0

Traveloka TH

29 Apr 2024 - 1 min read

วัดคิงกะกุ (Kinkakuji) จุดเช็กอินเมืองเกียวโตที่ต้องห้ามพลาด

วัดคิงกะกุ ประเทศญี่ปุ่น

เมืองเกียวโตของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่ทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม จึงไม่แปลกหากจะมีวัดอันสวยงามเรียงรายอยู่มากมายภายในให้เราได้พบเจอตลอดทั้งเมือง ซึ่งวัดคิงกะกุ (Kinkakuji Temple) ก็เป็นหนึ่งในวัดที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของเมืองแห่งนี้ ด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม รวมไปถึงสถาปัตยกรรมอันไม่อาจละสายตา ใครที่กำลังวางแพลนสำหรับทริปท่องเที่ยวครั้งหน้า และกำลังจะกดจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นในเร็ววันนี้ ก็อย่าพลาดที่จะแวะมายังเมืองเกียวโต เพื่อชื่นชมความสวยงามโอ่อ่าของวัดคิงกะกุแห่งนี้กันด้วยนะ!

ทำความรู้จักกับวัดคิงกะกุ

ที่พักใกล้วัดคิงกะกุ

หากคุณได้มาเที่ยวเกียวโตต้องไม่พลาดที่จะแวะมาวัดคิงกะกุ (Kinkakuji Temple) จุดเช็กอินยอดฮิตของเมืองหลวงเก่าประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ หนึ่งในวัดสวยงามที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก คุณสามารถมาชื่นชมธรรมชาติ และสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าพร้อมมองหาที่พักญี่ปุ่นแบบสบาย ๆ ได้ในบริเวณรอบข้างวัดคิงกะกุแห่งนี้เลย

ประวัติวัดคิงกะกุ

วัดคิงกะกุ (Kinkakuji Temple) หรือที่เรียกกันว่าวัดทอง ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1397 เพื่อเป็นที่พักของโชกุนและรองรับแขกสำคัญ ซึ่งในเวลาต่อมาวัดทองแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นวัดพุทธนิกายเซ็น และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1994 สำหรับที่มาของชื่อวัดทอง มาจากศาลาสีทองที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ และเป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมเรียกชื่อสั้น ๆ ว่าวัดทองไปโดยปริยาย

ที่ตั้งของวัดคิงกะกุ

วัดคิงกะกุตั้งอยู่ในแขวงคิตะทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยมีพื้นที่ติดกับภูเขา Kinugasa ทางทิศตะวันตกและภูเขา Hidari Daimonji ทางด้านหลัง ซึ่งรวมแล้วบริเวณวัดมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 132,000 ตารางเมตร นักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมธรรมชาติได้อย่างจุใจ ด้วยภูเขาและผืนป่าที่รายล้อมบริเวณวัดคิงกะกุแห่งนี้

เราสามารถเยี่ยมชมวัดคิงกะกุได้ช่วงไหนบ้าง

สามารถมาเยี่ยมชมวัดคิงกะกุได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูกาลก็จะมีความสวยงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไปให้ได้ชื่นชม ซึ่งวัดคิงกะกุมีค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และราคา 300 เยนสำหรับเด็ก ทางวัดเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และเวลาเปิดปิดทำการอาจเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับเทศกาลที่ทางวัดจัดขึ้นในช่วงนั้น

การเดินทางไปยังวัดคิงกะกุ

การเดินทางไปวัดคิงกะกุ(Kinkakuji Temple) สามารถมาได้หลากหลายวิธีการ โดยการเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะจะเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายและราคาไม่แพง สำหรับรายละเอียดการเดินทางไปยังวัดคิงกะกุมีดังนี้

การเดินทางด้วยรถไฟ

การเดินทางด้วยรถไฟไปยังวัดคิงกะกุจะไม่สามารถนั่งรถไฟต่อเดียวถึงได้เลย จำเป็นที่จะต้องต่อรถบัสอีกหนึ่งครั้งหรือใช้การเดินเท้าเพื่อไปถึงวัด โดยการเดินทางด้วยรถไฟจะเริ่มต้นจากการนั่งรถไฟสาย Arashiyama (Randen) มาลงยังสถานี Kitanohakubaicho Station ที่ใกล้วัดที่สุด จากนั้นให้นั่งรถบัสหมายเลข 205 เป็นเวลา 9 นาที หรือเดินจากสถานีรถไฟเป็นระยะทางราว 1.4 กิโลเมตรเพื่อมายังวัดคิงกะกุแห่งนี้

