“เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง” ฟังดูยาก? แต่จริงๆ ง่ายกว่าที่คิด หลายคนอาจแอบกังวลว่า ถ้าจัด แพลนเที่ยวไต้หวัน เอง จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวไต้หวัน เอง หรือหาที่เที่ยวเองจะวุ่นวายเกินไป… แต่เดี๋ยวก่อน! เราขอบอกเลยว่า ใครๆ ก็เที่ยวไต้หวันเองได้! แค่เปิดบทความนี้ เราจะพาไปดู ที่เที่ยวสุดปัง + วิธีเดินทางแบบง่ายเวอร์ รับรองว่าอ่านจบต้องร้อง โอ้โห! เที่ยวเองก็ได้ ง่ายจัง! พร้อมแล้วก็เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วไปลุยไต้หวันกันเล้ย~

รวมที่สุดของที่เที่ยวไต้หวัน! การันตีความปัง น่าไปสุดๆ คัดมาให้แล้วแบบเน้นๆ กับ 25 พิกัดต้องเช็คอิน ที่บอกเลยว่าเที่ยวแล้วฟินแน่นอน พร้อมแล้วไปลุยกันเล้ย~!

สายบุญทั้งหลายมาเพิ่มแต้มบุญกันหน่อยมั้ย ที่วัดหลงซาน หรือบางคนก็อ่านว่าหลวงซาน เป็นวัดที่ขึ้นชื่อ และศักดิ์สิทธิ์มากที่ไต้หวัน เรียกได้ว่าถ้าใครมาเที่ยวไต้หวัน ก็ต้องลิสวัดนี้เอาไว้ทั้งนั้น เป็นวัดที่นอกจากเรื่องการขอพร เรื่องความสำเร็จ หน้าที่การงาน คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้วัดนี้ ก็เนื่องด้วยความสมหวังในเรื่องคู่ครอง เพราะมีด้ายแดงที่จะช่วยเรื่องเนื้อคู่ และเป็นสถานที่เที่ยวไต้หวันที่คนไทยเลือกไปด้วยเหตุผลเรื่องคู่โดยเฉพาะ

ที่ตั้ง: วัดหลงซาน (Longshan Temple)

การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี Longshan temple (สายสีน้ำเงิน) จากนั้นให้ออกทางออกที่ 1

แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองไทเป หรือแลนมาร์คไต้หวัน ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากมา เพราะตึกไทเป 101 นี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน และสูงเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว เป็นที่เที่ยวไต้หวันที่ใคร ๆ ก็เดินทางมาได้ง่าย ๆ เพราะอยู่ในเมือง และสามารถมองเห็นวิวได้ในระยะไกล แนะนำว่าถ้าใครมาเที่ยวแล้ว ให้ลองขึ้นไปชมวิวที่ชั้นสูงสุดของตึกนี้ดู

ที่ตั้ง: ตึกไทเป 101 (Taipei101)

การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี MRT Taipei 101/World Trade Center Station (สายสีแดง) ออกทางออกที่ 4

เอาใจสายช้อปปิ้งกันสักหน่อย กับ “ย่านซีเหมินติง (Ximending)” เป็นอีกหนึ่งย่านที่เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เพราะเป็นย่านที่อยู่กลางเมือง เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย เหมาะกับการมาจับจ่ายใช้สอย เปรียบเหมือนเป็นดังย่านฮาราจูกุของไต้หวัน หรือเหมือนกับย่านสยามของไทยนั่นเอง นอกจากจะมีร้านให้ซื้อของ ย่านซีเหมินติงยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านคาราโอเกะมากมาย เชื่อได้เลยว่าเดินทั้งวันก็ไม่เบื่อ

ที่ตั้ง: ย่านซีเหมินติง (Ximending)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดิน Ximen Station ออกทางออกที่ 6

ใครเป็นสายอาร์ตต้องห้ามพลาดมาเที่ยวที่ “Huashan 1914 Creative Park” เพราะว่าเป็นแหล่งรวมงานศิลปะขนาดใหญ่ในไต้หวัน ซึ่งด้านในพื้นที่ครีเอทีฟปาร์คนี้ มีอาคารหลายหลัง มีทั้งส่วนจัดแสดงศิลปะ ร้านค้าที่ขายแฮนด์เมด และส่วนที่จัดอีเว้นท์มากมาย นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวไต้หวันสวย ๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง: Huashan 1914 Creative Park
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดินมาลง MRT Zhongxiao Xingsheng Station ออกทางออกที่ 1 เดินตรงไป 300 เมตร จากนั้นให้ข้ามถนนก็จะเจอสถานที่นี้

อยากกินอาหารทะเลสด ๆ แบบราคาไม่แพงมาก ต้องไปที่เที่ยวไต้หวัน “ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)” ตลาดปลาขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นก็ฟินได้ เพราะมีปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ ขายมากมาย ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เรียกได้ว่าทั้งคุ้ม และฟินไปพร้อม ๆ กัน สำหรับใครที่ไม่ถนัดเรื่องการทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่ตลาดปลาแห่งนี้จะมีบริการปรุงอาหารให้พร้อมสรรพ เรียกได้ว่าเตรียมแต่เงินในกระเป๋า และท้องว่าง ๆ ไปกินให้ฟินจนพุงกางไปเลย

ที่ตั้ง: ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดิน Ximen Station ออกทางออกที่ 3 เดินมาตรงสี่แยก แล้วข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ เพื่อที่จะนั่งต่อไปยังตลาดปลา ด้วยรถเมล์สาย 642, 643, 74, 286, หรือ 49

อยากปีนเขาไม่ต้องไปไกล เพราะใกล้ไทเปก็มีที่เที่ยวไต้หวัน ที่คุณสามารถเที่ยวไต้หวันได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เป็นภูเขาที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกของแถบชานเมืองไทเป สามารถเดินขึ้นไปได้ประมาณ 20 - 30 นาที แต่อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะบันไดค่อนข้างจะมีความชัน แต่ถ้ายังไม่จุใจ สามารถปีนติดต่อกันได้มากถึง 4 ลูก เพราะเส้นทางปีนเขาก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน คนส่วนใหญ่นิยมปีนขึ้นไปเพื่อถ่ายรูป และชมวิวเมืองไทเปมุมสูง

ที่ตั้ง: เขาช้าง หรือเขาเซี่ยงซาน (Xiangshan Elephant Mountain)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Xiangshan Station (สายสีแดง) มาจนสุดสาย จากนั้นให้เดินมาทางออกที่ 2 > เดินตรงไปอีก 500 เมตร เลี้ยวซ้าย แล้วเดินตามทางไปเรื่อย ๆ

วัดซื่อหนาน เป็นสถานที่ที่ควรแวะสำหรับคนที่ขึ้นกระเช้าเมาคง (Maokong Gondola) จุดท่องเที่ยวไต้หวันสำคัญที่ไม่อยากให้คุณพลาด เพราะการขึ้นกระเช้าเมาคงก็จะได้เห็นวิวสวย ๆ ของเมืองไทเป ยังมีจุดท่องเที่ยวให้แวะชมอีกมากมาย โดยวัดซื่อหนานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแห่ง โดดเด่นด้วยความเป็นวัดที่เก่าแก่เป็นอย่างมาก มีเทพเจ้าเทพลู่ ต้งปิง (Lü Dongbin) เป็นเทพที่ประจำอยู่ในวิหารหลัก ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งธุรกิจและอุตสาหกรรมตามความเชื่อของลัทธิเต๋า

ที่ตั้ง: วัดซื่อหนาน (Zhinan Temple)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดินมาลงที่ Taipei Zoo Station (สายสีน้ำตาล) ให้ออกประตูทางออกที่ 2 จากนั้นเลี้ยวซ้ายมาเรื่อย ๆ ประมาณ 200 เมตร

เชื่อได้เลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะเป็นจุดท่องเที่ยวสุดฮิต ไม่ว่าใครจะมาเที่ยวทัวร์ หรือมาเที่ยวเองจะต้องแวะมาอย่างแน่นอนกับที่เที่ยวไต้หวันแห่งนี้ “อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)” เป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1976 เพื่อเป็นการรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเช็ก ผู้อันเป็นที่รัก ศรัทธา และเทิดทูนของชาวไต้หวัน

ที่ตั้ง: อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall และออกประตูทางออกที่ 5 เวลาเปิดปิด: 09:00-18:00 น.

สายฮิปสเตอร์ต้องไม่พลาดที่จะมาเดินที่เที่ยวไต้หวัน “Fujin Street” เพราะจัดว่าเป็นถนนสายที่มีความชิค และฮิปมากที่สุดแห่งหนึ่งในไทเป ซึ่งแต่ก่อนย่านนี้ได้เป็นแค่ย่านพักอาศัย แต่ทว่าในตอนนี้กลับมีร้านค้า และคาเฟ่สวย ๆ มาเปิดมากมาย จึงทำให้ย่านฟูจิน กลายเป็นย่านฮิปสเตอร์ที่เดินได้ไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังมีของสวย ๆ ที่มีเอกลักษณ์ขายเยอะแยะ

ที่ตั้ง: ย่านฟูจินสตรีท (Fujin Street)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี MRT Songshan Airport และออกประตูทางออกที่ 3

หากเบื่อความวุ่นวายของเมืองใหญ่ อยากแนะนำที่เที่ยวไต้หวันอีกหนึ่งแห่งที่มีอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ นั่นคือ “อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park)” ซึ่งที่อุทยานแห่งชาตินี้จะมีบริเวณที่กว้างใหญ่ มีมากกว่า 7 หมื่นไร่ด้วยกัน เต็มไปด้วยสภาพป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ พร้อมกันนั้นยังมีความสวยงาม เพราะดอกไม้จะบานสะพรั่งแตกต่างกันไปตามฤดู

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park)
การเดินทาง: สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ MRT Jiantan Station จากนั้นให้ออกทางออกประตูที่ 1 แล้วให้ต่อรถบัส Red5 ไปยังอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน หรือนั่งสถานีรถไฟไปลงที่สถานี MRT Taipei Main Station ออกประตูทางออกที่ 3 จากนั้นต่อรถบัสสาย 260 ไปยังจุดหมายปลายทาง

ใครชอบของจิ๋ว แนะนำให้มาที่เที่ยวไต้หวัน “พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว (Miniatures Museum of Taiwan)” เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของจิ๋ว ไม่ว่าจะเป็นโมเดล หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่ถูกย่อส่วนออกมาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งสัดส่วนของสิ่งของที่ถูกย่อส่วนก็จะแตกต่างกันไป นับว่าเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเยือนไทเป ก็อยากให้ลองแวะไปเที่ยวกัน

ที่ตั้ง: พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว (Miniatures Museum of Taiwan)
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี MRT Zhongshan Station และออกทางออกที่ 4 เวลาเปิดปิด 10:00-18:00 น. ปิดทุกวันจันทร์

ที่ไต้หวันนอกจากจะติดทะเลแล้ว ยังมีทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่มีชื่อว่า “ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)” ตั้งอยู่ในตำบลหนานโถว (Nantou County) โดดเด่นด้วยวิวที่สวยงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน มีผืนน้ำที่ด้านหลังเป็นวิวภูเขา นับว่าเป็นที่เที่ยวไต้หวันที่มีความงดงามในอันดับต้น ๆ ของไต้หวันเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณโดยรอบทะเลสาบสุริยันจันทรายังมีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย

ที่ตั้ง: ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูง HSR จากสถานี Taipei Main Station ไปยังสถานี Taichung จากนั้นให้นั่งรถบัสต่อไปยังทะเลสาบ

ที่เที่ยวไต้หวันหมู่บ้านโบราณสถานที่หลักที่ดึงดูดให้ทุกคนอยากมาเที่ยวไต้หวันก็คือ “หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Village)” เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขาของเมืองจีหลง เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านรวงขายของ ร้านขนม รวมไปถึงโรงน้ำชา ที่ตอนกลางคืนจะมีการเปิดโคมไฟสีแดง ทำให้ได้บรรยากาศที่ย้อนยุค และโรแมนติกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม และแปลกตาของหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นนี้เอง ทำให้สตูดิโอจิบลิ ได้แรงบันดาลใจไปสร้างอนิเมะ Spirited Away

ที่ตั้ง: หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Village)
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Zhongxiao Fuxing จากนั้นออกทางออกที่ 1 และต่อรถประจำทางสาย 1062 หรือ 788 ลงที่ป้าย Jiufen Old Street

ใครชอบอ่านหนังสือ หรืออยากได้ที่เที่ยวไต้หวันที่มีความเงียบสงบ บอกเลยว่าต้องมาที่นี่! เพราะที่นี่คือห้องสมุดสาธารณะของเมืองเป่ยโถว ที่ซ่อนเร้นอยู่ท่ามกลางความเขียวขจีของธรรมชาติ เป็นห้องสมุดที่สามารถเข้าไปอ่านหนังสือได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือใครอยากจะเข้าไปหามุมถ่ายรูปก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะเป็นห้องสมุดที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม และมีมุมสวย ๆ เยอะมาก

ที่ตั้ง: Taiwan Public Library
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Beitou แล้วมาเปลี่ยนสายเป็น Xinbeitou จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 300 เมตร

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เคยเป็นที่อาบน้ำสาธารณะมาก่อน หลังจากนั้นจึงถูกปิดและทอดทิ้ง จนได้บูรณะฟื้นฟูกลายมาเป็นที่เที่ยวไต้หวัน “พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum)” อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ความโดดเด่นคือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ผสมผสานการออกแบบของกลิ่นอายตะวันออก และโรมันโบราณเข้าด้วยกัน พร้อมกับมีส่วนจัดแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ที่ตั้ง: พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum)
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Beitou แล้วมาเปลี่ยนสายเป็น Xinbeitou จากนั้นเดินไปยังถนน Zhongshan Road จะเจอพิพิธภัณฑ์อยู่ทางขวามือ เวลาเปิดปิด 09.00 - 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

ที่เที่ยวไต้หวันในเมืองเกาสงมีสถานที่เที่ยวกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Formosa Boulevard นั่นก็คือ “Dome of light” ที่เต็มไปด้วยกระจกสีต่าง ๆ และได้ถ่ายทอดเรื่องราวของมนุษย์ผ่านธาตุที่เรารู้จักกันดีคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเมื่อคุณได้เข้าไปด้านในอาคารจะต้องตะลึงกับความสวยงาม และสีสันที่สะดุดตาเต็มไปหมด

ที่ตั้ง: Dome of light
การเดินทาง: เนื่องจากสถานที่เที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดิน คุณสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Formosa Boulevard ได้เลย

มาที่สายธรรมชาติกันบ้าง สำหรับใครที่ชอบเดินป่า เที่ยวชมนกชมไม้ หรือว่าชอบไปอุทยานแห่งชาติ แนะนำให้ลองมาที่เที่ยวไต้หวัน “อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko National Park)” ที่กินพื้นที่ของไต้หวันมาถึง 3 จังหวัดด้วยกัน นั่นก็คือ ฮัวเหลียน (Hualien) ไทจง (Taichung) และหนันโถว (Nantou) ความโดดเด่นของทาโรโกะคือธรรมชาติอันแสนงดงาม มีทั้งน้ำตก ลำธาร จุดชมวิว และศาลเทพเจ้ามากมาย ใครที่อยากมาสัมผัสความงามของธรรมชาติไต้หวัน ให้ตรงดิ่งมาที่นี่ได้เลย

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko National Park)
การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟธรรมดา TRA ไปยังสถานี Hualien ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจะนั่งแท็กซี่ หรือรถบัส เพื่อต่อไปยังอุทยานแห่งชาติได้

นับว่าเป็นแลนด์มาร์คที่เที่ยวไต้หวันที่สำคัญมากของเมืองเกาสง มีเจดีย์มังกร และเจดีย์เสือที่อยู่ด้านหน้าของวัดฉือจี้ เป็นเจดีย์ที่อยู่คู่กัน ซึ่งมีความเชื่อว่าถ้าคุณเดินออกเข้าจากปากมังกร แล้วออกทางปากเสือจะเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกจากตัว นอกจากช่วยเสริมความสิริมงคล ยังเป็นจุดชมสระบัวที่สวยมาก ๆ อีกแห่งหนึ่ง

ที่ตั้ง: เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้ (Ciji Temple)
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Zuoying Station และเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Zuoying Train Station และเดินต่ออีก 400 เมตร

หากอยากได้ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ แนะนำให้มาที่เที่ยวไต้หวัน “หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)” ที่ตั้งอยู่ในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน เป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึกที่เกือบจะโดนรื้อทิ้ง แต่ก็ได้มีผู้ที่มาวาดลวดลายที่หมู่บ้านแห่งนี้ นั่นก็คือ “อากงฝู” มาวาดลวดลายเอาไว้ก่อนที่จะจากไป

ที่ตั้ง: หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)
การเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Taichung Station จากนั้นก็นั่งรถบัสสาย 30 มาที่ป้ายมหาลัย แล้วเดินต่อไปอีก 400 เมตร

ที่เที่ยวไต้หวัน “ถนนโบราณซานเสีย (Sanxia Old Street)” เป็นถนนคนเดินโบราณที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัด Sanxia Qingshui Zushi มีความยาวประมาณ 260 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นถนนที่ไม่ยาวมากนัก แต่มีความงดงามเป็นอย่างมาก ตามถนนจะเต็มไปด้วยร้านค้า และร้านขายของมากมาย

ที่ตั้ง: ถนนโบราณซานเสีย (Sanxia Old Street)
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานี Taipei Main Station มาลงที่สถานี Yingge Station ออกทางป้ายที่เขียนว่า Ceramics Old Street และเดินต่อมาอีกนิดหนึ่ง

ที่เที่ยวไต้หวันที่มีขนาดใหญ่และได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของไต้หวันเอาไว้มากมายคือ “พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง” ซึ่งภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก และเป็นการรวบรวมเอาไว้ทั้งศิลปะต่าง ๆ ของชาวจีนมากกว่า 700,000 ชิ้น

ที่ตั้ง: พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงไต้หวันเลือกต่อรถไฟฟ้าสถานี Taipei เพื่อต่อรถไฟฟ้าไปยังสถานี Shilin และแนะนำให้เลือกต่อรถบัสสายสีแดงหมายเลข 30 เลือกลงป้าย National Palace Museum

ที่เที่ยวไต้หวันที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งคือ “ตลาดกลางคืนชื่อหลิน” เป็นตลาดกลางคืนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในไทเป เนื่องจากตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยอาหารที่รวบรวมทั้งวัฒนธรรม และอาหารพื้นเมืองผ่านสตรีทฟู้ดมากกว่า 500 ร้าน รวมไปถึงร้านของฝากและเสื้อผ้าก็มีให้เลือกช้อปปิ้งอีกด้วย ถ้าใครพลาดตลาดกลางคืนชื่อหลินจะต้องเสียใจแน่นอน

ที่ตั้ง: ตลาดกลางคืนชื่อหลิน

การเดินทาง: สามารถเลือกใช้รถสาธารณะสาย 218 เพื่อไปยังตลาดกลางคืนชื่อหลินได้ หรือนั่งรถไฟสายสีแดงเลือกลงสถานี Shilin Station และเดินเท้าต่ออีก 200 เมตรก็ถึงแล้ว

สถานที่เที่ยวไต้หวันที่มาพร้อมกับความสวยงามจากธรรมชาติอย่าง “Yehliu Geopark” ซึ่งเป็นสถานที่ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับแท่งหินหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีหินปูนที่มีอายุมากถึงล้านปีให้รับชม และตลอดเส้นทางเดินนั้นจะพบกับมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ที่ตั้ง: Yehliu Geopark

การเดินทาง: เลือกนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินโดยลงสถานที่ Taipei Main Station เดินไปทางออกที่ 3 จะพบกับรถบัส KuoKuang หมายเลข 1815 เลือกลงป้าย Yehliu Geopark

“Pier 2 Arts Center” ที่เที่ยวไต้หวันสุดชิคที่ใครมาไต้หวันต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่คือท่าเรือเก่าและได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่เท่ ๆ จากการนำศิลปะสมัยใหม่เข้ามาอีกทั้งภายในยังมีคาเฟ่ และตลาดนัดขายของมือสอง ที่มีสินค้าแฟชั่นหรืองานแฮนด์เมดอีกเป็นจำนวนมาก ถ้าใครเป็นสายช้อปแบบฮิป ๆ จะต้องถูกใจและไม่มีทางที่จะไม่ได้รูปสวย ๆ ลงโซเชียลแน่นอน

ที่ตั้ง: Pier 2 Arts Center

การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟสายสีส้มและลงสถานี Yangchengpu เดินออกทางออกที่ 1 หรือลงสถานที่ Sizihwan และเดินออกทางออกที่ 2 ก็ได้

อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,700 เมตรอีกทั้งยังมีวิวสวยงามตลอดข้างทาง คือ “อุทยานแห่งชาติภูเขาอาลีซาน” นั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่มาที่เที่ยวไต้หวัน มักจะเลือกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ เนื่องจากมีความเชื่อที่เล่าต่อกันมาจากคนไต้หวันว่า ถ้าหากได้มาที่นี่และมาชมพระอาทิตย์ขึ้นจะถือว่าชีวิตได้รับความมงคลเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูเขาอาลีซาน

การเดินทาง: สามารถเลือกนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Chiayi และต่อด้วยรถไฟ Alishan Forest Railway โดยเลือกลงที่สถานที่ Alishan ซึ่งสามารถนั่งรถไฟสายนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อเข้าไปภายในอุทยานได้

เห็นมั้ยว่าจริง ๆ แล้วใคร ๆ ก็ไป เที่ยวไต้หวัน ได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เพราะไต้หวันเองเป็นประเทศที่ไม่ซับซ้อน และมีการคมนาคมที่ดี ถ้าหากว่าอยู่ในเมืองก็นั่งรถไฟ หรือนั่งรถบัสเอาก็ได้ ถ้าใครยังไม่รู้ว่าวันหยุดจะไปเที่ยวไหน ก็ลองลิสไต้หวันเอาไว้ในใจดู แล้วจะเชื่อเลยว่าไต้หวันเที่ยวเองก็ได้ง่ายจัง

หลังจากช่วงโควิดที่ผ่านมาทางประเทศไต้หวันได้ประกาศมาตรการใหม่เพื่อเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันนี้ชาวไทยสามารถเข้าประเทศไต้หวันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า และสามารถพำนักที่ประเทศไต้หวันได้นานสูงสุด 14 วัน เนื่องจากศูนย์บัญชาการโรคระบาดไต้หวัน (CECC) ได้ผ่อนคลายมาตรการแล้วนั่นเอง แต่ยังคงต้องกรอกข้อมูล “ระบบการเข้าและกักกัน” เพื่อติดตามและดูแลนักท่องเที่ยว ดังนั้นก่อนที่จะกดจองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่า ต้องกรอกเอกสารในส่วนไหนบ้าง เพราะถ้าหากขาดขั้นตอนนี้ไปอาจจะทำให้ไปไม่ถึงไต้หวันได้

มาดูกันว่าข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวไต้หวันมีอะไร

ไต้หวันมีเมืองหลวง คือ ไทเป ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 172 เกาะ มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 36,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภูมิประเทศของไต้หวันมีภูเขามากถึง 2 ใน 3 ของเกาะทั้งหมด ด้านตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือติดกับญี่ปุ่น ส่วนด้านตะวันตกติดกับประเทศจีน และด้านใต้ติดกับประเทศฟิลิปปินส์

การเดินทางไปไต้หวันโดยเครื่องบิน ใช้เวลาการเดินทางเพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันได้ที่แอปพลิเคชันของ Traveloka ซึ่งสายการบินที่ให้บริการมีทั้งThai Airways,EVA Air, Tigerair, Taiwan V AIR, China Airlinesและสายการบินอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเลือกได้ว่าจะบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินอื่น ๆ ในประเทศไทยก็ได้ ที่สำคัญคือการไปประเทศไต้หวันไม่จำเป็นที่จะต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยากก็สามารถเดินทางได้เลย

การเดินทางของที่นี่พูดเลยว่าสะดวก เพราะประเทศไต้หวันมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและสามารถเชื่อมหลาย ๆ สถานีเข้าไว้ด้วยกันทั้งเมือง หรือแท็กซี่เองยังบริการดี ราคาถูก นอกจากนี้ยังมีรถสาธารณะที่มีให้เลือกหลายสายทั่วทั้งเมือง

คนไต้หวันนิยมใช้ภาษาจีนกลางในการสื่อสาร แต่เนื่องจากประชากรไต้หวันหลาย ๆ คนเริ่มให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น จึงทำให้คุณสามารถเลือกใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ในสถานการณ์ต่างๆ

ไต้หวันมีเงินตราที่ใช้กันคือดอลลาร์ไต้หวัน หรือ TWD ซึ่งมีอัตราการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.15 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งมีค่าเงินที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยแต่อัตราการแลกเปลี่ยนอาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนที่จะแลกเปลี่ยนเงินทุกครั้ง

เวลาของประเทศไต้หวันไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยมากนัก ซึ่งเวลาไต้หวันเร็วกว่าประเทศไทยเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเขตเวลา คือ Asia/Taipei ชื่อโซนเวลา คือ China Time (CT)

ประเทศไต้หวันมีอากาศร้อนชื้นคล้ายกับประเทศไทยอีกทั้งยัง อบอุ่น เย็นสบาย แต่ก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคด้วย โดยประเทศไต้หวันมีทั้งหมด 4 ฤดูดังนี้