ใครเฝ้ารอคอยที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ในช่วงนี้ รับรองต้องมีเฮ เพราะมีหลายประเทศที่ปลดล็อกเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวกันบ้างแล้ว โดยแต่ละประเทศจะมีเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศแตกต่างกันไป ก่อนตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินอย่าลืมเช็ครายละเอียดกันด้วยละ ถ้างั้นไปดูกัน 15 พิกัดประเทศที่เดินทางได้มีประเทศไหนบ้าง เผื่อเอาไว้เป็นไอเดีย สำหรับใครที่อยากจะจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศในช่วงนี้ รวมถึงลิสต์เอาไว้ก่อนก็เป็นไอเดียที่ดีอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

“กาตาร์” ประเทศเล็กๆ ในอ่าวอาหรับ เจ้าของฉายา “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” มีที่เที่ยวหลักๆ อย่างเช่น “เดอะเพิร์ลกาตาร์” (The Pearl Qatar) เกาะรูปไข่มุกที่สร้างโดยมนุษย์ “พิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม” (Museum of Islamic Art) สถานที่รวบรวมผลงานงานศิลปะและวัฒนธรรมอาหรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และ “ตลาดวาคิฟ” ที่มีอัญมณี เครื่องเทศ และงานฝีมือให้ซื้อเป็นของฝาก

จอร์เจีย มีเมืองหลวงชื่อ “ทบิลิซี่” (Tbilisi) เมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้เดินเล่นถ่ายรูปในย่านเมืองเก่า “โรงละครเรโซกาเบรียดเซ” (Rezo Gabriadze Theatre) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หอนาฬิการูปร่างบิดเบี้ยว และฮอลล์คอนเสิร์ตหน้าตาโมเดิร์นที่ชื่อ “Rike Concert Hall” อีกจุดห้ามพลาดคือ “โบสถ์สมินดาซาเมบา” (Tsminda Sameba Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัสสวยอลังการมากๆ

ดูไบ ประเทศสุดศิวิไลซ์ ล้ำสมัยเปรียบดั่งเมืองสวรรค์ มีทั้งโรงแรมหรูหรา แหล่งช้อปปิ้งสุดเริ่ด และสถานที่ท่องเที่ยวสุดปัง อย่างเช่น “ตึกเบิร์จคาลิฟา” (Burj Khalifa) เจ้าของสถิติอาคารที่สูงที่สุดในโลก หมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm Islands) อภิมหาโปรเจ็คที่เต็มไปด้วยจุดปักหมุดมากมาย และอย่าลืมแวะถ่ายรูป “น้ำพุแห่งดูไบ” (Dubai Fountain) น้ำพุเต้นระบำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

สหรัฐอเมริกา ดินแดนแสนกว้างใหญ่ มีทั้งหมด 50 รัฐให้เที่ยวแบบไม่ซ้ำ เที่ยวแนวไหนก็ถูกใจไม่ผิดหวัง มีแลนด์มาร์กโด่งดังอย่างเช่น “เทพีเสรีภาพ” (Statue of Liberty) สัญลักษณ์สำคัญของประเทศ “สะพานโกลเดนเกต” (Golden Gate Bridge) สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก และ “หาดไมอามี” (Miami Beach) หาดชื่อดังของรัฐฟลอริดา (Florida)

ไอซ์แลนด์ สวยงามด้วยภูมิทัศน์แบบประเทศแถบขั้วโลกเหนือ เป็นจุดหมายปลายทางของนักล่าแสงเหนือ มีที่เที่ยวเด่นๆ อย่าง “ธารน้ำแข็งเมียร์ดาลส์” (Myrdals Glacier) ที่ไฮไลท์อยู่ที่ “ถ้ำน้ำแข็งคัทลา” (Katla Ice Caves) ที่มีความสวยงามราวกับอัญมณี ส่วน “ถ้ำน้ำแข็งสกาฟตาเฟล" (Skaftafell Ice Cave) ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull National Park) ก็สวยงามไม่แพ้กัน

ฟินแลนด์ อีกหนึ่งประเทศที่เดินทางไปเที่ยวได้สบายๆ และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักล่าแสงเหนือ โดยเฉพาะที่เขตแลปแลนด์ (Lapland) ที่มีกระท่อมกลางทุ่งหิมะให้นอนชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่เมืองเคมิ (Kemi) มีปราสาทหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้พักค้างคืน ส่วนเมืองแทมเพเร (Tampere) เป็นเมืองเก่าแก่มีพิพิธภัณฑ์ให้เที่ยวชมมากมาย ใครชอบแสงสียามค่ำคืนต้องไปเยือนเมืองตุรกุ (Turku)

ไซปรัส เกาะใหญ่เป็นอันดับ 3 แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มี “นิโคเซีย” (Nicosia) เป็นเมืองหลวงที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ เต็มไปด้วยพระราชวัง คฤหาสน์ วิหาร และโบสถ์ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไฮไลท์คือ “กำแพงเมืองเก่าเวนิทเชียน” (Venetican Walls) ภายในเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ขาช้อปต้องแวะ “ถนนเลดร้า” (Ledra Street) แหล่งช้อปปิ้งบรรยากาศสุดคึกคัก

กรีซ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ กรีซมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามเยอะมากๆ อย่างเช่น “เกาะซานโตรินี” (Santorini Island) จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก “ถ้ำสีน้ำเงิน” (Blue Grotto) ที่ภายในถ้ำมีทะเลสาบสีฟ้าใสแจ๋ว “เขาเมเทออรา” (Meteora Rocks) ผาหินสูงอันเป็นที่ตั้งของอารามลอยฟ้า “เมเทออรา (Meteora)

มัลดีฟส์ งดงามสมดังฉายา “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” เป็น 1 ในประเทศที่เปิดให้เที่ยวได้โดยไม่ต้องกักคัว ที่เที่ยวจุดแรกที่ต้องแวะคือ “มาเล” เมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลกที่มีไฮไลท์คือ “มัสยิดวันศุกร์” (Grand Friday Mosque) มัสยิดเก่าแก่ที่สร้างจากหินปะการัง ใครอยากเห็นโลมาตัวเป็นๆ ต้องไปที่ เกาะมีมุ (Meemu Atoll Island) เกาะที่สวยที่สุดในมัลดีฟส์ ส่วนเกาะที่อยู่สบายที่สุดคือเกาะอาลิ (Ari Atoll Island)

ฝรั่งเศส ประเทศสุดโรแมนติกมี “หอไอเฟล” (Eiffel Tower) เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ นอกจาก “พระราชวังแวร์ซายส์” (Versailles Palace) ที่ได้รับการยกย่องว่างดงามอลังการเป็นที่สุดของโลก ยังมีเมืองต่างๆ ให้ปักหมุดอย่าง “เมืองนีซ” (Nice) เมืองตากอากาศแสนสวย “เมืองเอ็กซองโพรวองซ์” (Aix-en-Provence) เมืองแห่งลาเวนเดอร์และไร่องุ่น

เยอรมนี เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยปราสาทเทพนิยาย มีมนต์เสน่ห์น่าไปเยือน แถมยังเที่ยวได้สบายๆ ไม่เรื่องเยอะ มีสถานที่น่าเที่ยวมากมาย อย่างเช่น “เมืองไลพ์ซิก” (Leipzig) เมืองดนตรีและเสียงเพลง “หุบเขาโรแมนติกไรน์” (Rhine Gorge) เส้นทางหุบเขาที่โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ที่งดงาม และปราสาทยุคกลางกว่า 40 แห่ง และ “เมืองโคโลญ” (Cologne) เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยแสงสีในยามค่ำคืน

โปแลนด์ ประเทศที่มีทัศนียภาพสวยงาม และมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกให้เยี่ยมชม มีเมืองไฮไลท์คือกรุงวอร์ซอ (Warsaw) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ “คราเคา” (Krakow) เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมของโปแลนด์ และ “ซาโกปาเน” (Zakopane) เมืองแห่งขุนเขาและสวรรค์ของนักสกี ส่วน “โทรุน” (Torun) มีย่านเมืองเก่าที่เป็น 1 ใน 30 สถานที่ที่สวยงามที่สุดในโลก

โอมาน ดินแดนแห่งทะเลทราย มี “กรุงมัสกัต” (Muscat) เป็นเมืองหลวง และมีเมืองสำคัญน่าเที่ยวอย่างเช่น รูวี (Ruwi) นิชวา (Nizwa) ซาลาลาห์ (Salalah) และ โซฮา (Soha) กิจกรรม The Must มีตั้งแต่นอนแค้มป์กลางทะเลทราย ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก บุฟเฟต์อาหารเย็น ชมจันทร์นับดาว ขี่อูฐ เล่นแซนด์บอร์ด และซิ่งรถลงจากเนินทะเลทรายสนุกสนานตื่นเต้นสุดๆ

อียิปต์ ดินแดนไอยคุปต์ซึ่งมีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติมากมายให้สำรวจ มีเมืองเด่นๆ ให้แวะเที่ยวอย่างเช่น “ซัคคารา” (Sakkara) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสุสาน นับเป็นแหล่งโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดของโลก “เมมฟิส” (Memphis) เมืองหลวงแรกของอาณาจักรอียิปต์โบราณ และ“กิซา” (Giza) เมืองซึ่งเป็นที่ตั้ง “มหาพีระมิดแห่งกีซา” (The Great Pyramid of Giza) อันยิ่งใหญ่ของอียืปต์

ออสเตรีย ถูกขนานนามว่า “ดินแดนแห่งขุนเขา” ด้วยพื้นที่เกินกว่าครึ่งเป็นภูเขา มีเมืองแสนสวยสุดโรแมนติกให้ตกหลุมรักอย่าง “เวียนนา” (Vienna) เมืองแห่งศิลปะและดนตรีที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่งดงาม “กราซ” (Graz) เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมที่มีบ้านเรือนโบราณกว่าพันหลังให้เยี่ยมชม “ซาลซ์บูร์ก” (Salzburg) บ้านเกิดของ “วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท” (Wolfgang Amadeus Mozart) คีตกวีเอกของโลก

ใครอยากเดินทางออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดประทับใจ หรือกำลังแพลนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศในเร็ววันนี้ แนะนำให้กดเข้ามาอ่านบทความนี้ แล้วเตรียมตัวไปลิสต์ที่เที่ยวต่างประเทศ หรือว่าประเทศที่อยากจะบินไปเที่ยว พร้อมกับเช็คมาตรการสนามบินกับ Traveloka แล้วกดเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย