจอดรถก็เดินเท้ากันต่ออีกประมาณ 800 เมตรเท่านั้นจ้า ซึ่งแม้ระหว่างทางจะต้องมีการปีนป่ายเดินขึ้นที่ชันกันบ้างเล็กๆ แต่ก็นับว่าไม่ยากเกินไป ความเก๋ก็คือที่นี่มีทะเลหมอกให้ชมกันได้ทุกฤดูเลยจ้า ไม่ต้องรอถึงปลายปีก็มาชมหมอกแน่นๆ ได้ที่นี่นะ เก๋จะตาย!

น้ำตกสวยบรรยากาศสบายที่แตกต่างจากน้ำตกอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ตรงที่น้ำตกนี้ไม่ได้มีผาสูงชันอันทำให้เกิดสายน้ำไหลบ่าจากที่สูงแต่อย่างใด เพราะความสวยของที่นี่คือสายน้ำที่ไหลรินไปตามทางลาดจากแนวป่าด้านบน ตลอดเส้นทางยังมีแอ่งน้ำและลานหินไว้ให้แวะนั่งเล่นชิลล์ๆ กันได้ตลอดทาง หากจะลงเล่นน้ำก็ควรใช้ความระมัดระวังกันหน่อยน้า เพราะบางช่วงกระแสน้ำจะแรงมาก ว่ากันว่าหากควักสมาร์ทโฟนออกมาดูเวลา ก็จะเห็นว่าเวลาที่นี่เดินหน้าเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมงด้วยนะ เพราะระบบจะไปจับสัญญาณจากทางฝั่งมาเลย์มาจ้า ลองดูนะว่าจริงมั้ย

ชื่อเต็มๆ ของที่นี่ก็คือมัสยิดวาดีลฮูเซ็นหรือมัสยิดตะโละมาเนาะ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2167และแม้ผู้คนมักนิยมเรียกที่นี่ว่ามัสยิด 300 ปี แต่จริงๆ แล้วถ้านับดูดีๆ อายุมัสยิดก็ฟาดเข้าไปเกือบ 400 ปีแล้วจ้า ความเก๋ของที่นี่ก็คือการเป็นมัสยิดซึ่งสร้างจากไม้ตะเคียนทั้งหลัง โดยใช้วิธีการตอกสลักแทนการตอกตะปู มีหน้าตาเป็นอาคารไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับสถาปัตยกรรมแบบจีนและมลายู มีลวดลายฉลุงดงามตามบริเวณช่องลมให้ชมกัน ถ้าอยากเข้าชมด้านในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้านกันก่อนนะ คนรักงานออกแบบอย่าพลาดเชียว

ถ้าพูดถึงการมาเที่ยวชายหาดทางภาคใต้ หลายคนน่าจะคิดถึงบรรยากาศของหาดทรายขาวๆ และน้ำทะเลใสๆ แต่หาดบ้านทอนนั้นต่างออกไปจ้า เพราะที่นี่คือแหล่งผลิตเรือกอและที่เหลืออยู่เป็นแห่งสุดท้ายในจังหวัดนี้ นี่จึงเป็นชายหาดที่เราจะได้เห็นเรือสวยสีสันสดใสจอดเรียงรายอยู่ตามชายหาด และยังมีวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านในท้องถิ่นให้เราได้เดินเล่นเดินชมกันอีกด้วยนะ เดินเล่นก็เพลิน เดินหาโลเกชั่นถ่ายรูปก็มีให้เลือกกันเพียบเลยจ้า อย่าลืมแวะมาเช็คอินกัน

ผืนป่าชายแดนไทย - มาเลเซียซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 270,000 ไร่ รวมถึงพื้นที่ในเทือกเขาสันกาลาคีรี โดยที่นี่เป็นป่าดงดิบซึ่งมีอาณาเขตไม่ต่อเนื่องกัน ประกอบด้วยผืนป่าฮาลาในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส กับป่าบาลาที่ครอบคลุมอำเภอแว้งและอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นส่วนที่เปิดให้เราเดินทางเข้าไปชมความสมบูรณ์ของธรรมชาติกันได้แบบสะดวกสุดๆ เลยละ แค่ขับรถไปตามเส้นทางถนนสายความมั่นคงหรือทางหลวงหมายเลข 4062 ซึ่งตัดผ่านผืนป่า ระหว่างทางมีจุดให้แวะชมกันเพียบเลยจ้า สายเขียวต้องมาโดนให้ได้เลย

