เดนมาร์ก (Denmark) เป็นหนึ่งในประเทศแถบสแกนดิเนเวียที่งดงามที่สุด และได้รับการจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีประชากรที่มีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องหลายปี เพราะไม่เพียงแต่จะมีทิวทัศน์สุดอลังการ ยังมีที่เที่ยวเดนมาร์กให้สำรวจมากมาย แถมเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย หากทริปหน้ายังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี แค่เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปเดนมาร์กกัน! การจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์กเป็นอะไรง่ายดายยิ่งขึ้นแล้ว แถมยังไม่ต้องกักตัวหากฉีดวัคซีนมาครบ ดังนั้น ใครที่อยากไปเที่ยวเดนมาร์ก ก็เปิดแอป Traveloka แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์กกันได้เลย

แต่ก่อนที่จะไปจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์ก หากใครที่อยากได้ตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่น ให้กดเข้าฟีเจอร์ Price Alerts แล้วให้แอปแจ้งเตือนราคาตั๋วเครื่องบินที่ต้องการกันได้เลย เพราะฟีเจอร์นี้จะแจ้งเตือนทันที เมื่อมีตั๋วเครื่องบินราคาถูก หรือราคาโปรที่คุณค้นหา

“โคเปนเฮเกน” เป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก ถือเป็นเมืองท่าเก่าแก่ของยุโรป อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแถบสแกนดิเนเวียที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพชีวิต และรัฐสวัสดิการดีที่สุดในโลก สัญลักษณ์ของที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ “รูปปั้นนางเงือกน้อย” (Little Mermaid) นอกจากนี้ ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอื่น ๆ เช่น “พระราชวังโรเซนเบิร์ก” (Rosenborg Palace) พระราชวังเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี และท่าเรือนูฮาฟน์ (Nyhavn) ที่บรรยากาศคึกคักสุด ๆ เป็นต้น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jRQi6PeCwcewtfCNA

“รูปปั้นนางเงือกน้อย” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเดนมาร์ก และยังเป็นที่เที่ยวเดนมาร์กสุดฮิตที่ต้องมาเช็กอิน โดยตั้งอยู่บนโขดหิน บริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นเมื่อปี 1913 โดย “คาร์ล จาค็อบเซน” (Carl Jacobsen) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการชมการแสดงบัลเลต์เรื่อง “The Little Mermaid” ของนักเขียนนิทานชื่อดัง “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) ตัวรูปปั้นทำจากสำริด สูงประมาณ 1.25 เมตร และหนักประมาณ 175 กิโลกรัม ใครไม่ได้ถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเดนมาร์กเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1jBakq6sfYRfzvuB6

พระราชวังฤดูหนาวสุดอลังการ “พระราชวังอมาเลียนบอร์ก” ตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 300 ปี ของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก ที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้มีจุดเด่นคือ เป็นพระราชวังสไตล์โรโกโก ตรงกลางมีรูปปั้นพระเจ้าเฟดเดอริกที่ 5 ซึ่งนับเป็นรูปปั้นทรงม้าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมบางส่วนของพระราชวัง และพร้อมเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก เพื่อจัดแสดงงานศิลปะ, เครื่องแต่งกาย, เครื่องประดับอัญมณี และสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ อีกมากมาย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NcS5tazfWj4YHPBc8

“พระราชวังโรเซนเบิร์ก” หนึ่งในที่เที่ยวเดนมาร์กยอดนิยม ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ตัวอาคารทั้งภายใน และภายนอกได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยศิลปะแบบดัตช์เรอเนซองซ์ อีกทั้งพระราชวังแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเก็บรักษาทรัพย์สมบัติของราชวงศ์เดนมาร์ก โดยหนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดที่จัดแสดงอยู่ที่นี่คือ “เครื่องราชกกุธภัณฑ์” (The Crown Jewels) ซึ่งถือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์เพียงชุดเดียวที่นำออกมาจัดแสดงแก่สาธารณะ ขณะที่ยังมีการนำไปใช้ในกิจของราชวงศ์อยู่

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4RQoC4bUGBmgrZby9

“พระราชวังคริสเตียนบอร์ก” เป็นพระราชวังที่สวยงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเดนมาร์ก ตั้งอยู่ที่เกาะสลอตส์ฮอลมัน (Slotsholmen) โดยภายในพระราชวังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งประเทศเดนมาร์ก (Danish Parliament), ศาลฎีกา และห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ยังมีห้องที่ยิ่งใหญ่อลังการคือ “เดอะเกรตฮอลล์” (Great Hall) ที่มีพรมแขวนผนังบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปีของประเทศเดนมาร์ก ทั้งยังมีห้องหอคอย (Tower Room) และห้องบัลลังก์วงรี (Oval Throne Room) ซึ่งใช้เป็นห้องรับรองทูตคนสำคัญจากต่างประเทศอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/J4TK3a3E6SWwQACP7

“ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน” ตั้งโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ณ จัตุรัสศาลาว่าการ (The City Hall Square) ก่อสร้างขึ้นระหว่างปี 1892 - 1905 โดยได้รับอิทธิพลมาจากศาลาว่าการเมืองซีนา (Siena City Hall) ของอิตาลี หากนับถึงยอดหอคอย ศาลาว่าการแห่งนี้จะมีความสูงถึง 105.6 เมตร นับเป็นจุดชมวิวเมืองโคเปนเฮเกนสุดอลังการ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ “นาฬิกาโลก” (World Clock) โดย “เจ็นส์ โอลเซน” (Jens Olsen) และที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับงานแต่งงานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ceSx77XamrN1db6m6

“โบสถ์เฟรเดอริก” หรือที่เรียกว่า โบสถ์หินอ่อน (Marble Church) ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ย่านเฟรเดอริคสเตเดิน (Frederiksstaden) ในเมืองโคเปนเฮเกนที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้เป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ซึ่งเป็นโบสถ์คริสตจักรลูเธอร์แรน สร้างเมื่อปี 1740 ด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบโรโกโก ภายในของโดมประดับประดาด้วยภาพวาดปูนเปียกของอัครสาวกของพระเยซู บนยอดโดมมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทัศนียภาพของทั้งเมืองได้ในช่วงบ่ายของทุกวัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HuFQyf4XXybagfXh6

“สวนสนุกทิโวลี” ตั้งอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน สวนสนุกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1843 จึงทำให้เป็นสวนสนุกที่เก่าแก่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และกลายเป็นแรงบันดาลใจของสวนสนุกทั่วโลก อย่างเช่น “ดิสนีย์เวิลด์” (Disney World) เป็นต้น ภายในที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้มีเครื่องเล่นรวมกว่า 25 ชนิด แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ “เดอะเวอร์ติโก” (The Vertigo) เครื่องเล่นหวาดเสียวที่พุ่งทะยานกลับหัวด้วยความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสวนสนุกสุดเก่าแก่แห่งนี้มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในยามกลางคืนจะมีความสวยงามด้วยแสงไฟประดับประดากว่า 100,000 ดวง ให้บรรยากาศราวกับหลุดเข้าไปในเมืองแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HVXBdhwPwUJFz2F17

“น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน” เป็นหนึ่งในอนุสรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะแลนเจอลีนี (Langelinie Park) ที่เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ด้านบนน้ำพุมีรูปปั้นเทพีเกฟิออน (Gefion) ในตำนานนอร์ส (Norse Mythology) ซึ่งชาวเมืองเชื่อกันว่าเป็นน้ำพุอธิษฐาน และหากโยนเหรียญลงไปในน้ำพร้อมกับขอพร พรข้อนั้นจะเป็นจริงขึ้นมา ที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิคาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg Foundation) ในฐานะของขวัญให้แก่เมืองโคเปนเฮเกน ในโอกาสที่โรงผลิตเบียร์คาร์ลสเบิร์กอายุครบ 50 ปี ในปี 1897 นั่นเอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/eFn6fdkMan6chJGn8

“ถนนสตรอยก์” เป็นถนนเก่าแก่สายสำคัญของเมืองโคเปนเฮเกน และเป็นถนนทางเดินเท้าสายยาวที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จุดเด่นของถนนสายนี้คือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปความคึกคัก โดยเริ่มที่ถนนสตรอยก์ ซึ่งมีแลนด์มาร์กสำคัญเป็นรูปปั้นนกนางแอ่น 2 ตัวบินคู่กัน ใกล้ ๆ กันมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังชื่ออย่าง “อิลลุม” (Illum) และตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้คับคั่งไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งยังมีร้านกาแฟเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงให้นั่งชิลและชิมขนมเดนิช พร้อมชมการแสดงบนท้องถนนอย่างเพลิดเพลิน เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเดนมาร์กที่ไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HH9ZG2cbC8dMKGoY8

“ท่าเรือนูฮาวน์” เป็นท่าเรือเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของตัวเมืองโคเปนเฮเกน พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 (Frederic V) โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี 1673 ปัจจุบันกลายเป็นจุดปักหมุดห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือน, บาร์, คาเฟ่ และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 20 สถานที่ซึ่ง “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) เขียนนิทานเรื่อง “The Tinderbox” และ “The Princess and the Pea” นั่นเอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Nvx7mrES2AJTjZA79

“เมืองโอเดนเซ” เป็นเมืองบ้านเกิดของ “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) ราชาแห่งเทพนิยายเจ้าของบทประพันธ์ “ลูกเป็ดขี้เหร่” (The Ugly Duckling) โดยจุดเด่นของที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้อยู่ที่อาคารเก่าในสมัยศตวรรษที่ 16 ถนนหินกรวดที่เรียงรายไปด้วยบ้านสีสันสดใส จุดปักหมุดประจำสถานที่แห่งนี้ได้แก่ มหาวิหารเซนต์คนุต (Saint Canute’s Cathedral) สไตล์กอททิก และพิพิธภัณฑ์ฮันส์คริสเตียนแอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen Museum) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนักแต่งนิยายชื่อก้องโลกนั่นเอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/r57VykkMkpZDFK4L6

“สกาเกน” เมืองที่อยู่เหนือสุดของประเทศเดนมาร์ก เป็นที่ตั้งของแหลมเกรเนน (Cape Grenane) บริเวณบริเวณคาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland Peninsula) ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือที่สุดของแผ่นดินใหญ่ยุโรป

ไฮไลต์คือมีน้ำทะเล 2 สีบรรจบกัน ระหว่างทะเลบอลติกและทะเลเหนือ ที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงามราวกับภาพวาด ขึ้นชื่อด้านการจับปลาแฮริง และแลนด์มาร์กสำคัญของที่นี่คือ “ประภาคารเกรย์” (Grey Lighthouse) หรือประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเดนมาร์กนั่นเอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wBKxU627ZoW6Xixi8

“เกาะบอร์นโฮล์ม” (Bornholm) ตั้งอยู่ในทะเลบอลติก ทางทิศตะวันออกของเดนมาร์ก เป็นเกาะที่มีทิวทัศน์โดดเด่น ทั้งหน้าผาสูงชัน, หุบเขา, ชายหาด และแนวปะการัง บนเกาะมีชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 เป็นที่รู้จักในด้านศิลปะและงานฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแก้วและเครื่องปั้นดินเผา ที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้มีเที่ยวเด่น ๆ อย่างเช่น “ซากป้อมปราการแฮมเมอร์ชูส” (Hammershus Castle Ruins) ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของเดนมาร์ก และ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอร์นโฮล์ม” (Bornholm Museum of Art) ซึ่งจัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นและศิลปินที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fyADh8nV8FapaieM8

“หมู่เกาะแฟโร” เป็นดินแดนในการปกครองของเดนมาร์ก ประกอบด้วย 18 เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีเกาะวาการ์ (Vagar Island) เป็นเกาะท่องเที่ยวหลัก ไฮไลต์ของเกาะแห่งนี้คือ “หมู่บ้านกาซาดาลอร์” (Gasadalur Village) หมู่บ้านริมผาซึ่งเป็นจุดชม “น้ำตกมูลาฟอสเซอร์” (Mulafossur Waterfall) อันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแฟโร อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดคือ “หมู่บ้านบูร์” (Bour Village) หมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยบ้านทรงกระท่อมหลังคาหญ้า และยังเป็นจุดชมวิวโขดหินกลางทะเล "ทินดฮอลมูร์" (Tindholmur) หรือ “เกาะเขา 5 ยอด” อีกด้วย เป็นที่เที่ยวเดนมาร์กอีกแห่งที่ต้องไม่พลาดแวะมาเช็กอิน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/inpXaGgLEyH7PgXk8

“ปราสาทครอนบอร์ก” เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ริมทะเลแสนสวยงาม ที่เที่ยวเดนมาร์กสุดฮิตแห่งนี้มีเอกลักษณ์ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองซ์ ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของดินแดนแห่งนี้ในอดีต และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเดนมาร์กที่สำคัญมาก

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qeEuLUWrp1vJcJbF9

“โรงแรม D’Angleterre Hotel” อีกหนึ่งที่เที่ยวเดนมาร์กที่มีความเก่าแก่และหรูหรามากที่สุดของโคเปนเฮเกน โรงแรมห้าดาวแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1755 โดย “ฌอง มาร์คแชล” (Jean Marchal) ที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบันนับได้เป็นรุ่นที่ 6 ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว แต่โรงแรมแห่งนี้ก็ยังคงยืนหยัดได้อย่างยาวนาน ใครอยากจิบกาแฟพร้อมทานเค้กอร่อย ๆ ระดับตำนาน ห้ามพลาดเด็ดขาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wEDHKUZU1ajhZCNU6

“พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดนมาร์ก” เป็นแลนด์มาร์กยอดฮิตที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านนูฮาวน์มากนัก เดินทางสะดวกสบาย ใช้เวลาเดินเพียง 20 นาทีก็ถึงแล้ว ความสวยงามของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้คุณตะลึงตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปชมด้านในเลยทีเดียว อีกทั้งภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเดนมาร์ก และศิลปวัตถุจากยุคกลาง สำหรับสายประวัติศาสตร์ รับรองว่าที่เที่ยวเดนมาร์กแห่งนี้ถูกใจแน่นอน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZDsGC29DPbfVyasN8

“ปราสาทเอเกสโคฟ” เป็นอีกพิกัดที่เที่ยวเดนมาร์กที่ไม่ควรพลาด ปราสาทเก่าแก่สุดคลาสสิกที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ถือเป็นสุดยอดปราสาทเก่าแก่ยุคเรอเนซองซ์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เพียงแค่คุณมาเยือนที่เที่ยวแห่งนี้ ก็จะรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปยังโลกแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/u4cT88Y3HpcSuKNp8

หอสังเกตการณ์ “Round Tower” เป็นหอคอยที่ใช้เป็นหอดูดาวเก่าแก่ของเมืองหลวงโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถือเป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน หอแห่งนี้มีความคลาสสิกด้วยทางเดินลาดชัน วนไปถึงชั้นบนของหอคอย เป็นระยะทางกว่า 209 เมตร ให้คุณได้ถ่ายรูปชิค ๆ ตลอดเส้นทาง ที่เที่ยวเดนมาร์กยังมีอีกมากมาย ใครมาเดนมาร์กอย่าลืมแวะไปปักหมุดกัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/reztmhBdzp2VArcK8

สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเดนมาร์ก ไม่ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าประเทศแล้ว แต่จะต้องดำเนินการขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อนเข้าประเทศเดนมาร์ก ซึ่งจะสามารถพำนักได้สูงสุด 90 วันต่อครั้ง โดยเข้าออกได้หลายครั้งหากวีซ่ายังเหลืออยู่ และต้องยื่นคำร้องก่อนการเดินทางไม่เกิน 90 วัน กับศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่าเดนมาร์ก (VFS Global) พร้อมกับเอกสารดังนี้

ที่เที่ยวเดนมาร์กมีมากมาย สวยงามจนคุณต้องตะลึง นอกจากจะได้รู้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเดนมาร์กแล้ว ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศเดนมาร์กก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในหัวข้อนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเมืองแห่งเทพนิยายให้มากขึ้นว่ามีข้อมูลน่าสนใจอะไรบ้าง

เดนมาร์ก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (Kingdom of Denmark) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland) ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป มีประชากรกว่า 5.85 ล้านคน มีพื้นที่ 43,094 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 มณฑล และ 3 เทศบาลนคร เมืองหลวงของดนมาร์กคือ กรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) โดยมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ดังนี้

จากไทยไปเดนมาร์กมีเที่ยวบินตรง ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 20 นาที โดยสายการบิน Thai Airways และยังสามารถเดินทางโดยแวะต่อเครื่อง 1 - 2 จุด โดยมีสายการบินให้บริการได้แก่ Etihad Airways, Emirates, Qatar Airways, Finnair, Austrian Airlines และ Turkish Airlines เป็นต้น

การเดินทางไปยังที่เที่ยวเดนมาร์กแสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้หลากหลายทั้งรถไฟ, รถแท็กซี่, รถบัส, รถจักรยาน หรือรถไฟใต้ดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วรถไฟแบบ City Pass ได้ที่สนามบิน เพื่อท่องเที่ยวตามโซนท่องเที่ยวที่ต้องการ

เดนมาร์กใช้ภาษาราชการคือ ภาษาเดนิช (Danish) และในบางพื้นที่สื่อสารด้วยภาษาเยอรมนี ทั้งนี้ บริเวณที่เที่ยวเดนมาร์กมีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เดนมาร์กใช้เงินสกุลโครนเดนมาร์ก (Danish Kroner) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 โครนเดนมาร์ก (DKK) เท่ากับ 5.14 บาท (BKK) ณ เดือนตุลาคม พ.ศ.2566

เวลาในเดนมาร์กช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง โดยเดนมาร์กมีค่าเวลามาตรฐานอยู่ที่ GMT+1 เขตเวลา Europe/Copenhagen โซนเวลา Central European Time (CET) ไปถึงที่เที่ยวเดนมาร์กอย่างแรกที่ต้องทำเลยคือการปรับเวลาให้ตรงกับไทม์โซนนะ

เดนมาร์กมี 4 ฤดูด้วยกัน คือ