ถ้าเอ่ยถึง พญาครุฑ หลายคนน่าจะนึกถึงภาพนกยักษ์ปีกทองสุดสง่างาม บางคนก็รู้จักกันดีในฐานะ สัญลักษณ์ของราชการไทย แต่รู้ไหมว่าในสายมูแล้ว ครุฑไม่ได้เป็นแค่ตราประทับบนเอกสารหรือสถานที่ราชการเท่านั้นนะ ยังถูกเชื่อว่าเป็นเทพผู้คุ้มครองที่ช่วย เสริมบารมี ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และคอยคุ้มครองผู้บูชาให้ปลอดภัยอีกด้วย

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า พญาครุฑ คือใคร มีที่มาที่ไปและตำนานเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ครบ ทั้งความหมาย อำนาจบารมี ไปจนถึงวิธีบูชาพญาครุฑ พร้อมแนะนำ คาถาบูชาพญาครุฑ และพิกัดศักดิ์สิทธิ์ในไทยที่คุณไปไหว้ได้จริงๆ เรียกได้ว่าอ่านจบแล้ว เตรียมออกเดินทาง ตามไปมูได้แบบง่ายๆ เลย

พญาครุฑ (Garuda) ได้รับการยกย่องให้เป็นกึ่งเทพผู้ทรงพลัง มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือความตาย อีกทั้งยังเป็น พาหนะของพระนารายณ์ จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และพลังอำนาจสูงสุด

ในประเทศไทย พญาครุฑ ถูกเชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถือเป็นสมมุติเทพ ทำให้ครุฑถูกนำมาใช้เป็นตราประจำแผ่นดิน และปรากฏอยู่บนเอกสารราชการต่างๆ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความน่าเชื่อถือและทรงคุณค่า

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อโบราณว่า หากสถานที่ใดมีพลังงานไม่ดีหรือมีอาถรรพ์แรง เพียงนำตราครุฑหรือรูปบูชามาประดิษฐานไว้ ก็จะช่วยล้างอาถรรพ์ และปัดเป่าสิ่งไม่เป็นมงคลออกไป ทำให้ครุฑได้รับการเคารพบูชาในฐานะผู้คุ้มครอง ปกป้องภัยอันตราย และนำความมั่นคงพร้อมสิริมงคลมาสู่ผู้ศรัทธามาจนถึงทุกวันนี้

ตำนานว่าด้วยกำเนิดของพญาครุฑนั้น เริ่มต้นจากพระกัศยปะ ฤษีผู้ทรงฤทธิ์ ที่มีชายาหลายองค์ หนึ่งในนั้นคือนางวินตา ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นมารดาของครุฑ ส่วนอีกคนคือนางกัทรุ พี่สาวของวินตา ผู้ให้กำเนิดเผ่านาคทั้งหลาย

เมื่อถึงเวลาที่ทั้งคู่ปรารถนาจะมีบุตร นางกัทรุขอพรให้ตนมีลูกมากมายจนกำเนิดนาคนับพันตน ส่วนวินตาเลือกที่จะขอเพียงลูกสององค์ แต่ขอให้ลูกที่เกิดมามีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือใคร นางจึงต้องรอเวลานานนับพันปี กว่าจะได้เห็นคำอธิษฐานเป็นจริง

และเมื่อครบกำหนด นางวินตาได้ให้กำเนิดไข่สองฟอง ฟองแรกฟักออกมาเป็น ครุฑ ผู้มีร่างกายครึ่งมนุษย์ครึ่งนกอินทรี มีปีกกว้างใหญ่สีทอง รัศมีสว่างไสว และมีกำลังมากจนสามารถสะท้านฟ้าสะเทือนดินได้ อีกฟองหนึ่งกลายเป็น อรุณเทพบุตร เทพแห่งแสงอรุณ ผู้ส่องแสงนำทางในยามเช้า

ด้วยการกำเนิดอันยิ่งใหญ่นี้ ทำให้พญาครุฑ ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงสัตว์กึ่งเทพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลัง ความกล้าหาญ และความศักดิ์สิทธิ์ จนกลายเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาไม่รู้จบ 

ตามตำนานแล้ว เชื่อกันว่าพญาครุฑ นั้นไม่ได้มีเพียงองค์เดียว แต่ยังแบ่งเป็น 9 พระนาม แต่ละองค์มีพลังและคุณวิเศษที่แตกต่างกัน ใครที่ศรัทธาและบูชาก็จะได้รับอานิสงส์ในด้านต่าง ๆ มาลองทำความรู้จักไปทีละองค์กันเลย 

หลายคนเชื่อว่าการ บูชาพญาครุฑ จะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต เพราะท่านเป็นสัญลักษณ์ของพลัง อำนาจ และความมั่นคง ว่ากันว่าอำนาจของพญาครุฑมีอยู่ 7 อย่างหลักๆ ที่คอยหนุนให้ชีวิตราบรื่นขึ้น

ใครที่อยากเริ่ม บูชาพญาครุฑ บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลว่าจะยุ่งยาก เพราะของที่ใช้ไหว้สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน สิ่งสำคัญคือการตั้งใจและทำด้วยศรัทธาจริง ๆ ส่วนของที่นิยมเตรียม มีดังนี้

ถ้าไหว้ที่บ้าน เตรียมตามนี้ก็เพียงพอ แต่ถ้าไปไหว้ที่ศาลหรือวัด อาจมีข้อกำหนดที่ต่างออกไป แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ของศาลก่อนเพื่อความมั่นใจ

โดยทั่วไป คาถาบูชาพญาครุฑ อาจแตกต่างกันบ้างในแต่ละสถานที่ แต่ถ้าใครอยากเริ่มต้นสวดเองที่บ้าน สามารถใช้บทนี้ได้เลย

เริ่มด้วยการตั้งนะโม 3 จบ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ  

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ  

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ  

จากนั้นสวดคาถา

คะรุปิจะ กิติมันตัง  

มะอะอุ โอมพญาครุฑ  

รุจ รุจ แล้วรวย  

นะได้เงิน นะได้ทอง  

นะได้ทรัพย์ นะเมตตา  

นะล้างอาถรรพ์ นะเจริญ  

นะมั่นคง อธิฐามิ  

เมื่อสวดเสร็จแล้ว ให้อธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน ความมั่นคง หรือการปัดเป่าสิ่งไม่ดี เชื่อกันว่าพญาครุฑจะช่วยหนุนดวงและมอบความเป็นสิริมงคลให้

ใครที่อยู่ย่านบางมด คงคุ้นชื่อวัดโพธิทอง กันมาบ้าง เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง พญาครุฑ มากๆ จุดเริ่มต้นมาจากการที่ พระอาจารย์วราห์ ปุญญวโร หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม พระครูวิศิษฏ์วิทยาคม ได้สร้างองค์พญาครุฑขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้บูชา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีทั้งคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่เดินทางมากราบไม่ขาดสาย ความเชื่อคือ ถ้าได้มาขอพรพญาครุฑที่นี่ จะช่วยให้การงานเจริญก้าวหน้า มีความมั่นคงในชีวิต และยังปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีได้อีกด้วย

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/mHNZmcNRcBdUVv1HA 

ใครอยากสัมผัสบรรยากาศเก่าแก่แบบดั้งเดิม ต้องแวะมาที่ศาลเจ้าพ่อครุฑริมคลองหลอดเลย ศาลนี้อยู่คู่ชุมชนพระนครมานานกว่าร้อยปี มีเรื่องเล่าขานกันว่า องค์ครุฑเคยลอยตามน้ำมาแล้วหยุดนิ่งอยู่ตรงจุดนี้อย่างน่าอัศจรรย์ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นและสร้างศาลเพื่อประดิษฐานไว้ให้สักการะ

จนถึงทุกวันนี้ ศาลเจ้าพ่อครุฑก็ยังเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนจำนวนมาก เชื่อว่าการมากราบไหว้จะช่วยเสริมบารมี เพิ่มความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องงาน หลายคนบอกต่อกันว่ามาขอที่นี่แล้วเห็นผลดีจริงๆ 

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/DurcJbVJkbC2Yi25A 

ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกอยากออกไปกราบพญาครุฑ สักครั้ง บอกเลยว่าไม่ยากเลย เพราะเดี๋ยวนี้มี Traveloka แอปเดียวก็จัดทริปได้ครบ จบแบบไม่ต้องสลับหลายแอปให้วุ่นวาย

เรียกได้ว่ามี Traveloka ติดมือถือไว้ ยังไงก็มั่นใจได้ว่าทริปสายมูครั้งต่อไป จะสะดวก ง่าย และได้ครบทุกอย่างที่ต้องการแน่นอน