Traveloka TH
01 May 2024 - 3 min read
ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาหลีใต้แต่ไม่เคยแวะเที่ยวเกาะเชจู (Jeju) ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงดินแดนแห่งกิมจิ เพราะเกาะแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องมาเหยียบให้ได้สักครั้ง เพื่อตามรอยซีรีส์สุดฮอต และเยี่ยมชมที่เที่ยวอันหลากหลายให้คุณได้มาพักผ่อนกันแบบเต็มอิ่ม ครบทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ แหล่งวัฒนธรรมโบราณ และกิจกรรมน่าตื่นเต้นมากมาย บอกได้เลยว่า แม้จะมาเที่ยวคนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงาแน่นอน!
ในบทความนี้เราได้รวบรวมกิจกรรมสุดฮิต และแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจให้คุณไปพักผ่อนกันอย่างสบายใจ เหลือเพียงแค่กดจองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลี ผ่านทางแอป Traveloka ที่รวบรวมโปรโมชันดี ๆ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนชอบเที่ยวอิสระ พร้อมราคาสุดพิเศษให้คุณเก็บกระเป๋าไปเที่ยวบนเกาะเชจูกันแบบจุใจไปเลย
เกาะเชจู (Jeju) หรือที่คนเกาหลีเรียกกันว่า เชจูโด เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ และถือเป็นหนึ่งในจังหวัดพิเศษที่เล็กที่สุดในประเทศเช่นกัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยถูกจดทะเบียนในชื่อว่า ‘เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา’ นั่นเอง ทำให้ที่นี่มีคนเกาหลีและนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาพักผ่อนตลอดทั้งปี
แม้จะมีผู้คนมาเที่ยวเป็นประจำ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะบนเกาะเชจูแห่งนี้มีโรงแรมเกาหลีมากมายให้คุณพักอย่างสะดวกสบายเลยทีเดียว สามารถค้นหาที่พัก และจองผ่านแอป Traveloka ได้ทันทีพร้อมโปรโมชันดี ๆ รอคุณอยู่
เกาะเชจูมีประวัติเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว แต่เดิมเกาะเชจูแห่งนี้เคยเป็นสถานที่สำหรับเนรเทศและคุมขังนักโทษมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักโทษทางการเมือง หนึ่งในนักโทษที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยอย่าง ‘แดจังกึม’ เองก็ถูกเนรเทศมาที่เกาะแห่งนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่นี่เคยตกอยู่ใต้อิทธิพลของชาวมองโกลเป็นเวลากว่า 100 ปี จึงส่งผลต่อการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมของคนเชจูมาถึงปัจจุบัน
เกาะเชจูตั้งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลีใต้ บริเวณช่องแคบเกาหลี มีจำนวนประชากรอยู่มากกว่า 670,000 คน ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ 1,833 ตารางกิโลเมตร มีสภาพอากาศอบอุ่นชื้นตลอดทั้งปี ประกอบด้วยฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
คุณสามารถไปเที่ยวเกาะเชจูได้ตลอดทั้งปี เพราะที่นี่มีสภาพอากาศอบอุ่นสบาย ๆ ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป แต่ช่วงที่คนนิยมไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมากคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เพราะนอกจากจะมีอากาศที่เย็นสบายแล้ว ยังเป็นช่วงที่คนชื่นชอบมาชมทุ่งดอกคาโนล่า และดอกพ็อกกต หรือดอกซากุระนั่นเอง
ทั้งนี้ หากคุณต้องการสอบถามเรื่องการเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในเกาะเชจู สามารถติดต่อได้ผ่านเว็บไซต์ https://www.visitjeju.net/en/
การเดินทางไปเกาะเชจูมีหลากหลายวิธีให้คุณเลือกตามความสะดวก โดยปกติแล้วการเดินทางที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้กันคือ เครื่องบินและเรือ เพราะมีช่วงเวลาเดินทางให้เลือกเป็นจำนวนมาก และสามารถเดินทางถึงเกาะได้ภายใน 1 วัน แต่ละวิธีจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันที่ด้านล่างได้เลย
ปัจจุบันยังไม่มีสนามบินที่เปิดบริการให้บินตรงไปเกาะเชจูได้ทันที คุณสามารถเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิฯ (BKK) มาลงที่สนามบินนานาชาติอินช็อน (ICN) โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะนั่งเครื่องบินต่อมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (CJU) อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยสายการบินที่เปิดให้บริการได้แก่ Asiana Airlines และ Korean Air ทั้งนี้การเดินทางเข้าเกาะเชจูไม่ต้องขอวีซ่าหากพำนักไม่เกิน 14 วัน แต่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารล่วงหน้าให้ครบถ้วน เช่น หนังสือเดินทาง ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หรือเอกสารจองที่พัก เป็นต้น
คุณสามารถเดินทางมาเกาะเชจูได้ด้วยเรือเฟอร์รี่ภายในระยะเวลา 2-4 ชั่วโมง จากท่าเรือต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ เช่น อินชอน, มกโพ, นกดง หรือวองโด เป็นต้น ยกเว้นท่าเรือปูซานที่ใช้เวลาเดินทางมายังเกาะประมาณ 12 ชั่วโมง
บนเกาะเชจูมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้มาเลือกทำกับเพื่อนและครอบครัวอย่างไม่มีเบื่อ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุก ๆ ตั้งแต่เดินเล่นซึมซับบรรยากาศธรรมชาติกับสัตว์โลก ชมนิทรรศการอันงดงามกันแบบเพลิน ๆ ไปจนถึงเล่นเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวกันเลยทีเดียว
“พิพิธภัณฑ์เพศและสุขภาพ เชจู” เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา และการดูแลสุขภาพทางเพศที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดผ่านงานศิลปะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด รูปปั้น หรือสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบวิดีโอที่ตั้งอยู่บนเกาะเชจู โดยมีการจำกัดอายุผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 19 ปี นอกจากนี้ยังมีจัดนิทรรศการเล็ก ๆ ที่ชวนให้เราเรียนรู้เรื่องเพศได้อย่างสนุกและไม่รู้สึกเขินอายอีกด้วย
บนเกาะเชจูมีบริการให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือทัวร์ชมโลมารอบ ๆ เกาะเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะได้เห็นฝูงโลมาในระยะใกล้ชิดแล้ว คุณยังได้เก็บภาพของทัศนียภาพอันสวยงามของธรรมชาติรอบ ๆ เกาะ และซึมซับบรรยากาศอันสดชื่นพร้อมจิบเครื่องดื่มไปพลาง ๆ ด้วย นับเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเชียว
การนั่งรถบัสเพลิน ๆ ระหว่างชมแหล่งมรดกโลกบนเกาะเชจูถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนของคนเกาหลีและนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว เพราะเป็นการเดินทางที่แสนสบายเพื่อไปชมแหล่งมรดกโลก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซานที่มีกิจกรรมปีนเขาเพื่อขึ้นมาจุดชมวิวเกาะเชจู ถ้ำลาวามานจังกุลที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟ และยอดเขาซองซาน อิลชุบง ภูเขาหินขนาดใหญ่ที่บนยอดเขาเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวงดงาม
เปลี่ยนบรรยากาศแนวธรรมชาติมาเล่นกิจกรรมสุดตื่นเต้นกันที่ “9.81 พาร์ก” สวนสนุกในที่ร่มที่ให้คุณมาสาดความสนุกกันแบบจุใจ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมมัน ๆ อย่างการขับรถไปตามเส้นทางคดเคี้ยวท่ามกลางวิวภูเขาลูกใหญ่, ขับรถบัมพ์ชนกัน, ยิงปืนเลเซอร์ และกีฬาในร่มอื่น ๆ อีกมากมาย รับรองว่าได้เล่นจนลืมเวลาอย่างแน่นอน
สายถ่ายรูปต้องชอบกิจกรรมนี้อย่างแน่นอนใน “เชจูวันเดอร์แลนด์” อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมบนเกาะเชจูที่จัดแสดงงานดิจิทัลที่มีสีสันสดใสมากกว่า 10 ธีม เช่น ธีม Secret Forest ธีม Dynamic Crave และ ธีม Universe Trip ให้คุณสนุกกับการเล่นสัมผัสภาพเคลื่อนไหว และถ่ายรูปแบบไม่ซ้ำใครแน่นอน นอกจากนี้ยังมีโซนสนามเด็กเล่น และห้องลูกบอลให้เด็ก ๆ ได้มาเล่นสนุกกันอีกด้วย
หากใครมาเกาหลีต้องไม่พลาดมาชมการแสดงระดับโลกอย่าง “นันทาโชว์” โดยเป็นการแสดงโชว์ทักษะฝีมือทำอาหารผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้ที่ผาดโผน ซึ่งดนตรีพื้นบ้านเกาหลีที่หาดูได้บนเกาะเชจู การแสดงนี้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 20 ปีเลยทีเดียว ถือเป็นการแสดงที่ไม่ต้องใช้คำพูดแต่คนดูก็สามารถเพลิดเพลินได้อย่างไม่มีเบื่อ ตลอดระยะเวลาการแสดง 90 นาที ห้ามพลาดเชียว
นอกเหนือจากกิจกรรมสนุก ๆ บนเกาะเชจูแล้ว ที่เที่ยวแห่งนี้ยังอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา, ทะเล, น้ำตก, สวน หรือแหล่งวัฒนธรรมอันน่าหลงใหลที่รอให้คุณมาเรียนรู้ ตลอดจนสัมผัสถึงความผ่อนคลายอย่างแท้จริง
ที่เที่ยวบนเกาะเชจูที่เป็นไฮไต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ “พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อก” เป็นพื้นที่ปลูกชาชั้นยอดของแบรนด์โอซุลล็อก แบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านชา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ชาหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมหวานต่าง ๆ ให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะบริเวณนี้มีสภาพอากาศ และอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของชาเป็นอย่างดีนั่นเอง
“น้ำตกจองบัง” เป็นน้ำตกชื่อดังของเกาะเชจูที่มีความสูงถึง 23 เมตร โดยเป็นน้ำตกแห่งเดียวที่ไหลลงสู่ทะเลโดยตรง และถูกล้อมรอบด้วยทัศนียภาพของต้นสนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบริเวณด้านล่างยังมีก้อนหินสีดำเรียงรายกันอย่างสวยงาม นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่แตกต่างกันอย่างลงตัว ต้องมาให้เห็นกับตาเลยทีเดียว
หนึ่งในที่เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกอย่าง “อุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน” ตั้งอยู่บนใจกลางเกาะเชจู ที่ประกอบด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั้ง 7 เส้นทางให้สายปีนเขาและสายเดินป่าได้มาท่องเที่ยวกัน โดยในแต่ละเส้นทางต่างรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันสวยงาม รวมถึงจุดชมวิวภูเขาฮัลลาซานที่แตกต่างกัน รับรองว่าคุ้มค่ากับเดินทางขึ้นมาแน่นอน
“พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้ แบร์” สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเชจูที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีทำมือหลากหลายรูปแบบที่ใส่เสื้อผ้าสุดตระการตา ในท่าทางน่ารักกับฉากพื้นหลังสวย ๆ เต็มทั่วทุกแห่งในพิพิธภัณฑ์ นอกเหนือจากจะได้ถ่ายรูปกันฝูงตุ๊กตาหมีเป็นจำนวนมากแล้ว ไฮไลต์ที่สำคัญของที่นี่ก็คือ การเข้ามาชมหนึ่งในตุ๊กตาที่ได้รับการออกแบบเสื้อผ้าจากดิไซเนอร์แบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton นั่นเอง คนรักตุ๊กตาหมีต้องถูกใจอย่างแน่นอน
มาเดินเล่นรับลมทะเลกันต่อที่ “อ่าวซอพจิโคจิ” โดยที่นี่เป็นอ่าวขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเชจู นักท่องเที่ยวมักชื่นชอบเดินทางไปยังบริเวณนี้เพื่อชมทิวทัศน์ของชายฝั่งทะเลที่โอบล้อมด้วยภูเขาไกลจนลับขอบฟ้า นอกจากนี้ยังมีประภาคารสีขาวที่เคยปรากฏในซีรีย์ยอดฮิตของเกาหลีเป็นจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปสวย ๆ กันอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่บนเกาะเชจูที่คู่รักเกาหลีนิยมมาเดตกัน
“หมู่บ้านพื้นเมืองซองอึบ” เป็นหมู่บ้านเกาหลีบนเกาะเชจู บริเวณเชิงภูเขาฮัลลาซาน ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ โดยมีกิจกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมสมัยก่อน เช่น การก่อกองไฟทำอาหาร การย้อมผ้าธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ของบ้านโบราณที่มีอายุมากกว่า 300 ปีแบบไม่ซ้ำใคร เพราะเป็นอาคารบ้านทรงต่ำที่ก่อสร้างด้วยหินลาวาจากภูเขาไฟนั่นเอง
มาถึงเกาะเชจูทั้งที่ก็ต้องได้มาเล่นน้ำบน “หาดวอลจองรีหาด” ให้ได้ เพราะที่เที่ยวแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหาดทรายที่ขาวสะอาด มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสเป็นประกาย ทำให้ช่วงฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นริมชายหาด และมาเล่นน้ำโต้คลื่นกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ ยังมองเห็นกังหันลมอยู่ไม่ไกลจากหาดอีกด้วย แค่ได้มานั่งเล่นรับลมทะเลเย็น ๆ บนเกาะก็ถือเป็นการผ่อนคลายไปอีกแบบ
“สวนฮัลลิม” หรือ สวนพฤกษศาสตร์เชจู เป็นสวนตั้งอยู่บนที่ราบสูงของเกาะเชจู ประกอบไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นที่เที่ยวแห่งนี้จัดนิทรรศการให้ชมสวนดอกไม้กัน เช่น Spring Flower Festival Calanthe Exhibition และ Chrysanthemum Festival นอกจากนี้ ภายในสวนยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างถ้ำลาวาและถ้ำสองมิติ หรือที่เรียกว่า ‘ถ้ำซังยงกุล’ ให้เราได้เข้าไปชมกันอีกด้วย