ฟลอเรนซ์ (Florence) คือหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมสวย ๆ ให้เที่ยวชมมากมาย หนึ่งในนั้นคือมหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มหาวิหารหลักของเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่นี่คือมหาวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี รวมถึงยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่นครรัฐวาติกัน และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในทวีปยุโรปอีกด้วย

ใครที่อยากไปเห็นความยิ่งใหญ่และความงดงามของมหาวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้ อย่ารอช้า รีบหาตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีผ่านแอป Traveloka แล้วเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวกันได้เลย

มหาวิหารฟลอเรนซ์ มีฐานะเป็นมหาวิหารประจำอัครมุขมณฑลฟลอเรนซ์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป มีอายุเก่าแก่มากกว่า 800 ปี และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองฟลอเรนซ์ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง

นอกจากนี้ มหาวิหารยังตั้งอยู่ในจัตุรัส Piazza del Duomo ซึ่งเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง บริเวณโดยรอบจึงมีแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร แหล่งชอปปิง รวมถึงโรงแรมและที่พักอิตาลีดี ๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งยังเดินทางไปเที่ยวได้อย่างสะดวก แต่ก่อนตัดสินใจจองโรงแรมในย่านนี้เพื่อเยี่ยมชมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ลองมารู้จักมหาวิหารแห่งนี้กันให้มากขึ้นสักเล็กน้อย

มหาวิหารฟลอเรนซ์มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร” (Cattedrale di Santa Maria del Fiore) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1296 ในสถาปัตยกรรมแบบกอทิก (Gothic) ตามการออกแบบของ Anolfo di Cambio สถาปนิกและประติมากรชื่อดังในศตวรรษที่ 12 โดยเป็นการสร้างทับโบสถ์เดิมคือ ซานตา เรปาราต้า (Santa Reparata) แต่ยังไม่ทันสร้างเสร็จเขาก็เสียชีวิตลง โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดกว่า 140 ปีจึงก่อสร้างจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1436

มหาวิหารฟลอเรนซ์มีจุดเด่นที่โดมกระเบื้องสีแดงขนาดใหญ่ที่มีฐานกว้างถึง 90 เมตร ซึ่งส่วนโดมนี้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดย Filippo Brunelleschi ระหว่างปี ค.ศ. 1420 ถึง ค.ศ. 1436 เป็นส่วนสุดท้ายของวิหารที่ถูกสร้างขึ้น จากนั้นมีการปรับปรุงในหลายยุคสมัย โดยการปรับปรุงครั้งสำคัญคือการตกแต่งด้านหน้าของมหาวิหารในแบบศิลปะกอทิกฟื้นฟูโดย Emilio De Fabris ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนกลายเป็นมหาวิหารที่มีความสวยงามดังที่เห็นในปัจจุบัน

มหาวิหารฟลอเรนซ์มีที่ตั้งอยู่ภายในจัตุรัสดูโอโม (Piazza del Duomo) ใกล้กับหอระฆัง Giotto และหอศีลจุ่ม San Giovanni ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) แคว้นทัสกานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี สามารถค้นหาตามพิกัดด้านล่างได้เลย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8EJ5XZs5EeR3XxtS7

เราสามารถเยี่ยมชมมหาวิหารฟลอเรนซ์ได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายน และตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบาย ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป และนักท่องเที่ยวจะไม่เยอะเท่าช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ของทางยุโรปและอากาศค่อนข้างร้อน ทั้งยังเป็นช่วง High Season ที่โรงแรมและที่พักมีราคาสูงกว่าปกติด้วย

นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเข้าไปที่จัตุรัสดูโอโม แล้วเดินเที่ยวชมภายนอกของมหาวิหารฟลอเรนซ์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากต้องการเข้าชมภายในวิหารต้องซื้อตั๋วเข้าชมซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ ทั้งแบบเข้าชมวิหารอย่างเดียว และแบบเหมารวมเข้าชมทั้งวิหาร, หอระฆัง, หอศีลจุ่ม และพิพิธภัณฑ์ ราคาตั๋วเข้าชมเริ่มต้นที่ 15 ยูโร (ราว 580 บาท) ซึ่งการเข้าชมภายในวิหารจะมีไกด์พาเดินชมตามจุดต่าง ๆ สามารถเช่าเครื่อง Audio Guide เพิ่มเติมได้

มหาวิหารฟลอเรนซ์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.15-15.45 น. ของทุกวัน ปิดวันอาทิตย์ ส่วนโดมเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8.15-18.15 น. อย่างไรก็ตาม เวลาเปิด-ปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันและเทศกาล สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Florence..เมืองแห่งศิลปะกับบรรยากาศที่เหมือนฝัน

เมื่อจองตั๋วเครื่องบินแลนด์ดิ้งมายังกรุงโรมแล้ว สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิหารฟลอเรนซ์อย่างไรได้บ้าง?

