หากให้พูดชื่อประเทศที่มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คน และมีสถานที่ท่องเที่ยวในรายชื่อ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงประเทศอินเดีย เพราะนอกจากเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านความน่ารักของผู้คนในประเทศแล้ว ก็ยังมีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ประตูอินเดีย หรือ India Gate สถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเสียสละในสงครามโลกครั้งที่ 1

ใครที่อยากลองออกไปสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบอินเดีย ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปอินเดียด้วยวิธีง่าย ๆ ผ่านแอป Traveloka แล้วไปผจญภัยในดินแดนภารตะกันได้เลย

ประตูอินเดีย (India Gate) มีชื่อเดิมว่า All India War Memorial เป็นซุ้มประตูความสูงกว่า 42 เมตร ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย หากดูจากรูปร่างภายนอกประตูอินเดียจะมีรูปแบบของสถาปัตยกรรมคล้ายกับประตูชัยในกรุงปารีสและนครเวียงจันทน์ ซึ่งซุ้มประตูทั้งสามล้วนเป็นสัญลักษณ์ของการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศในช่วงสงคราม

หากใครที่ต้องการไปสัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าด้านประวัติศาสตร์อย่างประตูอินเดีย ก็สามารถจองที่พักอินเดียในเมืองนิวเดลีได้เลย เพราะนอกจากจะเข้าไปชมประตูอินเดียแบบใกล้ ๆ ได้แล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อย่างสุสานหูมายูน หรือ The Lotus Temple ที่ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนิวเดลีให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย

ประตูอินเดียเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารอินเดียกว่า 70,000 นายที่เสียชีวิตในสงคราม ประตูอินเดียสร้างขึ้นตามคำสั่งของคณะกรรมาธิการหลุมศพสงครามจักรวรรดิ โดยสถาปนิกที่สร้างประตูอินเดียคือ Sir Edwin Lutyens สถาปนิกชาวอังกฤษผู้มีผลงานออกแบบอนุสรณ์สถานสงครามอื่น ๆ และมีบทบาทสำคัญในการออกแบบกรุงนิวเดลี

ถึงแม้ประตูอินเดียจะมีลักษณะคล้ายกับประตูชัยในกรุงปารีสและนครเวียงจันทน์ แต่ในความเป็นจริงแล้วประตูอินเดียสร้างขึ้นตามแบบประตูชัยคอนสแตนตินในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยนอกจากจะเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเสียสละในสงครามแล้ว บริเวณรอบ ๆ ประตูอินเดียยังเป็นที่ตั้งของหลุมศพทหารนิรนาม และเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียอีกด้วย

ประตูอินเดียมีที่ตั้งอยู่บทถนน Rajpath หรือชื่อทางการว่า Kartavya Path เป็นถนนสำหรับประกอบพิธีในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย หากใครที่ต้องการจะเดินทางไปประตูอินเดียก็สามารถไปตามพิกัดนี้ https://maps.app.goo.gl/BCumfrMAo4U5VUrE9 ได้เลย

สำหรับใครที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมประตูอินเดีย สามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเยี่ยมชมได้ตลอดเวลาเนื่องจากเปิดทำการ 24 ชั่วโมง แต่ในวันที่ 26 มกราคมของทุกปีที่เป็นวันชาติของประเทศอินเดีย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดปิดได้ ใครที่มีแพลนไปเที่ยวประตูอินเดียในช่วงนี้จะต้องตรวจสอบเวลาเปิดปิดอีกครั้ง

การเดินทางไปยังประตูอินเดียสามารถทำได้หลายวิธี หากเดินทางจากประเทศไทย แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปยังยังเมืองนิวเดลีที่สนามบินอินทิราคานธี จะสามารถเดินทางไปยังประตูอินเดียได้ใกล้และสะดวกที่สุด ในบทความนี้จะแนะนำการเดินทางโดยมีจุดเริ่มต้นจากท่าอากาศยานอินทิราคานธี ซึ่งจะมีวิธีการเดินทางไปประตูอินเดียด้วยยานพาหนะ 3 รูปแบบคือ รถบัส รถไฟ และรถรับจ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้

การเดินทางด้วยรถบัสไปยังประตูอินเดีย จำเป็นจะต้องต่อรถหลายสายและไม่มีสถานีรถบัสที่อยู่หน้าประตูอินเดีย ทำให้ต้องเดินเท้าต่อและใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยหากเริ่มต้นจากสนามบินสามารถใช้บริการของรถบัสรับส่งสนามบิน เดินทางมายังสถานีรถบัส Centaur Hotel จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถบัสสาย Airport Express-4 ไปยังสถานี Kendriya Terminal และต่อรถบัสสาย 580 ไปยังสถานี Akbar Road และเดินเท้าต่อประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงประตูอินเดียแล้ว

การเดินทางด้วยรถไฟจากสนามบินอินทิราคานธีมายังประตูอินเดีย สามารถเดินทางได้ด้วยการต่อรถไฟ 2 สาย หากเดินทางถึงสนามบินอินทิราคานธีแล้ว ก็สามารถเดินไปยังช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟได้เลย การเดินทางด้วยรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยเริ่มจากสถานีรถไฟ I.G.I Airport เป็นสถานีรถไฟที่เชื่อมต่อสนามบินอินทิราคานธีกับสถานีรถไฟอื่น ๆ ของเมืองนิวเดลี จากนั้นต่อรถไฟสายสีเหลือง มายังสถานี New Dalhi และเดินทางต่อด้วยรถไฟสายสีม่วงมายังสถานี Khan Market จากนั้นเดินเท้ามาทางถนน Pandara Rd ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็จะถึงประตูอินเดียแล้ว

การเดินทางด้วยรถรับจ้างหรือรถแท็กซี่จากสนามบินอินทิราคานธีไปยังประตูอินเดีย เป็นวิธีการเดินทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุดประมาณ 30-35 นาทีแล้วแต่เส้นทางที่ใช้ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าการเดินทางประเภทอื่น ซึ่งการเดินทางจากสนามบินไปยังประตูอินเดียด้วยรถรับจ้างสามารถเดินทางได้ 3 เส้นทาง โดยมีความแตกต่างของระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทางดังนี้

ประตูอินเดียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ของประเทศอินเดีย เนื่องจากเป็นอนุสรณ์สถานสงครามของเหล่าทหาร ที่เสียชีวิตจากการร่วมรบกับอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุทธภูมิฝรั่งเศส, แฟลนเดอรส์, เมโสโปเตเมีย, เปอร์เซีย, แอฟริกาตะวันออก, กัลลิโปลิ และในสงครามแองโกล-อัฟกัน

บนพื้นผิวของประตูอินเดียจะมีรายชื่อของทหารที่เสียชีวิตสลักไว้ และบริเวณใต้โค้งประตูก็จะมีคบเพลิงที่จะจุดไฟไว้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการระลึกถึงความเสียสละของเหล่าทหารผู้เสียชีวิตในสงคราม

นอกจากจะเป็นอนุสรณ์สถานสงครามแล้ว ประตูอินเดียยังเป็นจุดรวมตัวของการประท้วงเพื่ออิสรภาพของผู้นำอินเดียหลายคน รวมไปถึงมหาตมะ คานธี ที่ปราศรัยต่อสู้เพื่ออิสรภาพของอินเดียจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประตูอินเดีย ในวันชาติอินเดียจึงมีพิธีเฉลิมฉลองและจุดไฟสามสีบริเวณประตูอินเดีย เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียสละของประเทศ และเป็นการเฉลิมฉลองวันชาติอีกด้วย