การเดินทางด้วยรถบัส

การเดินทางด้วยรถบัสไปยังวัดคิงกะกุจะต้องลงที่ป้าย Kinkakuji-michi (金閣寺道)จากนั้นจะต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 5 นาที ระยะทางราว 300 เมตร เพื่อไปถึงที่วัดคิงกะกุในที่สุด โดยสายรถบัสที่ผ่านป้ายนี้จะได้แก่ รถ Kyoto City Bus สาย 12, 59, 101, 102, 111, 204 และ 205

จุดเช็กอินน่าสนใจรอบวัดคิงกะกุ

จุดเช็กอินน่าสนใจรอบวัดคิงกะกุ (Kinkakuji Temple) มีอยู่หลายจุด ให้คุณได้มาถ่ายรูปเล่นและสัมผัสความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแลนด์มาร์กวัดคิงกะกุที่น่าไปเช็กอินด้วยมีดังนี้

ปราสาทคิงกะกุ (Golden Pavilion)

Golden Pavilion

ปราสาทคิงกะกุ เป็นอาคารไม้ 3 ชั้นที่มีความสูง 12.5 เมตร โดยอาคารชั้นที่ 1 ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบชินเด็น แบบเดียวกับที่ใช้ในการก่อสร้างพระราชวังสมัยเฮอัน ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบบัคเค รูปแบบเดียวกับที่ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ของซามูไร ส่วนชั้นที่ 3 ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนิกายเซ็น ซึ่งโดดเด่นด้วยการปิดทองทั้งภายในและภายนอกอาคาร ด้านบนสุดของหลังคาจะมีรูปปั้นหงส์ประดับอยู่อย่างสง่างาม ด้วยความโดดเด่นเหล่านี้ปราสาทคิงกะกุจึงถือเป็นจุดเช็กอินของวัดคิงกะกุที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดเลย

ศาลา Fudo-do-Hall

ศาลา Fudo-do-Hall เป็นศาลาที่พำนักของเจ้าอาวาสในอดีต ซึ่งมีการประดิษฐานรูปแกะสลักเทพฟุโดเมียวโออยู่ด้านใน นักท่องเที่ยวมักมายังศาลาแห่งนี้เพื่อไหว้พระขอพรต่าง ๆ ด้วยการเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้เอมะและนำไปผูกไว้ มักขอพรกันมากในเรื่องของการเรียนและความรัก นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถเสี่ยงเซียมซีด้วยการสุ่มหยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งใบ ซึ่งหากได้คำทำนายที่ไม่ดีก็ไม่ต้องรับไว้ ให้ผูกที่เสาฝากไว้กับวัดคิงกะกุแห่งนี้ และรับแต่สิ่งดี ๆ กลับบ้านไป

เรือนชงชา (Sekkatei Teahouse)

Sekkatei Teahouse

เรือนชงชา Sekkatei ถูกสร้างขึ้นมาเพิ่มเติมในบริเวณวัดคิงกะกุตั้งแต่สมัยเอโดะ ด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบ Sukiya-Zukuri โดยบริเวณเรือนชงชานี้เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามที่สุดในวัดคิงกะกุ เนื่องจากพระอาทิตย์จะลาลับไปในมุมของปราสาทคิงคะกุอย่างพอดิบพอดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อมาจากเรือนชงชาแห่งนี้ และแวะพักจิบชาพร้อมขนมหวาน ดื่มด่ำความอร่อยท่ามกลางธรรมชาติ ได้บริเวณสวนชาที่อยู่ใกล้เคียงกัน

กิจกรรมห้ามพลาดที่วัดคิงกะกุ

นอกเหนือจากจุดชมวิวอันงดงามของวัดคิงกะกุที่ให้คุณถ่ายรูป และสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นโบราณกันอย่างจุใจแล้ว ยังมีกิจกรรมห้ามพลาดที่ต้องทำให้ได้เมื่อมาเยือนยังวัดคิงกะกุแห่งนี้อีกด้วย

ชมภาพสะท้อนของวัดกับผืนน้ำ

ชมภาพสะท้อนของวัดคิงกะกุกับผืนน้ำ

ความสวยงามของวัดคิงกะกุไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ด้านสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ด้านทิวทัศน์ก็งดงามตระการตาไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวสามารถมาชมภาพสะท้อนของวัดคิงกะกุกับผืนน้ำได้ในหลากหลายมุม แต่บริเวณพื้นที่ทางเดินตรงข้ามกับปราสาทคิงกะกุ จะเป็นมุมยอดฮิตที่สามารถชื่นชมความงดงามได้ดีที่สุด ด้วยทิวทัศน์ที่ด้านหน้าเป็นน้ำ ด้านหลังเป็นภูเขาและธรรมชาติ จึงเป็นบรรยากาศที่สามารถดื่มด่ำไปกับความสวยงามนี้ได้อย่างเพลินตาเพลินใจ

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร