เชื่อว่าสกลนครอาจจะเป็นเมืองรองที่หลายคนมองข้ามไป ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะยังไม่ค่อยรู้จักที่เที่ยวที่นี่กันมากเท่าไหร่นัก จริงๆ แล้วสกลนครมีพิกัดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบไหว้พระ อยากใกล้ชิดธรรมชาติ สนุกกับการได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชุมชนแบบสบายๆ มั่นใจว่าต้องถูกใจเมืองนี้พอสมควรเลยเชียวละ แล้วถ้าอยากไปเมืองสกลฯ เมื่อไหร่ ก็ส่องตั๋วเครื่องบินกันได้จาก Traveloka เลยนะ จองก็ง่ายแถมยังได้ตั๋วราคาดี เชื่อว่าทริปนี้จะแฮปปี้ล้านเปอร์เซ็นต์!

ท่าแร่คือชุมชนที่มีวัฒนธรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เพราะเป็นชุมชนชาวคริสต์ขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทยกันไปเลยจ้า เนื่องจากในยุคก่อนเคยมีผู้นำศาสนาคริสต์จากยุโรปเข้ามาเผยแพร่ในบริเวณนี้ ทำให้ที่นี่มีอาคารบ้านเรือนสไตล์ยุโรปให้เห็นกันแบบแน่นๆ เต็มพื้นที่เลยละ ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าท่าแร่มีโลเกชั่นเก๋ๆ ให้เลือกกันเพียบนะ แถมช่วงปลายปียังมีเทศกาลแห่ดาวสุดยิ่งใหญ่ให้ชมกันด้วยจ้า เป็นพิกัดที่มาสกลฯ แล้วต้องแวะจริงๆ

ใครเป็นสายบุญต้องปักหมุดวัดนี้ไว้อย่าได้พลาด เพราะเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบขอพรกันแบบจัดเต็มไปเลยจ้า เริ่มจากพระพุทธชัยราชาซึ่งเป็นองค์พระปางนาคปรกที่อยู่ด้านหน้า แต่มีลำตัวพญานาคทอดยาวเหยียดไปถึงรูปสลักต่างๆ ที่อยู่ด้านใน ซึ่งมีให้ชมให้กราบกันแบบละลานตา ทั้งรูปแกะสลักผาหินเป็นองค์พระปางไสยาสน์ พญาครุฑ รอยพระพุทธบาท พระประจำวัน และอื่นๆ อีกมากมาย รับประกันว่าได้ไหว้พระขอพรกันแบบจุกๆ สะใจแน่นอนละ

บึงน้ำจืดธรรมชาติพื้นที่กว้าง 77,016 ไร่ กินพื้นที่สองอำเภอในสกลนคร แถมยังเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทยรองจากบึงบอระเพ็ด และยังเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสานอีกด้วยจ้า ในหนองหารนั้นมีเกาะแก่งน้อยใหญ่อยู่หลายแห่งเชียวละ โดยเฉพาะบนเกาะดอนสวรรค์ซึ่งเป็นเกาะใหญ่มีพื้นที่ 567 ไร่ ซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้กราบไหว้กันด้วยนะ นอกจากใช้ในการทำประมงท้องถิ่นแล้ว หนองหารยังมีบริการล่องเรือนำเที่ยวพาไปชมตามเกาะแก่งต่างๆ ด้วยจ้า เป็นอีกพิกัดที่ควรมาแวะชมกัน

เชื่อว่านี่คือแลนด์มาร์คที่บรรดาสายมูต่างก็ต้องรู้จักกันดี โดยเฉพาะคนที่ชอบการเก็งเลขเด็ดทั้งหลาย พญาเต่างอยนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเต่างอยในจังหวัดนี้ คำว่าเต่างอยนั้นหมายถึงเต่าซึ่งอยู่บนที่สูง ริมตลิ่ง หรือบนโขดหินซึ่งก็ตรงกับรูปพญาเต่างอยที่ปั้นไว้นี่ละ บนกระดองพญาเต่างอยนั้นตกแต่งด้วยองค์พระเกจิอาจารย์สำคัญหลายองค์ บนหลังประดับรูปดอกบัวปั้น โดยในดอกบัวนั้นมีเครื่องรางของขลังมากมาย เชื่อกันว่าใครได้มากราบไหว้ก็จะอายุยืนและมีโชคมีลาภกลับไป ไหนๆ ก็มาถึงเมืองสกลฯ แล้วนะ อย่าพลาดเชียว

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าสกลนครนั้นขึ้นชื่อเรื่องผ้าย้อมครามแบบสุดๆ ไปเลยเชียวละ และถ้าอยากลองย้อมผ้าครามด้วยตัวเองซักชิ้น หรืออยากได้ของตกแต่งดีไซน์ทันสมัยจากผ้าย้อมครามนะ บอกเลยว่าพลาดร้านนี้ไปไม่ได้ เพราะที่นี่มีข้าวของจากผ้าย้อมครามสารพัดสิ่งให้เลือกสรรกันชนิดตั้งแต่หมวกยันรองเท้า ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน พวงกุญแจ และอื่นๆ อีกมากมาย แถมดีไซน์เก๋ได้ใจแบบสุดๆ เลยละ มานั่งทำเวิร์กช็อปก็สนุกดี มาช้อปปิ้งก็แฮปปี้เด้อจ้า อย่าพลาดเชียว

แลนด์มาร์คยืนหนึ่งซึ่งนับเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองสกลนครที่พลาดไม่ได้ ก็ต้องยกให้กับวัดพระธาตุเชิงชุมนี่ละ เพราะนี่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสกลฯ ที่ทุกคนศรัทธา ว่ากันว่าองค์พระธาตุเชิงชุมนั้นเป็นพระธาตุองค์เดียวที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์เอาไว้ บนยอดฉัตรเหนือองค์พระธาตุนั้นทำด้วยทองคำบริสุทธิ์น้ำหนักถึง 247 บาท แถมในพระวิหารของวัดนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อแสนซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองสกลฯ อีกเช่นกัน เชื่อกันว่าใครได้มานมัสการจะมีเงินแสนเงินล้านสมดังใจ ปักหมุดเลยจ้า มาสกลฯ เมื่อไหร่ พลาดไม่ได้จริงๆ

ถ้าอยากได้พิกัดสวยๆ ไว้เดินเล่นรับลมชมวิวสบายๆ ปักหมุดที่อุทยานฯ นี้ไว้เลยจ้า เพราะว่าที่นี่คืออุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวบรวมบัวเอาไว้นับร้อยสายพันธุ์ โดยมีการปลูกบัวสารพัดพันธุ์เอาไว้ในบึงน้ำใหญ่ และมีการสร้างสะพานไม้สีแดงเชื่อมต่อเป็นทางเดินเอาไว้รอบบึงเลยนะ บริเวณตรงกลางยังมีศาลาเอาไว้ให้นั่งรับลมชมวิวกันสบายๆ แถมยังมีรูปปั้นพญานาคเผือกเอาไว้ให้แวะแสดงความเคารพกันได้ด้วยจ้า มาช่วงเช้าคือดีนะ แดดอ่อน ลมเย็นสบาย บอกได้เลยว่าเพลิน

นับเป็นอีกพิกัดที่สายบุญควรปักหมุดเอาไว้ เพราะวัดนี้มีรอยพระพุทธบาทให้แวะกราบแวะชมกันได้ถึง 7 รอย ซึ่งเป็นรอยบนพื้นหินกลางป่าที่มีทั้งขนาดใหญ่และเล็กแตกต่างกันไป และมีลักษณะพิเศษคือแต่ละรอยจะมีสายน้ำตามธรรมชาติไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง ด้านหน้าตัววัดจะมีการจัดเรียงองค์พระพุทธรูปสีขาวสะอาดตาเป็นแนวยาวเอาไว้ให้เราได้กราบได้ไหว้กัน ให้อารมณ์แบบวัดป่านิดๆ นะ คิดว่าสายบุญน่าจะถูกใจ

อุทยานแห่งชาติภูพาน เป็นอุทยานฯ ซึ่งคาบเกี่ยวพื้นที่สองจังหวัดคือสกลนครและกาฬสินธุ์ และเป็นผืนป่าซึ่งกินพื้นที่ถึง 415,439 ไร่ รวมเอาป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ที่นี่นั้นมีพิกัดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย ทั้งน้ำตกหลายแห่ง ทุ่งดอกไม้ ถ้ำที่เสรีไทยเคยใช้สะสมอาวุธในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง รวมถึงไฮไลท์อย่างโค้งปิ้งงูและพระธาตุภูเพ็กที่หลายคนรู้จักกันดี เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวเที่ยวได้แบบจัดหนักเลยเชียวละ เชื่อว่าคนรักธรรมชาติถูกใจแน่นอน

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าที่ตำบลท่าแร่ของสกลนครนั้น เป็นพิกัดซึ่งมีชุมชนคริสต์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอาศัยอยู่ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมที่นี่จึงมีโบสถ์คริสต์สุดอลังตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน อาสนวิหารแห่งนี้นั้นมีรูปทรงคล้ายเรือเพื่อสื่อถึงชาวคริสต์ที่ข้ามน้ำมาตั้งรกรากบริเวณนี้กันในยุคก่อน ปัจจุบันโบสถ์นี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของผู้คนละแวกนี้ แถมยังเป็นศูนย์กลางของพิธีแห่ดาวในช่วงคริสต์มาสกันด้วยจ้า แวะมาเช็คอินกันเด้อ

สำหรับคนที่รักงานแฮนด์เมดทั้งหลาย รวมถึงหลงใหลในเสน่ห์ผ้าพื้นบ้านท้องถิ่นของไทย แนะนำให้ปักหมุดที่นี่ไว้เลยจ้า เพราะนี่คือถนนคนเดินที่คุณจะเพลินมาก เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรดาสินค้าหลากหลายประเภทซึ่งเน้นการใช้ผ้าย้อมครามเป็นวัสดุหลัก ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ หมวก ร่ม และอื่นๆ อีกมากมายในดีไซน์เก๋ๆ น่าซื้อหา บอกเลยว่าคนรักงานผ้ามาที่นี่ต้องได้ของติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอนจ้ะ ถนนคนเดินที่นี่เปิดช่วงเย็นถึงค่ำวันเสาร์ - อาทิตย์ บริเวณหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมนะ บอกเลยว่าต้องมาให้ได้จริงๆ

เขื่อนดินกั้นแม่น้ำอูนซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไป 54 กิโลเมตรแห่งนี้ เป็นอีกพิกัดที่ชาวสกลฯ นิยมใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะเป็นพื้นที่แหล่งน้ำกว้างใหญ่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาภูพานและป่าไม้เขียวขจี ไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณหาดสวนหิน หรือที่หลายคนขนานนามว่าเป็นพัทยาเมืองอีสาน ซึ่งเป็นหาดกว้างทอดตัวจากบริเวณริมฝั่งไปจนถึงบริเวณริมน้ำในเขื่อน ช่วงหน้าร้อนจึงมีผู้คนนิยมมาลงเล่นน้ำกันมากมาย แถมเค้ายังมีบริการให้เช่าเสื้อชูชีพและห่วงยาง แล้วยังมีแผงขายของท้องถิ่นให้ช้อปกันด้วยนะ เชื่อว่าเป็นอีกพิกัดที่น่าจะบันเทิงแน่นอน

สำหรับคนที่ชอบฟีลเที่ยวไปกินไปแบบสบายๆ เชื่อว่าต้องถูกใจที่นี่แน่นอน เพราะเป็นฟาร์มซึ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ให้แวะแชะรูปเช็คอินกันแบบแน่นๆ ไปเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นสะพานไม้ไผ่ หรือในโรงเรือนที่มีต้นเมล่อนเรียงรายเป็นแถวยาวเหยียด เมื่อยเมื่อไหร่เค้าก็มีร้านอาหารไว้ให้แวะนั่งชิลล์กันด้วยนะ จะนั่งจิบเครื่องดื่ม ชิมผลไม้ ก็ได้หมดจ้า ถ้าติดใจก็ซื้อกลับไปได้นะ จะเมล่อน ฟักทองบัตเตอร์นัทสควอช และผลผลิตสดจากไร่อีกมากมาย ชอบใจก็จัดเลย

สำหรับคนที่ชอบเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นแบบใกล้ชิด และไม่ติดกับความหรูหราสะดวกสบายมากนัก อยากให้ลองไปปักหมุดนอนโฮมสเตย์ที่บ้านหนองส่านแห่งนี้กันดู มาลองอยู่กับชาวบ้านแบบแท้ๆ เดินเที่ยวบนคันนา หาผักพื้นบ้านมาทำกับข้าวแบบง่ายๆ กินกัน ตื่นเช้ามาใส่บาตร เรียนรู้การทอผ้าฝ้ายตั้งแต่การเก็บดอกฝ้ายมาทำเป็นเส้นใยกันเลยจ้า ปิดท้ายที่เวิร์คช็อปการทำผ้าย้อมครามของขึ้นชื่อเมืองสกลฯ เค้าละ ใครชอบแนวนี้มาเช็คอินเลยนะ เชื่อว่าต้องประทับใจ

ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานนั้นมีน้ำตกสวยๆ ให้ชมอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือน้ำตกคำหอมแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นพิกัดยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งหลายเพราะเดินทางง่าย โดยทางเข้านั้นอยู่ในบริเวณถนนคดเคี้ยวที่เรียกว่าโค้งปิ้งงูนั่นละจ้า น้ำตกคำหอมนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้นเลยนะ ถ้าจะเล่นน้ำแนะนำว่าอยู่แค่ชั้นที่ 1 และ 2 ก็ถือว่าโอเคแล้วน้า ชั้นต่อจากนั้นอาจจะให้ฟีลเดินป่ากันนิดๆ สายลุยน่าจะชอบใจ แต่ยังไงก็ต้องดูปริมาณน้ำด้วยน้า ปรึกษาเจ้าหน้าที่ก่อนเดินเข้าไปละ จะได้เที่ยวแบบปลอดภัย

สกลนครอาจจะเป็นเมืองเล็กที่ไม่ได้มีพิกัดเที่ยวแบบหวือหวา แต่เราเชื่อว่านี่จะเป็นอีกจุดหมายที่คนรักวิถีท้องถิ่นแบบเรียบง่ายน่าจะถูกใจ เพราะเมืองนี้มีจังหวะชีวิตที่สบายๆ เนิบช้า และเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาในสไตล์ท้องถิ่น ยิ่งใครชอบไหว้พระก็จะยิ่งฟินคูณสองไปเลยจ้า ลองมาเช็คอินดูซักครั้งนะ เชื่อว่าหลายคนน่าจะติดใจ