0

Traveloka TH

09 Mar 2018 - 3 min read

[5 Best things to do in Hakodate] 5 สิ่งต้องทำเมื่อไปเยือนฮาโกดาเตะ

รู้สึกได้ว่า “ฮอกไกโด” กำลังจะกลายมาเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอีกในแดนปลาดิบ จากเดิมที่เป็นเกาะในฝันของชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพราะเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหิมะในฤดูหนาว หรือทุ่งดอกไม้ในฤดูร้อน ยิ่งปัจจุบันเส้นทางของรถไฟความเร็วสูง “Hokkaido Shinkansen” สร้างเสร็จถึงเมืองฮาโกดาเตะแล้ว ยิ่งทำให้การเดินทางสู่ฮอกไกโดสะดวก ง่ายดาย และประหยัดเวลาได้มากกว่าเดิมอีก รวมไปถึงข่าวดีที่ว่าสายการบินแอร์เอเชียกำลังจะกลับมาให้บริการบินตรงไปซัปโปโรอีกครั้ง! ยิ่งทำให้แน่ใจว่า จากนี้ไป คนไทยจะต้องแห่แหนไปเที่ยวฮอกไกโดกันมากขึ้นอีกอย่างแน่นอน .. วันนี้เราเลยเอาเรื่องราวของหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในเกาะฮอกไกโดอย่าง “ฮาโกดาเตะ” มาฝาก เมืองที่ไม่ว่าใครไปใครมาฮอกไกโดจะต้องแวะมาเช็คอิน เพราะนอกจากจะเป็นเมืองท่าที่มีเสน่ห์น่าค้นหาแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับประเทศอย่าง “จุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะ” ตั้งอยู่อีกด้วย .. แล้วจะรออะไรล่ะ รีบคลิกไปจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นผ่าน Traveloka แล้วไปเที่ยวฮาโกดาเตะด้วยกันเลย ณ บัดนาว!

จองตั๋วเครื่องบินไปซัปโปโร กับ Traveloka

เดินตลาดเช้า ตระเวนชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ “Asaichi Morning Market”

มาเที่ยวไกลถึงฮอกไกโดทั้งที อย่าลืมตื่นแต่เช้าไปเดินเล่นที่ตลาดเช้า “Asaichi Morming Market” ซึ่งนับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ต้องทำเมื่อมาเยือนฮาโกดาเตะ เพราะว่าการตื่นเช้าเปรียบเสมือนวิตามินเสริมของนักเดินทาง ทำให้นาฬิกาที่เดินวนยี่สิบสี่ชั่วโมงมีค่าและมีความหมาย ฉะนั้นถ้าใครเป็นมนุษย์ขี้เซา ลองปรับนาฬิกาชีวิตแล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแรงๆ สูดอากาศยามเช้า แล้วออกมาเดินเล่นที่ตลาด ซึมซับบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวฮาโกดาเตะ ชิมอาหารทะเลสดใหม่เพื่อเพิ่มพลังก่อนออกตะลอนเที่ยว จะบอกว่ายิ่งมาเดินเช้าเท่าไร บรรยากาศที่ตลาดยิ่งคึกคักและคราคร่ำไปด้วยผู้คน ทั้งคนเมืองที่มาจับจ่ายซื้อของและนักท่องเที่ยว พร้อมเสียงตะโกนขายของจากเหล่าพ่อค้าแม่ขาย เป็นโบนัสพิเศษที่มีให้เฉพาะคนตื่นเช้าเท่านั้น!

วิธีการเดินทาง: รถรางสาย 2 หรือ 5 สถานี Hakodate-eki-mae หรือรถไฟ JR สถานี JR Hakodate เดินประมาณ 5 นาที

ปล. ใครมีแพลนนอนค้างที่เมืองฮาโกดาเตะ แนะนำให้หาที่พักแถวนี้นะ เพราะนอกจากจะใกล้ตลาดเช้าฮาโกดาเตะแล้ว ยังใกล้สถานีรถไฟ JR Hakodate ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบคมนาคมของเมือง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟที่ให้บริการไป – กลับซัปโปโร รวมถึงรถราง และรถไฟจากสถานีชินคันเซ็น Shin-Hakodate-Hokuto Station ด้วย ที่สำคัญ แถวนี้ยังอัดแน่นไปด้วยที่พักให้เลือกมากมายตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงโรงแรมระดับห้าดาว!

จองที่พักเมืองฮาโกดาเตะ กับ Traveloka

ตะกายหอคอย "Goryokaku Tower" เพื่อชมอีกหนึ่งวิวไฮไลท์อย่าง "ดาวห้าแฉกแห่งฮาโกดาเตะ"

ถ้าเคยเล็งฮาโกดาเตะไว้เป็น Dream Destinations เราเชื่อว่าต้องเคยเห็นภาพโปรโมทเมืองฮาโกดาเตะอย่างสวนสาธารณะที่มี “ดาวห้าแฉก” อย่างแน่นอน ภาพนั้นก็คือ “Goryokaku Tower” นั่นเอง ถึงแม้หอคอยโกเรียวคะคุจะสูงเพียง 107 เมตร เทียบไม่ได้กับความสูงของยอดเขาฮะโกะดะเตะ แต่วิวจากบนหอคอยนั้นสวยงามไม่น้อยหน้ากัน โดยเฉพาะวิวของสวนโกเรียวคะคุซึ่งเป็นรูปดาวห้าแฉก ที่นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการมาเยือน ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปแล้วเช็คอิน เพราะสวยงามจนกลายเป็นอีกหนึ่งมุมลั่นชัตเตอร์ยอดนิยมของช่างภาพจากทั่วสารทิศ เสน่ห์คือสีสันที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ใครมาช่วงฤดูหนาวก็จะได้เห็นดาวสีขาวโพลน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้สัมผัสความหวานหยดย้อยของดาวสีชมพูจากดอกซากุระ หรือแม้แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง สีสันจากใบไม้เปลี่ยนสีก็จะแต่งแต้มสีแดงส้มสะพรั่งไปทั่วบริเวณเลยทีเดียว

วิธีการเดินทาง: รถรางสาย 2 หรือ 5 สถานี Goryokaku-koen-mae เดินประมาณ 10 นาที

ชิมแฮมเบอร์เกอร์ “Lucky Pierrot” ที่หากินที่ไหนไม่ได้ในโลกนอกจากที่ฮาโกดาเตะที่เดียว!

ที่บอกว่าหากินที่ไหนไม่ได้ในโลก เพราะ “Lucky Pierrot” เป็นแฮมเบอร์เกอร์แบรนด์ Local ของเมืองฮาโกดาเตะที่มีขายเฉพาะในฮาโกดาเตะเท่านั้น! เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นแฮมเบอร์เกอร์โอท็อปประจำเมืองก็ได้ แต่ร้านก็มีหลายสาขา แต่ละสาขามีหน้าร้านโดดเด่นชนิดที่ต่อให้สายตาสั้นลืมใส่แว่นมาก็สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เพราะมาสคอตประจำร้านคือ “ตัวตลกผู้โชคดี” ตรงตามความหมายชื่อร้านเป๊ะ! เมนูเด็ดแน่นอนว่าเป็นแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งมีให้เลือกหลายรสชาติ รวมถึงเมนูอื่นๆ เช่น สปาเก็ตตี้ ข้าวแกงกะหรี่ เฟรนช์ฟรายส์ และขนมหวานอย่างไอศกรีม แต่ที่ต้องยกให้เป็นเมนูแนะนำคือ แฮมเบอร์เกอร์ไก่ทอด ความอร่อยอยู่ที่ซอสและรสชาติเข้มข้นของเนื้อไก่ ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจทุกราย มาถึงฮาโกดาเตะทั้งทีแล้วไม่ได้ชิมแฮมเบอร์เกอร์ของร้าน Lucky Pierrot ก็เหมือนมาไม่ถึงฮาโกดาเตะนะจ๊ะ!

วิธีการเดินทาง: ร้านมีหลายสาขา แต่เราแนะนำสาขา Goryokaku Tower แค่นั่งรถรางสาย 2 หรือ 5 สถานี Goryokaku-koen-mae เดินประมาณ 10 นาทีร้านอยู่ก่อนถึงหอคอยโกเรียวคะคุ ส่วนสาขาอื่นๆ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ luckypierrot.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

ถ่ายรูปชิคๆ ลงโซเชียลอวดเพื่อนที่ “Kanemori Red Brick Warehouse”

ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน เดี๋ยวนี้อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ทำไม่ได้คือหาสถานที่สวยชิคในการถ่ายรูปเช็คอิน! ซึ่ง “Kanemori Red Brick Warehouse” ก็เป็นสถานที่สุดชิคในฮาโกดาเตะที่เหมาะมาก! ยิ่งใครถามหากลิ่นอายความเป็นเมืองท่าของฮาโกดาเตะด้วยแล้ว แค่นั่งรถรางมาที่นี่ ก็จะได้สัมผัสชนิดกลิ่นน้ำทะเลแตะจมูกกันเลยทีเดียว เพราะโกดังอิฐแดงที่เรียงรายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนศูนย์รวมความชิคซึ่งยกทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงเบียร์ และคาเฟ่เก๋ไก๋มาเพิ่มสีสัน โกดังเหล่านี้ อดีตเคยเป็นโกดังสินค้าเก่าแก่ของคุณคาเนะโมริ พ่อค้าผู้มั่งคั่งมาก่อน ปัจจุบันแม้จะปรับโฉมใหม่จนไม่เหลือเค้าความเป็นคลังสินค้า แต่ด้วยความที่ตั้งอยู่ริมทะเล จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนเมือง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการปล่อยใจละล่องไปกับลมทะเลเย็นๆ พร้อมช็อปปิ้งของฝาก และชิมของอร่อยที่อัดแน่นไว้อยู่เต็มโกดัง!

ปล. มา Kanemori Red Birck Warehouse แล้วก็อย่าลืมแวะไปเนิน “Hachiman-zaka” ด้วยนะ แค่เดินจากโกดังอิฐแดงขึ้นเนินไปเรื่อยๆ จนสุดทางแล้วมองลงไป จะเห็นภาพถนนเส้นยาวที่ทอดตัวลงสู่ทะเล เป็นอีกภาพจำของเมืองฮะโกะดะเตะที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเลยล่ะ ^^

วิธีการเดินทาง: รถรางสาย 2 หรือ 5 สถานี Jujigai เดินประมาณ 5-10 นาที

จบวันด้วยไฮไลท์สุดยอดของเมืองฮาโกดาเตะกับ 1 ใน 3 ของทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น!

ดอกจันไว้หนาๆ เลยว่า “นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างยิ่งเมื่อมาเยือนฮาโกดาเตะ” เพราะมีตำแหน่ง “1 ใน 3 ของทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น” การันตีขนาดนี้ ใครมาถึงเมืองฮาโกดาเตะแล้วไม่แวะเวียนไปนั่งกระเช้า (Mt. Hakodate Ropeway) ขึ้นสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะเพื่อชมวิวระดับตำนานคงเสียดายแย่ จะบอกว่าภาพไฟระยิบระยับนับล้านดวงจากทั้งสองฝั่งเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลนั้นตรึงตาตรึงใจเสียจนทำเอาใครหลายคนใจสั่นเพราะภาพที่เห็นตรงหน้ามานักต่อนักแล้ว ถ้าขึ้นไปชมตอนกลางวันก็จะได้เห็นความกว้างใหญ่ของเมืองท่าแห่งนี้ แต่มาไกลถึงฮอกไกโดทั้งที แนะนำให้นอนค้างที่นี่สักคืนแล้วขึ้นไปชมวิวยามค่ำคืนจะคุ้มกว่า เพราะจะได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกจากดวงดาวนับล้านที่ส่องประกายอยู่บนพื้นซึ่งงดงามไม่ต่างจากแสงดาวบนท้องนภาเลย!

วิธีการเดินทาง: รถรางสาย 2 หรือ 5 สถานี Jujigai เดินประมาณ 5 นาที จะถึงสถานี Mt. Hakodate Ropeway

ติดตามบทความกับเราได้ที่:https://web.facebook.com/movearoundjourney/

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร