จอร์เจียยังเป็นสวรรค์สำหรับคนที่รักการได้เดินทางในฟีลแบบยุโรป แต่ราคาติดดินแบบไม่ต้องปวดใจ แถมที่เด็ดสุดคือการที่คนไทยอย่างเราไปเที่ยวจอร์เจียได้แบบฟรีวีซ่า แถมยังได้เวลาอยู่ในประเทศถึง 1 ปี!! เรียกว่าถ้ามีเวลานี่คืออยู่สำรวจพื้นที่ของประเทศนี้กันได้ทุกตารางนิ้วเลยเชียวนะ แล้วสำหรับคนที่รักการถ่ายรูปโดยเฉพาะสถาปัตยกรรมและวิวธรรมชาติสุดอลังการทั้งหลาย บอกได้เลยว่าจอร์เจียนี่ละ ปังเว่อร์!!! ด้วยบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เป็นตัวของตัวเองไม่ซ้ำใคร ทำให้จอร์เจียเต็มไปด้วยเสน่ห์ความน่าสนใจ ซึ่งดึงดูดให้ใครต่อใครปักหมุดที่นี่ไว้เป็นจุดหมายในการเดินทาง และหากคุณยังไม่แน่ใจ มาสำรวจไปพร้อมกันก่อนก็ได้ว่าถ้าไปที่นี่ จะมีวิวแบบไหนไว้ลง ig กันได้บ้าง จะได้คิดชุดหาพร็อพกันไว้ก่อนล่วงหน้า รับรองว่าได้รูปปังๆ แบบไม่มีคำว่าพังแน่นอน

แต่สำหรับใครที่กำลังจะเดินทาง อย่าลืมตรวจสอบมาตรการของสนามบินปลายทางที่นี่ และจองตั๋วเครื่องบินโปรเด็ดกับ Traveloka นะ ซึ่งตอนนี้คุณสามารถคลิกเลือกโปรโมชั่นที่ต้องการได้ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Promo Filter แล้วระบบจะแสดงผลเฉพาะเที่ยวบินมีโปรโมชั่นตรงกับที่คุณเลือกไว้เลย

เรียกว่านี่คือหนึ่งวิวที่เป็นจุดขายซึ่งชวนให้หลายคนแพ็คกระเป๋าไปจอร์เจียกันแบบไม่ต้องคิดมาก กับวิวโบสถ์สวยกลางเทือกเขาคอเคซัสที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ โดยโบสถ์ในยุคศตวรรษที่ 14 แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงประมาณกว่า 2,000 เมตร ใช้หินแกรนิตเป็นวัสดุหลัก สวยคลาสสิกในรูปแบบยุโรปโบราณ แล้วยิ่งมีฉากหลังสุดตระการตาอย่างเทือกเขาที่มีความสูงมากกว่า 5,000 เมตรมาเป็นแบ็คกราวนด์สุดตะลึง หามุมถ่ายรูปให้ดี เชื่อว่าที่นี่เรียกไลค์ได้รัวๆ

ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 4 แห่งนี้ มีชื่อป้อมเป็นภาษาเปอร์เซียซึ่งแปลว่าป้อมซึ่งไม่สามารถตีแตกได้ โดยตลอดเวลาที่นี่ก็ไม่เคยมีข้าศึกทำลายลงได้จริงๆ แหละ เริ่ดมะ แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายบ้างดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน กลับเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อราวๆ 200 ปีก่อนนี่เอง ตัวป้อมตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการใช้ชมวิวตัวเมือง Tbilisi ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่มาจอร์เจียก็ต้องแวะมาเช็คอิน ถ่ายจากป้อมก็เห็นตัวเมือง ถ่ายจากตัวเมืองก็เห็นป้อม สะดวกแบบไหนก็เลือกได้เลย

หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางวงล้อมแห่งขุนเขาของเมือง Khevsureti แห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทางตอนเหนือของจอร์เจีย ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับประเทศ Chechnya หมู่บ้าน Shatili แห่งนี้โดดเด่นมากในเรื่องของสถาปัตยกรรมตั้งแต่ราวๆ ศตวรรษที่ 12 หรือ 13 ซึ่งใช้หินวางซ้อนกัน และยังคงเป็นความลับในการก่อสร้างที่ในปัจจุบันนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ที่เจ๋งคือทุกบ้านนั้นมีประตูเชื่อมต่อกัน ทำให้ทุกคนสามารถเดินได้แบบทั่วหมู่บ้านโดยไม่ต้องออกจากประตู คูลป่ะล่าาาา แล้วที่ว้าวมากคือวิวระหว่างทางจ้า เพราะมีถนนเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่มายังหมู่บ้านนี้ได้ ทุกคนจึงมีวิวอลังการให้ได้ผ่านตาเหมือนกันอย่างแน่นอนเชียวละ ที่สำคัญคือหน้าหนาวไปไม่ได้น้าาาา แพลนดีๆ

เรียกว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่คอนทราสต์กันมาก กับความคลาสสิกในย่านเมืองเก่าของทบิลิซี โดยสะพานหน้าตาสุดล้ำให้บรรยากาศทันสมัยเหมือนในหนังไซไฟแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2010 ตัวสะพานสร้างขึ้นจากโครงเหล็กประดับกระจกใส กลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนเมื่อมีการเปิดไฟจะให้บรรยากาศที่สวยต่างไปอีกหนึ่งรูปแบบ มองไกลๆ ก็เริ่ดแล้วนะ แต่มองจากมุมในตัวสะพานก็บอกเลยว่าดีมากกกก มาเมืองหลวงของจอร์เจียเมื่อไหร่ ปักหมุดไว้เลย อย่าพลาดเชียว

หรือ วิหาร Sameba เรียกได้ว่านี่คือโบสถ์นิกายออโทดอกซ์ซึ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในประเทศจอร์เจีย และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 50 เมตร จุผู้คนได้ถึงราวๆ 15,000 คน เข้าชมด้านในได้โดยคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะตามกฎข้อบังคับทางศาสนา ในตอนค่ำมีการเปิดไฟส่องไปบริเวณตัวโบสถ์ด้วยนะ ยิ่งทำให้โดดเด่นสะดุดตา เรียกว่าใหญ่โตโดดเด้งขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสายตาที่ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของเมืองก็ต้องได้เห็น และเป็นแหล่งเช็คอินที่มาจอร์เจียแล้วต้องโดน!

นี่คืออนุสรณ์สถานที่มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียเอาไว้บนเสาขนาดใหญ่จำนวนถึง 16 ต้น แต่ละต้นก็สูงถึง 35 เมตร และด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนภูเขา คุณจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง Tbilisi ได้แบบเต็มๆ ตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่บอกเลยว่าเปลี่ยนไปอีกฟีลจากกลางเมืองโดยสิ้นเชิงเลยละ มาหามุมถ่ายรูปที่นี่บอกเลยว่าดีและอลังการมาก อยากให้มาจริงๆ

อีกหนึ่งหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งแวดล้อมด้วยทิวทัศน์เทือกเขากันชนิด 360 องศา ในช่วงอากาศสบายๆ ที่นี่ก็เป็นสถานที่ขวัญใจคนรักการเทรกกิ้งเป็นอย่างยิ่งทีเดียว เพราะมีทั้งวิวสวยๆ ของเทือกเขาขนาดใหญ่ ลำธารสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ บรรยากาศเด็ดดวงที่บอกเลยว่าไม่ได้แพ้ธรรมชาติประเทศไหนเลยเชียวละ เชื่อว่าคนรักธรรมชาติมาแล้วต้องแฮปปี้กับที่นี่พันเปอร์เซ็นต์!

วัฒนธรรมโรงอาบน้ำนั้น เป็นอีกหนึ่งความนิยมซึ่งอยู่คู่กับเมืองหลวงของจอร์เจียมาเนิ่นนาน และที่สำคัญคือยังคงเปิดให้บริการกันอยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่าน้ำแร่ตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่มากมายที่นี่ ก็มีแร่ธาตุที่ดีต่อผิวพรรณไม่แพ้ที่ไหน มาเที่ยวจอร์เจียเมื่อไหร่ ถ้าอยากลองใช้บริการก็แวะกันมาได้เลย ย่านนี้มีให้เลือกหลายแห่งเชียวละ แนะนำว่าให้วางความเขินอายทิ้งเอาไว้ก่อน แล้วไปลองหาประสบการณ์แปลกใหม่กันดูซักที เชื่อว่าถ่ายรูปด้านนอกก็แฮปปี้ มาลองอาบน้ำที่ด้านในก็ได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปอย่างแน่นอน