เป็นอุทยานฯ กว้างซึ่งกินพื้นที่ถึง 4 อำเภอกันเลยละ โดยมีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงตัวจากทิศเหนือจรดใต้ และเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ เลยจ้า ภายในอุทยานฯ มีน้ำตกสวยๆ ให้ชมกันหลายแห่งเลยนะ ที่ไม่ควรพลาดก็คือน้ำตกซีโปซึ่งมีความสูงถึง 7 ชั้น โดยว่ากันว่าบริเวณชั้น 7 นั้นถือเป็นไฮไลท์ที่ต้องไปชมความสวยกันให้ได้เลยละ มาแล้วต้องแวะไปเช็คอิน

เป็นชายหาดซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าวโค้งยาวต่อเนื่องกันไปถึง 4 กิโลเมตรเลยจ้า โดยหาดนี้นั้นเป็นชายฝั่งทะเลซึ่งมีโขดหินใหญ่สลับกับหาดทรายเป็นระยะ และเป็นพิกัดที่สายเขียวน่าจะถูกใจ เพราะที่ริมหาดนั้นมีสวนรุกขชาติให้แวะเดินชมกันด้วยจ้า แถมยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาดความยาว 1 กิโลเมตรให้เดินชมพันธุ์ไม้ที่รักความร้อนแล้งของสภาพแวดล้อมบริเวณนี้ให้เดินดูกันอีกด้วยนะ หาดก็สวย ต้นไม้ก็มีให้ดูกันแบบจุใจ เป็นอีกหาดที่น่าไปเช็คอิน

จากเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติริมหาดทราย เปลี่ยนบรรยากาศไปเดินชมต้นไม้ในป่าพรุกันบ้างดีกว่านะ แถมยังไม่ธรรมดาเพราะนี่คือป่าพรุซึ่งมีพื้นที่และความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของประเทศไทย ในป่าพรุแห่งนี้จึงมีธรรมชาติทั้งสัตว์ป่าและพรรณไม้ให้เดินดูกันแบบจุใจไปเลยจ้า เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่นี่มีความยาวราวๆ 2 กิโลเมตรนะ เป็นสะพานไม้ทอดผ่านกลางป่าพรุให้เดินชมความอุดมสมบูรณ์กันได้แบบจุกๆ ไปเลยละ เป็นอีกพิกัดที่สายเขียวห้ามพลาดเลย

อีกหนึ่งชายหาดสวยของเมืองนราธิวาส ซึ่งมีลักษณะเป็นชายหาดโค้งเหมือนวงพระจันทร์ มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ชายหาดที่นี่มีเม็ดทรายสีขาวสวยสะอาดตา มีทิวสนร่มรื่นเป็นแนวยาวริมชายหาด นอกจากที่นี่จะมีบรรยากาศค่อนข้างสงบสบายและเป็นส่วนตัวแล้วนะ ยังมีหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านให้เราเห็นเป็นระยะอีกด้วยจ้า เดินชมวิวไป แวะคุยกับผู้คนท้องถิ่นระหว่างทางไป เป็นอีกหนึ่งอารมณ์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอยากให้ทุกคนได้มาเจอกันจริงๆ

ว่ากันว่าองค์พระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนา ซึ่งอยู่บริเวณยอดเขาของที่นี่ คือองค์พระพุทธรูปกลางแจ้งที่ใหญ่และงดงามที่สุดของภาคใต้เลยเชียวนะ โดยเป็นองค์พระซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามตามศิลปะของช่างชาวอินเดียตอนใต้จึงแลดูแปลกตา องค์พระหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวพุทธในภาคใต้เลยด้วยนะ ใกล้กันยังมีองค์เจดีย์สิริมหามายาซึ่งบนยอดด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้เราไปแวะกราบกันได้ด้วยจ้า สายบุญชอบไหว้พระต้องมาปักหมุดซักครั้งให้ได้เชียว

และนี่คือตัวอย่าง 10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในนราธิวาสที่เราหยิบมากฝากกัน จริงๆ แล้วจังหวัดนี้ยังมีทีเด็ดอีกหลายอย่างเลยนะ ทุกวันนี้นราธิวาสสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นแล้วจ้ะ รีบมาเช็คอินกันเลยน้า คนยังเที่ยวไม่เยอะ สถานที่ต่างๆ จึงยังไม่บอบช้ำเท่าไหร่ อยากได้แบ็คกราวนด์สวยแปลกตา ก็มาหาพิกัดถ่ายรูปเช็คอินกันได้ในจังหวัดนี้เลยจ้า รับรองว่าเก๋ไม่ซ้ำใครแน่นอน