จากกรุงโรม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูง Italo ไปที่เมืองฟลอเรนซ์ได้อย่างสะดวก โดยขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟ Roma Termini มาลงที่สถานีรถไฟ Firenze Santa Maria Novella ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใหญ่ประจำเมืองและอยู่ใกล้กับมหาวิหารฟลอเรนซ์ที่สุด ใช้เวลาเดินจากกรุงโรมมาเมืองฟลอเรนซ์ราว 1 ชั่วโมง 30 นาที

จากสถานีรถไฟ Firenze Santa Maria Novella นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปขึ้นรถบัสประจำทางสาย C2 ที่ป้าย Stazione Orti Oricellari แล้วไปลงที่ป้าย Roma Duomo ที่อยู่ติดกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

หากนักท่องเที่ยวคนไหนต้องการความสะดวกและความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง ก็สามารถเช่ารถยนต์ขับไปเที่ยวมหาวิหารฟลอเรนซ์ได้เช่นกัน โดยเช่ารถได้ที่สถานีรถไฟ Firenze Santa Maria Novella หรือที่สนามบิน Amerigo Vespucci ทางตอนเหนือของเมือง มีหลายบริษัทให้เลือกใช้บริการทั้งแบบเช่าขับเองและเช่ารถพร้อมคนขับ

อย่างไรก็ตาม ถนนภายในเมืองฟลอเรนซ์ค่อนข้างซับซ้อนและเป็นซอยแคบ หาที่จอดรถยากพอสมควร จึงต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังและอาจต้องวางแผนการเดินทางให้ดีก่อนจะไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง

หากได้ไปเที่ยวชมมหาวิหารฟลอเรนซ์ นอกจากจะได้ชมความงดงามตระการตาของสถาปัตยกรรมแล้วจากภายนอกแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดหลายอย่างเช่นกัน โดย Traveloka ได้คัดกิจกรรมเด่น ๆ มาให้ถึง 5 กิจกรรม ดังนี้

หนึ่งในกิจกรรมที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาเที่ยวที่มหาวิหารฟลอเรนซ์คือ การเข้าไปชมภาพวาด Fresco ที่ชื่อว่า The Last Judgement บนเพดานโดมของมหาวิหาร นี่คือภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดภาพหนึ่งในโลก วาดโดยจิตรกรชาวอิตาเลียน Giorgio Vasari และ Federico Zuccari ในปี ค.ศ. 1572-1579 ถือเป็นภาพวาดที่มีความสวยงาม และมีความหลายลึกซึ้งในทางคริสต์ศาสนาเกี่ยวกับวันสิ้นโลกและความตายที่น่าสนใจไม่น้อย

กิจกรรมต่อมาคือเดินชมพิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo พิพิธภัณฑ์เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีที่เก็บรักษาและจัดแสดงวัตถุโบราณ สิ่งของ งานศิลปะต่าง ๆ จากมหาวิหารฟลอเรนซ์และหอศีลจุ่ม San Giovanni เอาไว้ ภายในพิพิธภัณฑ์มีงานศิลปะและวัตถุโบราณให้ชมจำนวนกว่า 750 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น, อนุสาวรีย์, ภาพเขียน, ภาพแกะสลัก ภายในพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 28 ห้อง จำนวน 3 ชั้น ใครที่อินกับประวัติศาสตร์หรือชื่นชอบศิลปะและวัตถุโบราณต่าง ๆ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ การเดินขึ้นบันได 463 ขั้นขึ้นไปยังยอดโดม Capola บนมหาวิหารฟลอเรนซ์ เพื่อชมวิวเมืองฟลอเรนซ์แบบ 360 องศา โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังตกนั้น จะเห็นภาพวิวตัวเมืองเบื้องล่างที่สวยงามเกินบรรยาย รับรองว่าเห็นวิวแล้วต้องหายเหนื่อยอย่างแน่นอน

หอระฆัง Giotto หอคอยสูงเด่นตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างมหาวิหารฟลอเรนซ์ เป็นสัญลักษณ์สำคัญคู่กับวิหารที่มีความสวยงามโดดเด่นจากสถาปัตกรรมแบบกอทิก เหมาะสำหรับถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ ยังสามารถเดินขึ้นบันไดไปบนยอดหอระฆัง เพื่อชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ได้แบบ 360 องศาอีกด้วย

กิจกรรมสุดท้ายที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวมหาวิหารฟลอเรนซ์คือ การเข้าชมหอศีลจุ่ม San Giovanni หอสำหรับทำพิธีชำระบาปของชาวคาทอลิก เป็นหอทรงแปดเหลี่ยมภายนอกประดับด้วยหินอ่อนสวยงาม ภายในหอมีแท่นสำหรับทำพิธี, รูปปั้น, ภาพเขียนสีบนเพดาน, ผนังที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสวยงาม รวมถึงอนุสาวรีย์ของพระคาร์ดินัล Baldassarre Coscia ซึ่งเป็นศิลปะชิ้นเอกจากยุคเรเนซองส์ที่สร้างโดย Donatello และ Michelozzo ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะและศาสนพิธีในศาสนาคริสต์ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้