“สิงคโปร์” ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินต่าง ๆ มากมายติดอันดับโลกที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวใฝ่ฝันอยากเดินทางมาสักครั้งในชีวิต แต่จะมีใครรู้บ้างว่านอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายแล้ว สิงคโปร์ยังมีเมนูเด็ดหลากหลายที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสกับรสชาติความแปลกใหม่แบบต้นตำรับเฉพาะพิเศษของเมืองนี้ ที่เป็นแหล่งรวมอารยธรรมของความเป็นจีน ทำให้เมนูอาหารส่วนใหญ่มีความผสมผสานสไตล์จีนเข้าไปด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ประเทศสิงคโปร์อนุญาตให้นักเดินทางสัญชาติไทย สามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์กันได้แล้ว แต่อาจจะต้องทำตามเงื่อนไข และเตรียมเอกสารที่กำหนดให้พร้อม อีกท้งยังต้องจองไฟลท์บินไปสิงคโปร์ กับสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ หากใครพร้อมก็เตรียมจดใส่ลิสต์และออกไปดื่มด่ำกับเมนูเหล่านี้อีกครั้งกันได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมกดจองตั๋วเครื่องบินสิงคโปร์ผ่าน Traveloka แอปพลิเคชันที่มาพร้อมตั๋วราคาสุดพิเศษ และการจองในขั้นตอนอันแสนง่าย

เช็คราคา ตั๋วเครื่องบินไปสิงค์โปร์ ราคาพิเศษ

เริ่มต้นกันที่เมนูแรกที่เป็นซิกเนเจอร์ของประเทศสิงคโปร์และเป็นเมนูอาหารสุดขึ้นชื่อของทางฝั่งมาเลเซียและทางใต้ของไทย โดยอาหารจานนี้ได้รับเอาอิทธิพลที่ผสมผสานระหว่างสองประเทศจนเป็นเมนูที่เข้ากันอย่างลงตัวนั่นก็คือ บักกุ๊ดเต๋ หรือ ต้มกระดูกหมูที่มีความอร่อยกลมกล่อมของน้ำซุปที่โดดเด่นด้วยความหอมและเผ็ดร้อนจากตัวพริกไทยดำ ตุ๋นด้วยไฟปานกลางกับกระดูกหมูจนเปื่อยนุ่ม และเติมเเต่งรสชาติให้เข้มข้นด้วยเครื่องในหมูที่คุณชอบ ทำให้รสชาติของน้ำซุปถ้วยนี้เต็มไปด้วยความอร่อยที่เหมาะกับอากาศหนาว ๆ ได้เป็นอย่างดี ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูที่หากใครได้มาเที่ยวสิงคโปร์ก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้เลย

สะเต๊ะ อีกหนึ่งเมนูที่คนไทยก็อาจจะคุ้นชินกันอยู่บ้าง แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าถึงแม้เราจะดูคุ้นชื่อกันอย่างดีแต่ความเหมือนกันนั้นก็ดูเหมือนจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะสะเต๊ะของที่นี่จะมีหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกกันทั้งแบบเนื้อหมู ไก่ เนื้อ เนื้อแกะ และกุ้งที่ปรุงรสชาติด้วยเครื่องเทศสุดเข้มข้นตามสไตล์ของสิงคโปร์ เสิร์ฟร้อน ๆ ทานคู่กับข้าวต้มมัดและซอสถั่วเหลืองที่แตกต่างจากการทานคู่กับขนมปังปิ้งอย่างบ้านเรา เพราะด้วยความแตกต่างอย่างนี้จึงทำให้เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาลิ้มลองรสชาติของความเข้มข้นอย่างไม่ขาดสาย แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามศูนย์อาหารทั่วไปอีกด้วย

เมนูซิกเนเจอร์เด็ดของสิงคโปร์อันดับถัดมาที่เราจะมาบอกต่อกันให้ทุกคนได้หวนคิดถึงนั่นก็คือ ข้าวมันไก่สิงคโปร์ ที่ต้องบอกเลยว่าทานข้าวมันไก่ที่ไหนก็ไม่เหมือนกับที่นี่ เพราะด้วยความมันของข้าวสูตรไฮหนานจากประเทศจีนและเนื้อไก่ที่ต้มมาได้รสชาติที่พอดี หอมตัวน้ำซุปและเข้มข้นด้วยรสชาติของน้ำจิ้มสูตรสิงคโปร์ จึงทำให้ข้าวมันไก่ของที่นี่อร่อยไม่เหมือนที่ไหนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเข้มข้นกว่าไทยในเรื่องของความหอม มัน และกลมกล่อมอย่างแน่นอนแนะนำเลยว่าใครที่มาที่นี่ก็อย่าคิดว่ามันเป็นข้าวมันไก่ธรรมดาละ เพราะเมนูนี้อร่อยมากจนเปิดสาขาในหลากหลายประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว

มาถึงเมนูอาหารเช้าสุดขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์กันบ้างดีกว่าอย่าง คายาโทส หรือ ขนมปังปิ้งสอดไส้แยมมะพร้าว ที่เสิร์ฟให้คุณได้ทานแบบร้อน ๆ ควบคู่ไปกับไข่ลวกและชา กาแฟ ทำให้คุณได้เติมพลังเช้าวันใหม่ที่สดใสอย่างอิ่มท้อง นับได้ว่าเมนูนี้เป็นเมนูสูตรดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในย่านไชน่าทาวน์ ที่ถือเป็นจุดกำเนิดทำให้ผู้คนเริ่มต้นทานมื้อเช้าด้วยขนมปังปิ้งร้อน ๆ และกาแฟได้อย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่โด่งดังและเปิดสาขาในหลากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน

หมี่ผัด หรือ Char Kway Teow นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูที่เปรียบเสมือนผัดกะเพราบ้านเรา เพราะหาทานได้ง่ายและคนส่วนใหญ่นิยมทานกันในทุกวัน โดยส่วนผสมหลัก ๆ ของเมนูอาหารจานนี้จะเป็นเส้นหมี่ที่คุณสามารถเลือกได้สองแบบด้วยกันคือ หมี่เหลืองเส้นกลม และหมี่ขาวที่มีลักษณะคล้ายกับเส้นใหญ่ ผัดคลุกเคล้ากันด้วยน้ำซอสและวัตถุดิบอื่น ๆ ที่เป็นเนื้อสัตว์เช่น ปลาหมึก กุ้ง กุนเชียง หมู และไก่ รวมไปถึงผักนานาชนิด เพื่อทำให้ผัดหมี่จานนี้ออกมามีรสชาติที่เค็มและหวานหน่อย ๆ เมื่อปรุงพริกเข้าไปอีกนิดก็ทำให้มีรสชาติของความเป็นไทยได้อย่างกลมกล่อมเลยทีเดียว

ติ่มซำ ถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์แต่เดิมนั้นเป็นสถานที่ที่มีคนจีนแผ่นดินใหญ่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 70% ของประชากรทั้งหมด จึงทำให้อาหารส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากจีนแผ่นดินใหญ่ค่อนข้างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ติ่มซำ เมนูเด็ดที่มีให้คุณได้เลือกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น จีบกุ้ง จีบหมู ฮะเก๋า ที่มาพร้อมรสชาติอร่อยเข้มข้นแบบต้นตำรับที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองสูตรดั้งเดิม และเปิดขายมาอย่างยาวนาน บอกได้เลยว่าเป็นเมนูตกทอดที่หาลิ้มลองได้หลากหลายจุดในสิงคโปร์เลยทีเดียว

มาถึงเมนูเด็ดถัดมาของประเทศสิงคโปร์ที่เหมือนจะแปลกใหม่ไปมากสำหรับใครที่ยังไม่เคยลองอย่าง โรจัก หรือ ยำผลไม้ ที่เมื่อดูหน้าตาของเมนูนี้แล้วอาจจะไม่น่าทานเท่าไหร่ แต่ขออธิบายให้ฟังก่อนเลยคร่าว ๆ ว่าเมนูนี้มีส่วนผสมของแตงกวา มันแกว สับปะรด ปลาแห้ง เต้าหู้ทอด และไข่เหยี่ยวม้า คลุกเคล้าด้วยน้ำยำสูตรเฉพาะอย่างกะปิและถั่วลิสง จึงทำให้เมนูนี้ดูคล้าย ๆ กับน้ำปลาหวานบ้านเรา ซึ่งรสชาติโดยรวมก็ถือว่าอร่อยใช้ได้เลย แนะนำเลยว่าหากใครที่มาถึงสิงคโปร์ก็อย่าลืมแวะชิมเมนูนี้

ชาชัก หรือ Teh Tarik ในภาษาสิงคโปร์ เป็นเมนูน้ำสุดขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจและต่อแถวเพื่อซื้อเมนูนี้กันเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยลีลาในการทำที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีรสชาติของชาที่หอมละมุน และนุ่มลิ้นด้วยการชักจนเกิดเป็นฟองนุ่มให้เราได้รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย จึงทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูยอดฮิตที่ไม่ว่าใครเดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์แล้วก็ต้องแวะซื้อมารับประทานไปพร้อมกับการเดินเล่นและเที่ยวชมเมืองอย่างเพลิดเพลินนั่นเอง

เดินทางไปชมเมนูเด็ดเมืองสิงคโปร์กันต่ออย่าง ลักซา อาหารจานเด็ดที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นสิงคโปร์และความเป็นมาเลเซียเข้าด้วยกัน โดยเมนูนี้จะมีลักษณะคล้ายกับข้าวซอย หรือ ขนมจีนน้ำยาบ้านเรา เพราะมีการใส่เส้นลงไปในน้ำซุปที่มีส่วนผสมของกะทิ กุ้งแห้ง และเครื่องแกง เพื่อทำให้รสชาติมีความเข้มข้น อีกทั้งยังมีการใส่เต้าหู้และไข่ต้ม เพื่อทานเคียงไปกับเมนูเส้นได้อย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลิ้มลองอย่างมากอีกเช่นกัน หากใครที่อยากลองทานเมนูนี้แล้วละก็ สามารถหารับประทานได้ที่ศูนย์อาหารทั่วไปได้เลย

เมนูแปลกใหม่จานเด็ดประเทศสิงคโปร์ที่หากคุณได้ไปแล้วไม่ควรพลาดก็คือ นาซี เลมัก หรือ ข้าวแกง หนึ่งในอาหารประจำชาติที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย จึงทำให้อาหารจานนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวข้าว ซึ่งหุงด้วยกะทิทานคู่กับไก่ทอด ปลาทู และน้ำพริกต่าง ๆ โดยมีความคล้ายคลึงกับข้าวแกงบ้านเรา แต่จะมีความแตกต่างที่รสชาติของตัวข้าวที่มีความมัน ๆ เค็ม ๆ นิด ๆ แต่โดยรวมแล้วเมื่อทานคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ ก็ทำให้เมนูนี้อร่อยขึ้นมาได้อย่างลงตัว

มาถึงครึ่งทางกันแล้วกับเมนูเด็ดที่เราอยากบอกต่อและแนะนำให้ทุกคนเดินทางมาลิ้มลองกันอย่างมากกับ Fried carrot cake หรือ ผัดขนมผักกาด ที่เรียกแบบนี้เพราะเมนูจานนี้มีความคล้ายคลึงกับขนมผักกาดบ้านเรา เนื่องจากส่วนผสมหลักทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเหมือนกันผัดคลุกกับผักหลากหลายชนิด และปรุงรสด้วยซอสมากมาย จนทำให้ได้ออกมาเป็นเมนูผัดแสนอร่อยที่เมื่อลิ้มลองดูแล้วจะสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน และความหวานนิด ๆ ของตัวซอสจึงทำให้ทานได้อย่างไม่มีเบื่อเลยนั่นเอง

ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวสิงคโปร์แล้วก็ต้องไม่พลาดกับการเดินทางมารับประทาน ปูผัดพริก หรือ Chilli Crab เมนูสุดขึ้นชื่อที่หาทานได้ง่ายเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความที่เมืองสิงคโปร์แห่งนี้เป็นเมืองติดทะเล จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลมากมายโดยเฉพาะปูที่มีขนาดตัวใหญ่ จึงทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมไปถึงกรรมวิธีในการปรุงที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะที่นี่จะทำการผัดปูกับน้ำมันพริกสีแดงจนได้สีสันที่ฉูดฉาดและรสชาติที่จัดจ้าน จนต้องจัดมารับประทานกันอีกหลายจานเลยทีเดียว

จัดกันมาอย่างต่อเนื่องกับเมนูเด็ดเมืองสิงคโปร์อย่าง โรตี พราต้า ที่แต่เดิมเคยเป็นอาหารสุดขึ้นชื่อของประเทศอินเดีย แต่คนสิงคโปร์ได้นำสูตรมาพัฒนาเพื่อปรับรูปแบบในการรับประทานใหม่ให้เข้ากับประชากรในประเทศ ด้วยการนำแป้งโรตีกลม ๆ มาทอดให้กรอบนอกนุ่มในบนกระทะร้อน ๆ และเสิร์ฟให้ทานคู่ไปกับแกงกะหรี่ที่มีให้คุณเลือกทั้งแบบ หมู เนื้อวัว กุ้ง เนื้อแกะ และหัวปลา ที่อาจฟังดูแล้วแกงกะหรี่หัวปลาอาจจะดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่รับรองได้เลยว่าเมนูนี้อร่อยเด็ดอย่างแน่นอน

ไปต่อกันที่เมนูของหวานที่เราอยากมาบอกต่อให้คุณได้มาลิ้มลองกันนั่นก็คือ น้ำแข็งไส หรือ Ice Kachang ที่นับได้ว่าเป็นเมนูของหวานยอดฮิตของคนสิงคโปร์ที่มีต้นกำเนิดในย่านไชน่าทาวน์ โดยเมนูนี้จะมีลักษณะเป็นน้ำแข็งไสถ้วยใหญ่ที่คุณสามารถทานควบคู่ไปกับลอดช่อง เฉาก๊วย มะม่วง เยลลี่ ถั่วแดง ข้าวโพด และเผือกได้ตามใจชอบ จึงทำให้เมนูของหวานจานนี้กลายเป็นเมนูดับกระหายคลายร้อน ที่คนสิงคโปร์นิยมทานกันเป็นอย่างมากในช่วงหน้าร้อนของทุกปีนั่นเอง

เมื่อพูดถึงสิงคโปร์แล้วแน่นอนว่าหลายคำที่คนส่วนใหญ่เลือกจดจำก็คือ ลอดช่องสิงคโปร์ ซึ่งหากเล่าย้อนไปแล้วว่าทำไมเราจึงคุ้นชินกับคำนี้คงเป็นเพราะเมนูขนมหวานจานนี้เป็นต้นกำเนิดลอดช่องน้ำกะทิที่มีความนุ่มเหนียว และหอมมันได้อย่างลงตัว แถมยังมีความแตกต่างกับไทยด้วยความแปลกใหม่อย่างน้ำกะทิกลิ่นทุเรียนที่ผสมให้คุณได้ทานควบคู่กับเส้นลอดช่องหนึบ ๆ และน้ำแข็งเย็น ๆ ได้อย่างเข้ากัน จึงทำให้เมนูนี้ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวอีกด้วย

โอตัก โอตัก อีกหนึ่งเมนูน่าลิ้มลองของประเทศสิงคโปร์ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้มาลิ้มลองกัน โดยเมนูนี้มีลักษณะคล้ายกับห่อหมกบ้านเราเพราะมีส่วนผสมจากเนื้อปลาที่นำมาตีปนกับพริกแกงต่าง ๆ จนได้ออกมาเป็นเนื้อนวลละเอียดและนำมาห่อลงในใบตอง หรือ ใบมะพร้าวเพื่อนำมาย่างจนสุกออกมามีกลิ่นหอม และมีรสชาติคล้ายกับห่อหมกที่บ้านเรานั่นเอง ยิ่งถ้าทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ด้วยแล้วละก็รับรองได้เลยว่าฟินสุด ๆ อย่างแน่นอน บอกเลยว่าถ้าใครมาก็ไม่ควรพลาดเพราะเนื้อปลาของที่นี่สดและไม่คาวเลย

มาถึงเมนูที่น่าสนใจและน่าขนลุกกันอีกหนึ่งอย่างคือ Claypot Frog Porridge หรือ โจ๊กกบหม้อดิน ที่ฟังแค่ชื่อแล้วอาจจะดูไม่น่าทานไปบ้างแต่เมื่อได้ลองมาชิมแล้วจะลืมชื่อของเมนูนี้ไปเลย เพราะด้วยเนื้อสัมผัสของโจ๊กที่ต้มมาได้เนียนละเอียดในน้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้นหอมด้วยสมุนไพร และเครื่องปรุงได้อย่างพอดีควบคู่ไปกับเนื้อกบที่เมื่อลองทานดูแล้วไม่ได้มีความน่ากลัวแต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีความคาวหรือเหนียวแต่เป็นเนื้อกรึบ ๆ คล้ายไก่ที่ถูกต้มจนเปื่อยทำให้ทานได้คล่องคอเลยทีเดียว

ลอหมี่ หรือ Lar Mee เมนูขึ้นชื่อและน่ารับประทานเป็นอย่างมากเพราะสามารถหาทานได้ทั้งในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยอาหารจานนี้มีลักษณะเป็นเส้นหมี่ที่ทานควบคู่กับโลบะ หรือ หมูพะโล้ทอด และเนื้อปลา เกี๊ยวหมู และไข่ต้ม ผสมผสานไปด้วยน้ำซุปที่มีความเหนียวข้นจากการผสมแป้งมันลงไปจนทำให้มีลักษณะคล้ายกับราดหน้าบ้านเราแต่รสชาติไม่เหมือนกันเลย เพราะอาหารเมนูนี้จะมีความเค็มนิด ๆ จึงต้องทานไปพร้อมกับการปรุงน้ำส้มตามมาเพื่อทำให้มีรสชาติที่ดีขึ้นนั่นเอง

ผัดหมี่ฮกเกี้ยนกุ้ง เป็นเมนูที่ต้องบอกเลยว่าเราชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะด้วยความอร่อยของเส้นหมี่ฮกเกี้ยนแบบดั้งเดิมด้วยสูตรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษที่มีความเป็นเชื้อสายจีนเข้ามา จึงทำให้เส้นหมี่ของที่นี่มีความเหนียวนุ่ม และกลมกล่อมเมื่อนำมาผัดด้วยไฟแรงใส่ไปพร้อมกับผัก และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกุ้งที่สด กรอบ จนทำให้เข้ากันได้ดีกับเส้นที่ปรุงรสด้วยน้ำซอสและเหล้าจีนสไตล์สิงคโปร์ จึงทำให้อาหารเมนูนี้กลายเป็นยอดนิยมและพูดต่อกันมาว่า ผัดหมี่สิงคโปร์นั่นเอง

และแล้วก็เดินทางมาถึงเมนูเด็ดจานสุดท้ายในประเทศสิงคโปร์ที่เราจะมาพาทุกคนไปดูกันอย่าง อะยัม บวค กลูวะก์ ที่นับได้ว่าเป็นเมนูหายากในประเทศสิงคโปร์ เพราะด้วยความพิถีพิถันในขั้นตอนการทำและวัตถุดิบที่หาได้ยากจึงทำให้เมนูอาหารจานนี้ได้รับความสนใจจากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยรสชาติของอาหารจานนี้จะมีความคล้ายคลึงกับแกงไก่ แต่จะมีเนื้อสัตว์ให้คุณได้เลือกไม่ว่าจะเป็นหมู เนื้อวัว ไก่ หรือแม้แต่เนื้อแกะก็สามารถนำมาทำเป็นวัตถุดิบได้ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยของจานนี้ก็คือ ส่วนผสมหลักอย่างเมล็ด Keluk ที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารจานนี้นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่หาทานได้ยากและน่าลิ้มลองอย่างมากเลยทีเดียว

จบไปแล้วกับการพาทุกคนไปดู 20 เมนูเด็ดประเทศสิงคโปร์ ที่หวนให้คิดถึงในวันที่เราไม่สามารถเดินทางออกไปได้ แต่เราก็ยังอยากไปลิ้มลองรสชาติของเมนูอาหารเหล่านี้ รับได้ลองได้เลยว่าหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นต้องไม่พลาดเดินทางไปปักหมุดเช็กอินอาหารเหล่านี้อย่างแน่นอน