0

Traveloka TH

21 Apr 2024 - 3 min read

20 ที่เที่ยวโกเบ! ค้นพบโกเบผ่านทริปที่นำคุณไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองท่าและเนื้อวากิว

ที่เที่ยวโกเบ

“โกเบ” เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดอร่อย เนื้อวากิว A5 คุณภาพเยี่ยม และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศจากซีกโลกตะวันตกได้อย่างลงตัว หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปเที่ยวโกเบ สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปโกเบได้ที่แอป Traveloka ตัวช่วยที่จะทำให้คุณวางแผนทริปได้อย่างสะดวกสบาย ภายใต้ราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด

20 ที่เที่ยวโกเบ ห้ามพลาด! เมืองที่ควรมาสักครั้งในชีวิต

โกเบ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์อันน่าสนใจ โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศไม่ซ้ำใคร รวมถึงยังเต็มไปด้วยประสบการณ์น่าตื่นเต้นที่รอคุณอยู่ มาดูกันว่า ที่เที่ยวโกเบมีที่ไหนบ้างที่ห้ามพลาด

1. สวนโซราคุเอ็น (Sorakuen Garden)

สวนโซราคุเอ็น (Sorakuen Garden) เป็นที่เที่ยวโกเบซึ่งเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยได้รับการดูแลรักษาอย่างประณีต จึงมีความร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่และสะพานหิน พร้อมโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมที่เหมาะสำหรับการดื่มชาและชื่นชมธรรมชาติ หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวโกเบที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ เราขอแนะนำให้คุณมาที่นี่

2. หอคอยแห่งโกเบ (Kobe Port Tower)

หอคอยแห่งโกเบ (Kobe Port Tower) เป็นหอคอยท่าเรือแห่งเมืองโกเบที่มีความสูงถึง 108 เมตร มีรูปทรงเป็นท่อเหล็กที่มีลักษณะคล้ายกลองพื้นเมืองของญี่ปุ่น โดยจากจุดชมวิวด้านบน สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของยอดเขาร็อคโคะ ซึ่งเป็นภูเขาที่ขึ้นชื่อของตัวเมืองและเมืองโกเบได้แบบ 360 องศา

3. วัดโนฟุคุจิ (Nofukuji)

วัดโนฟุคุจิ (Nofukuji) เป็นวัดพุทธเก่าแก่ในศตวรรษที่ 9 ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปเฮียวโกะไดบุทสึ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโกเบที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นใหม่และพระพุทธรูปได้อย่างใกล้ชิด

4. พิพิธภัณฑ์เมืองโกเบ (Kobe City Museum)

พิพิธภัณฑ์เมืองโกเบ (Kobe City Museum) เป็นศูนย์รวมโบราณวัตถุกว่า 70,000 ชิ้น ซึ่งไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ ‘งานศิลปะนันบัน’ (Nanban Art) ของจิตรกรญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะตะวันตก จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจศึกษาศิลปะเก่าแก่และมีเอกลักษณ์

5. กระเช้านุโนบิกิ (Nunobiki)

Nunobiki

กระเช้านุโนบิกิ (Nunobiki) เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวบนภูเขาร็อคโค (Mount Rokko) ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ขึ้นกระเช้าจะพบกับน้ำตกนุโนะบิ (Nunobiki Waterfall) และสวนสมุนไพรนุโนะบิกิ (Nunobiki Herb Garden) ที่เป็นสวนสมุนไพรใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีสมุนไพรกว่า 75,000 ต้น และดอกไม้ 200 ชนิดให้ได้เลือกชมกัน

6. ห้างโกเบฮาร์เบอร์แลนด์อุมิเอะ (Kobe Harborland Umie)

Kobe Harborland Umie

ห้างโกเบฮาร์เบอร์แลนด์อุมิเอะ (Kobe Harborland Umie) หรือที่คนชอบเรียกสั้น ๆ ว่าอุมิเอะ (Umie) เป็นศูนย์การค้าใหญ่ริมทะเลโกเบ ซึ่งมีร้านอาหารและร้านค้ามากกว่า 225 ร้าน โดยเป็นที่เที่ยวโกเบซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งและพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวนิยมมารับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวอ่าวโกเบ

7. ถนนโกเบ โมโตมาชิ (Kobe Motomachi)

ถนนโกเบ โมโตมาชิ (Kobe Motomachi) เป็นถนนคนเดินที่มีความยาวประมาณกว่า 1 กิโลเมตร เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านค้ากว่า 300 ร้าน ตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ของเมืองโกเบ ซึ่งมีประวัติอันยาวนานกว่าร้อยปี จึงผ่านเหตุการณ์ใหญ่ ๆ มา อาทิ แผ่นดินไหวใหญ่โกเบหรือสงครามโลกครั้งที่สอง ถือเป็นที่เที่ยวโกเบอีกที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เหมาะสำหรับแวะเช็กอินสุด ๆ

8. พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แผ่นดินไหวโกเบ (Kobe Earthquake Memorial Museum)

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แผ่นดินไหวโกเบ (Kobe Earthquake Memorial Museum) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองโกเบ ในปี ค.ศ. 1995 โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวรวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และวิธีการป้องกันตัวจากภัยพิบัติอีกด้วย ถือเป็นอีกที่เที่ยวโกเบที่มาแล้วได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ดี ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอย่างแน่นอน

9. ภูเขาร็อคโค (Mount Rokko)

Mount Rokko

ภูเขาร็อคโค (Mount Rokko) แห่งนี้ถูกคนในพื้นที่เรียกว่า “ร็อคโคซัง” โดยเป็นภูเขาที่มีความสูงกว่า 931 เมตร จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเมืองโอซาก้าและโกเบได้แบบพาโนรามา โดยช่วงเย็นถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการชมวิวมากที่สุด

10. ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine)

ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine) มีอายุยาวนานกว่า 1,800 ปี ซึ่งถือเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่เป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นก็ว่าได้ โดยเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองโกเบ ปัจจุบันอาคารศาลเจ้าหลังเดิมไม่มีอยู่แล้ว แต่ก็ได้มีการสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน

11. จัตุรัสนันคินมาจิ (Nankinmachi Square)

จัตุรัสนันคินมาจิ (Nankinmachi Square) หรือไชน่าทาวน์แห่งเมืองโกเบ ถือเป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในอันดับ Top 3 ของประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นย่านที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมสไตล์จีน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, สถาปัตยกรรม, ร้านค้า และการจัดงานในเทศกาลต่าง ๆ ก็มีรวมเอาไว้ให้คุณได้รับชมในที่เที่ยวโกเบแห่งนี้

12. พิพิธภัณฑ์สาเกซาวาโนะซึรุ (Sawanotsuru Museum)

Sawanotsuru Museum

พิพิธภัณฑ์สาเกซาวาโนะซึรุ (Sawanotsuru Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการผลิตสาเกแบบโบราณ โดยภายในตัวพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งวัฒนธรรมการผลิตสาเกญี่ปุ่นเอาไว้มากมาย นักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์โกเบสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตสาเกตั้งแต่ต้นจนจบ รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตสาเกได้ในที่เที่ยวโกเบแห่งนี้

13. อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen)

Arima Onsen

ไม่ว่าคุณจะเที่ยวโกเบคนเดียวหรือไปเป็นคู่ ก็สามารถไปเยี่ยนชมและแช่ออนเซ็นที่อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) แห่งนี้ได้ โดยที่เที่ยวโกเบแห่งนี้เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนญี่ปุ่นในทุกยุคสมัย อาทิ จักรพรรดิ ชนชั้นสูง ตลอดจนประชาชนทั่วไป เป็นต้น ปัจจุบันนอกเหนือจากออนเซ็นที่ถือเป็นจุดขายประจำหมู่บ้านแล้ว ที่เที่ยวโกเบแห่งนี้ยังมีทั้งอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิมและอาคารสมัยใหม่มากมายผสมผสานกัน สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมได้เป็นอย่างดี

14. จุดชมวิวคิคุเซะได (Kikuseidai)

Kikuseidai

จุดชมวิวคิคุเซะได (Kikuseidai) มีชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์อันสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นเมืองโกเบ วากายาม่า และโอซาก้า ประดับด้วยแสงไฟจากอาคารต่าง ๆ ที่ระยิบระยับ ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าได้แบบงดงามตระการตา

15. สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo)

Akashi Kaikyo

สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo) เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวมากกว่า 3,991 เมตร โดยเชื่อมระหว่างเมืองโกเบ เกาะฮนชู และเกาะอาวาจิเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากสะพานนี้จะเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาวเมืองแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นจุดเช็กอินที่โกเบอีกหนึ่งแห่งที่ควรแวะไปท่องเที่ยวสักครั้งอีกด้วย

16. ย่านคิตาโนะ (Kitano)

Kitano

ย่านคิตาโนะ (Kitano) เป็นที่เที่ยวโกเบซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของนิคมชาวต่างชาติ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกัน จึงมีบ้านเรือนรวมถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกก่อสร้างเอาไว้ภายในที่เที่ยวโกเบแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้จากคนรุ่นหลังเป็นอย่างดี และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในปัจจุบัน เช่น บ้านไก่กังหันลม (Weathercock House) เป็นต้น

17. วัดซุมะเดระ (Sumadera)

วัดซุมะเดระ (Sumadera) เป็นวัดพุทธนิกายสุมะชินงอน (นิกายมันตระ) ในโกเบ สร้างขึ้นโดยตระกูลไทระ เพื่ออุทิศให้กับทหารที่เสียชีวิตในสงครามเกนเป ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยเป็นการต่อสู้ระหว่างตระกูลไทระและตระกูลมินาโมโตะ จึงเป็นที่เที่ยวโกเบที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจในเรื่องราวของสงครามและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

18. พิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบ (Kobe Maritime Museum)

พิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบ (Kobe Maritime Museum) เป็นที่เที่ยวโกเบที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 มีลักษณะเป็นหลังคาโครงเหล็กสีขาว รูปทรงคล้ายกับเรือใบ โดยภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงสมัยใหม่ และยังมีการนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่าเรือโกเบอีกด้วย เป็นอีกที่เที่ยวโกเบที่สายประวัติศาสตร์ต้องแวะมาเที่ยวให้ได้เลยล่ะ

19. ร้านสเต๊กแลนด์ โกเบ (Steakland Kobe)

ร้าน Steakland Kobe

อีกหนึ่งกิจกรรมที่โกเบที่ห้ามพลาดคือ การไปลิ้มรสเนื้อโกเบที่ร้านสเต๊กแลนด์ โกเบ (Steakland Kobe) ซึ่งเป็นสเต๊กเนื้อโกเบสไตล์เทปันยากิ โดยร้านสเต๊กแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจนมีลูกค้ามาต่อคิวทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีเมนูเด็ดคือ เนื้อโกเบคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรและปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟฝีมือดี

20. ร้านเซทสึเกทสึกะ (Setsugetsuka)

Setsugetsuka

ปิดท้ายด้วยร้านเซทสึเกทสึกะ (Setsugetsuka) ร้านที่นำเนื้อโกเบจากวัวที่เลี้ยงมากว่า 30 เดือนมาย่างบนกระทะเหล็กก่อนเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองกัน โดยเนื้อในร้านแห่งนี้ถือเป็นเนื้อโกเบ A5 คุณภาพดีเยี่ยมนอกจากนี้ยังพ่วงมาด้วยมิชลินสตาร์ 1 ดาว ซึ่งการันตีถึงความพิถีพิถันและฝีมือการปรุงที่ยอดเยี่ยมของร้านแห่งนี้ หากมีโอกาสเช็กอินโกเบแล้ว ถือว่าเป็นอีกร้านที่ต้องหาโอกาสมาลิ้มลองให้ได้

มาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวโกเบ

ปัจจุบัน การไปเที่ยวโกเบไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิดแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกเดินทางไปยังที่เที่ยวโกเบ ควรมีการเตรียมตัวและเอกสารสำคัญ ดังนี้

พาสปอร์ต : เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าพาสปอร์ตว่ายังไม่หมดอายุ ถ้าหากใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว ก็สามารถไปต่อพาสปอร์ตใหม่ได้ที่จุดบริการใกล้บ้านได้เลย
ตั๋วเครื่องบิน : ควรระบุวันเวลาที่ชัดเจนสำหรับการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ กับโกเบ หากคุณยังไม่มีตั๋วเครื่องบินตอนนี้ก็สามารถจองผ่านแอป Traveloka ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
การลงทะเบียนใน Visit Japan : หากคุณจะท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาไม่เกิน 15 วัน ต้องลงทะเบียนเข้าประเทศผ่าน Visit Japan Web เพื่อกรอกข้อมูลที่จำเป็นตามคำแนะนำ

ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวโกเบ

โกเบเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน รวมถึงประกอบไปด้วยวัฒนธรรมหลากหลาย จึงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย

หลังจากเห็นลิสต์ที่เที่ยวสุดว้าวกันไปแล้ว มาดูกันว่า มีอะไรน่ารู้ ก่อนเราจะไปทริปโกเบบ้างในหัวข้อนี้ได้เลย

ข้อมูลเมืองโกเบในเบื้องต้น

โกเบตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น บริเวณชายฝั่งทะเล โดยมีภูเขาล้อมรอบทั้งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทำให้เมืองมีลักษณะยาวและแคบ ปัจจุบันเมืองโกเบเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งจากการมีจำนวนประชากรกว่า 1.5 ล้านคน โดยเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 5 และเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

การเดินทางไปท่องเที่ยวโกเบ

ในปัจจุบันยังไม่มีสายการบินที่บินตรงไปลงที่เมืองโกเบ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบินตรงไปลงโอซาก้าเพื่อเดินทางไปยังเมืองโกเบต่อได้ โดยขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ในโอซาก้า ทั้งนี้ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง ก่อนนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองโกเบที่สถานีรถไฟประจำเมือง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินทาง

โดยมีสายการบินให้บริการในการบินตรงไปยังสนามบินคันไซ เช่น Thai Air Asia X และ Peach Airlines ซึ่งคุณสามารถจองตั๋วเครื่องบินเพื่อไปทัวร์โกเบ รวมถึงหาคู่เปรียบเทียบราคาเที่ยวบินต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่แอปพลิเคชัน Traveloka

การเดินทางภายในประเทศไปยังที่เที่ยวโกเบ

การเดินทางไปโกเบสามารถทำได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟธรรมดา, รถไฟชินคันเซ็น, รถบัส รวมถึงเครื่องบินที่บินตรงไปยังโกเบได้จากโตเกียว โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ สำหรับใครที่มาจากโอซาก้า ก็สามารถเดินทางไปยังโกเบได้ด้วยรถไฟธรรมดา แท็กซี่ หรือรถไฟชินคันเซ็นซึ่งใช้เวลาเพียง 13 นาทีก็จะสามารถพาคุณเดินทางจากโอซาก้ามาถึงยังโกเบได้อย่างสะดวกสบาย

ภาษาที่ใช้ในที่เที่ยวโกเบ

หากต้องการสื่อสารกับพนักงานหรือชาวญี่ปุ่นในที่เที่ยวโกเบ นักท่องเที่ยวควรเรียนรู้คำศัพท์ และประโยคภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นและภาษาประจำชาติไว้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นมักจะไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม อาจพบเห็นพนักงานตามร้านค้าหรือป้ายต่าง ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง แต่มักจะไม่ครอบคลุมอยู่ทุกสถานที่ท่องเที่ยวโกเบ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้แอปแปลภาษาเข้ามาเป็นตัวช่วย เมื่อต้องการสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้

เงินตราสำหรับใช้จ่ายในที่เที่ยวโกเบ

นักท่องเที่ยวควรแลกเงินสกุลเยน (JPY) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศญี่ปุ่นไว้ล่วงหน้า เนื่องจากอาจหาแลกยากในบางพื้นที่ และอัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่คุ้มค่าหากแลกที่โกเบ โดยปัจจุบันสามารถใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายได้ แต่ควรเช็กกับผู้ให้บริการบัตรก่อนเดินทางว่าสามารถใช้ได้ในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ โดยอัตราแลกเปลี่ยน 1 เยนเท่ากับ 0.24 บาท (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม ปี 2567)

ข้อมูลเวลาสำหรับท่องเที่ยวโกเบ

ไทม์โซนของโกเบ ใช้ตามเขตเวลามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น (JST) ที่ GMT+9 ดังนั้นเวลาในเมืองโกเบจึงเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 2 ชั่วโมง

ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวโกเบ

นักท่องเที่ยวสามารถไปที่เที่ยวโกเบได้ตลอดทั้งปี โดยมีข้อมูลสภาพอากาศที่ควรทราบเพื่อที่จะเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวให้สะดวก ดังนี้

ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) : อากาศหนาวเย็นและอาจมีหิมะตก เหมาะสำหรับการเล่นสกีหรือแช่ออนเซ็น
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) : อากาศอบอุ่น สบาย ๆ มีดอกซากุระให้เยี่ยมชมกระจายตัวอยู่ทั่วโกเบ
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) : อากาศร้อนและชื้น มักมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เทศกาลชมดอกไม้ไฟ
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) : อากาศอบอุ่น และสบาย ๆ เหมาะกับการเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสี
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร