ถ้าพูดถึงเทพเจ้าที่สายมูทั้งไทยและต่างชาติศรัทธามากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ พระพรหม เทพเจ้าผู้สร้างสรรค์โลกและมอบความสมหวังในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการงาน ความรัก หรือโชคลาภ เชื่อกันว่าถ้าได้ ไหว้พระพรหม สักครั้ง จะช่วยเปิดทางชีวิตให้ราบรื่นและเต็มไปด้วยพลังบวก
วันนี้ Traveloka เลยจะชวนเพื่อนๆ สายมูมารู้จักกันให้ลึกขึ้นว่า พระพรหม คือใคร มีความหมายมงคล อย่างไร พร้อมบอกวิธีไหว้พระพรหม และการเตรียมของไหว้พระพรหมแบบครบๆ ที่สำคัญเรายังรวมพิกัดดังมาให้ครบ ทั้งศาลพระพรหมในไทยที่เดินทางง่าย และวัดดังต่างประเทศที่ใครอยากจัดเต็มก็สามารถจองตั๋วเครื่องบิน บินไปมูไกลถึงต่างประเทศได้เลย
พระพรหม (Brahma) เป็นหนึ่งในเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนาพราหมณ์–ฮินดู และยังเป็นหนึ่งในตรีมูรติร่วมกับพระวิษณุและพระศิวะ โดยพระพรหมได้รับหน้าที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างสรรพสิ่งทั้งจักรวาล จึงถูกยกให้เป็นเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นและความสมบูรณ์
ในคติอินเดีย พระพรหมถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง การกำเนิด ความเจริญรุ่งเรือง และความเมตตา ผู้คนเชื่อว่าพระองค์คือผู้ให้กำเนิดมนุษย์ เทพเจ้า และองค์ความรู้ต่างๆ ที่กลายมาเป็นรากฐานของศาสนา วัฒนธรรม ตลอดจนคัมภีร์พระเวททั้งสี่ ที่ยังคงสืบต่อและเป็นที่เคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของพระพรหม มีหลายเวอร์ชัน แตกต่างไปตามคัมภีร์และนิกาย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพระองค์ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่ เริ่มต้น
ไม่ว่าจะเชื่อตามตำนานใด สิ่งที่สะท้อนออกมาเหมือนกันก็คือ พระพรหมคือพลังแห่งการเริ่มต้น ความสมดุล และความศรัทธาที่ผู้คนยังคงบูชาและนับถือมาจนถึงทุกวันนี้
การไหว้พระพรหม มีขั้นตอนและรายละเอียดที่ควรรู้ เพราะเชื่อว่าหากบูชาอย่างถูกต้อง จะช่วยให้พรที่ขอเป็นไปตามความปรารถนาได้ง่ายขึ้น มาดูกันเลยว่าควรเตรียมอะไรบ้าง และมีวิธีไหว้อย่างไร
เวลาไหว้ควรบูชาให้ครบทั้งสี่พักตร์ โดยเริ่มจากพระพักตร์หลัก แล้วเดินเวียนไปตามเข็มนาฬิกาจนครบทั้งสี่ด้าน
พักตร์ที่ 1
พักตร์ที่ 2
พักตร์ที่ 3
พักตร์ที่ 4
ก่อนสวดควรตั้งจิตให้สงบ แล้วกล่าวคาถาบูชาเพื่อเสริมพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้
โอมปะระเมสะนะมัสการัม องการะนิสสะวะ รัง
พรหมเรสสะยัม ภูปัสสะวะวิษณุ ไวยะทานะโมโทติลูกปัม
ทะระมา ยิกยานัง ยะไวยะลา คะมุลัม
สะทา นันตะระ วิมุสะตินัน
นะมัตเต นะมัตเตร จะ อะการัง ตโถวาจะ
เอตามาตาระยัต ตะมัน ตะรามา
กัตถะนารัมลา จะสะระวะ ปะติตัม
สัมโภพะกลโล ทิวะทิยัม มะตัมยะ
ใครที่เป็นสายมูคงไม่มีใครไม่รู้จัก ศาลพระพรหม เอราวัณ แลนด์มาร์กดังของกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์ ด้านหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดรวมศรัทธาของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาแล้วได้ทั้งเสริมสิริมงคล และยังต่อด้วยการช้อปปิ้งย่านหรูใจกลางเมืองได้ในทริปเดียว
สิ่งที่ทำให้ศาลพระพรหมเอราวัณโด่งดัง คือความเชื่อว่าท่านเป็นผู้ลิขิตชะตา ช่วยหนุนให้สมหวังในเรื่อง การงานและความก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนตำแหน่ง การได้งานใหม่ หรือการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ แต่ไม่ได้มีแค่เรื่องงานเท่านั้น เพราะยังมีผู้คนจำนวนมากมาขอพรเกี่ยวกับ ความรัก การเงิน และโชคลาภ กันด้วย
สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมของบูชามาเองก็ไม่ต้องห่วง เพราะรอบๆ ศาลมีร้านจำหน่ายชุดสักการะไว้พร้อมอยู่แล้ว และเมื่อคำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล หลายคนก็มักกลับมาแก้บนด้วยการรำถวาย จนกลายเป็นภาพคุ้นตาและเสน่ห์เฉพาะตัวของศาลพระพรหมแห่งนี้เลยทีเดียว
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/39afjxZyKYMZaMUU8
อีกหนึ่งจุดที่สายมูต้องแวะคือ พระพรหม เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า เทวสถานเสาชิงช้า เพราะตั้งอยู่บริเวณเสาชิงช้า ใกล้กับวัดสุทัศน์และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของพราหมณ์ในไทย และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของราชสำนักมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1
ภายในเทวสถานมีเทพเจ้าหลักให้สักการะ 3 องค์ คือ พระอิศวร พระคเณศ และพระนารายณ์ แต่ไฮไลต์ที่หลายคนตั้งใจมาคือ พระพรหม ซึ่งประดิษฐานอยู่ในเทวลัยเล็กๆ กลางบ่อน้ำด้านหน้าทางเข้า บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างสงบ เหมาะกับการตั้งจิตอธิษฐานและบูชาอย่างจริงจัง ต่างจากความคึกคักของศาลพระพรหมเอราวัณ ทำให้หลายคนเลือกมาที่นี่เพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
บอกเลยว่าถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ในแบบดั้งเดิมของศาสนาพราหมณ์ ต้องลองมาเยือนสักครั้ง รับรองว่าได้ทั้งความอิ่มใจและพลังบวกกลับไปเต็มๆ
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/JU1gpNKi3ATQR31j7
ถ้าเอ่ยถึงวัดฮินดูที่ดังที่สุดในกรุงเทพฯ ชื่อของวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วัดแขกสีลม ต้องโผล่มาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งชาวฮินดูและคนไทยนิยมแวะไปสักการะกันไม่ขาดสาย
แม้องค์ประธานของวัดจะเป็นพระแม่อุมาเทวี แต่ที่นี่ก็ยังมี พระพรหม ให้กราบไหว้เช่นกัน โดยองค์พระพรหมทำจากสำริด ลักษณะงดงามตามศิลปะฮินดู และเป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้ศรัทธาตั้งใจมากราบขอพรโดยเฉพาะ
ศาลพระพรหมตั้งอยู่ด้านหน้าในบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบ เหมาะสำหรับการตั้งจิตภาวนาและขอพรเรื่อง การงาน การเงิน หรือการเรียน ซึ่งหลายคนเล่าตรงกันว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์และมักสมหวัง นอกจากนี้ ยังสามารถขอเรื่องความรักกับพระแม่อุมาเทวีได้ด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบทั้งเรื่องงาน เงิน และความรักเลยทีเดียว
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/ADR4iBAZdB1Dv1WL6
ถ้าใครอยากไหว้พระพรหม องค์ใหญ่แบบเต็มตาโดยไม่ต้องเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ แนะนำให้แวะที่ เทวาลัยพระพรหม สิงห์บุรี เลย ที่นี่ตั้งอยู่ก่อนเข้าอำเภอพรหมบุรี ไม่ไกลจากถนนสายเอเชีย เดินทางสะดวกสุดๆ
ไฮไลต์ของที่นี่คือพระพรหมองค์ใหญ่ ปางเหยียบลูกฟักทอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 80 ปี พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี องค์พระพรหมประทับอย่างสง่างาม มี 4 พระพักตร์ 8 พระกร ทรงถือเครื่องหมายมงคลต่างๆ ได้แก่ จักร หอยสังข์ คัมภีร์ คนโท คทา บ่วง ดอกบัว และลูกประคำ สื่อถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์และปัญญารอบด้าน
ชาวบ้านเชื่อว่าการมาสักการะที่นี่จะช่วยเสริมดวงเรื่อง การงาน การเงิน และโชคลาภ ใครที่กำลังเริ่มต้นสิ่งใหม่ หรืออยากให้ชีวิตราบรื่น มีแต่ความสมหวัง มักไม่พลาดที่จะเดินทางมาขอพร โดยบรรยากาศรอบๆ เทวาลัยก็ค่อนข้างสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การใช้เวลาอธิษฐาน ตั้งจิต และพักผ่อนใจ ต่างจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้ทั้งความอิ่มบุญและความสบายใจกลับไปเต็มๆ เลย
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/pAuGuPm9igmoYGeP8
ปิดท้ายทริปสายมูด้วยการพาไปยังถิ่นกำเนิดพระพรหมที่แท้จริง อย่างวัด Jagatpita Brahma เมืองพุชการ์ รัฐราชสถาน วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดพระพรหมเพียงแห่งเดียวในอินเดีย และหนึ่งในไม่กี่แห่งของโลก จึงกลายเป็นหมุดหมายที่ผู้ศรัทธาอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ตามตำนานเล่าว่า เมืองพุชการ์ถือกำเนิดจากดอกบัวที่ร่วงจากพระหัตถ์พระพรหม และพระองค์เลือกที่นี่ให้เป็นสถานที่ประดิษฐานวัด วัดแห่งนี้สร้างจากหินอ่อน โดดเด่นด้วยยอดศิขระสีแดง เสาหินที่แกะสลักอย่างวิจิตร และวิหารที่ประดิษฐานองค์พระพรหมขนาดเท่าคนจริงให้ได้สักการะกัน ว่ากันว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,000 ปี ผ่านการบูรณะและซ่อมแซมมาหลายยุคหลายสมัย
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ ทะเลสาบพุชการ์ ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งเชื่อว่าการอาบน้ำในทะเลสาบจะช่วยชำระล้างบาปและเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้ศรัทธา ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์แบบต้นฉบับ แนะนำให้รีบ จองตั๋วเครื่องบินไปอินเดีย แล้วปักหมุดที่นี่ไว้ในลิสต์ทริปมูเลย
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/rCt7uoZFvsiVcKyN6
อ่านต่อ:
จะไปไหว้พระพรหม ที่ราชประสงค์ แวะวัดแขกสีลม เที่ยวสิงห์บุรี หรือบินตรงไปถึงพุชการ์ อินเดีย บอกเลยว่ามีแอป Traveloka แอปเดียวก็จัดการได้ทุกอย่าง ไม่ต้องปวดหัวสลับหลายแพลตฟอร์มให้ยุ่งยาก
โหลดแอปเดียวก็พร้อมออกเดินทางไปมูได้ทุกที่ทั่วโลก ทั้งง่าย สะดวก ประหยัด ทุกทริปมูจะมีแต่พลังบวกและความสมหวังแน่นอน!