ศาลเจ้าญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความเชื่อและประเพณีที่สืบทอดมาหลายร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงหรือศาลเจ้าท้องถิ่นที่แฝงไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ศาลเจ้าญี่ปุ่นไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอีกด้วยการเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่นไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสบรรยากาศสงบและงดงามของสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อดั้งเดิมและการปฏิบัติทางศาสนาของชาวญี่ปุ่น ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เช่น ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ในเกียวโต หรือศาลเจ้าสุรินูมะ ในโตเกียว นอกจากจะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบแล้ว ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นก็ยังมีความสำคัญทางจิตวิญญาณสำหรับคนท้องถิ่นอีกด้วย
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเยี่ยมชม 12 ศาลเจ้าญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ พร้อมกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้ในแต่ละที่เที่ยว! ทุกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประเพณีที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ตามมาเลย!
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เป็นศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าอินาริ (เทพเจ้าของข้าวและการเกษตร) แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยซุ้มโทริอิสีแดงที่เรียงยาวเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร สิ่งที่น่าประทับใจคือลักษณะการเดินทางผ่านซุ้มโทริอิที่มีความงดงามและสงบเงียบ ซึ่งการเดินในวิวที่มีซุ้มโทริอิเรียงรายก็ว่าสวยเกินต้านแล้ว ถ้าคุณขึ้นไปบนยอดเขาฟูชิมิ คุณก็จะพบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของเมืองเกียวโต นอกจากนั้นยังสามารถขอพรหรือทำพิธีขอพรที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริได้ด้วย สามารถเข้าไปดูประวัติของศาลเจ้าญี่ปุ่นแห่งนี้ และการจัดเทศกาลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริได้เลย!
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง:
เป็นศาลเจ้าญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ศาลเจ้าเมจิเป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญและเป็นที่เคารพนับถือของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระราชินีเมจิ และจักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) นั่นเอง ที่นี่มีสวนที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งสามารถทำให้ผู้เยี่ยมชมหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองโตเกียวได้อย่างดี ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่น่าทึ่ง พร้อมกับกิจกรรมการขอพรที่สายมูทุกคนต้องมาสักครั้ง
เวลาเปิด-ปิด: พระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก เช็คเวลาของแต่ละเดือนได้ที่ www.meijijingu.or.jp/en/visit/
การเดินทาง:
ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ศาลเจ้าคามิกะโมะเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่พักของเทพเจ้าแห่งความสงบเรียบร้อยของเมือง ศาลเจ้านี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบาย โดยมีพื้นที่รอบๆ ที่เต็มไปด้วยป่าและต้นไม้สูง ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกของการเข้าไปในโลกแห่งเทพเจ้าจริง ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 9.00-17.00 น.
ศาลเจ้าทสึรุงะตั้งอยู่ในเมืองคามาคุระและถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานและได้รับการยกย่องว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจักรพรรดิและตระกูลโชกุนแห่งญี่ปุ่น ภายในศาลเจ้าเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและสวนที่สวยงาม คุณสามารถเข้าไปเดินเล่นในสวนญี่ปุ่นภายในศาลเจ้าและชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามและเงียบสงบได้ทุกฤดูกาลเลย
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-20.00 น.
การเดินทาง: ทางออกตะวันออก (East Exit) ของสถานี Kamakura สาย Enoden แล้วเดินต่อ 10 นาที
ตั้งอยู่ที่ฐานของภูเขาฟูจิ ศาลเจ้าฟูจิเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการเคารพภูเขาฟูจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ศาลเจ้ามีการจัดพิธีทางศาสนาที่เชื่อมโยงกับการปีนภูเขาฟูจิและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถขอพรเกี่ยวกับการเดินทางหรือขอเรื่องความสำเร็จ และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินขึ้นภูเขาฟูจิในช่วงฤดูร้อนได้อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 8.30-18.30 น.
แม้จะไม่ใช่ศาลเจ้าชินโต แต่ศาลเจ้าคิยะมิซึในเกียวโตเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่นกัน ศาลเจ้านี้โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปเหนือหุบเขา และทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเมืองเกียวโตจากมุมสูง ที่สำคัญคือศาลเจ้าคิยะมิซึยังเป็นศาลเจ้าแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่นในการบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างความสุขและความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนั้นยังเป็นศาลเจ้าที่จัดเทศกาลสำคัญ ๆ ในเกียวโตด้วยนะ สามารถเช็คตารางการจัดเทศกาลได้ที่เว็บไซต์ของวัดได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-18.00 น.
การเดินทาง: ขึ้นรถเมสาย 206 แล้วลงป้าย Gojozaka จากนั้นเดินอีกประมาณ 10 นาที
ศาลเจ้าอิมะโดะเป็นที่รู้จักในฐานะ “ศาลเจ้าของแมวโชคดี” เพราะที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดของแมวกวักหรือ Maneki-neko ที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด (มั่นใจว่าทุกคนคงเคยเห็นน้องวางอยู่บนเค้าเตอร์ตามร้านอาหารในไทยแน่นอน!) ใครที่รักแมวหรือชอบของน่ารัก ๆ ไม่ควรพลาด ที่นี่ตั้งอยู่ในย่านอาสากุสะ เป็นศาลเจ้าที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่ารัก มีสินค้าพื้นเมืองและของฝากน่ารัก ๆ ที่เกี่ยวกับแมวให้เลือกซื้อมากมาย เป็นสถานที่ที่นอกจากจะไหว้ขอพรแล้ว ยังได้สัมผัสกับความน่ารักและความมีเอกลักษณ์ไปพร้อม ๆ กัน
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-17.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถเมสาย 42-1, 42-2 มาลงมาที่ป้าย Asakusa-Nanachōme (Asakusa 7) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
ศาลเจ้ายูชิมะ เทนจินเป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าช่วยเสริมดวงทางการเรียนและการสอบ ใครที่กำลังเตรียมสอบหรืออยากได้พรเรื่องความสำเร็จในการเรียนรู้ต้องแวะมาที่นี่เลย ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบและไม่วุ่นวายเหมือนศาลเจ้าใหญ่ ๆ ในโตเกียว และยังมีสวนสวย ๆ ให้เดินเล่นด้วย การเดินทางมาศาลเจ้าก็สะดวก ใครอยากเติมพลังสมองและโชคดีเรื่องการเรียน การสอบ ต้องลองแวะมาไหว้ขอพรที่นี่ดูนะ จะได้ปัง ๆ กันถ้วนหน้า
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-20.00 น.
การเดินทาง: ทางออก 3 สถานี Yushima ของสาย Chiyoda
ศาลเจ้าชิโมกิตะ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,000 ปี ศาลเจ้าชิโมกิตะเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญในการบูชาเทพเจ้าผู้ดูแลธรรมชาติและการเกษตร นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีความสงบเงียบและมีธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การเดินเล่นหรือมาขอพรเพื่อความสงบสุขของจิตใจ
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-17.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถเมสาย 1, 4, 205 มาลงป้าย Shimogamo Jinja-mae
ถ้าพูดถึงศาลเจ้าที่อยู่ใจกลางโตเกียวและมีบรรยากาศคึกคัก ศาลเจ้าคันดะต้องติดโผเลยนะ! ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรเรื่องโชคลาภและความสำเร็จในธุรกิจ เหมาะสำหรับใครที่อยากเสริมดวงและพลังบวกในการทำงาน แถมที่นี่ยังมีเทศกาลใหญ่ Kanda Matsuri ที่จัดทุกสองปี คนจะเยอะมากแต่สนุกสุด ๆ เดินเล่นในบริเวณศาลเจ้าจะได้เห็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและความสงบที่แอบซ่อนอยู่ในเมืองใหญ่ ใครมาโตเกียวอย่าลืมแวะมาที่ศาลเจ้าคันดะนะ รับรองว่าประทับใจแน่นอน!
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Ginza มาลงที่สถานี Suehirochō แล้วเดินต่ออีก 4 นาที
ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกุถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่อยากขอพรความรักและความโชคดี การเดินทางก็ง๊ายง่าย เพราะที่นี่ไม่ไกลจากย่านชินจูกุเลยนะ ตัวศาลเจ้าค่อนข้างเล็กแต่บรรยากาศอบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่อยากหาที่สงบ ๆ เพื่อขอพรเรื่องความรักหรือความสำเร็จส่วนตัว นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นมักมาไหว้ในช่วงปีใหม่หรือโอกาสพิเศษ ใครอยากเติมพลังใจ ลองแวะมาที่นี่ดูนะ รับรองว่าฟีลกู้ดแน่นอน แถมอาจจะได้คู่กลับไปด้วย เขินอะ
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-21.00 น.
การเดินทาง: รถไฟสาย Chūō-Sōbu มาลงสถานี Lidabashi ออกทางออก Lidabashi 3 แล้วเดินประมาณ 3 นาที
วัดเซนโซจิเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องไปเยือน โดยเฉพาะถ้าอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่นี่อยู่ย่านอาซากุสะ คุณจะได้เดินผ่านประตูคามินาริมงที่มีโคมไฟแดงขนาดใหญ่ และตลาดนาคามิเซะที่เต็มไปด้วยของฝากและอาหารพื้นเมือง วัดเซนโซจิไม่ใช่แค่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แต่ยังเต็มไปด้วยสีสันของชีวิตคนในโตเกียว เป็นจุดที่เดินเล่น ถ่ายรูป และชิมของอร่อยได้ในที่เดียว ใครมาโตเกียวแล้วพลาดที่นี่บอกเลยว่าพลาดมาก!
เวลาเปิด-ปิด: 6.00-18.00 น.
การเดินทาง: รถไฟสาย Ryomo มาลงที่สถานี Asakusa แล้วเดินต่อ 6 นาที
การเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่นไม่เพียงแค่การชมสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังมีหลากหลายกิจกรรมที่ทำให้การท่องเที่ยวในแต่ละศาลเจ้าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ลองมาดู 3 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่นกัน!
การขอพรเป็นกิจกรรมที่สำคัญและได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการขอพรเกี่ยวกับความรัก ความสำเร็จ หรือการเงิน ในแต่ละศาลเจ้าจะมีวิธีการขอพรที่แตกต่างกัน เช่น การเขียนคำอธิษฐานลงบนแท่นไม้ หรือการโยนเหรียญและยกมือไหว้ที่ศาลเจ้าผ่านซุ้มโทริอิ การขอพรที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นจะช่วยเสริมพลังบวกและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่มาเยือน นอกจากนี้ยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อและประเพณีของชาวญี่ปุ่นในด้านการเคารพบูชาเทพเจ้าผู้พิทักษ์อีกด้วย
การชมเทศกาลท้องถิ่นที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ศาลเจ้าญี่ปุ่นมักจะจัดเทศกาลประจำปีที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้า การชมเทศกาลจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เทศกาลที่มีชื่อเสียง เช่น เทศกาลคิยะมิซึ (Kiyomizu Matsuri) ที่ศาลเจ้าคิยะมิซึในเกียวโต หรือเทศกาลเมจิ (Meiji Matsuri) ที่ศาลเจ้าเมจิในโตเกียว ในระหว่างเทศกาลจะมีการแสดงดนตรี การเดินขบวน และการทำพิธีที่มีความหมายลึกซึ้งสำหรับชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเทศกาลได้เพื่อสัมผัสความสนุกสนานและศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่
การเดินผ่านซุ้มโทริอิสีแดงที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเยี่ยมชมศาลเจ้าชินโต ซุ้มโทริอิเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และการเดินผ่านซุ้มโทริอิถือเป็นพิธีการที่สำคัญในศาสนาชินโต นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านซุ้มโทริอิที่ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางยาว เช่น ที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริในเกียวโต ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม การเดินผ่านซุ้มโทริอิจะทำให้คุณรู้สึกถึงความสงบและพลังที่เกิดจากการเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพนับถือมาช้านาน
การเลือกที่พักใกล้ศาลเจ้าญี่ปุ่นช่วยให้คุณสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยที่พักที่เราแนะนำนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
MIYASHITA PARK เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกใกล้กับศาลเจ้าชินโตในโตเกียว ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและสะดวกสบาย โรงแรมนี้มีห้องพักที่กว้างขวางและการบริการที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะการตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งในโตเกียว เช่น ศาลเจ้าคามิยะ และสามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟที่สำคัญได้ง่ายดาย นอกจากนี้ MIYASHITA PARK ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงร้านอาหารและพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อน ทำให้ที่นี่เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับทั้งคู่รัก กลุ่มเพื่อน และสายเที่ยวคนเดียว ที่พักในโตเกียวที่คุณสามารถสัมผัสความสะดวกสบายได้ตลอดการเดินทาง
RIHGA Royal Hotel Kyoto ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมใกล้กับศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริและสถานที่สำคัญอื่นๆ ในเกียวโต โรงแรมนี้มีบรรยากาศที่หรูหราและบริการที่เป็นเลิศ โดยมีห้องพักที่ตกแต่งอย่างสวยงามและสะดวกสบายพร้อมวิวทิวทัศน์ของเมืองเกียวโต โรงแรมมีร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นและอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่ทันสมัยสำหรับการพักผ่อนหลังการเที่ยวชมเกียวโตมาทั้งวัน โรงแรมนี้เป็นที่พักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาที่พักหรูหราในเกียวโตและต้องการเดินทางไปยังศาลเจ้าชินโตและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อย่างสะดวก
DoubleTree by Hilton Kyoto Higashiyama ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีใกล้กับศาลเจ้าฮิราโอกะและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองเกียวโต โรงแรมนี้มีการออกแบบที่ทันสมัยและการบริการที่ยอดเยี่ยม โดยมีห้องพักที่ตกแต่งอย่างหรูหราและสะดวกสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และร้านอาหารที่มีเมนูอาหารท้องถิ่นและนานาชาติ โรงแรมนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารในเกียวโต ที่พักที่นี้จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่นและสถานที่สำคัญในเมือง
การเดินทางไปยังศาลเจ้าญี่ปุ่นทั้งจากไทยและภายในญี่ปุ่นนั้นสะดวกสบายมาก ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพสูง คุณสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ทั้งจากสนามบินไปยังศาลเจ้าต่าง ๆ หรือการเดินทางภายในเมืองต่างๆ ที่มีความสะดวกและสะอาด
การเดินทางจากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่นสามารถทำได้หลายทางเลือก โดยสามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ไปยังเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น เช่น โตเกียว (Narita หรือ Haneda), โอซาก้า (Kansai) หรือเกียวโต โดยมีสายการบินตรงจากไทยที่บินอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Thai Airways, Japan Airlines, ANA และสายการบินโลว์คอสต์เช่น AirAsia หรือ Peach Aviation ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้สามารถจองได้ผ่าน Traveloka เลยจ้า!
การเลือกช่วงเวลาในการเที่ยวศาลเจ้าญี่ปุ่นมีความสำคัญในการสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการเที่ยวในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เพราะแต่ละฤดูกาลในญี่ปุ่นจะนำเสนอบรรยากาศและกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าเดือนไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเที่ยวศาลเจ้าต่าง ๆ ในญี่ปุ่น!
การเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุด โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ซึ่งศาลเจ้าญี่ปุ่นหลายแห่งเช่น ศาลเจ้าคิยะมิซึ (Kiyomizu-dera Shrine) หรือศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha) จะมีบรรยากาศที่งดงามของดอกซากุระและบรรยากาศที่สดชื่น ในช่วงนี้คุณสามารถทำพิธีขอพรใต้ต้นซากุระ หรือเดินชมความงามของธรรมชาติที่ล้อมรอบศาลเจ้า
ฤดูร้อนในญี่ปุ่นอาจจะร้อนอบอ้าว แต่ก็เป็นช่วงที่มีเทศกาลต่าง ๆ มากมายที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น เช่น เทศกาลที่ศาลเจ้าคามาคุระ (Tsurugaoka Hachimangu) หรือเทศกาลของศาลเจ้าฟูจิ (Fujisan Hongu Sengen Taisha) ที่คุณสามารถร่วมกิจกรรมในบรรยากาศของแสงไฟและการแสดงพื้นบ้าน การเที่ยวในช่วงนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสนุกสนานและความมีชีวิตชีวาของเทศกาลหน้าร้อน
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่ธรรมชาติในญี่ปุ่นแสดงความงดงามที่สุดโดยเฉพาะในเกียวโตและโอซาก้า ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและทอง เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ศาลเจ้าหลายแห่ง บรรยากาศในฤดูกาลนี้มีความเงียบสงบและโรแมนติก เหมาะสำหรับการทำพิธีขอพรในสภาพแวดล้อมที่สวยงาม
การเที่ยวศาลเจ้าญี่ปุ่นในฤดูหนาวอาจจะหนาวเย็น แต่ก็เป็นช่วงที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมศาลเจ้าที่มีบรรยากาศเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่ศาลเจ้าทั่วญี่ปุ่นจะมีการจัดพิธีขอพรปีใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญของคนญี่ปุ่น เช่น ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) หรือศาลเจ้าฟูจิ (Fujisan Hongu Sengen Taisha) ที่คนญี่ปุ่นจะมาขอพรและทำความสะอาดบ้านเพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างสดใส การเที่ยวในช่วงนี้จะให้ความรู้สึกถึงความสงบและความสุขที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ
การเที่ยวศาลเจ้าญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การชมสถาปัตยกรรมหรือความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นการสัมผัสกับความเชื่อและประเพณีที่ลึกซึ้งของญี่ปุ่น หากคุณอยากให้การเที่ยวศาลเจ้าของคุณเต็มไปด้วยความหมายและประสบการณ์ที่ดี นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การเที่ยวของคุณสมบูรณ์แบบมากขึ้น!
การเข้าไปในศาลเจ้าญี่ปุ่นมีธรรมเนียมที่ควรปฏิบัติตาม เพื่อแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น เมื่อคุณเดินผ่านซุ้มโทริอิ (Torii gate) ควรหยุดและยืนตรงก่อนเข้าไป การขอพรที่ศาลเจ้าก็ต้องทำตามขั้นตอน เช่น การล้างมือและปากที่บ่อน้ำสะอาดก่อนเข้าไปทำพิธีขอพร เพื่อแสดงความเคารพและทำความสะอาดจิตใจ
การไปเยี่ยมชมศาลเจ้าในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุด เช่น ถ้าคุณอยากชมความงามของดอกซากุระให้ไปในฤดูใบไม้ผลิ หรือหากคุณต้องการเข้าร่วมพิธีขอพรปีใหม่ ควรไปในช่วงปีใหม่ที่ศาลเจ้าหลายแห่งจะมีการจัดพิธีขอพรอย่างใหญ่โต การไปในช่วงที่ไม่แออัดจะทำให้คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของศาลเจ้าได้เต็มที่และผ่อนคลาย
ศาลเจ้าญี่ปุ่นบางแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่กว้างและมีการเดินผ่านธรรมชาติ เช่น ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha) ที่มีซุ้มโทริอิเรียงรายหลายกิโลเมตร การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินระยะไกล เช่น สวมรองเท้าที่สบายและพกน้ำดื่มไปด้วย จะช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายและไม่เหนื่อยเกินไป
เมื่อคุณไปเที่ยวศาลเจ้าญี่ปุ่น อย่าลืมซื้อของที่ระลึก เช่น เครื่องรางนำโชค เพราะถือว่าเป็นความเชื่อเกี่ยวกับศาลเจ้าญี่ปุ่นที่โด่งดัง ซึ่งสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการเครื่องนำโชคในด้านไหน เช่น การงาน ความรัก การเรียน สุขภาพ เพื่อเป็นการจดจำประสบการณ์พิเศษที่ได้มาที่ศาลเจ้านั้น ๆ อีกทั้งยังเป็นของฝากที่ดีให้กับคนที่คุณรัก
ศาลเจ้าในญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่มีความเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ ควรหลีกเลี่ยงการพูดเสียงดังหรือการกระทำที่อาจทำให้เสียบรรยากาศที่ศาลเจ้า ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการแสดงออกในที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเงียบสงบ และการแสดงความเคารพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การเที่ยวศาลเจ้าญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การชมความงดงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมและความเชื่อที่ลึกซึ้งของญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะเดินชมซุ้มโทริอิสีแดงที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ หรือร่วมพิธีขอพรในเทศกาลสำคัญ การเยี่ยมชมศาลเจ้าจะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ถ้าพร้อมจะออกไปเที่ยวแล้ว อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินและจองที่พักในญี่ปุ่นกับ Traveloka ที่เดียวครบจบทั้งเที่ยวบินและที่พักด้วยราคาน่ารักสบายกระเป๋า แถมมีโปรโมชั่นเด็ด ๆ มาแจกเป็นประจำ!