หากพูดถึงที่เที่ยวในญี่ปุ่นที่ครบรส ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และความสงบ ฮอกไกโดคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นแห่งนี้ โดดเด่นด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟ ทุ่งดอกไม้ ลานสกี ออนเซ็นธรรมชาติ หรือชายฝั่งทะเล ฮอกไกโดยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อากาศบริสุทธิ์และเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่เกาะทั้งเกาะจะกลายเป็นดินแดนหิมะขาวโพลนสุดโรแมนติก และในฤดูร้อน ที่ดอกลาเวนเดอร์และทุ่งสีสันสดใสจะบานสะพรั่งไปทั่ว
ในบทความนี้ เราได้เลือก ที่เที่ยวฮอกไกโด ปัง ๆ ทั้งหมด 20 แห่ง ให้คุณได้แพลนเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างสะดวก ครอบคลุม และไม่พลาดจุดไฮไลต์สำคัญ ไม่ว่าคุณจะเที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง เที่ยวกับแฟน หรือพาครอบครัวไปพักผ่อน รับรองว่าฮอกไกโดจะมอบประสบการณ์อันแสนประทับใจให้คุณอย่างแน่นอน
บ่อน้ำสีฟ้าเป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวฮอกไกโด ยอดนิยมที่หลายคนต้องแวะมา โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่สีฟ้าของน้ำจะตัดกับสีแดงส้มของใบไม้ได้อย่างสวยงามอย่างน่าทึ่ง ความพิเศษของที่นี่คือสีของน้ำที่เปลี่ยนไปตามแสงและฤดูกาล ทำให้เหมาะทั้งการถ่ายรูปและพักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนที่ชอบ เที่ยวธรรมชาติฮอกไกโด ไม่ควรพลาด บริเวณใกล้เคียงยังมีทางเดินชมวิวที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับครอบครัว หรือคู่รักที่กำลังมองหาที่เที่ยวโรแมนติกในฮอกไกโด
พิกัด: Shirogane Blue Pond (Aoiike)
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: จากสถานี JR Biei นั่งบัสสาย Shirogane มาลงที่ป้าย Blue Pond แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
น้ำตกชิราฮิเกะเป็นจุดชมวิวธรรมชาติอันโดดเด่นในฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติไม่ควรพลาด สายน้ำสีขาวไหลจากผาสูงลงสู่แม่น้ำบิเอะสีฟ้า ทำให้ภาพวิวธรรมชาติแห่งนี้ดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมและสายน้ำกลายเป็นไอน้ำลอยฟุ้ง เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักถ่ายภาพ ถือเป็น ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ที่น่าประทับใจ หากใครวางแผน เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ก็สามารถมาที่นี่ได้แบบสะดวกสบาย บรรยากาศโดยรอบยังเหมาะกับการเดินเล่นชมวิวอีกด้วย แต่อย่าลืมแต่งตัวสู้ลมหนาวให้พร้อมด้วยนะ
พิกัด: Shirahige Waterfall
เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Biei มาลงที่ Shirogane Onsen แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวนสัตว์อาซาฮิยาม่าเป็น ที่เที่ยวฮอกไกโด ที่เหมาะสำหรับครอบครัว ด้วยการจัดแสดงสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงธรรมชาติ และโครงสร้างทางเดินที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมสัตว์อย่างใกล้ชิด หนึ่งในไฮไลต์ของที่นี่คือขบวนพาเหรดเพนกวินเดินเตาะแตะยาวเป็นกิโลในฤดูหนาวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทุกปี ถือเป็นที่เที่ยวยอดนิยมสำหรับคนที่อยาก เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว แบบอบอุ่นใจ พร้อมทั้งมีโซนเด็กเล่นและจุดพักผ่อน เหมาะกับครอบครัว และคนทุกเพศ ทุกวัย
เวลาทำการ: 9.30 น. ถึง 17.15 น. (ปิดวันอังคาร และฤดูหนาวอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลา)
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Asahikawa ถึงสวนสัตว์ประมาณ 40 นาที
ค่าเข้าชม: 1,000 เยน
โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะเป็น ที่เที่ยวฮอกไกโดยอดนิยม สำหรับคนที่ชื่นชอบของหวาน บวกกับบรรยากาศแบบยุโรป ภายในมีทั้งโซนพิพิธภัณฑ์ให้ชมกระบวนการผลิตคุกกี้ มีร้านของฝาก คาเฟ่ และสวนดอกไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ทำให้มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ มากมายหลายมุม เหมาะกับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือเพื่อน ๆ ที่อยากถ่ายภาพน่ารัก ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่มีการประดับไฟยามค่ำคืนอย่างโรแมนติกและมีชีวิตชีวา จึงเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง
เวลาทำการ: 10.00 น. ถึง 18.00 น.
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย Tozai ลงสถานี Miyanosawa แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที
ค่าเข้าชม:
เนินพระพุทธเจ้าในซัปโปโรเป็นจุดรวมศิลปะกับศาสนาอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปองค์ใหญ่กลางลานกว้างที่ล้อมรอบด้วยทุ่งลาเวนเดอร์นับหมื่นต้นในฤดูร้อน และถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ทาดาโอะ อันโดะ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับการไหว้พระ ฮีลใจ หรือเดินชมวิวธรรมชาติ ถือเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดฤดูร้อนที่ให้ความรู้สึกสงบและสวยงาม เหมาะสำหรับสายมูเตลู หรือผู้ที่ต้องการเติมพลังใจในทริปเที่ยวฮอกไกโดก่อนกลับไปทำงาน
เวลาทำการ: 9.00 น. ถึง 16.00 น. (อาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo ขึ้นรถบัสมาลงที่ Takino Cemetery แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวนโอโดริเป็นแลนด์มาร์กกลางเมืองซัปโปโรที่นักท่องเที่ยวมักไม่พลาดที่จะมาเช็กอิน ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่เหมาะกับทุกฤดู ไม่ว่าจะมาชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ พักผ่อนใต้ร่มไม้ในฤดูร้อน หรือเพลิดเพลินกับเทศกาลหิมะอันยิ่งใหญ่ในฤดูหนาว บรรยากาศที่เปิดโล่งและร่มรื่น ทำให้สวนแห่งนี้เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น อีกทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น หอนาฬิกาซัปโปโร และซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ ทำให้เดินเที่ยวได้สะดวกสบายมาก
เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori เพียงไม่กี่นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
หอนาฬิกาซัปโปโรเป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเลยทีเดียว ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดยอดนิยมที่สะท้อนประวัติศาสตร์ของฮอกไกโดในยุคต้นได้อย่างน่าสนใจ ตัวอาคารสร้างขึ้นในสไตล์อเมริกันช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และยังคงใช้งานกลไกนาฬิกาแบบดั้งเดิมอยู่ ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองซัปโปโรและสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครที่สนใจประวัติศาสตร์หรือถ่ายภาพแบบวินเทจ ที่นี่คือจุดเช็กอินสำคัญของการเที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง เพราะเดินทางง่ายมาก
เวลาทำการ: 9.00 น. ถึง 17.00 น.
การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ JR Sapporo ประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชม:
ตลาดปลาโจไกเป็นสวรรค์ของสายกินที่อยากลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ของฮอกไกโด ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่แนะนำสำหรับนักชิม เพราะมีร้านอาหารมากมายให้เลือก ตั้งแต่ซูชิ ซาชิมิ ไปจนถึงเมนูปิ้งย่างสด ๆ จากทะเล อีกทั้งยังสามารถซื้อของฝากประเภทอาหารแปรรูปได้อย่างสะดวก เป็นสถานที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินของคนท้องถิ่นได้อย่างดี ใครที่อยากสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของฮอกไกโดควรแวะมาชิมสักหน่อย
เวลาทำการ: 6.00 น. ถึง 17.00 น. (แต่ละร้านอาจต่างกันเล็กน้อย)
การเดินทาง: จากสถานี JR Soen เดินประมาณ 10 นาที หรือใช้รถบัสสาย 55
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
คลองโอตารุเป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพสุดโรแมนติกและเงียบสงบของฮอกไกโด โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่แสงไฟสะท้อนผิวน้ำอย่างสวยงาม ถือเป็น ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ที่ยอดนิยม เพราะบรรยากาศช่วงหิมะตกนั้นสวยงามดั่งภาพวาด โอบล้อมด้วยอาคารอิฐเก่าสไตล์ยุโรปที่มีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ตลอดสองฝั่งคลอง เหมาะกับผู้ที่อยากเดินเล่นถ่ายรูป หรือใช้เวลากับคนรักแบบหวาน ๆ
เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Otaru ประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดสุดน่ารักที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ภายในจัดแสดงกล่องดนตรีนับพันชิ้นจากทั่วโลก พร้อมกับโซนขายของน่ารัก ๆ ที่สามารถเลือกกล่องดนตรีพร้อมของตกแต่งเพื่อประกอบเองเป็นของที่ระลึกเฉพาะตัวที่มีชิ้นเดียในโลก สถานที่ตกแต่งอย่างอบอุ่นในอาคารอิฐโบราณ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเสียงดนตรี งานฝีมือ หรือการเก็บของสะสม อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ทำให้สามารถเที่ยวต่อได้สะดวก
เวลาทำการ: 9.00 น. ถึง 18.00 น.
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Otaru ประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
ฟาร์มโทมิตะคือหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดฤดูร้อนที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุด ด้วยทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงละมุนที่เบ่งบานเต็มพื้นที่ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นอย่างป๊อปปี้ ซัลเวีย และคอสมอสให้ชมหลากหลายสีสัน ฟาร์มนี้ยังมีร้านไอศกรีม กลิ่นลาเวนเดอร์ และร้านขายของฝากที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์แท้ ๆ อีกด้วย ใครอยากหาสถานที่ถ่ายรูปสวย ๆ บรรยากาศดี อากาศบริสุทธิ์ และได้ของฝากกลับบ้าน ที่นี่คือที่เที่ยวฮอกไกโดไม่ควรพลาด
เวลาทำการ: 8.30 น. ถึง 17.00 น. (กรกฎาคม–สิงหาคม)
การเดินทาง: จากสถานี JR Nakafurano เดินประมาณ 20 นาที หรือขึ้นแท็กซี่
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวนดอกไม้คามิฟุราโนะเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่เน้นความสวยงามของธรรมชาติและเหมาะกับการพักผ่อน บนเนินเขาที่มีลมพัดเย็นสบายตลอดวัน ในช่วงฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ไลเซนเทีย และดอกไม้นานาพันธุ์ที่เรียงรายตัดกับวิวภูเขาไดเซ็ตสึซังด้านหลังอย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชมวิวธรรมชาติ ถ่ายรูปชิล ๆ และดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ในแบบชนบทของฮอกไกโด
เวลาทำการ: 9:00–17:00 (เฉพาะช่วงหน้าร้อน)
การเดินทาง: ขับรถประมาณ 5 นาทีจากสถานี JR Kamifurano หรือใช้แท็กซี่
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวนสัตว์โนโบริเบ็ตสึเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดสำหรับครอบครัวที่น่าสามารถใช้เวลาด้วยกันแบบน่ารัก ๆ ที่นี่มีการจัดแสดงพี่หมีสีน้ำตาลที่สามารถชมได้อย่างใกล้ชิดแบบปลอดภัย และสามารถให้อาหารพี่หมี รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ในสวนสัตว์ได้อีกด้วย บางช่วงมีโชว์พิเศษให้เห็นพฤติกรรมของพี่หมี ส่วนใหญ่ก็จะชอบโบกมือขอขนม เป็นภาพที่ดูแล้วน่ารักคล้ายกับท่าทางของคนเลย ทำให้เป็นที่เที่ยวที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินร่วมกันได้
เวลาทำการ: 8.30 น. ถึง 16.30 น.
การเดินทาง: ขึ้นกระเช้าจากสถานี Noboribetsu Bear Park Ropeway
ค่าเข้าชม:
หุบเขานรกจิโกกุดานิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมของเมืองโนโบริเบ็ตสึ ด้วยภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยไอน้ำพวยพุ่งจากใต้ดิน กลิ่นกำมะถัน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี เหมาะสำหรับคนที่สนใจธรรมชาติในมุมแปลกใหม่ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่น่าตื่นตาตื่นใจและสามารถเดินศึกษาธรรมชาติผ่านเส้นทางที่จัดไว้ได้อย่างปลอดภัย
เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Noboribetsu ประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นแหล่งรวมธรรมชาติบริสุทธิ์ของฮอกไกโดอย่างแท้จริง ที่นี่มีทั้งเส้นทางเดินป่า น้ำตก ภูเขาไฟ และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม เหมาะกับนักเดินทางสายผจญภัยและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติแบบดิบ ๆ ถือเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดฤดูร้อนและใบไม้ร่วงที่ไม่ควรพลาด หากใครต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ ที่นี่คือคำตอบ
เวลาทำการ: 8.30 น. ถึง 17.15
การเดินทาง: ขับรถหรือโดยสารบัสจาก Asahikawa ใช้เวลาราว 1.5–2 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
ภูเขาโยเท หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฟูจิแห่งฮอกไกโด” เป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดสำหรับสายปีนเขาและธรรมชาติ ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางเหมาะกับนักผจญภัยทุกระดับ พร้อมวิวทิวทัศน์จากยอดเขาที่สามารถมองเห็นนิเซโกะและพื้นที่โดยรอบได้อย่างชัดเจน ในฤดูร้อนและใบไม้เปลี่ยนสีจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมวิวและถ่ายภาพธรรมชาติ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติแบบดิบ ๆ ในฮอกไกโด
เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา (แนะนำเฉพาะช่วงมิถุนายน–ตุลาคม)
การเดินทาง: ขับรถจากสถานี JR Kutchan ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
ลานสกีนิเซโกะเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยหิมะคุณภาพดีที่เรียกว่า “Powder Snow” เหมาะสำหรับกิจกรรมสกีและสโนว์บอร์ดทั้งสำหรับมือใหม่และนักเล่นระดับมือโปร ที่นี่มีรีสอร์ทหลายแห่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์มากมาย จึงกลายเป็นจุดหมายยอดฮิตของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติในฤดูหนาว
เวลาทำการ: ปลายพฤศจิกายน–ต้นพฤษภาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพหิมะ)
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปลงสถานี Kutchan แล้วต่อรถบัสถึงลานสกี
ค่าเข้า: ขึ้นอยู่กับประเภทบัตรเล่นสกี (เริ่มต้นประมาณ 5,000 เยน/วัน)
สวนดอกไม้ชิคิไซโนะโอกะเป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสที่ผลิบานตลอดช่วงฤดูร้อน ถือเป็นอีกหนึ่งใน ที่เที่ยวฮอกไกโดฤดูร้อน ที่ควรแวะชม โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม–สิงหาคมที่ดอกไม้หลากสีจะบานเต็มพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งรถแทรกเตอร์ชมสวน ถ่ายรูป หรือแวะซื้อของฝากจากผลิตผลท้องถิ่นได้ที่นี่ บรรยากาศสดชื่นและผ่อนคลายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
เวลาทำการ: 8.40 น. ถึง 17.00 น. (เปิดเฉพาะช่วงใบไม้ผลิ–ฤดูใบไม้ร่วง)
การเดินทาง: ขับรถประมาณ 15 นาทีจากสถานี JR Biei
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่มีค่าบริการรถแทรกเตอร์ประมาณ 500 เยน)
ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาและธรรมชาติอันสงบเงียบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและพักผ่อนแบบสงบ สถานที่นี้เหมาะกับการล่องเรือ พักแช่ออนเซ็นริมทะเลสาบ และชมการแสดงดอกไม้ไฟในฤดูร้อน ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดสำหรับครอบครัวที่มีกิจกรรมครบทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม
เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Toya ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์การผลิตเบียร์ของญี่ปุ่น และคอเบียร์หลาย ๆ คนที่อยากไปลองเบียร์ญี่ปุ่นหลาย ๆ แบบ ที่นี่จัดแสดงเครื่องมือการหมักเบียร์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของ Sapporo Brewery รวมถึงมีโซนให้ชิมเบียร์สดที่ผลิตใหม่ ๆ และร้านอาหารบรรยากาศดี เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายดื่มและคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นแบบชิล ๆ ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองซัปโปโร
เวลาทำการ: 11.00น. ถึง 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี Higashi-Kuyakusho-Mae ของรถไฟสาย Toho
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
Sapporo Beer Garden เป็นร้านอาหารยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมาเยือนฮอกไกโดต้องแวะสัมผัสประสบการณ์ “เจงกีสข่าน” หรือเนื้อแกะย่างบนกระทะเหล็กร้อน เสิร์ฟพร้อมเบียร์สดซัปโปโรที่ผลิตในท้องถิ่น ภายในร้านตกแต่งด้วยกลิ่นอายโรงเบียร์เก่า ให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะกับทั้งกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือคู่รักที่อยากลิ้มลองรสชาติความเป็นฮอกไกโดในแบบต้นตำรับอย่างแท้จริง
Hanamaru Sushi เป็นร้านซูชิสายพานชื่อดังจากฮอกไกโดที่ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบสดใหม่ ทั้งปลาแซลมอน ฮามาจิ หรือไข่ปลาแซลมอนที่ส่งตรงจากท่าเรือทุกวัน ด้วยราคาที่เข้าถึงได้แต่คุณภาพระดับพรีเมียม ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาที่ Sapporo Stellar Place ซึ่งมักมีคิวแน่นตั้งแต่ช่วงเย็น เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแท้ ๆ ในบรรยากาศเป็นกันเอง
Italian café Abete เป็นร้านอิตาเลียนสุดคิวท์ใจกลางเมือง Biei มีแค่ประมาณ 10 ที่นั่งเท่านั้น แต่เต็มเปี่ยมด้วยรสชาติและความอบอุ่นของร้านเล็กครอบครัวที่ทำด้วยใจ จากการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ทั้งผักออร์แกนิก และไข่จากข้าวสาลี Biiei ที่เพิ่มความหอมหวานให้กับอาหารทุกจาน
เวลาทำการ: ปิดวันจันทร์-อังคาร
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Biei แล้วเดินต่อ 5 นาที
เหมาะกับ: แบ็กแพ็คเกอร์ สายประหยัด สายเที่ยวคนเดียว
Hotel Pearl City Sapporo เป็นโรงแรมระดับ 2 ดาวที่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรเพียง 400 เมตร ทำเลที่ตั้งสะดวกสบายสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของเมือง ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น Wi-Fi ฟรี และเครื่องปรับอากาศ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มองหาที่พักราคาย่อมเยาและสะดวกสบาย
Japan
โรงแรมเพิร์ล ซิตี้ ซัปโปโร
Chuo
ดูราคา
เหมาะกับ: คู่รัก นักธุรกิจ สายติดแกลม
JR Tower Hotel Nikko Sapporo เป็นโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่บนอาคาร JR Tower กลางเมืองซัปโปโร มอบวิวเมืองมุมสูงที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน โรงแรมนี้เชื่อมต่อกับสถานี JR Sapporo ทำให้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้สะดวก ห้องพักตกแต่งทันสมัย มีอ่างอาบน้ำพร้อมวิวเมือง และบริการออนเซ็นในร่มที่สามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของฮอกไกโด
Japan
โรงแรมจูเนียร์ ทาวเวอร์ นิกโก ซัปโปโร
•
9.4/10
Chuo
ดูราคา
เหมาะกับ: ครอบครัวที่มีเด็ก คู่รัก สายรักสบาย คนที่พักยาว ๆ
Hoshino Resorts RISONARE Tomamu คือจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวที่มาเยือนฮอกไกโด ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขา Tomamu ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติแวดล้อม โรงแรมมีห้องพักขนาดใหญ่ที่ออกแบบเป็นมิตรกับเด็ก พร้อมบริการสระว่ายน้ำในร่ม สวนน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายตามฤดูกาล เช่น สโนว์บอร์ดในฤดูหนาว และการเดินป่าชมวิวในฤดูร้อน มีบริการรถรับส่งจากสถานี JR ทำให้การเดินทางสะดวก
Japan
โฮชิโน รีสอร์ทส์ ริโซแนร์ โตมามุ
Minamifurano-cho
ดูราคา
บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง ไปยังสนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ในเมืองซัปโปโร ใช้เวลาประมาณ 6–7 ชั่วโมง ทั้งสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสและโลว์คอสต์ เช่น Thai Airways, AirAsia X, และ Scoot
ถ้าอยากเที่ยวโตเกียว หรือ เที่ยวโอซาก้าไปด้วยเลยทีเดียวแบบจุก ๆ ก็สามารถบินไปต่อเครื่องที่เมืองใหญ่อย่าง โตเกียว (NRT/HND) หรือ โอซาก้า (KIX) ได้ แล้วค่อยต่อภายในประเทศไปฮอกไกโด เรียกว่าเที่ยวแบบเอาคุ้ม ไม่แวะฟรี!
Tue, 26 Aug 2025
Skymark Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป ซัปโปโร (CTS)
เริ่มจาก THB 5,705.92
Thu, 21 Aug 2025
Thai Air Asia X
กรุงเทพ (DMK) ไป ซัปโปโร (CTS)
เริ่มจาก THB 3,151.05
Wed, 27 Aug 2025
Spring Airlines Japan
โตเกียว (NRT) ไป ซัปโปโร (CTS)
เริ่มจาก THB 1,194.57
สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองหรือจุดท่องเที่ยวหลักได้สะดวกด้วยรถไฟ JR, รถบัส, หรือรถเช่า หากคุณวางแผนเที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเองการเดินทางภายในจังหวัดด้วย รถไฟ ถือว่าสะดวก ครอบคลุม และปลอดภัย เหมาะกับทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูหนาวที่การขับรถอาจเสี่ยงลื่นไถล
การเดินทางในฮอกไกโด ถือว่าสะดวก ปลอดภัย และเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผน เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ระบบ รถไฟ JR Hokkaido เชื่อมต่อเมืองหลัก เช่น ซัปโปโร อาซาฮิกาวะ โอตารุ ฟุราโนะ และฮาโกดาเตะ ครอบคลุมทั้งเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติและเมืองยอดฮิต นักเดินทางสามารถใช้ JR Pass เพื่อประหยัดค่าเดินทางได้ เหมาะสำหรับคนที่มองหาแนวทาง เที่ยวฮอกไกโดแบบประหยัด
หากคุณกำลังวางแผนแพลนเที่ยวฮอกไกโด หรือออกแบบทริปฮอกไกโด แบหลวม ๆ การเดินทางด้วยรถไฟคือทางเลือกอันดับต้น ๆ แต่สำหรับพื้นที่ชนบทหรือสถานที่ห่างไกล การเช่ารถขับเองจะให้ความคล่องตัวมากกว่า ทั้งนี้แนะนำให้ตรวจสอบโปรแกรมเที่ยวฮอกไกโดและเส้นทางล่วงหน้า เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและคุ้มค่าสำหรับทุกฤดู
ถ้าคุณสงสัยว่า “ฮอกไกโด ช่วงไหนดี” คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบบรรยากาศแบบไหน” เพราะที่นี่เที่ยวได้ทั้งปี พร้อมเสน่ห์เฉพาะในแต่ละฤดูกาล
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสหิมะขาวโพลน เล่นสกี และชมเทศกาลน้ำแข็งสุดยิ่งใหญ่
ดอกซากุระเริ่มเบ่งบานทั่วเกาะ สร้างบรรยากาศอบอุ่นโรแมนติก
เหมาะกับการเที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์ เช่น ที่ฟุราโนะ หรือเพลิดเพลินกับอากาศเย็นสบายที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นของญี่ปุ่น
สีแดง ส้ม เหลืองของใบไม้เปลี่ยนทั่วทั้งฮอกไกโด จะทำให้ทริปของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม
🧤ถ้าเตรียมตัวดีจะยิ่งเที่ยวได้อย่างราบรื่น สิ่งแรกที่ควรเช็คคือ ฤดูกาล เพราะอากาศแปรผันชัดเจน ควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับอุณหภูมิ โดยเฉพาะใน หน้าหนาว ที่อาจติดลบถึง -10 องศา พกรองเท้ากันลื่น หมวก ถุงมือ และถุงร้อนติดตัวไว้ด้วย นอกจากนี้ควรจองที่พักและตั๋วล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลหิมะซัปโปโร
📝หากวางแผน เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ควรศึกษาเส้นทางรถไฟ JR ล่วงหน้า และอาจซื้อ JR Pass เพื่อประหยัดค่าเดินทาง ตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดของสถานที่ต่าง ๆ เพราะบางแห่งปิดเร็ว รวมถึงพกแอปแปลภาษาหรือโหลดแผนที่ออฟไลน์ไว้ เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างมั่นใจ สนุก และประทับใจไม่ลืม