สำหรับใครที่กำลังจะจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ รู้หรือไม่ว่าความงดงามและเป็นที่นิยมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่นอกเหนือจากการมีแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์นั้นก็คือ ความสวยงามของปราสาทพระราชวังในยุคสมัยก่อน ซึ่งหนึ่งในความงดงามที่ว่านั้นต้องมีชื่อของ “ปราสาทชิลยอง” ด้วยแน่นอน ปราสาทเก่าแก่ที่สำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สมบัติอันล้ำค่าอันเป็นจุดหมายของคนที่จองตั๋วเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ผ่านแอป Traveloka นั่นเอง

ปราสาทชิลยองเป็นปราสาทที่มีอายุมากกว่า 800 ปี ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อได้ไปเยี่ยมชมจะต้องรู้สึกราวกับอยู่ในเมืองเทพนิยาย ปราสาทสูงใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเกาะหิน บริเวณรอบปราสาทเป็นวิวทิวเขาและทะเลสาบเจนีวา โดยปราสาทชิลยองเป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก และในบริเวณใกล้เคียงก็มีที่พักสวิตเซอร์แลนด์สวย ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวปราสาทชิลยองจากริมระเบียงได้เลย

Plage du Château de Chillon หรือ ปราสาทชิลยอง ปราสาทเก่าแก่กลางทะเลสาบเจนีวาที่มีอายุมากกว่า 800 ปี โดยมีเอกสารอ้างว่าปราสาทแห่งนี้ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1005 หรือช่วงยุคกลางของยุโรป ปราสาทชิลยองจะตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเล โดยบริเวณที่ตั้งของปราสาทชิลยองเป็นเกาะหินเล็ก ๆ ในเมืองมองเทรอซ์ ด้านหน้าและหลังปราสาทจะมองเห็นทะเลสาบเจนีวามาบรรจบกับเทือกเขาแอลป์

คนที่ต้องการมาเที่ยวปราสาทชิลยองสามารถจองโรงแรมใกล้ ๆ ได้เลย เพราะปราสาทชิลยองอยู่ไม่ไกลจากเมืองมองเทรอซ์มากนัก มีระยะห่างประมาณ 3 กิโลเมตรจากตัวเมือง โดยตัวปราสาทมีระยะฐานลึกลงไป 300 เมตรจากทะเล ภายในปราสาทชิลยองแบ่งเป็นทั้งหมด 25 ห้อง แต่ละห้องในปัจจุบันถูกใช้ในการจัดแสดงยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการรบ สไตล์ของปราสาทแห่งนี้จะเป็นสไตล์กอทิกเก่าแก่ มีความแข็งแรง สวยงาม แต่ก็ดูลึกลับน่าค้นหา ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะเน้นการใช้ก้อนหินเป็นหลัก

จุดประสงค์หลักของการสร้างปราสาทชิลยอง(Chillon Castle) คือเพื่อใช้ในการควบคุมการเดินเรือและเก็บค่าผ่านทาง ทั้งยังป็นสถานที่พักร้อนของราชวงศ์ซาวอยอีกด้วย จนศตวรรษที่ 16 ปราสาทชิลยองถูกใช้เป็นที่จองจำนักโทษคนสำคัญอย่าง ฟรังซัวส์ โบนิวาร์ด โดยการจองจำนักโทษท่านนี้ที่ปราสาทชิลยองกลายเป็นแรงบันดาลใจของบทประพันธ์ ‘นักโทษแห่งชิลยอง (The Prisoner of Chillon)’ ขึ้นมา จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาชมปราสาทแห่งนี้ ปัจจุบัน ห้องคุมขังได้เปลี่ยนเป็นโรงบ่มไวน์ โดยมีไวน์ขายเป็นที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมปราสาทชิลยองนั่นเอง

ปราสาทชิลยองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองมองเทรอซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริเวณใกล้เคียงปราสาทชิลยองยังมีสถานที่สวยงามมากมายที่ควรค่าแก่การไปเที่ยว เช่น ไร่องุ่นลาวู, อนุสรณ์สถานเฟรดดี้ เมอร์คิวรี และอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้คุณไปเที่ยวชม

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/xsxCUrk2ytnd92Qp8

ปราสาทชิลยองเปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันที่ 25 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคมของทุกปี โดยการเข้าชมปราสาทชิลยองจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ในช่วงเดือนเมษายน-เดือนกันยายนจะเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.00-19.00 น. ช่วงเดือนมีนาคม-เดือนตุลาคมจะเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.30-18.00 น. และช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์จะเปิดให้เข้าชมในเวลา 10.00-17.00 น.

ในส่วนของค่าเข้าชมจะแบ่งเป็น 3 ราคาด้วยกัน สำหรับผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะมีค่าเข้าชม 15 ฟรังก์สวิส ส่วนเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6-15 ปีขึ้นไป ค่าเข้าชมอยู่ที่ 7 ฟรังก์สวิส และสำหรับคนที่มาเป็นแบบครอบครัวจะมีแพ็คเกจให้เลือกในราคา 35 ฟรังก์สวิส นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ราคาพิเศษให้กับบุคคลที่เป็นนักเรียน, ผู้เกษียณ, บุคคลทุพพลภาพ และทหารที่สวมเครื่องแบบสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย โดยสามารถเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.chillon.ch/en/visit/

การเดินทางไปปราสาทชิลยองนั้นไม่ยากอย่างที่คิด เนื่องจากมีระยะทางห่างจากตัวเมืองมองเทรอซ์ไม่ไกล และถนนหนทางก็ไม่สลับซับซ้อนมากนัก อีกทั้งระบบขนส่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว Traveloka จึงได้รวบรวมข้อมูลเส้นทางการเดินทางไปเที่ยวปราสาทชิลยองแบบฉบับง่าย ๆ ที่ใช้ได้จริงมาไว้แล้ว ดังนี้

สำหรับผู้ที่มาถึงทะเลสาบเจนีวาทั้งทีก็อยากจะล่องเรือชมธรรมชาติ ชมความสวยงามให้คุ้ม การเดินไปเที่ยวปราสาทชิลยองด้วยเรือนั้นถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้เห็นปราสาทชิลยองแล้ว ยังได้ชื่นชมกับทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบเจนีวาไปพร้อมกัน ซึ่งการล่องเรือทะเลสาบเจนีวาจะต้องไปที่ท่าเรือ Château de Chillon โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น

ใครที่เป็นสายชิล ๆ อยากนั่งรถชมวิวของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ร่วมด้วย ขอแนะนำวิธีการเดินทางด้วยรถไฟ ที่คุณจะต้องนั่งรถไฟสายตรงไปยังเมืองมองเทรอซ์ และนั่งรถไฟท้องถิ่นต่อไปที่สถานี Veytaux-Chillon หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเดินหรือขึ้นรถบัสต่อไปที่ปราสาทชิลยอง หากเลือกเดินไปตามทางเดินริมทะเลสาบเจนีวาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากสถานีรถไฟไปยังปราสาทชิลยอง แต่ถ้าเลือกขึ้นรถบัสก็จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที สำหรับคนที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟสามารถเช็กเที่ยวตารางเดินรถไฟได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (SBB) https://www.sbb.ch/en

สำหรับคนที่ชอบนั่งรถบัส ก็สามารถขึ้นรถบัสสาย 201 จากเมือง Vevey, Montreux หรือ Villeneuve มาลงป้าย Chillon โดยรถบัสจะออกทุก 10-15 นาที และใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเดินทางมาที่ปราสาทชิลยอง นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรโดยสารได้บนรถบัสเลย หรือสามารถซื้อจากตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติก็ได้ โดยมีค่าโดยสารอยู่ที่ 10 ฟรังก์สวิส

นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถยนต์ส่วนตัวขับมาเที่ยวปราสาทชิลยองได้ง่าย ๆ โดยใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข A9 ซึ่งตัวปราสาทชิลยองจะอยู่ระหว่างเมือง Villeneuve และ Montreux หากขับมาจากเมือง Villeneuve จะใช้ระยะทาง 2 กิโลเมตรมายังปราสาทชิลยอง แต่หากขับมาจาก Montreux จะใช้ระยะทาง 4 กิโลเมตรเพื่อมาปราสาทชิลยอง

มาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ทั้งทจะเที่ยวที่เดียวก็คงเสียเปล่า เพราะนอกจากจะมีปราสาทชิลยองที่เป็นสมบัติทางประวัติศาสตร์เก่าแก่อันสวยงามแล้ว สวิตเซอร์แลนด์ยังมีสถานที่สวยงามอีกมากมายที่ควรค่าแก่การไปเยือน โดย Traveloka ได้ลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากปราสาทชิลยองให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้แวะไปสัมผัสความสวยงามแล้ว ดังนี้

Golden Pass Railway เส้นทางรถไฟที่เป็นที่ยอดนิยมและเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทุกคน โดยเส้นทางรถไฟนี้เริ่มจากเมืองซไวซิมเมนนั่งยาวไปจนถึงเมืองมองเทรอซ์ คุณจะได้รับประสบการณ์จากการนั่งรถไฟสายผ่านการชมทัศนียภาพสุดแสนโรแมนติก หน้าต่างของรถไฟที่มีขนาดความกว้างอย่างมากทำให้สามารถเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์กับทะเลสาบเจนีวาแบบพาโนรามา แม้จะเป็นการนั่งแบบระยะทางไกลแต่คุณก็จะได้รับความอิ่มเอมใจทุกนาทีที่นั่งอยู่ในรถไฟขบวนนี้

ภูเขารอเชเดอนาย เป็นภูเขาในเทือกเขาแอลป์ที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตรจากน้ำทะเล บนพื้นที่ภูเขานี้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ทั้งยังสามารถเห็นวิวของประเทศสวิตเซอร์แลนด์แบบสุดลูกหูลูกตา แต่ข้อระวังของการขึ้นไปภูเขาลูกนี้คือ ควรพกเสื้อกันฝนไปด้วย เนื่องจากมีลักษณะภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยนั่นเอง

อีกหนึ่งหมู่บ้านที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาปราสาทชิลยองนั่นก็คือ หมู่บ้านคริสต์มาสมอนเตอรัส ที่นี่มีกระท่อมจิ๋วมากกว่า 100 หลัง อีกทั้งตลาดกลางคืนที่ตกแต่งในธีมคริสต์มาส ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเป็นเอกลักษณ์สำหรับเมืองมองเทรอซ์อย่างมาก

พิพิธภัณฑ์โอลิมปิกลอเรนโซลตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1993 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับโอลิมปิกทั้งสิ้น มีเอกสารและอุปกรณ์การกีฬาที่แข่งขันในโอลิมปิกให้นักท่องเที่ยวมาชื่นชม จุดประสงค์หลักของพิพิธภัณฑ์โอลิมปิกลอเรนโซลคือ การอนุรักษ์และนำเสนอประวัติศาสตร์ของโอลิมปิก วิวัฒนาการของโอลิมปิกตั้งแต่ยุคสมัยเก่ายันสมัยใหม่ ถ่ายทอดความสวยงามและความสามัคคีของกีฬาโอลิมปิกให้กับเยาวชนรุ่นใหม่นั่นเอง

ลาวู (Lavaux) เป็นหนึ่งในเขตที่สำคัญในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นบริเวณที่ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์ โดยไวน์ที่ผลิตในเขตนี้ส่วนมากจะเป็นเป็นไวน์ขาว และถูกเรียกที่แห่งนี้ว่า "ไร่องุ่นขั้นบันไดลาวู" (Lavaux Vineyard Terraces) และเขตลาวูได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ. 2007 อีกด้วย

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่สายโซเชียลห้ามพลาดคือ การถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (Chillon Castle) โดยบริเวณรอบ ๆ ปราสาทชิลยองมีจุดชมวิวที่สวยงามมาก ด้วยทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบเจนีวา หรือวิวที่เป็นเทือกเขาแอลป์ ขอรับประกันเลยว่ารูปที่คุณได้จะต้องเป็นหนึ่งในภาพที่สร้างความประทับใจให้คุณอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติ การเก็บภาพร่วมกับธรรมชาติรอบปราสาทชิลยองเป็นสิ่งที่ควรทำมากอย่างมาก เพราะคุณจะได้วิวของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบเจนีวาไปพร้อมกัน และหากคุณเดินไปตามทางเดินด้านข้างปราสาท จะมีจุดถ่ายรูปที่เห็นทั้งวิวธรรมชาติ และเห็นปราสาททั้งหลังอยู่ในเฟรมอย่างชัดเจน

หน้าปราสาทชิลยองก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปร่วมกับจุดเช็กอินนี้ เพราะได้เห็นถึงตัวปราสาทที่มีความสวยงามตามสไตล์กอทิก และเห็นยอดของปราสาททั้ง 3 ที่เป็นเอกลักษณ์ของปราสาทชิลยองอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้เห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามน่าเก็บเป็นภาพประทับใจอีกด้วย

สำหรับสายประวัติศาสตร์ สายเก็บเรื่องราวนั้น การถ่ายรูปบริเวณโถงปราสาทชิลยองก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณจะได้เก็บรายละเอียดของเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีมานานมากกว่า 800 ปีกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ในยุคนั้น พวกถ้วยโบราณต่าง ๆ ที่ถูกจัดแสดงภายในบริเวณโถงปราสาทชิลยอง ต่างแสดงให้เห็นว่าในอดีต ห้องแห่งนี้ถูกจัดเป็นห้องที่ไว้รับรองงานเลี้ยงและงานรื่นเริงต่าง ๆ โดยบริเวณรอบห้องเป็นหน้าต่างทั้งหมด ทำให้ผู้คนที่มาเที่ยวห้องนี้จะเห็นวิวของทะเลสาบเจนีวาไปพร้อมกับการชื่นชมความสวยงามของปราสาทชิลยองด้วย