ถ้าใครกำลังมองหาเมืองเที่ยวในจีนที่มีครบทั้งทะเล ภูเขา อาหารอร่อย บรรยากาศดี เดินเล่นได้ ถ่ายรูปได้ และมีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับจีนแบบลงตัวสุด ๆ “ชิงเต่า” (Qingdao) คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของมณฑลซานตง ติดทะเลเหลือง เป็นเมืองท่าชายทะเลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของเยอรมนีมาก่อน ทำให้กลิ่นอายความยุโรปยังคงชัดอยู่ในอาคาร ถนน และวิถีชีวิต
ความพิเศษของการมาเที่ยวชิงเต่า คือการได้สัมผัสฟีลเที่ยวแบบชิลล์ ไม่เร่งรีบ ทุกอย่างค่อนข้างสบาย คนไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ของจีนอย่าง ฉงชิ่ง หรือ เซี่ยงไฮ้ แถมอากาศก็ดีมาก โดยเฉพาะช่วงใบไม้ผลิกับใบไม้ร่วง ที่อุณหภูมิกำลังเย็นสบาย เดินเล่นริมทะเลได้ทั้งวันแบบไม่เหนื่อยเลย เหมาะมากสำหรับใครที่อยากเริ่มต้น เที่ยวจีนด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน
ถ้ากำลังมองหาว่าจะไปเที่ยวเมืองไหนในจีนดี!? แบบไม่ซ้ำใคร แต่ได้สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายครบทุกรส วันนี้ Traveloka ขอแนะนำที่เที่ยวชิงเต่าสวย ๆ จะทำให้ทริปนี้ทั้งสะดวก สนุก และได้เช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ ติดมือกลับเพียบแน่นอน!
สายธรรมชาติและสายเดินป่าต้องกรี๊ดกับที่นี่ “ภูเขาเหลาซาน” เป็นหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในอดีตเคยเป็นแหล่งอาศัยของนักพรตเต๋า และวันนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในชิงเต่าที่ฮิตสุด ๆ บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหินสลับซับซ้อน มีเส้นทางเดินป่าและจุดชมวิวที่สูงถึงระดับทะเลกว่า 1,000 เมตร เหมาะมากกับคนที่ต้องการธรรมชาติบำบัด เดินขึ้นไปข้างบนจะเห็นวิวทะเลผสมภูเขาแบบพาโนรามาสุดตา ยิ่งไปช่วงหน้าร้อนยิ่งสดชื่น แต่ถ้ามาหน้าหนาวก็จะได้เห็นหิมะเกาะยอดเขาแบบโรแมนติกไปอีกแบบ เป็นที่เที่ยวธรรมชาติของชิงเต่าที่คุ้มค่าต่อการเดินแน่นอน ขึ้นไปถึงแล้วหายเหนื่อยเลยล่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://qdlaoshan.cn/en/
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
การเดินทาง : แนะนำ taxi ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง
มาเที่ยวชิงเต่าทั้งที ถ้าไม่แวะมาดื่มเบียร์ที่ต้นกำเนิดของแบรนด์เบียร์อันดับหนึ่งของจีนก็คือพลาด! พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่าคือที่ที่คุณจะได้เรียนรู้ประวัติของโรงเบียร์ Tsingtao ซึ่งมีรากฐานมาตั้งแต่ยุคเยอรมัน เรียกว่าผสานวัฒนธรรมยุโรปกับจีนได้อย่างลงตัว ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบที่ใช้ ไปจนถึงอุปกรณ์โบราณ และที่พีคสุดคือโซนให้ชิมเบียร์สดแบบฟรี! แถมยังมีบาร์เล็ก ๆ ให้นั่งจิบเบา ๆ ด้วยนะ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากสัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมการกินดื่มของชาวท้องถิ่น แถมยังเป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวชิงเต่ายอดนิยมที่ติดอันดับตลอด ถ้าใครมาช่วงเทศกาลเบียร์เดือนสิงหาคมยิ่งมันส์เข้าไปใหญ่ คอเบียร์เซฟไว้เลย!
