0

Traveloka TH

30 Apr 2024 - 2 min read

เยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) สุดยอดจุดชมวิวของญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด

ภูเขาไฟฟูจิ

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนหากได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องมีเป้าหมายมาถ่ายรูปกับความยิ่งใหญ่ตระการตาของ “ภูเขาไฟฟูจิ” (Mt.Fuji) ภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ทรงสามเหลี่ยมที่มีความสมดุลทั้งซ้าย-ขวา หิมะที่ปกคลุมบนยอดเขาตลอดปี อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันสวยงาม ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็งดงามไปหมด รอให้คุณมาพิชิตยอดเขาเพื่อชื่นชมความงามทั้งปวง

หากไม่อยากพลาดการมาถ่ายรูปกับภูเขาไฟลูกนี้ รีบกดจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นพร้อมโปรโมชันมากมายในราคาสุดพิเศษ แล้วมาเริ่มศึกษาข้อมูลของภูเขาไฟฟูจิกับจุดชมวิวสุดงดงามที่แอป Traveloka แนะนำกัน!

พามารู้จักภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น

ดู ภูเขาไฟฟูจิ

คนญี่ปุ่นมักชื่นชอบเรียกภูเขาไฟฟูจิกันว่า ‘ฟูจิซัง’ (Mt.Fuji) ที่มีความหมายว่า ภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งภูเขาไฟแห่งนี้รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพของต้นไม้และทะเลสาบ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เลยทีเดียว ด้วยขนาดที่ใหญ่มาก ๆ ทำให้เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิตามแหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้ไม่มีเบื่อ อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงภูเขาไฟฟูจิยังมีโรงแรมญี่ปุ่นสวย ๆ ให้เราได้มาพักผ่อนหย่อนใจกับวิวทิวทัศน์หลักล้าน หาดูไม่ได้ง่าย ๆ ด้วยนะ

ประวัติภูเขาไฟฟูจิ

ภูเขาไฟฟูจิเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนญี่ปุ่น เราสามารถเห็นได้จากงานเขียน และงานจิตรกรรมของศิลปินชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ภูเขาไฟแห่งนี้มีความสูงที่สุดในประเทศ โดยระดับความสูงอยู่ที่ 3,776 เมตร

ภูเขาไฟฟูจินั้นเกิดจากการปะทุในช่วงประมาณ 100,000 ปีที่แล้ว ปัจจุบันก็ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มภูเขาไฟที่โอกาสเกิดการประทุต่ำ บริเวณรอบข้างของภูเขาแห่งนี้รายล้อมไปด้วยพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน และสัมผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

ที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ

ภูเขาไฟฟูจิมีที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของโตเกียว ทำให้เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวในวันที่อากาศแจ่มใสได้ บริเวณพื้นที่โดยรอบประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของญี่ปุ่น อาทิ ทะเลสาบทั้ง 5, หมู่บ้านน้ำใส, แม่น้ำอุรุอิ, ป่าอะโอคิกะฮะระ และเจดีย์แดงชูเรโตะ เป็นต้น

เราสามารถเยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิได้ช่วงไหนบ้าง

คุณสามารถเข้าเยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิได้ตลอด 24 ชั่วโมงบนสถานีชั้นที่ 5 ในช่วงฤดูปีนเขา โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด แต่สำหรับช่วงเวลาปกตินั้นจะมีเวลาเปิด-ปิดที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละเดือน สามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ http://subaruline.jp/e/eigyou/jikan.html ก่อนการเดินทาง

นอกจากนี้ คุณสามารถซื้อตั๋ว Mt.Fuji Pass ที่ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการทำกิจกรรมสนุก ๆ รอบภูเขาได้เช่นกัน โดยราคาตั๋ว 1 วันจะเริ่มต้นที่ 5,500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 2,750 เยนสำหรับเด็ก

ช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฤดูร้อนเป็นช่วงที่มีเทศกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เห็นภูเขาไฟลูกใหญ่ท่ามกลางท้องฟ้าปลอดโปร่ง ส่วนฤดูหนาวเองก็มีหิมะสีขาวปกคลุมทั่วภูเขา สวยตระการตามาก ๆ

การเดินทางไปยังภูเขาไฟฟูจิ

การเดินทางไปชมวิวบนภูเขาไฟฟูจิสามารถไปได้หลากหลายวิธี ด้วยบริการขนส่งมวลชนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง Traveloka ได้รวบรวมวิธีการเดินทางที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว และการเดินทางที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้มาไว้แล้ว ดังนี้

การเดินทางด้วยรถไฟ

คุณสามารถเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิจากตัวเมืองโตเกียวได้ โดยเริ่มต้นนั่งรถไฟจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) ไปลงสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ซึ่งมีระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเดินทางต่อด้วยรถประจำทางไปลงสถานีชั้นที่ 5 สาย Subaru Fuji Subaru อีกประมาณ 1 ชั่วโมงจะถึงจุดหมาย ซึ่งรถสายนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูปีนเขาเท่านั้น

การเดินทางด้วยรถประจำทาง

การเดินทางด้วยรถประจำทางสามารถขึ้นได้ที่สถานีชินจูกุ (Shinjuku) ไปลงสถานีชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ สาย Subaru Fuji Subaru ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาทีจะถึงจุดหมาย แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าก่อนเพื่อความสะดวก โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 3,800 เยน (เฉพาะเที่ยวเดียว)

หรือสามารถเดินทางจากจากสถานีโตเกียว (Tokyo) ไปลงสถานีฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya) แล้วต่อรถประจำทางท้องถิ่นไปลงสถานีฟูจิโนะมิยะกุจิชั้นที่ 5 จะใช้เวลาโดยรวมประมาณ 4 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 2,500 เยน (เฉพาะเที่ยวเดียว)

การเดินทางด้วยรถยนต์

วิธีการเดินทางไปชมภูเขาไฟฟูจินี้เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นกลุ่มเล็กหรือครอบครัว โดยสามารถขับรถมายังจุดจอดรถแถวพื้นที่ใกล้เคียงสถานีชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ หลังจากนั้นจึงใช้บริการรถรับส่งเพื่อขึ้นไปยังสถานีดังกล่าวจึงจะถึงจุดหมาย โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 2,500 เยน

จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดฮิต

เรามีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำ ให้คุณได้ถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ แบบไม่ซ้ำใคร ทั้งหมด 10 จุดยอดฮิตด้วยกัน จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย!

1. ทะเลสาบทั้ง 5 ของจังหวัดยามานาชิ (Fuji Five Lakes)

ประวัติ ภูเขาไฟฟูจิ

จุดชมวิวที่แรกคือ “ทะเลสาบทั้ง 5 ของจังหวัดยามานาชิ” เป็นชื่อที่ไว้เรียกทะเลสาบทั้ง 5 แห่งซึ่งใกล้กับภูเขาไฟฟูจิในแถบจังหวัดยามานาชิ ได้แก่ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ, ทะเลสาบยามานากะโกะ, ทะเลสาบไซโกะ, ทะเลสาบโชจิโกะ และทะเลสาบโมโตซูโกะ โดยทะเลสาบคาวากุจิโกะเป็นทะเลสาบที่เดินทางเข้าถึงง่ายที่สุด หากมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ รับรองว่าจะได้เห็นภาพภูเขาไฟฟูจิกับซากุระที่กำลังเบ่งบานพร้อมกับวิวทะเลสาบสวย ๆ แน่นอน

2. สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park)

ภูเขาไฟ fuji

“สวนสาธารณะโออิชิ” เป็นหนึ่งในจุดชมวิวยอดฮิตของภูเขาไฟฟูจิ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ สถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับทุ่งดอกไม้หลากสีตลอดทางเดินถึง 350 เมตร โดยในแต่ละปี สวนแห่งนี้จะปลูกดอกไม้หลากหลายพันธุ์สลับหมุนเวียนกันตลอด ซึ่งแน่นอนว่าการได้ถ่ายรูปสวนดอกไม้นี้พร้อมมี Mt.Fuji เป็นฉากพื้นหลังคงจะเป็นภาพที่งดงามเลยทีเดียว

3. สถานีชินฟูจิ (Shin-Fuji Station)

fuji ภูเขา

ภาพรถไฟชินคันเซ็นกำลังวิ่งผ่านภูเขาไฟฟูจิถือเป็นความบังเอิญที่สวยงามมาก ๆ แน่นอนว่าภาพนี้สามารถถ่ายได้จาก “สถานีชินฟูจิ” อีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไป-กลับโอซาก้า และโตเกียวชื่นชอบแวะมาถ่ายรูปกัน แต่สำหรับใครที่ต้องการมาที่แห่งนี้เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ ก็สามารถเดินทางมาได้ง่าย ๆ เพียงนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีโทไคโด-ซังโย (Tokaido-Sanyo) มาลงสถานีชินฟูจิ (Shin Fuji)

4. หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai)

ไปดู ภูเขาไฟฟูจิ

“หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก” หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านน้ำใส ตั้งอยู่จังหวัดยามานาชิ ใกล้กับจุดชมวิวทะเลสาบทั้ง 5 คุณสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิในระยะใกล้ชิดมาก ๆ จากที่นี่ พร้อมกับบรรยากาศหมู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติสุดร่มรื่น นอกจากนั้น สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ใสสะอาด และเปิดเป็นพื้นที่ให้คุณได้เรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่ายของคนญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดย UNESCO ร่วมกับสถานที่รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิในปี 2013 เลยทีเดียว

5. ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi)

ที่ ตั้ง ภูเขาไฟฟูจิ

ทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิอย่างงดงามอย่าง “ทะเลสาบอาชิ” เป็นทะเลสาบที่เห็นวิวทิวทัศน์ของป่าเขียว กิจกรรมที่ถือเป็นจุดเด่นของที่นี่คือ การล่องเรือโจรสลัดกลางทะเลสาบพร้อมกับชมธรรมชาติ ที่มองเห็นภูเขาไฟลุกใหญ่ชัดเจนเป็นเวลารวมกว่า 40 นาที นับเป็นกิจกรรมที่หากมีโอกาสมาแล้วห้ามพลาดมาก ๆ

6. ภูเขามิสึโทเกะ (Mt. Mitsutoge)

อีกหนึ่งจุดชมวิวที่นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว คุณยังมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ในระยะใกล้มาก ๆ จาก “ภูเขามิสึโทเกะ” เราสามารถเดินป่าไปตามเส้นทางของภูเขา เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ ที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ พร้อมเยี่ยมชมรูปปั้น Daishi ตามทางเดิน โดยใช้ระยะเวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 7 ชั่วโมง นับเป็นการเดินทางที่เหนื่อยแต่ได้เห็นวิวหลักล้าน รับประกันบรรยากาศที่คุ้มค่าแน่นอน

7. สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)

fuji ภูเขาไฟ

“สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์” เป็นจุดชมวิวที่ได้ทั้งความสนุกสนาน และมองเห็นภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางความหวาดเสียวของเครื่องเล่นมากมาย สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีเครื่องเล่นกว่า 30 ประเภทให้บริการ เครื่องเล่นยอดฮิตที่นี่ขึ้นชื่อว่าเร็วและสูงมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Eejanaika, Fujiyama, Dododonpa และ Takabisha เป็นต้น อย่าลืมมาลองท้าพิสูจน์กัน!

8. เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

ภูเขา fuji

ภาพยอดฮิตของภูเขาไฟฟูจิที่มี “เจดีย์ชูเรโตะ” ทรง 5 ชั้นสีแดงตั้งอยู่ทางด้านขวาของภูเขา ต้องเป็นภาพจำการมาเที่ยวญี่ปุ่นของใครหลาย ๆ คนแน่นอน แลนด์มาร์คแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะได้เกือบทั่วเมือง นักท่องเที่ยวเองก็นิยมมาช่วงฤดูใบไม้ผลิกันเพราะจะได้แวะถ่ายรูป และเดินเล่นชมดอกซากุระกับวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามอย่างลงตัว

9. โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

ภูเขาไฟฟูจิ สีทอง

จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางเมืองโตเกียวกับหอคอย “โตเกียวทาวเวอร์” ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและช่างภาพหลายคน ที่แห่งนี้มีความสูงถึง 250 เมตร นับเป็นหอคอยที่มีความสูงเป็นอันดับสองรองจาก ‘โตเกียวสกายทรี’ หากต้องการขึ้นไปยังจุดชมวิวชั้นบนสุดจะต้องเสียค่าเข้าชม ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งเราจะเห็น Mt.Fuji ได้ชัดเจนมากที่สุด รวมถึงช่วงพระอาทิตย์ตกเองก็ให้บรรยากาศที่สวย และอบอุ่นไปอีกแบบหนึ่ง

10. โตเกียวสกายทรี(Tokyo Sky Tree)

ภูเขาไฟฟูจิ ประวัติ

ใครมาญี่ปุ่นต้องไปขึ้นไปชมวิวบนหอคอยนี้สักครั้งกับ “โตเกียวสกายทรี” หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของโตเกียว เป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 634 เมตร นอกจากจะขึ้นไปชมวิวรอบเมืองโตเกียวแบบพาโนราม่าแล้ว คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากที่แห่งนี้ได้เช่นกัน โดยสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์กันแบบจุใจได้ 2 ชั้นคือ Tembo Deck กับ Tembo Galleria ที่มีความสูง 350 เมตรและ 450 เมตร

เทศกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ

เทศกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ เป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักปีนเขาทั้งมืออาชีพและมือใหม่ ที่เดินทางเพื่อพิชิตยอดเขาไปพร้อมกับการชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน แต่ช่วงที่คนนิยมไปปีนกันมากที่สุดคือกลางเดือนสิงหาคม เพราะตรงกับเทศกาลโอบ้งซึ่งเป็นวันหยุดของคนญี่ปุ่น นอกจากจะได้ขึ้นไปพิชิตยอดเขากันแล้ว คุณยังจะได้รับประกาศนียบัตรเก็บกลับไปอีกด้วย (สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในออนไลน์ล่วงหน้า) หากใครสนใจก็เตรียมร่างกายให้พร้อมแล้วขึ้นไปเจอ Mt. Fuji กันได้เลย!

และเนื่องจากภูเขาไฟฟูจิมีขนาดใหญ่ จึงทำให้มีหลากหลายเส้นทางสำหรับขึ้นไปบนยอดสูง โดยแต่ละเส้นทางมีระดับความสูงและระยะทางที่แตกต่างกันไปให้เลือก ซึ่งเส้นทางที่ได้รับความนิยมของเหล่านักปีนเขาคือ เส้นทางโยะชิดะงุจิ-คะวะงุชิโกะ (Yoshido-guchi&kawaguchiko) เพราะมีเส้นทางเดินไป-กลับสะดวก และมีที่พักเปิดให้บริการมากมาย อีกเส้นทางหนึ่งคือ เส้นทางฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya) เป็นเส้นทางที่สามารถขึ้นไปบนยอดภูเขาได้สั้นที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ เป็นต้น

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร