รัสเซีย นอกจากจะเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกมากมาย คุณจึงสามารถเที่ยวรัสเซียได้ทุกฤดู และที่สุดยอดไปมากกว่านั้น ก็คือ รัสเซีย เป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า แค่มีแพลนเที่ยวก็สามารถบินไปตะลุยดินแดนหมีขาวกันได้ ในส่วนของการจองตั๋วเครื่องบินไปรัสเซีย ก็ง่ายแสนง่าย แค่เข้าไปที่แอปพลิเคชัน Traveloka คลิกหาวัน เวลา และสายการบินเหมาะ ๆ ที่คุณพร้อมเดินทางแล้วก็เตรียมเก็บกระเป๋ากันได้ ในส่วนของที่เที่ยวนั้นเรามี 20 จุดแลนด์มาร์กยอดฮิตของรัสเซียมาแชร์ให้ทุกคนได้ร่วมตะลุยไปด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปดูได้เลย

จัตุรัสแดงเป็นที่เที่ยวรัสเซียยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของเมืองมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย พื้นที่บริเวณนี้เป็นลานหินโมเสกรูปทรงจัตุรัสขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินแกรนิตและหินอ่อน และได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก จัตุรัสแดงเป็นสถานที่นัดพบสำคัญของชาวเมืองมอสโก มีกิจกรรมต่าง ๆ จัดขึ้นในบริเวณนี้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเฉลิมฉลองทางศาสนาหรือทางการเมือง ใครมาเที่ยวที่นี่ก็จะได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมรัสเซียผ่านทางอาคารพระราชวังและโบสถ์วิหารที่ตั้งอยู่โดยรอบได้อย่างเต็มอิ่ม

วิหารเซนต์บาซิลตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณจัตุรัสแดง ได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามของเมืองมอสโกด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ อาคารวิหารถูกสร้างให้เป็นโดมรูปหัวหอมตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาดสดใส มีลวดลายที่สวยงาม ในปัจจุบันวิหารเซนต์บาซิลไม่ได้ทำหน้าที่สำคัญทางศาสนา แต่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์รัสเซีย ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวรัสเซียเข้าไปเยี่ยมชม

พระราชวังเครมลินเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวรัสเซียยอดฮิตของมอสโก และถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางสำคัญของเมืองหลวงแห่งนี้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กับจัตุรัสแดงแบบเดินถึงกันได้อีกด้วย พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ก่อนที่พระเจ้าซาร์ปีเตอร์จะย้ายไปประทับอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พื้นที่ภายในพระราชวังมีขนาดกว้างใหญ่ ตกแต่งสวยงามอลังการ มีสีสันสดใส และมีจุดสวยงามให้เราเข้าไปเยี่ยมชมอยู่หลายจุด เช่น ภายในอาคารที่ประทับของพระเจ้าซาร์ จัตุรัสวิหาร หอระฆังอีวาน ปืนใหญ่ และระฆังของพระเจ้าซาร์ เป็นต้น

ตลาดอิสเมลอฟสกี้เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองมอสโก เป็นที่เที่ยวรัสเซียสำหรับสายช้อปปิ้งไม่ควรพลาดด้วยประการใดทั้งปวง นอกจากจะมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ผลไม้ ของสด ของแห้ง ตลอดจนเสื้อผ้า เครื่องประดับและของที่ระลึกหมุนเวียนตามฤดูกาลแล้ว โครงสร้างสถาปัตยกรรมของตลาดอิสเมลอฟสกี้ก็ยังสวยงามและยิ่งใหญ่ประหนึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งเลยทีเดียว ใครไม่อยากช้อปปิ้งก็สามารถมาเดินชมความคึกคักและวิถีชีวิตของชาวเมืองมอสโกกันได้ที่นี่ด้วย

ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมสถานีรถไฟใต้ดินมอสโกถึงกลายมาเป็นแลนด์มาร์กของเมืองได้ เราขอบอกเลยว่าเป็นเพราะสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่สวยงามในแต่ละสถานีนั่นเอง ใครชื่นชอบสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียแค่ลองแพลนที่เที่ยวรัสเซียไปทัวร์รถไฟใต้ดินของที่นี่ ก็จะได้ดื่มด่ำความงดงามของศิลปะการตกแต่งสถานีแบบเต็มอิ่ม อีกทั้งแต่ละสถานีจะมีรูปแบบสถาปัตยกรรมและศิลปะที่แตกต่างกันออกไปแต่รับรองว่าสวยงามประทับใจทุกสถานีอย่างแน่นอน

ห้างสรรพสินค้ากุมเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวรัสเซียที่สายช้อปปิ้งไม่ควรพลาด เพราะห้างสรรพสินค้ากุมเป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักในเมืองมอสโก ห้างแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในจัตุรัสแดงซึ่งเป็นห้างขนาดใหญ่ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปีเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นห้างเก่าที่เปิดมายาวนานแต่ก็ได้รับการทะนุบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กุมยังคงเป็นห้างที่หรูหราสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของรัสเซียอยู่ ไฮไลท์ความสวยงามของห้างนี้ก็คือหลังคาคลุมด้วยกระจกตลอดทาง ทำให้ภายในห้างสรรพสินค้าได้แสงสว่างจากธรรมชาติให้เดินช้อปปิ้งของแบรนด์ดังกันแบบชิล ๆ

สวนอเล็กซานเดอร์เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของเมืองมอสโก ตั้งอยู่ตามแนวกำแพงด้านทิศตะวันตกของพระราชวังเครมลิน ตัวสวนถูกออกแบบมาให้ดูสวยงาม ร่มรื่นและเป็นระเบียบ เป็นอีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตทั้งของชาวเมืองมอสโกและนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่เที่ยวรัสเซียไม่ควรพลาด ไฮไลท์ของสวนอเล็กซานเดอร์จะอยู่ที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะในสวนจะเต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามหลากสีสันที่ปลูกขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ใครมาที่นี่ช่วงนี้รับรองว่าได้รูปสวย ๆ กลับบ้านกันแบบจุใจอย่างแน่นอน

ที่เที่ยวรัสเซียสำคัญอีกหนึ่งสถานที่ นั่นก็คือ พระราชวังฤดูร้อนเปเตียร์กอฟที่ตั้งอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างขึ้นหลังจากที่พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ย้ายเมืองหลวงมาที่นี่ ตัวพระราชวังตั้งอยู่ติดกับปากอ่าวทะเลบอลติก ซึ่งการันตีความสวยงามของทิวทัศน์ได้เป็นอย่างดี ตัวสถาปัตยกรรมของพระราชวังเป็นแบบศิลปะคลาสสิกผสมผสานกับบาร็อกและเรเนซองส์ ภายในอาคารจัดแสดงห้องรับรองที่วิจิตรตระการตา ส่วนภายนอกอาคารก็ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นและสวนน้ำพุที่มีอยู่รวมกันมากกว่า 150 แห่ง เรียกได้ว่ามาใช้เวลาชมความงามและพักผ่อนหย่อนใจอยู่ที่นี่ทั้งวันก็ยังได้

ที่เที่ยวรัสเซียนอกจากพระราชวังฤดูร้อนเปเตียร์กอฟแล้ว อีกหนึ่งสถานที่คือ พระราชวังแคทเธอรีนเป็นพระราชวังฤดูร้อนของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งชื่อตามพระนามของผู้สร้างคือพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์ ความโดดเด่นของที่นี่คือตัวอาคารภายนอกที่จะเน้นสีฟ้าขาวแซมด้วยสีทองและห้องโถงภายในที่มีอยู่หลากหลาย โดยทุกห้องจะถูกตกแต่งอย่างสวยงามอลังการและมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป เช่น ห้องอำพันห้องที่ตกแต่งด้วยอำพัน ทองคำเปลวและกระจกสี ห้องโถงใหญ่และห้องรับประทานอาหาร เป็นต้น

โบสถ์แห่งหยดเลือดตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ถูกสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์แด่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งถูกลอบปลงพระชนม์ในบริเวณที่สร้างโบสถ์ ตัวโบสถ์ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมรัสเซียแบบโดมรูปหัวหอมคล้ายกับวิหารเซนต์บาซิลในเมืองมอสโก ภายในประดับไปศิลปะอันวิจิตรตระการตาและกระเบื้องโมเสกสีสันสดใส เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำหรับที่เที่ยวรัสเซียที่มีทั้งความสวยงามและความสำคัญทางประวัติศาสตร์

ไปเที่ยวรัสเซียกันต่อที่พระราชวังฤดูหนาวแอร์มิทาจตั้งอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ภายนอกของพระราชวังตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมบารอคใช้โทนสีเขียวตัดกับสีขาว มีอาคารเชื่อมต่อกันอยู่ 5 หลังและมีห้องภายในมากกว่าพันห้อง พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ได้รับการยกย่องจากบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ให้เป็นหอศิลป์ที่มีงานศิลปะสะสมมากที่สุดในโลกโดยมีจำนวนกว่า 3 ล้านชิ้น

ที่เที่ยวรัสเซียที่พลาดไม่ได้อีกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ มหาวิหารเซนต์ไอแซคซึ่งเป็นมหาวิหารที่สวยที่สุดในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่เดิมเป็นโบสถ์ไม้และได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นโบสถ์หินในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 เซนต์ไอแซคเป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งเดียวที่ตกแต่งด้วยกระจกสีและยอดโดมที่ทำจากทองคำแท้กว่า 100 กิโลกรัม สถาปัตยกรรมการออกแบบและตกแต่งเป็นแบบเรเนซองส์และบาร็อก ภายในเต็มไปด้วยภาพวาดและงานศิลปะที่น่าสนใจมากมาย

พระราชวังซุสดาลเครมลินตั้งอยู่ริมแม่น้ำกาเมนกะ เป็นพระราชวังป้อมปราการที่เก่าแก่สุดและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองซุสดาล ที่ไม่ว่าใครกำลังมองหาที่เที่ยวรัสเซียอยู่ต้องเพิ่มเข้าลิสต์โดยด่วน เพราะไฮไลท์ของที่นี่คือ Cathedral of Nativity วิหารสีขาวโดมสีน้ำเงินประดับดาวสีทองสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียสมัยศตวรรษที่ 15-18 ใครอยากมาเที่ยวชมความสวยงามของพระราชวังแบบมีฉากหลังเป็นชนบทที่สวยงามไม่ควรพลาด

พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมไม้แห่งซุสดาลตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวังซุสดาลเครมลิน เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวรัสเซียที่น่าสนใจของเมือง ภายในพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมและจัดแสดงสิ่งก่อสร้างจากไม้ในช่วงศตวรรษที่ 18 - 19 เช่น โบสถ์ไม้ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ กระท่อม กังหันลมและกังหันน้ำ

ทะเลสาบไบคาลเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวรัสเซียที่พลาดไม่ได้ถ้าไปเยือนรัสเซีย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เพราะเป็นทะเลสาบที่มีความเก่าแก่และเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์รวมถึงวิวัฒนาการยุคต่างๆ ของโลก ไบคาลตั้งอยู่ที่เมืองอีร์คุตส์ ประเทศรัสเซีย เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่และมีความลึกที่สุดในโลก ตัวทะเลสาบสามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะได้ตะลุยลงไปในทะเลสาบได้เลย เพราะพื้นน้ำทะเลสาบทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำแข็งให้เราได้ลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันแบบชิลๆ

หากคุณกำลังมองหาสถานที่เที่ยวรัสเซียสุดชิล ถนนอารบัต เป็นหนึ่งในถนนสายเก่าแก่ของกรุงมอสโก ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของเหล่าชนชั้นขุนนาง ตำรวจ ศิลปินที่มีชื่อเสียง แต่ปัจจุบันถนนอารบัตแห่งนี้ได้กลายเป็นถนนที่รวบรวมศิลปะจากศิลปินหรือจิตรกรต่าง ๆ ไว้อย่างหลากหลาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความคึกคักและต้องลองมาสักครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ โรงละคร และศูนย์วัฒนธรรม เป็นต้น

วิหารอัสสัมชัญ (Dormition Cathedral หรือ Cathedral of the Assumption) หนึ่งในที่เที่ยวรัสเซียที่ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลิน นับว่าเป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญมากที่สุดในเครมลิน ด้วยการที่ถูกออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงจากประเทศอิตาลีที่มีชื่อว่า อริสโตเติล ฟิโอราวานติ

ภายในวิหารถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งภาพเขียนรูปพระสาวกและพระสังฆราชในสมัยต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการเรียงรายไปด้วยหีบศพของพระสังฆราช ประมุขของคริสต์ศาสนานิกายรัสเซียนออร์โธดอกซ์ ส่วนผนังด้านทิศตะวันออกจะเป็นภาพพระเยซูที่ถูกเขียนลงบนโลหะ ซึ่งเป็นรูปเคารพเขียนขึ้นจากจินตนาการ

ไปเที่ยวรัสเซียกันต่อที่พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ (Armoury Chamber) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บสมบัติล้ำค่าของประเทศรัสเซียไว้กว่า 4,000 ชิ้น ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย ศาสตราวุธ, เครื่องป้องกันตัว, หมวก, เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ, เครื่องเงิน, ทอง, เพชรพลอย และเครื่องทรงของกษัตริย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าที่หาดูได้ยาก โดยพื้นที่จะถูกแบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็นชั้นและห้องต่าง ๆ

หนึ่งในสถานที่เที่ยวรัสเซียที่เปิดให้บริการเป็นทั้งสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำ Moskva ได้อย่างชัดเจน ใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถเดินเล่นได้และยังมีวิวแม่น้ำสวย ๆ ให้ดูก็สามารถแวะมาเยือนที่แห่งนี้ แถมที่นี่ยังมีโบสถ์ Church of Ascension ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย อย่าพลาดเชียวนะ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (State Historical Museum) เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวรัสเซียที่คุณสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตลอดช่วงเวลาของรัสเซียได้ที่นี่ เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงสิ่งของจำนวนมากและถูกจัดเรียงตามระยะเวลา ตั้งแต่ของใช้ในบ้านเรือนไปจนถึงอาวุธและงานศิลปะต่าง ๆ

นอกจากการจัดแสดงแล้ว ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ยังคงสวยงามและโดดเด่นไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วยการออกแบบสไตล์กอธิก มียอดสูง 2 ด้าน กับสีแดงเข้มของตัวอาคาร ทำให้คุณไม่ควรพลาดที่จะไปเช็กอินเมื่อเดินทางไปเยือนรัสเซีย

สิ่งที่ควรรู้คือ ประเทศไทยและรัสเซียมีข้อตกลงเรื่องการยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว โดยสามารถพำนักในประเทศใดประเทศหนึ่งโดยไม่ต้องมีวีซ่าได้ในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศคู่สัญญา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของพาสปอร์ตซึ่งผู้ถือพาสปอร์ตธรรมดาจำเป็นจะต้องขอวีซ่าตามขั้นตอนปกติ

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวรัสเซีย ผู้ขอวีซ่าจะต้องยื่นใบจองที่พัก บัตรเชิญ จากบริษัททัวร์จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายและจดทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อถึงรัสเซียนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องทำการรีจิสเตอร์ภายใน 3 วันหลังจากถึงรัสเซีย อีกทั้งนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องมีรีจิสเตอร์ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในประเทศ

ในส่วนของมาตรการโควิดปัจจุบันรัสเซียไม่มีเงื่อนไขการฉีดวัคซีนสำหรับผู้เดินทางเข้ารัสเซียทุกประเภท ซึ่งก็คือ

ก่อนเดินทางไปเที่ยวรัสเซีย Traveloka เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศรัสเซียมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว

รัสเซีย (Russia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธรัฐรัสเซีย เป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 17,098,246 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยของโลกถึง 1 ใน 8 ด้วยประชากรกว่า 146 ล้านคน มีเมืองหลวงที่ชื่อว่า มอสโก (Moscow)

รัสเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 46 แคว้น (Provinces - oblast), 22 สาธารณรัฐ (Republics - respublika ), 9 ดินแดน (Territories - kraya ), 4 เขตปกครองตนเอง (Autonomous districts - avtonomnyye okruga), 1 แคว้นปกครองตนเอง (Autonomous oblast - avtonomnaya oblast ), 3 นครสหพันธ์ (Federal cities - federalnyye goroda ) คือ มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเซวัสโตปอล

พื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ทางตอนใต้ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสเตปป์ มีป่าไม้มากทางตอนเหนือ และมีพื้นที่แบบทุนดราตามชายฝั่งทางเหนือ เทือกเขาจะอยู่ตามชายแดนทางใต้ อีกทั้งรัสเซียยังมีชายฝั่งที่ยาวถึง 37,000 กิโลเมตร ตามแนวมหาสมุทรอาร์กติก, มหาสมุทรแปซิฟิก, ทะเลบอลติก, ทะเลอะซอฟ, ทะเลดำ และทะเลแคสเปียน

หากเดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 13 นาที ซึ่งสามารถบินตรงจากสนามบินในกรุงเทพมหานครไปยังประเทศรัสเซียด้วยสายการบินต่าง ๆ ได้แก่ Thai Airways, Garuda Indonesia, Nordwind Airlines, Aeroflot, Rossiya Airlines และ Ural Airlines

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อเครื่อง (1 จุดพัก) ได้แก่ Emirates โดยจะขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิและใช้เวลาในการเดินทางอย่างน้อย 13 ชั่วโมง 55 นาที

การเดินทางภายในประเทศรัสเซียเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ สามารถเดินทางได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่

เครื่องบิน (Plane) เนื่องจากประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่มาก การเดินทางด้วยเครื่องบินจึงสะดวกมากที่สุด ซึ่งรัสเซียมีสนามบินหลัก คือ สนามบินนานาชาติเชเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) สายการบินหลัก คือ แอโรฟลอต (Aeroflot) และรอสสิยาแอร์ไลน์ (Rossiya Airlines)

รถไฟ (Train) รัสเซียมีรถไฟให้บริการในทุกเมือง ทั้งรถไฟความเร็วสูง, รถไฟทางไกล, รถไฟชานเมือง, รถไฟข้ามคืน และรถไฟระหว่างประเทศ

รถไฟใต้ดิน (Metro) ให้บริการในเมืองใหญ่ๆ ของรัสเซีย เช่น มอสโก, คาซาน และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

รถบัส (Bus) มีทั้งรถโดยสารภายในเมืองใหญ่ๆ และระหว่างเมือง

แท็กซี่ (Taxi) ซึ่งสามารถเรียกใช้ผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก

ประเทศรัสเซีย ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการของประเทศเพียงภาษาเดียว

สกุลเงินของรัสเซีย คือ รูเบิลรัสเซีย (Russian Ruble - RUB) โดย 1 รูเบิลรัสเซีย มี 100 โกเปก (Kopek) ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินไทยจะอยู่ที่ 1 บาท เท่ากับ 2.69 รูเบิลรัสเซีย (RUB)

เวลาของประเทศไทยจะเร็วกว่าประเทศรัสเซียอยู่ที่ 4 ชั่วโมง ซึ่งหน่วยเวลาของรัสเซีย คือ UTC +3 Moscow Standard Time (MSK)

เนื่องจากประเทศรัสเซียมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้มีเขตภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก ซึ่งการไปเที่ยวรัสเซียจะขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวส่วนไหนของประเทศ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวรัสเซียมากที่สุด คือ ปลายฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูใบไม้ร่วง โดยฤดูกาลของรัสเซียจะแบ่งออกเป็นดังนี้

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ป่าไม้เขียวขจี ดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง กลางวันนานมากขึ้น อากาศเย็นสบายเหมาะกับการท่องเที่ยวกลางแจ้ง

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) มีอากาศร้อนอบอ้าว มีพายุรวมถึงฝนตกหนัก แต่ในบางพื้นที่ถือเป็นช่วงไฮซีซันของรัสเซีย เพราะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตอนเที่ยงคืน

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ฤดูกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี มีฝนตกชุกที่สุดของปี น้ำเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง และอากาศจะค่อย ๆ ลดลงจนเหลืออากาศติดลบในเดือนพฤศจิกายน

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) เป็นช่วงอากาศติดลบไปจนถึง -10 องศาในเดือนธันวาคม หิมะตกหนักทำให้สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอาจปิดหรือเปิดทำการสั้นลง