เวลาทำการ :
ค่าเข้าชม :
การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Guangrao Road และเดินต่อประมาณ 10 นาที
ถ้ามาชิงเต่าแล้วอยากได้ภาพแลนด์มาร์กเท่ ๆ ไปลงโซเชียล ต้องไม่พลาด “May Fourth Square” หรือจัตุรัส 4 พฤษภาคม จุดถ่ายรูปยอดฮิตที่มีอนุสาวรีย์ทรงเกลียวสีแดงสดโดดเด่นสุด ๆ แลนด์มาร์กนี้ตั้งอยู่ริมทะเล ซึ่งทำให้ได้ทั้งวิวอ่าวชิงเต่าที่กว้างใหญ่และบรรยากาศในเมือง มุมถ่ายรูปสวยทุกองศา โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตกหรือกลางคืนที่มีไฟประดับสุดโรแมนติก แถมยังใกล้ศาลาว่าการเมืองชิงเต่าซึ่งมีดีไซน์หรูหราแบบยุโรปอีกด้วย ยิ่งเดินตอนเย็นยิ่งฟีลดีลมเย็นสุด ๆ ถือเป็นอีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวในชิงเต่า ที่ทุกคนควรมา ไม่ว่าจะอยากมาวิ่งออกกำลัง ชมวิว หรือแค่จะนั่งชิล ๆ ดูผู้คน แนะนำว่าถ้าจะเก็บความทรงจำของชิงเต่าให้ครบ ๆ ต้องแวะมาจุดเช็คอินของชิงเต่าแห่งนี้ด้วย
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นสบาย ๆ ในเมืองที่เต็มไปด้วยอารมณ์จีนคลาสสิก ขอแนะนำให้แวะมาที่สวนจ้งซาน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางชิงเต่าแห่งนี้มีทั้งภูเขาเล็ก ๆ ทางเดินในร่มไม้ สวนดอกไม้ และจุดชมวิวที่มองเห็นทะเลและเมืองจากมุมสูงแบบพาโนรามา ความพิเศษคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมาก เดินเล่นถ่ายรูปเพลินสุด ๆ เหมาะมากสำหรับใครที่อยากหาที่เที่ยวในชิงเต่าแบบชิล ๆ ไม่เร่งรีบ หรือจะพาเด็ก ๆ ไปให้อาหารเป็ดและดูนกก็ดีงาม บรรยากาศคล้าย ๆ สวนประวัติศาสตร์จีน มีเสน่ห์ในแบบคลาสสิกเลยล่ะ ถ้าไปตอนเช้าจะได้แสงดี ถ่ายรูปสวย และคนไม่เยอะด้วยนะ บอกเลยว่าถ้าใครมาเที่ยวชิงเต่า ห้ามพลาดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เด็ดขาด
การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Zhongshan Park Station และเดินต่อประมาณ 10 นาที
ใครมากับครอบครัวหรือมีเวลาแค่ครึ่งวัน แนะนำให้แวะที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิงเต่า เพราะที่นี่ครบเครื่องทั้งความรู้ ความสนุก และความอลังการแบบทะลุผืนน้ำ! เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เก่าแก่ที่สุดของจีน แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมาก ด้านในมีอุโมงค์ใต้น้ำให้เดินชมปลาฉลาม เต่าทะเล และปลาหลากสายพันธุ์แบบใกล้ชิดสุด ๆ เดินเข้าไปแล้วเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกใต้ทะเลเลยล่ะ และยังมีโชว์แมวน้ำสุดฮาที่เด็ก ๆ ชอบสุด ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังแทรกเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับระบบนิเวศทะเลให้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวชิงเต่าที่เหมาะกับทุกวัย ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวคนเดียว มาเป็นคู่ หรือพาเด็ก ๆ มาเปิดโลก ถ่ายรูปก็สวย เดินก็เพลิน เรียกว่าคุ้มทั้งความรู้และความฟิน
เวลาทำการ:
ค่าเข้าชม :
ถ้าอยากเปลี่ยนโหมดมาเที่ยวทะเลแบบชิล ๆ ในจีน ที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีมาก “หาดหมายเลขหนึ่ง” เป็นชายหาดยอดนิยมในเมืองชายทะเลจีนอย่างชิงเต่า ที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแวะมานอนอาบแดด เล่นน้ำ หรือเดินเล่นริมฝั่งแบบสบาย ๆ ชายหาดนี้มีทรายสีทอง น้ำทะเลใสพอให้ลงแช่ตัวเย็น ๆ ได้ และบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด นอกจากนี้ ยังเห็นวิวตึกเก่าแบบยุโรปเรียงรายริมชายฝั่ง เป็นภาพที่ไม่ค่อยเจอในหาดอื่นของจีนเลย ถ้าอยากได้รูปชิค ๆ ไปลงโซเชียล หรือแค่จะมาเดินถอดรองเท้ารับลมทะเลก็โคตรฟิน บอกเลยว่าห้ามพลาดจุดนี้โดยเฉพาะถ้าอยากได้ฟีลเที่ยวในชิงเต่าแบบชิล ๆ แถมอยู่ใกล้ย่าน Badaguan เดินถึงกันได้สบาย ๆ
การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Huiquan Square และเดินต่อประมาณ 12 นาที
มาถึงชิงเต่า ถ้าไม่เดินช็อปปิ้งหรือกินของอร่อย ๆ ที่ถนนคนเดินไถตงถือว่าพลาด! ถนนเส้นนี้เป็นหนึ่งในจุดเช็คอินชิงเต่าที่วัยรุ่นและนักท่องเที่ยวจีนชอบกันมาก เพราะมีทั้งร้านค้าแบรนด์เนม คาเฟ่ท้องถิ่น ร้านขายของกินสตรีทฟู้ดแบบจีนจริง ๆ ไปจนถึงของที่ระลึกแบบน่ารัก ๆ ให้เลือกช็อปแบบไม่พัก ตั้งแต่บ่ายจนค่ำบรรยากาศคึกคักสุด ๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่แสงไฟสวยงาม มีนักแสดงเปิดหมวก ดนตรีสด และร้านเบียร์เล็ก ๆ ให้จิบเบา ๆ ไปด้วย ฟีลแบบเดินเล่นตอนเย็นในฮ่องกงผสมเกาหลีเลยล่ะ ที่สำคัญคือเดินทางง่าย ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินด้วย ถ้าชอบกิน ชอบช็อป และอยากสัมผัสชิงเต่าในเวอร์ชั่นไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของคนจีน ต้องปักหมุดที่นี่ไว้เลย
ใครที่เดินเล่นแถวเมืองเก่าชิงเต่าแล้วอยากเช็คอินกับมุมยุโรปแบบเต็ม ๆ ต้องแวะมาที่ “โบสถ์เซนต์ไมเคิล” โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกสุดคลาสสิกที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านเก่า ตัวโบสถ์สร้างขึ้นในช่วงที่เยอรมนียังมีอิทธิพลในชิงเต่า ทำให้ดีไซน์สถาปัตยกรรมออกมาในสไตล์โกธิก-โรมันแท้ ๆ โดยใช้หินสีเหลืองครีม ตัดกับหลังคากระเบื้องสีส้มที่เห็นได้แต่ไกล บรรยากาศรอบ ๆ โบสถ์จะเงียบสงบ เหมาะกับการมานั่งพัก จิบกาแฟ หรือถ่ายภาพสวย ๆ ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นที่แดดอ่อน ๆ แสงจะสาดลงบนตัวโบสถ์แบบโรแมนติกมากกกก เหมือนหลุดมายุโรปเลยล่ะ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวชิงเต่าที่เราอยากแนะนำ สำหรับสายถ่ายรูปหรือคนชอบสถาปัตยกรรม นอกจากนั้น ยังสามารถเดินไป Zhanqiao Pier ได้สบาย ๆ หากมาเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์จีนอย่างชิงเต่า ต้องไม่พลาดที่นี่เด็ดขาด
การเดินทาง : แนะนำ taxi ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังโบสถ์
สายอาร์ต สายเสพงานศิลป์ ขอแนะนำให้มา “Qingdao Art Museum” เลย ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีทั้งงานจีนโบราณ งานโมเดิร์น และนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินจีนร่วมสมัย ตัวอาคารภายนอกออกแบบสวยแบบมินิมอลแต่แฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน ส่วนข้างในมีโถงจัดแสดงหลายชั้น เดินได้เรื่อย ๆ ไม่เบื่อเลย แถมมีโซนนั่งพักให้จิบกาแฟด้วยนะ ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย แล้วใช้เวลาเสพอาร์ตสวย ๆ เงียบ ๆ บ้าง ถือเป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวชิงเต่า ที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงในหมู่คนไทย แต่ถ้ามาแล้วจะชอบแน่ ๆ โดยเฉพาะถ้าชอบศิลปะหรืออยากเห็นอีกมุมหนึ่งของเมืองน่ารัก ๆ แห่งนี้ ฟีลคล้าย ๆ เที่ยวญี่ปุ่นนิด ๆ
เวลาทำการ : 9:30 - 18:00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ปิดท้ายทริปเที่ยวชิงเต่ากันแบบชิล ๆ ด้วย “สะพาน Zhanqiao Pier” จุดถ่ายรูประดับตำนานของเมืองนี้เลย ตัวสะพานทอดยาวออกไปในทะเล พร้อมมีศาลา Huilan Pavilion ตั้งอยู่ปลายทางแบบเท่ ๆ มองย้อนกลับเข้ามาจะเห็นวิวเมืองชิงเต่าและอ่าวแบบกว้างสุดสายตา ฟีลเหมือนเดินอยู่ในโปสการ์ดเลยล่ะ ยิ่งช่วงเย็น ๆ ที่แสงกำลังนวลกับลมทะเลเย็น ๆ สุดแสนจะโรแมนติก ไม่แปลกที่นี่จะกลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวชิงเต่า ที่ห้ามพลาดสำหรับทั้งสายถ่ายรูป คู่รัก หรือคนที่แค่อยากมานั่งทอดอารมณ์ดูเรือเข้าออกจากท่า บริเวณรอบ ๆ ยังมีร้านขายของกิน ของฝาก และวิวพอร์ตเรืออีกด้วย มาแล้วรับรองได้รูปลงไอจีสวย ๆ ไปอีกเป็นโหลแน่นอน! ใครที่มีเวลาไม่มากก็ยังแวะได้ เพราะอยู่ใจกลางเมืองแบบเดินถึงได้จากหลายที่เที่ยวในชิงเต่าเลย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ไปยังสถานี Qingdao Railway Station (ทางออก G) แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
ถ้าถามชาวชิงเต่าว่าจะไปหาอาหารท้องถิ่นแบบต้นตำรับได้ที่ไหน คำตอบแรกที่ได้มักจะเป็น “ถนนอาหารยุนเซี่ยว” หรือ Yunxiao Road Food Street ถนนสายนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลแบบสดใหม่ มีทั้งร้านดัง ร้านเก่าแก่ ไปจนถึงสตรีทฟู้ดแบบนั่งข้างทางแต่รสชาติจัดจ้านถึงใจ ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ผัดกระเทียม ปลาหมึกย่าง หม้อไฟทะเล หรือแม้แต่ของหวานแบบจีนโบราณก็มีครบ เดินไปกินไปคือฟินแบบไม่ต้องพูดเยอะ ใครชอบลุยกินแบบหลากหลายต้องไม่พลาดที่นี่เลย เพราะนอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของชิงเต่าแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นแท้ ๆ เหมือนเดินอยู่ในฉากซีรีส์จีนเลยทีเดียว กลางคืนยิ่งคึกคัก ยิ่งหิวง่าย! เป็นจุดที่เหมาะมากสำหรับปิดวันแบบอิ่มอร่อย
เวลาทำการ: 10:30 - 22:30 น.
ถ้าอยากรู้ว่าคนท้องถิ่นในชิงเต่ากินอะไรกันจริง ๆ ไม่ใช่แค่ตามรีวิว ต้องลองมาที่ร้าน Shuang He Yuan ร้านเก่าแก่ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์บ้าน ๆ แบบซานตงแท้ ๆ มาหลายสิบปี ที่นี่เน้นความเรียบง่ายทั้งบรรยากาศและรสชาติ แต่ขอบอกเลยว่าเด็ดจริง! เมนูที่ห้ามพลาดคือเกี๊ยวต้มลูกใหญ่ ฟิลลิ่งแน่นเต็มปากเต็มคำ ซุปใสกลมกล่อมไม่ต้องปรุงเพิ่มให้วุ่นวาย ผัดเนื้อพริกหยวกก็หอมกระทะแบบจีนแท้ ๆ ทุกจานมาไว ราคาไม่แรง กินอิ่มแบบสบายกระเป๋า เหมาะกับสายเที่ยวที่อยากลองอาหารท้องถิ่นของชิงเต่า โดยไม่ต้องหรูหราแต่ได้รสมือจริง ๆ จากครัวคนจีน บรรยากาศในร้านอาจไม่ได้สวยหรู แต่นั่งกินแล้วฟีลดีเหมือนอยู่ในโรงอาหารบ้านเพื่อนเลยล่ะ คนที่เคยไปกินมาแล้วส่วนมากจะกลับไปซ้ำ และแนะนำให้คนอื่นต่อแบบไม่ลังเล ถือเป็นหนึ่งในที่กินในชิงเต่าที่เราอยากแนะนำ
เวลาทำการ :
ถ้าชอบสั่งสเต๊กเนื้อนุ่ม ๆ จากเตา Josper แบบเนื้อดีพรีเมียม คู่กับไวน์คุณภาพ The Carvery คือร้านที่ต้องปักหมุดเด็ดขาด อยู่บนชั้น 60 ของโรงแรม St. Regis Qingdao วิวทะเลช่วงพระอาทิตย์ตกคือสุดอลัง มองเห็นอ่าว Fushan Bay แบบพาโนรามา เสิร์ฟทั้งเนื้อของจีนและนำเข้า พร้อมซีฟู้ดสด ๆ มาให้เลือกคู่ไวน์อย่างดี บรรยากาศคือดีงามระดับ Fine Dining เรียบหรูแบบมีสไตล์ แนะนำให้มาแบบชิล ๆ ตอนเย็น จิบไวน์ ฟังดนตรีเบา ๆ มันคือความฟูลออปชั่นของการกินดื่มในชิงเต่าแบบหรูที่ไม่เว่อร์จนเกินไป พนักงานบริการสุภาพระดับ 5 ดาว ใครกำลังมองหาร้านอาหารสำหรับมื้อพิเศษ พูดเลยว่า The Carvery คือคำตอบ
เวลาทำการ:
การเดินทาง:
เหมาะกับ: นักธุรกิจ / คู่รัก / สายติดแกลม / ครอบครัว
โรงแรมระดับ 5 ดาวใจกลางเมืองที่มีทุกอย่างครบสำหรับการพักผ่อนและทำงาน ตั้งอยู่ใกล้ May Fourth Square และย่านธุรกิจหลัก ทำให้เดินทางง่ายทั้งจากสนามบินและสถานีรถไฟ ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งวิวทะเลและวิวเมือง พร้อมเตียงนุ่มสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำ และห้องอาหารนานาชาติที่บริการอาหารจีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นครบจบในที่เดียว พนักงานให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล มีความเป็นมืออาชีพสูง หากมองหาโรงแรมที่สร้างสมดุลระหว่างงานและการพักผ่อน Shangri-La คือคำตอบ
China
แชงกรี-ลา ชิงเต่า
Shinan Qu
ดูราคา
เหมาะกับ: แบ็คแพคเกอร์ / สายงบน้อย / กลุ่มเพื่อน / สายเที่ยวคนเดียว
Wheat Youth Hostel เป็นโฮสเทลบรรยากาศอบอุ่นตกแต่งแนวย้อนยุค มีทั้งห้องพักรวมและส่วนตัวพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ เช่น Wi-Fi พื้นที่ส่วนกลาง มุมครัว และโต๊ะเล่นเกม ที่นี่ได้รับความนิยมในหมู่แบ็คแพคเกอร์ต่างชาติที่ต้องการพักผ่อนในราคาสบายกระเป๋า การตกแต่งด้วยอิฐเปลือยและเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านมากกว่าที่พักทั่วไป และยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ข้างล่างสำหรับจิบกาแฟชิล ๆ ทำเลใกล้ชายหาดและถนนท่องเที่ยวย่าน Huiquan Square
China
ชิงเต่า วีท ยูธโฮสเทล
Qingdao
ดูราคา
เหมาะกับ: คู่รัก / นักธุรกิจ / นักท่องเที่ยวสายพรีเมียม / สายติดแกลม / สายรักความสบาย
โรงแรมหรูในเครือ Westin ที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง ใกล้ May Fourth Square มีห้องพักวิวทะเลและตัวเมือง โดยเน้นความสบายระดับพรีเมียมด้วยเตียง Heavenly Bed ที่ขึ้นชื่อเรื่องช่วยให้นอนหลับสนิท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหารหลากหลาย และบริการสปาสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายระหว่างทริป The Westin Qingdao จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางสายติดแกลมที่ต้องการความสงบ สะดวก และมาตรฐานโรงแรมระดับโลก
China
เดอะ เวสท์ทิน ซิงเต่า
Shinan Qu
ดูราคา
การเดินทางจากประเทศไทยไป ชิงเต่า (Qingdao) เรียกว่าค่อนข้างสะดวก โดยเฉพาะถ้าเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีสายการบินที่ให้บริการตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยัง สนามบิน Qingdao Jiaodong International Airport ซึ่งเป็นสนามบินใหม่ของเมืองนี้
Thu, 4 Sep 2025
Sichuan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป ชิงเต่า (TAO)
เริ่มจาก THB 3,303.10
Thu, 4 Sep 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป ชิงเต่า (TAO)
เริ่มจาก THB 3,428.75
Fri, 29 Aug 2025
Shenzhen Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป ชิงเต่า (TAO)
เริ่มจาก THB 3,458.84
ชิงเต่าเป็นเมืองชายทะเลที่มีอากาศเย็นสบายกว่าหลายเมืองในจีน ทำให้เที่ยวได้ทั้งปี แต่ละฤดูมีเสน่ห์ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ฟีลแบบไหน
อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ ดอกไม้เริ่มบาน โดยเฉพาะช่วงเมษายน–พฤษภาคม สวนสาธารณะอย่างสวนจ้งซานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระและดอกพีชสีหวาน ๆ เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และเที่ยวแบบชิล ๆ
ช่วงนี้เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล เดินหาดหมายเลขหนึ่ง หรือกินอาหารทะเลแซ่บ ๆ ตอนเย็น ๆ บรรยากาศริมทะเลสดใส ฟีลเหมือนเที่ยวพัทยาผสมยุโรปนิด ๆ ที่สำคัญเดือนสิงหาคมมี เทศกาลเบียร์ชิงเต่า ด้วย! สนุกแน่นอน 🍻
อากาศเย็นกำลังดี ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี โดยเฉพาะแถวภูเขาเหลาซานกับย่านประวัติศาสตร์ Badaguan เหมาะกับการเดินป่าหรือเที่ยวชมเมืองแบบไม่เหนื่อย
อุณหภูมิอาจลงต่ำถึง 0°C แต่วิวทะเลกับหิมะเป็นอะไรที่น่าหลงใหล แนะนำสำหรับสายโรแมนติกหรือคนที่ไม่กลัวหนาว มีมุมถ่ายรูปสุดคลาสสิกเยอะมาก!
เนื่องจากระบบในจีนเน้นใช้แอปสำหรับทุกอย่าง แนะนำให้โหลดไว้ล่วงหน้า เช่น
การมีแอปเหล่านี้ติดเครื่องจะช่วยให้เที่ยวชิงเต่าราบรื่นกว่าเดิมเยอะ!
แม้ว่าจีนจะใช้ระบบ e-Payment เป็นหลัก แต่ร้านเล็กบางร้านในที่เที่ยวชิงเต่าอาจยังรับแค่เงินสดหรือ QR โอนภายในประเทศ แนะนำพกเงินหยวนติดตัวไว้เล็กน้อย และแจ้งธนาคารให้เปิดใช้งานบัตรเครดิตระหว่างประเทศล่วงหน้าด้วย
Google, Facebook, Instagram และ Line จะเข้าไม่ได้ถ้าไม่มี VPN
โดยเฉพาะช่วง “Golden Week” ต้นตุลาคม และตรุษจีน เพราะที่เที่ยวจะแน่นมาก ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวในชิงเต่าและระบบขนส่งทั่วประเทศจีนจะวุ่นวาย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวชิงเต่าช่วงนี้