เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี? พร้อมลิสต์สถานที่น่าไปในแต่ละช่วง
ประเทศจอร์เจีย (Georgia) ดินแดนแห่งขุนเขาคอเคซัส เมืองเก่าแก่อายุกว่าพันปี และวัฒนธรรมที่ผสมผสานทั้งยุโรปและเอเชียจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วงหลังๆ จอร์เจียถูกยกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายใหม่ที่คนไทยนิยมไปเที่ยวมากขึ้น เพราะไม่ต้องใช้วีซ่า อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และที่สำคัญคือมีครบทั้งภูเขา หิมะ ทะเลสาบ หมู่บ้านเก่า คาเฟ่วิวสวย และอาหารท้องถิ่นรสชาติจัดจ้านถูกปาก
แต่ก่อนจองตั๋วบินไปจอร์เจีย คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ ไปเที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี? เพราะแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ต่างกันไป บางช่วงอากาศเย็นสบาย เดินเล่นเพลินๆ บางช่วงมีหิมะปกคลุมทั้งเมือง หรือบางช่วงเป็นฤดูเก็บเกี่ยวที่วิวสวยอลัง วันนี้เราจะพาไปเช็กทั้งอากาศจอร์เจีย กิจกรรม และลิสต์ที่เที่ยวของจอร์เจียในแต่ละฤดู อ่านจบแล้วจะรู้เลยว่าควรแพลนไปตอนไหนให้ตรงใจที่สุด!
สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของจอร์เจีย
จอร์เจีย (Georgia) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาคอเคซัส ทำให้ภูมิอากาศมีความแตกต่างหลากหลายตามภูมิประเทศ โดยรวมจอร์เจียจะเป็นแบบ 4 ฤดูชัดเจน ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ราว 5–25°C แต่ละโซนก็ให้บรรยากาศไม่เหมือนกัน อย่างพื้นที่ภูเขาจะหนาวจัดและปกคลุมด้วยหิมะ ขณะที่เมืองใหญ่ๆ อย่าง ทบิลิซี (Tbilisi) ที่เที่ยวยอดนิยมจะอบอุ่นกว่าพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเสน่ห์ของแต่ละฤดูในจอร์เจียก็แตกต่างกันไป บางช่วงเหมาะกับการชมดอกไม้บานสะพรั่ง บางช่วงได้ฟีลโรแมนติกท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี หรือจะมาสัมผัสหิมะขาวโพลนบนภูเขาก็มีให้ครบ เพราะฉะนั้น หากใครกำลังลังเลว่า เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี บอกเลยว่ามีคำตอบให้ทุกสไตล์การท่องเที่ยว ลองไปดูกันว่าในแต่ละฤดูมีกิจกรรมและ สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจีย อะไรที่ห้ามพลาดบ้าง
1. เที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ถ้าใครกำลังหาคำตอบว่าเที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี บอกเลยว่าฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) คือหนึ่งในช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การไปที่สุด อากาศเย็นสบายกำลังดี ไม่หนาวจัดเหมือนหน้าหนาว และไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนกลางปี อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10–20°C ทำให้เดินเล่นเที่ยวชมเมืองได้อย่างสบายใจ
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความสดใส ท้องฟ้าโปร่ง แดดอุ่นกำลังดี และสิ่งที่พิเศษคือดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานทั้งตามเมืองและหุบเขา จนทำให้หลายเมืองดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ใครที่ชอบการถ่ายรูป รับรองว่าฤดูนี้เก็บภาพได้สวยทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เก่า คาเฟ่วิวภูเขา หรือทุ่งหญ้าสีเขียวตัดกับหิมะที่ยังคงเกาะบนยอดคอเคซัส
เรียกได้ว่าฤดูใบไม้ผลิคือเวลาที่ลงตัวที่สุดสำหรับการเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชิลๆ ในเมืองเก่า จิบไวน์ในบรรยากาศสบายๆ หรือออกไปสัมผัสธรรมชาติแบบเบาๆ ก็ฟินทุกกิจกรรม ใครอยากเริ่มต้นการเดินทางครั้งแรกในจอร์เจีย ช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมากเลยทีเดียว
กิจกรรมน่าทำในฤดูใบไม้ผลิ
เดินเล่นใน เมืองเก่า ทบิลิซี (Tbilisi Old Town) ชมอาคารโบราณสีสันสดใส และบ่อน้ำแร่กำมะถัน
สูดอากาศสดชื่นท่ามกลางเส้นทางธรรมชาติหรือเดินเขาเบาๆ
เก็บภาพวิวสวยที่ตัดกันระหว่างหิมะขาวบนยอดคอเคซัสกับทุ่งหญ้าเขียว
นั่งคาเฟ่หรือร้านอาหารวิวดีๆ จิบไวน์หรือชาร้อนเพลินๆ
แวะชมโบสถ์เก่าแก่ เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการเที่ยวจอร์เจียในฤดูใบไม้ผลิ
พกเสื้อคลุมหรือแจ็กเก็ตบางๆ สำหรับใส่ตอนเช้าและกลางคืน
รองเท้าสบายๆ เหมาะกับการเดินเที่ยวหรือขึ้นเนิน
กล้องถ่ายรูปและพาวเวอร์แบงก์ เพราะวิวสวยจนอยากเก็บทุกมุม
ครีมกันแดด หมวก และแว่นตากันแดด สำหรับกลางวันที่แดดแรง
เตรียมเงินสดติดตัวเล็กน้อย เผื่อจ่ายค่าเข้าชม หรือซื้อของฝากจากชุมชน
ที่เที่ยวจอร์เจียแนะนำในฤดูใบไม้ผลิ
เมืองเก่า ทบิลิซี (Tbilisi Old Town) – เดินเล่นถนนหินโบราณ แวะคาเฟ่เล็กๆ ชิลกับบรรยากาศอบอุ่น
Mtskheta – เมืองหลวงเก่า มรดกโลกยูเนสโก ชมโบสถ์โบราณและวิวแม่น้ำสองสายบรรจบกัน
คาซเบกิ (Kazbegi) – ไฮไลต์คือ โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) ท่ามกลางวิวภูเขาคอเคซัสสุดอลัง
บาทูมี (Batumi) – เมืองชายทะเลดำ ฟ้าใส อากาศกำลังดี เหมาะกับการเดินเล่นริมทะเล
อุทยานแห่งชาติ Borjomi-Kharagauli National Park – จุดชมวิวและเส้นทางเดินป่า บรรยากาศสดชื่น ดอกไม้ป่าบานทั่วหุบเขา
2. เที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
เที่ยวจอร์เจีย ฤดูร้อน ดีไหม? บอกเลยเป็นอีกช่วงที่น่าสนใจ เพราะแม้จะเป็นฤดูร้อน แต่อากาศที่นี่ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนบ้านเรา อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ราว 15–30°C ร้อนกำลังพอดี ฟ้าใส เหมาะกับการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขาชมวิวภูเขา เที่ยวทะเลดำ หรือแวะชิมไวน์ชื่อดังในไร่องุ่น ที่พิเศษคือช่วงนี้ยังมี เทศกาลจอร์เจีย ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกันเพียบ ทั้งศิลปะ งานดนตรีกลางแจ้ง ไปจนถึงเทศกาลวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะที่เมืองบาทูมี (Batumi) ที่เต็มไปด้วยสีสันและความคึกคัก ทำให้ทริปหน้าร้อนในจอร์เจียทั้งสดชื่นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกเท่าตัว
กิจกรรมน่าทำในฤดูร้อน
เดินป่าหรือเทรคกิ้ง ชมธรรมชาติสีเขียวของเทือกเขาคอเคซัส
นอนอาบแดด เที่ยวทะเลดำที่ Batumi
ชิมไวน์ที่ไร่องุ่นชื่อดังในแคว้น Kakheti
นั่งคาเฟ่วิวภูเขา บรรยากาศสบายๆ
ร่วมงาน เทศกาลจอร์เจีย ทั้งดนตรี ศิลปะ และงานรื่นเริงในหลายเมือง
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการเที่ยวจอร์เจีย ในฤดูร้อน
เสื้อผ้าระบายอากาศดี แต่ควรมีแจ็กเก็ตเบาๆ สำหรับกลางคืน
รองเท้าสำหรับเดินเที่ยวหรือเดินเขา
ครีมกันแดด หมวก และแว่นตากันแดด
พกร่มหรือเสื้อกันฝน เพราะบางวันอาจมีฝนโปรย
กระเป๋ากันน้ำหรือซองกันฝนสำหรับเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ที่เที่ยวจอร์เจียแนะนำในฤดูร้อน
บาทูมี (Batumi) – เมืองชายทะเลดำสุดคึกคัก นอกจากจะได้เดินเล่นริมทะเลและชมแลนด์มาร์กแล้ว ยังเป็นเจ้าภาพจัดงาน Black Sea Jazz Festival ในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่รวมศิลปินแจ๊สระดับโลกมาสร้างบรรยากาศสุดชิลริมทะเล
ทบิลิซี (Tbilisi) – เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของเมืองเก่า และยังมีงาน Art-Gene Festival (จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม) เทศกาลดนตรีและศิลปะกลางแจ้งที่สนุกทั้งคอนเสิร์ตและกิจกรรมเวิร์กช็อป
Tusheti – ดินแดนภูเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์เจีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และยังมีงาน Tushetoba Festival (จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม) เฉลิมฉลองวัฒนธรรมพื้นเมือง ทั้งการเต้นรำ กีฬา และอาหารท้องถิ่น
Telavi – เมืองศูนย์กลางของแคว้น Kakheti ดินแดนแห่งไวน์ แวะเที่ยวไร่องุ่น ชิมไวน์ท้องถิ่นชื่อดัง
คาซเบกิ (Kazbegi) – จุดหมายในฝันของสายธรรมชาติ ฤดูร้อนวิวภูเขาเขียวชอุ่มสวยที่สุด เดินป่าและเที่ยวชม โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) ได้ฟีลอลังการสุดๆ
3. เที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ถ้าถามว่า จอร์เจีย เดือนไหนน่าเที่ยว หลายคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ฤดูใบไม้ร่วง เพราะนี่คือช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุดของปีเลยก็ว่าได้ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4–18°C เย็นสบายกำลังดี ฟ้าใส แดดอุ่นอ่อนๆ ไม่หนาวเกินไปและไม่ร้อนจนเหนื่อย ทำให้สามารถออกไปเดินเล่น ชมเมืองเก่า หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ทั้งวันแบบเพลินๆ
สิ่งที่ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงพิเศษที่สุดก็คือช่วงเก็บเกี่ยวองุ่น ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวจอร์เจีย โดยเฉพาะในแคว้น Kakheti ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งไวน์ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นไร่องุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตา พร้อมร่วมบรรยากาศงานเทศกาลไวน์ (Rtveli Festival) ที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ทั้งการเก็บองุ่น ชิมไวน์สดใหม่จากถังแบบดั้งเดิม ไปจนถึงการเต้นรำและดนตรีพื้นบ้าน
เรียกได้ว่า นอกจากจะได้สัมผัสวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติกแล้ว ยังได้อินกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแท้ๆ ของจอร์เจียอีกด้วย ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นทั้งช่วงเวลาที่อบอุ่น สนุก และโรแมนติกที่สุดของปี ใครกำลังแพลนทริปไปจอร์เจีย บอกเลยว่าช่วงนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด!
กิจกรรมน่าทำในฤดูใบไม้ร่วง
เดินเล่นชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีตามหุบเขาและอุทยาน
ร่วมงานเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นและไวน์สุดคึกคัก
เที่ยวไร่องุ่นใน Kakheti ลองทำไวน์แบบดั้งเดิม (Qvevri wine)
เก็บภาพทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกโรแมนติก
นั่งคาเฟ่วิวภูเขา จิบไวน์หรือกาแฟท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการเที่ยวจอร์เจีย ในฤดูใบไม้ร่วง
เสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อกันหนาวบางๆ สำหรับเช้าและเย็น
รองเท้าสำหรับเดินป่า หรือเดินเที่ยวหลายชั่วโมง
กล้องถ่ายรูปและพาวเวอร์แบงก์ เพราะวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยจนอยากเก็บทุกช็อต
เตรียมเงินสดเผื่อไว้ สำหรับซื้อของฝากหรือชำระค่าเข้าชมบางสถานที่
ตรวจสอบตารางงานเทศกาลล่วงหน้า เผื่อจองตั๋วหรือที่พักได้ทันเวลา
ที่เที่ยวจอร์เจียแนะนำในฤดูใบไม้ร่วง
Kakheti Wine Region – ศูนย์กลางไร่องุ่นของประเทศ ไฮไลต์คือเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่น Rtveli ช่วงกันยายน–ตุลาคม สนุกทั้งการชิมไวน์และร่วมกิจกรรมท้องถิ่น
Gudauri – จุดชมวิวภูเขาคอเคซัส ที่ช่วงใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง และทอง ดีงามเกินบรรยาย
Tbilisi Botanical Garden – เดินเล่นชมธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ ในช่วงที่ต้นไม้ผลัดใบโรแมนติกสุดๆ
Mtskheta – เมืองมรดกโลกที่สวยไม่แพ้ฤดูไหน ยิ่งมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลังก็ยิ่งอลังขึ้นไปอีก
คาซเบกิ (Kazbegi) – อีกหนึ่งที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด วิวใบไม้ร่วงตัดกับโบสถ์เกอเกติและภูเขาสูงอลังการ
4. เที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ใครที่อยากสัมผัสอากาศหนาวฟีลยุโรปตะวันออก ต้องบอกเลยว่าฤดูหนาวคือช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาดในการมาเที่ยวจอร์เจีย อุณหภูมิในหลายพื้นที่อาจลดต่ำกว่าศูนย์ ทำให้เมืองภูเขาอย่าง Kazbegi (คาซเบกิ) และ Mestia (เมสเทีย) ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน บรรยากาศคือโรแมนติกและสวยสุดๆ ถ้าบอกว่าหลุดมาจากโปสการ์ดก็ไม่เกินจริง
นอกจากวิวหิมะสวยๆ แล้ว ช่วงนี้ยังเป็นสวรรค์ของสายลุยที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งการเล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือจะนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะก็ฟินสุดๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหลายคนยกให้ฤดูหนาวเป็นคำตอบของคำถามยอดฮิตว่า จอร์เจีย เดือนไหนน่าเที่ยว เพราะนี่คือเวลาที่ได้สัมผัสเสน่ห์ของจอร์เจียในมุมที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง
กิจกรรมน่าทำในฤดูหนาว
เล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่รีสอร์ตชื่อดัง
นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาหิมะหรือเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาๆ
เดินเล่นในเมืองเก่า จิบชาร้อนหรือไวน์อุ่นๆ ตามคาเฟ่ ร้านอาหาร บรรยากาศอบอุ่น
เก็บภาพแลนด์มาร์กต่างๆ ในวิวหิมะสุดโรแมนติก
ร่วมสนุกกับเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสของชาวจอร์เจีย ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับและบรรยากาศสุดคึกคัก
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการเที่ยวจอร์เจีย ในฤดูหนาว
เสื้อกันหนาวหนา พร้อมถุงมือ ผ้าพันคอ และหมวกไหมพรม
รองเท้าบูทกันลื่นหรือรองเท้าเดินหิมะ
ครีมบำรุงผิวและลิปมัน ป้องกันผิวแห้งแตกจากอากาศหนาวจัด
แผ่นทำความร้อนพกพา สำหรับคนที่หนาวง่าย
จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะสกีรีสอร์ตหรือโฮมสเตย์วิวภูเขา เพราะเต็มเร็วมากในช่วงนี้
ที่เที่ยวจอร์เจียแนะนำในฤดูหนาว
Gudauri Ski Resort – จุดเล่นสกีชื่อดังที่ครบทั้งเส้นทางสำหรับมือใหม่และมือโปร
Stepantsminda (Kazbegi) – หมู่บ้านเล็กกลางหุบเขา ไฮไลต์คือโบสถ์เกอเกติที่โอบล้อมด้วยหิมะขาวตระการตา
Bakuriani – สกีรีสอร์ตอีกแห่ง เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากลองกิจกรรมหิมะเบาๆ
เมสเทีย (Mestia) – เมืองเล็กบนเทือกเขาสวาเนติ ที่โอบล้อมด้วยหิมะสุดอลังการ พร้อมบรรยากาศท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
เมืองเก่า ทบิลิซี (Tbilisi Old Town) – แม้จะไม่ใช่เมืองภูเขา แต่หน้าหนาวบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ประดับไฟทั้งเมือง
สรุปควรเที่ยวจอร์เจียช่วงเดือนไหนดี?
จริงๆ แล้วจอร์เจีย เป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ไม่ซ้ำกันเลย อยู่ที่ว่าเราอยากได้ฟีลแบบไหนมากกว่า
ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศสดชื่น ดอกไม้บาน อากาศเย็นกำลังดี แนะนำช่วงเที่ยวจอร์เจีย ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ถ้าอยากสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้ง เที่ยวทะเลดำ หรือแวะชิมไวน์ ต้องมา ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ที่เต็มไปด้วยความคึกคักของเทศกาลต่างๆ
ถ้าอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก และร่วมงานเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ห้ามพลาด ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ส่วนสายลุยที่ชอบอากาศหนาว อยากเล่นสกีหรือชมวิวหิมะอลังการ ต้องมาเที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ถ้าให้ตอบคำถามว่า เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี คำตอบก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ที่เพื่อนๆ ชอบเลย ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายโรแมนติก หรือสายกิจกรรม บอกเลยว่าจอร์เจียมีคำตอบให้ครบทุกฤดู
วางแพลนเที่ยวจอร์เจียง่ายๆ ด้วย Traveloka
ไม่ว่าจะเลือกไปจอร์เจีย เดือนไหน บอกเลยว่ามีแค่แอป Traveloka แอปเดียวก็เอาอยู่ จัดทริปได้ครบจบแบบไม่ต้องสลับหลายแอปให้วุ่นวาย
จองที่พักในจอร์เจีย หลากหลายสไตล์ ทั้งโรงแรมในเมืองหลวง โฮมสเตย์วิวภูเขา หรือสกีรีสอร์ตสุดโรแมนติก เรียกได้ว่าโหลดแอปเดียวก็พร้อมทั้งบิน พัก กิน เที่ยว ได้ครบทุกสไตล์ จะไปฤดูไหนก็จัดทริปได้ง่ายและสบายใจสุดๆ
อ่านต่อ บทความท่องเที่ยวจอร์เจียที่เพื่อนๆ อาจสนใจ