นี่คือแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คนในสมัยประมาณศตวรรษที่ 4 เรียกได้ว่าเป็นเมืองโบราณของจอร์เจียที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปีเลยทีเดียว โดยกินเนื้อที่รวมถึงประมาณ 50 ไร่ สร้างขึ้นด้วยการสกัดหินเข้าไปให้เป็นโพรงห้องขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นที่อยู่ ว่ากันว่าในอดีตอาจจะมีผู้คนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มากถึงประมาณ 20,000 คนเลยนะ เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของมนุษย์ในยุคโบราณที่มีความพยายามอย่างล้นเหลือ และเชื่อว่าคุณต้องทึ่งเชียวละ เมื่อได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง

หากมองหาโลเกชั่นในการถ่ายรูปเก๋ๆ ย่านเมืองเก่าในกรุงทบิลิซีที่เป็นเมืองหลวงของจอร์เจียนี่ละ มีให้เลือกกันหลากหลายเลยจริงๆ เพราะที่นี่มีทั้งอาคารโบราณรูปร่างแปลกตาที่เป็นเอกลักษณ์ของจอร์เจียที่น่าสนใจ ด้วยการสร้างบ้านในทรงสี่เหลี่ยมที่โดดเด่นตรงบริเวณระเบียงบ้านที่ยื่นออกมา แล้วยิ่งถ้าเป็นบ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผาหรือโขดหิน จะมีการสร้างตัวบ้านบางส่วนยื่นลอยออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่เริ่ดอีกอย่างคือสีสันที่ใช้มักจะเป็นสีพาสเทลสบายตา รับรองว่าเดินเล่นในย่านนี้คือมีมุมดีๆ ให้ถ่ายรูปเพียบจ้า มาเลย

เรียกว่าเป็นอนุสรณ์สถานที่มีรูปลักษณ์แปลกตาไปกว่าอนุสรณ์สถานทั้งหลาย และแม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดหรือหน้าตายิ่งใหญ่อลังการมากมาย แต่ก็สวยในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองด้วยการตกแต่งกระเบื้องโมเสกเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์สองประเทศพันธมิตรรัสเซียและจอร์เจีย ตัวอนุสรณ์สถานก็แปลกตา แต่ที่ได้ใจไปเต็มๆ คือทำเลที่ตั้งของที่นี่ต่างหากซึ่งเรียกได้ว่าอลังการ เพราะตั้งอยู่ที่ด้านบนของภูเขาซึ่งเป็นจุดชมวิว Devil’s Valley ที่อยู่ตรงหน้า บอกได้เลยว่าเริ่ด!!

อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่ทำให้นึกถึงหนังไซไฟที่เคยเห็นในจอภาพยนตร์ คือศูนย์แสดงมหรสพใจกลางเมืองหลวงของจอร์เจียแห่งนี้นี่ละ ด้วยโครงสร้างจากโลหะสุดแวววาวด้วยรูปทรงแบบแอบสแตรกของที่นี่ ทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอาคารวัฒนธรรมที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในโลก ตัวอาคารก็โดดเด่น บรรยากาศรอบด้านก็สวยสบายตาเพราะรายล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้จากสวนสาธารณะใจกลางเมือง มาที่นี่นะ เชื่อว่าได้รูปสารพัดฟีลลิ่งกลับไปอย่างแน่นอน

เพราะเป็นอดีตเมืองหลวงโบราณของจอร์เจียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 - 5 และว่ากันว่านี่คือเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางจิตใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของชาวจอร์เจียอีกด้วยนะ จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้จะมีอาคารรูปแบบโบราณมากมายให้ได้เดินเที่ยวชมกันเลยละ ใครอยากซึมซับบรรยากาศแบบย้อนยุคหน่อยน่าจะถูกใจ แถมยังเดินทางง่ายเพราะอยู่ห่างจากเมืองหลวงในปัจจุบันอย่างทบิลิซีเพียงแค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ไปเดินเล่น ไปหามุมถ่ายรูปกันเพลินๆ ได้สบาย

เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีบรรยากาศน่าสนใจ โดยเมืองนี้อยู่ห่างจาก Tbilisi ไปประมาณ 80 กิโลเมตร และเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่เด็ดๆ อีกหลายแห่ง มีอาคารแบบโบราณที่แวดล้อมไปด้วยภูเขามากมาย แถมด้วยความที่เป็นบ้านเกิดของอดีตผู้นำอันยิ่งใหญ่ของรัสเซียอย่าง Stalin เมืองนี้จึงมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของเค้าเอาไว้ให้ได้ชมกันอีกด้วยนะ ใครเป็นสายประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในด้านการเมืองการปกครองทั้งหลาย ไม่อยากให้พลาดไปเลยเชียวละ

แม้ว่าที่เที่ยวทางธรรมชาติส่วนใหญ่ของจอร์เจียนั้นจะสวยงามและเดินทางง่ายที่สุดในช่วงหน้าร้อน แต่นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเผชิญหน้ากับอากาศที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยละนะ แล้วถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ไม่อยากเดินทางท่องเที่ยวแบบเหงื่อตกเสื้อเปียกเหมือนเดินทางอยู่ท่ามกลางหน้าร้อนในเมืองไทย จอร์เจียก็มีที่เที่ยวหน้าหนาวให้ได้ตะลุยกับหิมะเย็นจับใจเหมือนกันจ้า โดยเมืองนี้หน้าร้อนน่ะก็สวยด้วยธรรมชาติสบายตา ส่วนหน้าหนาวก็เปลี่ยนมาเป็นเมืองแห่งสกีรีสอร์ทบนความสูงกว่า 2,000 - 3,200 เมตรเหนือน้ำทะเล ถ้าคุณเป็นคนชอบอากาศหนาวเย็น และหลงใหลในการเล่นสกี ปักหมุดเมืองนี้เอาไว้เลย

จอร์เจียนับเป็นประเทศฟรีวีซ่าที่เปิดโอกาสให้เราคนไทยอยู่ได้แบบนานสะใจกันเลยเชียวละ ถ้าใครเป็นคนที่ชอบบรรยากาศแบบโบราณที่ให้ฟีลย้อนยุคซักหน่อยน่าจะแฮปปี้ แถมเมืองนี้ยังขับรถเที่ยวเองได้แบบไม่ยากนักด้วยนะ แล้วถ้าใครชอบการเทรกกิ้ง รักการเดินชมทิวทัศน์ของภูเขาและทุ่งหญ้าแบบน่าตื่นตาตื่นใจ บอกเลยว่าจอร์เจียนี่ละใช่เลย เพราะวิวน่ะอลังการงานสร้างแบบน่าอัศจรรย์ แล้วที่ดีคือค่าครองชีพในการเดินทางท่องเที่ยวก็นับว่าไม่แพงนัก โดยเฉพาะหากจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ก็จะได้ฟีลเหมือนการไปยุโรปในราคาแบบอาเซียนเลยละ ถ้ามีเวลาลองปักหมุดเดินทางมาจอร์เจียกันซักครั้งเถอะนะ เชื่อว่าหลายคนต้องถูกใจ

แถมตอนนี้ Traveloka ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Promo FIlter ที่รวมโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินต่างๆ ไว้ในที่เดียว ช่วยให้คุณค้นหาโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น จองเที่ยวบินสุดคุ้มได้แบบมือโปร หาตั๋วโปรฯ ที่ใช่ได้ในคลิกเดียว

แค่เข้าแอปพลิเคชั่น Traveloka กดค้นหาเที่ยวบินที่ต้องการ แล้วสังเกตที่แถบด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหาเที่ยวบิน คุณจะเห็นโปรโมชั่นทั้งหมดที่มีในขณะนั้นบนแถบ Promo Filter และสามารถคลิกเลือกโปรโมชั่นที่ต้องการได้เลย แล้วระบบจะแสดงผลเฉพาะเที่ยวบินมีโปรโมชั่นตรงกับที่คุณเลือกไว้ เรียกได้ว่าทั้งสะดวกกายและสบายกระเป๋าเลยล่ะ