ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงอันคึกคักของประเทศไทย ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงามตั้งตระหง่านดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก นั่นคือ "วัดพระแก้วหรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม" มรดกอันล้ำค่าของไทยที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางศาสนา วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่

สำหรับใครที่อยากสัมผัสความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ง่าย ๆ ใน Traveloka ซึ่งจะมาพร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับการเดินทางของคุณ พบกับตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพราคาประหยัด และเตรียมตัวไปเยือนวัดพระแก้วและเที่ยวกรุงเทพฯ กันได้เลย!

เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนกรุงเทพฯ วัดพระแก้วเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาด เพราะนอกจากความงดงามในแบบไทยแล้ว วัดพระแก้วยังมีความสำคัญคือเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชามาอย่างยาวนาน โดยในบริเวณใกล้เคียงวัดพระแก้วก็มีโรงแรมกรุงเทพหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร โดยเฉพาะโซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนอกจากจะอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้วแล้ว ยังมีวิวแม่น้ำให้ชมในขณะเดียวกัน โดยคุณสามารถจองโรงแรมในแบบที่ชอบตามงบประมาณที่ตั้งไว้ได้เลย

วัดพระแก้วมีประวัติมาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2325 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชหรือรัชกาลที่ 1 ซึ่งวัดพระแก้วถูกสร้างขึ้นพร้อมกับการก่อสร้างพระบรมมหาราชวังและเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นประเพณีในยุคนั้นที่นิยมสร้างวัดหรือพระอารามหลวงในพื้นที่เดียวกับพระราชวัง เช่นเดียวกับวัดมหาธาตุในอาณาจักรสุโขทัย และวัดพระศรีสรรเพชญ์ในสมัยอาณาจักรอยุธยา โดยจะเป็นวัดที่ไม่มีเขตสังฆาวาสหรือพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ มีเพียงพระเจดีย์ พระวิหาร อุโบสถ และส่วนอื่น ๆ เท่านั้น

วัดพระแก้วตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวัง บนถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยอยู่ในบริเวณตรงข้ามกับกระทรวงกลาโหมและมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งในบริเวณนั้นมีสถานที่สำคัญมากมาย อาทิ ศาลหลักเมือง, วัดโพธิ์, สนามหลวง, เสาชิงช้า เป็นต้น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jJaJE2gh3U9CX8PB7

นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยี่ยมชมหรือขอพรวัดพระแก้วสามารถไปได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 15.30 น. โดยคนไทยสามารถเข้าชมวัดพระแก้วได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมอยู่ที่ราคา 500 บาทต่อคน ก่อนเข้าเยี่ยมชมวัดพระแก้ว แนะนำให้แต่งกายให้เรียบร้อย โดยสวมกางเกงหรือกระโปรงยาว และเสื้อที่มีแขน ปิดไหล่ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าชม

สำหรับใครที่ต้องการพาเพื่อนต่างชาติมาเที่ยงที่วัดพระแก้วแห่งนี้สามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.royalgrandpalace.th

เนื่องจากวัดพระแก้วตั้งอยู่พื้นที่ใจกลางของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายและครอบคลุมในหลายพื้นที่ ดังนั้น สำหรับใครที่มาจากจังหวัดอื่น ๆ หรือไม่มีรถแต่อยากไปเยี่ยมชมวัดพระแก้ว การเดินทางก็ไม่ยากเลย โดยคุณสามารถเดินทางไปยังวัดพระแก้วได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะโดยไม่ต้องพึ่งรถส่วนตัว นอกจากนี้ บางวิธียังทำให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรที่ติดขัดได้อีกด้วย แล้วจะเดินทางไปวัดพระแก้วอย่างไรได้บ้าง? ติดตามต่อได้ในหัวข้อนี้

ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากพื้นที่ใดในกรุงเทพฯ ก็สามารถเดินทางมายังวัดพระแก้วด้วยรถบัสหรือรถเมล์ได้ ซึ่งปัจจุบันมีรถเมล์มากกว่า 21 สายที่ผ่านวัดพระแก้ว ซึ่งเพียงคุณลงจากรถเมล์ ก็จะเจอกับกำแพงวัดพระแก้วอันโดดเด่นแล้ว โดยการเดินทางด้วยวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด อย่างไรก็ตาม ควรเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มเติมโดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือเย็นที่การจราจรอาจจะหนาแน่น ทำให้การเดินทางใช้เวลามากขึ้น ดังนั้น จึงควรตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถล่วงหน้าเพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแพลนที่วางไว้

สำหรับการเดินทางไปวัดพระแก้วด้วยรถไฟ คุณสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงินแล้วลงที่สถานีสนามไชย จากนั้นสามารถใช้ทางออกประตูที่ 1 หรือประตูที่ 2 เพื่อเดินทางต่อไปยังวัดพระแก้ว หรือหากคุณมาด้วยรถไฟฟ้า BTS แนะนำให้ลงที่สถานีสะพานตากสินและใช้ทางออกประตูที่ 2 เพื่อเดินทางต่อไปได้เช่นกัน โดยทั้งสองวิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรที่ติดขัดและสามารถวางแผนเวลาได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเดินทางไปในเวลาใด

สำหรับการเดินทางไปวัดพระแก้วด้วยเรือ คุณสามารถขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีเขียว สายปากเกร็ด-วัดเศวตฉัตร หรือเรือธงสีส้มสายนนทบุรี-วัดราชสิงขร แล้วไปลงท่าช้าง วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มาจากโซนนนทบุรีหรือชานเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกสบายและประหยัดเวลามากที่สุด ที่สำคัญ วิธีนี้ยังทำให้คุณได้รับชมและเพลิดเพลินไปกับวิวริมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่านอกจากจะได้ไปเยี่ยมชมวัดพระแก้วแล้ว ยังได้ชมวิวเมืองจากมุมที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร

แม้นักท่องเที่ยวหลายคนจะเคยไปเยือนวัดวาอารามในที่ต่าง ๆ มาหลายแห่งแล้ว แต่วัดพระแก้วก็มีจุดเด่นและมีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนอยู่เสมอ เพราะด้วยความที่เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง ทำให้วัดพระแก้วมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากวัดทั่วไป ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรมฝาผนัง และประติมากรรมที่ล้วนมีเรื่องราว ความหมาย และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร มาร่วมกันค้นพบและสัมผัสกับความพิเศษของสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนวัดพระแก้วได้ในหัวข้อนี้

พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 5 โดย ณ ตอนนั้นมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อใช้เป็นโรงกษาปณ์ ผลิตเงินที่ใช้กันภายในประเทศ จากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 ก็ได้มีการบูรณะพื้นที่ต่าง ๆ ในวัดพระแก้ว รวมทั้งเปลี่ยนโรงกษาปณ์แห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปวัตถุต่าง ๆ ที่พระมหากษัตริย์และประชาชนได้ถวายให้กับวัดพระแก้ว เช่น เครื่องตกแต่งพระพุทธรูป เหรียญพระแก้วมรกต และกระดูกช้างเผือก ซึ่งเป็นสัตว์คู่พระบารมีของกษัตริย์ไทย

พระอุโบสถในวัดพระแก้วเป็นจุดเช็กอินสำคัญที่ไม่ควรพลาด โดยที่นี่เป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐถือปูนซึ่งเป็นศิลปะในรูปแบบอยุธยาตอนปลาย มีลักษณะฐานหย่อนท้องช้างเป็นแบบเส้นโค้ง และหลังคาทรงไทย 4 ชั้นลด โดยบริเวณหน้าบันจำหลักปรากฏรูปนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค และมีลายก้านขดเทพนมล้อมรอบ ประดับด้วยกระจกปิดทอง โดยการเข้าไปกราบสักการะด้านในจะไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าเข้าและต้องนั่งในจุดที่มีเครื่องหมายกำหนดไว้เท่านั้น

หอราชกรมานุสรสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โดยตั้งอยู่ทางด้านหลังของพระอุโบสถ วัดพระแก้ว โดยหอราชกรมานุสรอยู่ทางด้านทิศเหนือและมีหอพระราชพงศานุสรอยู่ด้านทิศใต้ โดยหอแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้น ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดให้จารึกพระนามของพระเจ้าแผ่นดินในสมัยกรุงศรีอยุธยาไว้ในหอราชกรมานุสร นอกจากนี้ ภายในยังมีภาพพระราชพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย

ปราสาทพระเทพบิดรตั้งอยู่ในวัดพระแก้ว เป็นอาคารจัตุรมุขทรงไทย ประดับด้วยกระเบื้องสี โดยเดิมทีรัชกาลที่ 4 มีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญพระแก้วมรกตที่อยู่ในพระอุโบสถ ย้ายมาประดิษฐานไว้ที่ปราสาทแห่งนี้ แต่มีพื้นที่เล็กเกินไป จึงไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนา จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมรูปของรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 5 และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 ในปัจจุบัน

พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่วัดพระแก้วเป็นพิธีเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่พระมหากษัตริย์ไทยปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยจะทำตามกำหนดเวลาในแต่ละปี ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้