เที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี? พร้อมลิสต์สถานที่น่าไปในแต่ละช่วง

อยากรู้ว่าเที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี? มาดูเสน่ห์ของคามิโคจิในแต่ละฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ หิมะละลายสดใส ฤดูร้อนเดินป่าชมวิว และฤดูใบไม้เปลี่ยนสีโรแมนติก พร้อมเคล็ดลับการเตรียมตัว
Traveloka TH
07 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
เที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี

เที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี? พร้อมลิสต์สถานที่น่าไปในแต่ละช่วง

คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นหนึ่งในสถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของที่เที่ยวญี่ปุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงประมาณ 1,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในจังหวัดนากาโนะ รายล้อมด้วยเทือกเขาสูงตระหง่านและแม่น้ำใสแจ๋วอย่างแม่น้ำอาซุสะ ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น” เลยทีเดียว บรรยากาศเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ที่คามิโคจิ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ มาสูดอากาศสดชื่นให้ชุ่มปอดท่ามกลางธรรมชาติสุดอลังการของเทือกเขา Japan Alps

อย่างไรก็ตาม คามิโคจิไม่ได้เปิดให้เที่ยวได้ตลอดทั้งปีนะ! เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะตกหนักและทางการปิดพื้นที่เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูสภาพป่าเขา โดยปกติคามิโคจิจะเปิดตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายน (17 เม.ย.) ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน (15 พ.ย.) ของทุกปี หลังจากนั้นจะปิดในช่วงหน้าหนาว (ปลาย พ.ย. – ต้น เม.ย.) นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปช่วงปิดจะต้องเดินเท้าเข้าไปเองด้วยอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งสำหรับมือใหม่ถือว่าไม่แนะนำเพราะอันตรายมาก! ช่วงเวลาที่เปิดให้เที่ยวได้จะมี 3 ฤดูหลัก ๆ คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ใบไม้ร่วง) ซึ่งแต่ละช่วงก็มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ต่างกันไป อ่านจบแล้วกดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักใกล้ ๆ คามิโคจิกับ Traveloka เลย!

สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของคามิโคจิ

คามิโคจิตั้งอยู่บนพื้นที่สูงบนภูเขา ทำให้อากาศเย็นสบายกว่าเมืองใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่นี่จะเย็นกว่าโตเกียวราว 5-10°C เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากนิยมมาคามิโคจิเพื่อหลบร้อน ในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี และยังเป็นช่วง High Season สำหรับกิจกรรมเดินป่าและปีนเขาด้วย

นอกจากนั้น ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ต.ค.-ต้น พ.ย.) ก็เป็นอีกไฮไลท์ที่อากาศเย็นสบายและวิวสวยสุดๆ แต่ต้องระวังเพราะช่วงปลายกันยายนถึงตุลาคมมักมีพายุไต้ฝุ่นผ่านญี่ปุ่นบ่อยครั้ง ควรเช็กพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางด้วยนะ!

ส่วนช่วงฤดูหนาว (กลาง พ.ย. เป็นต้นไป) อุณหภูมิบนเขาจะติดลบ หิมะปกคลุมหนาแน่น ทางอุทยานจึงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไปบริเวณโรงแรม ร้านค้า และรถบัสหยุดให้บริการทั้งหมด ถ้าต้องการเข้าไปจริง ๆ จะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตและเดินเท้าพร้อมไกด์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเดินป่าบนหิมะที่เสี่ยงและต้องเตรียมตัวดีมาก ๆ เลยล่ะ คนไทยอย่างเรา ๆ จึงควรวางแผนมาเที่ยวเฉพาะช่วงที่เปิดจะดีที่สุด

Tip: ไม่ว่าจะมาเที่ยวคามิโคจิช่วงเดือนไหน การแต่งตัวแบบ Layering หรือใส่หลาย ๆ ชั้น คือเคล็ดลับสำคัญ เพราะอุณหภูมิที่นี่อาจแปรปรวนระหว่างวันได้ เสื้อผ้าหลายชั้นที่ถอดปรับได้จะช่วยให้เราอยู่สบายตลอดทริป กลางวันแดดออกจนร้อนก็แค่ถอดเสื้อนอก แต่พอตกเย็นหรือเช้าตรู่กลับหนาวจัด เราก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว ถุงมือ และหมวกไหมพรมมาด้วย โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเย็นลงเร็วมาก ๆ เลย

เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิของคามิโคจิเริ่มช่วงกลางเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ถือเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหลังปิดไปตลอดหน้าหนาว ช่วงต้นฤดู (ประมาณปลายเมษายน) หลายพื้นที่ยังถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน อากาศค่อนข้างหนาวเย็น (กลางวันบางวันอุณหภูมิอาจต่ำเลขตัวเดียว!) บรรยากาศเหมือนปลายฤดูหนาวซะมากกว่า นักท่องเที่ยวจึงยังบางตา เหมาะกับคนที่อยากได้วิวหิมะที่ยังไม่ละลายและความสงบเงียบของธรรมชาติ พอก้าวเข้าสู่เดือนพฤษภาคม หิมะเริ่มละลาย ต้นไม้ใบหญ้าแตกใบใหม่เป็นสีเขียวสด อากาศอุ่นขึ้นกำลังสบาย ๆ กลางวันจะรู้สึกเย็น ๆ ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป นักท่องเที่ยวช่วงปลายใบไม้ผลิก็ยังไม่เยอะมาก จึงเที่ยวได้อย่างชิล ๆ เลย มากไปกว่านั้น น้ำในบึงไทโช (Taisho Pond) ช่วงปลายเมษายน จะใสปิ๊งราวกระจกสะท้อนฉากภูเขาสลับหิมะ วิวธรรมชาติปังสุด ๆ 

กิจกรรมที่แนะนำ:

เดินเล่นถ่ายภาพที่บึงไทโช ชมเงาสะท้อนของภูเขาและป่าสนบนผิวน้ำใสราวกระจก ได้ฟีลสงบผ่อนคลายสุด ๆ โดยเฉพาะช่วงเช้าที่หมอกบาง ๆ ลอยเหนือบึง (ถ้าวันไหนฟ้าเปิดจะเห็นยอดเขามีหิมะล้อมรอบบึง สวยจนอึ้ง!)
แวะเช็กอินสะพานกัปปะ (Kappa Bridge) แลนด์มาร์คกลางหุบเขาคามิโคจิที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูป เป็นสะพานแขวนไม้ข้ามแม่น้ำอาซุสะ ฉากหลังเป็นทิวเขาหิมะสุดอลังการ ช่วงใบไม้ผลิคนยังไม่เยอะ จะถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่ติดคนมากเท่าไร

การเตรียมตัว:

เสื้อผ้า: กันหนาวต้องพร้อม! ควรแต่งตัวแบบหลายชั้น ชั้นในสุดเป็นเสื้อแขนยาวบาง ทับด้วยเสื้อกันลมและเสื้อกันหนาวหรือเสื้อขนเป็ดอีกชั้น เพื่อความอบอุ่น นอกจากนี้ถ้ามาช่วงเช้าหรือค้างคืน ควรพกเสื้อโค้ทหนา ๆ หมวกไหมพรม และถุงมือมาด้วย เพราะกลางคืน-เช้ามืดอากาศอาจต่ำใกล้ 0°C เลยทีเดียว
อุปกรณ์: รองเท้าที่กันน้ำได้หรือรองเท้าบูทจะเหมาะมาก เพราะพื้นดินอาจเฉอะแฉะจากหิมะที่กำลังละลาย และเตรียมแว่นกันแดดไว้ด้วย เนื่องจากแสงสะท้อนจากหิมะขาวค่อนข้างจ้าเลยล่ะ (ใครไวต่อแสงนี่ไม่ควรลืมเลย) นอกจากนี้ ร้านค้าและที่พักบางแห่งในคามิโคจิจะยังไม่เปิดบริการช่วงต้นฤดูกาลประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก ดังนั้นควรเตรียมเสบียงหรือวางแผนเรื่องอาหารการกินล่วงหน้าด้วยนะ

เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูร้อน

ฤดูร้อนของคามิโคจิอยู่ในช่วงมิถุนายน-กันยายน โดยจะเริ่มคึกคักจริง ๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกลางกันยายนที่อากาศอบอุ่นและท้องฟ้าโปร่งสดใส นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติหลั่งไหลมาสัมผัสธรรมชาติและหนีร้อนกันคึกครื้นเลยทีเดียว ช่วงนี้อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 – 23°C เท่านั้น ซึ่งเย็นสบายกว่าภาคเมืองของญี่ปุ่นและเมืองไทยเรามาก และการเที่ยวคามิโคจิฤดูร้อนยังเป็น “ฤดูกาลแห่งการปีนเขา” ของญี่ปุ่นด้วย เช่น ยอดเขาโฮทากะ หรือ ภูเขาไฟยาเคดาเกะที่อยู่รายล้อมคามิโคจิ (เราขอแนะนำให้อ่านสิ่งที่ควรรู้และรายละเอียดในเว็บไซต์ของคามิโคจิก่อนนะ) หรือเลือกเดินเล่นเส้นทางราบชมวิวชิล ๆ ก็ได้ตามสะดวก 

ข้อควรระวังคือช่วงต้นฤดูร้อน (กลางมิ.ย.–กลางก.ค.) เป็นหน้าฝน อาจมีฝนตกชุก ทำให้ทางเดินแฉะและลื่น ควรสวมรองเท้าที่ยึดเกาะดีและเตรียมชุดกันฝนให้พร้อม ส่วนช่วงกลางเดือนสิงหาคมจะตรงกับวันหยุดโอบ้งของญี่ปุ่น (11-16 ส.ค.) นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ ที่พักมักถูกจองเต็มและคนแน่นทุกเส้นทาง แนะนำว่าถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงช่วงนั้น

กิจกรรมที่แนะนำ:

Credit: kamikochi.org

เดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติไปตามริมน้ำและป่าเขียวขจีของคามิโคจิ มีหลายเส้นทางให้เลือกตามเวลาและแรงของเรา เส้นทางสั้น ๆ ยอดนิยมคือจากบึงไทโชไปสะพานคัปปะ (~3 กม.) หรือถ้ามีเวลาและอยากเสพธรรมชาติแบบเต็มคาราเบล แนะนำเส้นทางยาวจากบึงไทโชไปถึงสะพานเมียวจิน (~7 กม.) ที่จะพาคุณชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำอาซุสะอย่างใกล้ชิด สามารถเข้าไปดูเส้นทางเดินป่าในคามิโคจิได้ที่ https://www.kamikochi.org/thingstodo/walking 
สำหรับสายแคมป์และขาลุย ต้องไม่พลาดลองตั้งแคมป์ที่โคะนาชิไดระ (Konashidaira Camping Ground) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางคามิโคจิ (สถานีรถบัส) ราว 15 นาที ที่นี่มีทั้งลานกางเต็นท์ในบรรยากาศป่าสนร่มรื่น รวมถึงบ้านพักกระท่อมเล็ก ๆ และห้องอาบน้ำสาธารณะไว้บริการด้วย การได้ตื่นเช้ามาสัมผัสอากาศเย็นและวิวภูเขารอบตัว ถือเป็นประสบการณ์หน้าร้อนที่ฟินสุด ๆ 

การเตรียมตัว:

เสื้อผ้า: ฤดูร้อนแต่งตัวสบาย ๆ ได้เลย แต่ยังต้องยึดหลัก Layering ไว้ด้วยนะ เสื้อด้านในอาจเป็นเสื้อยืดหรือแขนสั้น ตามด้วยเสื้อแขนยาวบาง ๆ หรือเสื้อเชิ้ต และพกเสื้อคลุมกันลมบาง ๆ ติดเป้ไว้เผื่อเวลาอากาศเย็นลงหรือฝนตกจะได้เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ แต่ส่วนมากกลางวันแดดออกจะอุ่นมาก แต่ช่วงเช้ากับกลางคืนอากาศเย็นกว่า (บางคืนต่ำ ~10°C) กางเกงขายาวที่ระบายอากาศดีจะช่วยกันแมลงกัดและรอยขีดข่วนจากต้นไม้ได้ด้วย
อุปกรณ์: ครีมกันแดดและสเปรย์กันแมลงจำเป็นมาก! เพราะหน้าร้อนแม้ไม่ร้อนจัดแต่แดดแรงอยู่และป่าเขามียุงหรือแมลงชุกชุม ส่วนช่วงหน้าฝนให้เตรียมร่มพับหรือเสื้อกันฝนแบบเบา ๆ พกติดตัวตลอด (กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ) รองเท้าควรเป็นรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าเดินป่าที่พื้นไม่ลื่น ซับน้ำซับโคลนได้ดี เพื่อความปลอดภัยในการเดิน

เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นช่วงที่คามิโคจิสวยที่สุดและฮอตที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ ช่วงนี้จะอยู่ประมาณต้นเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยช่วงกลางเดือนตุลาคม เป็น “ช่วงพีค” ที่ใบไม้ทั่วหุบเขาพร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นเหลือง แดง ส้ม สวยงามอลังการตัดกับสีฟ้าใสของแม่น้ำอาซุสะและมีฉากหลังเป็นยอดเขาหิมะขาว บอกเลยว่าฟินนาเล่! ใครที่อยากชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ คามิโคจิคือคำตอบที่ไม่ควรพลาด! 

แต่เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นสุด ๆ นักท่องเที่ยวจึงหนาแน่นมาก ทั้งกรุ๊ปทัวร์และคนที่มาเที่ยวเอง ดังนั้นควรเผื่อเวลาต่อคิวรถบัสและถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ นิดนึงนะ! หรือถ้าอยากเลี่ยงคนจริง ๆ อาจวางแผนมาต้นตุลาคมหรือช่วงปลาย ๆ ฤดู (ต้นพ.ย.) ที่คนจะน้อยลง แต่ต้องลุ้นสภาพอากาศและใบไม้ที่อาจโรยเร็วในบางปี นอกจากนี้ ปลายฤดูฝน–ต้นใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น (ก.ย.–ต.ค.) มักมีไต้ฝุ่น จึงควรติดตามข่าวพยากรณ์และหลีกเลี่ยงวันที่สภาพอากาศไม่ดีเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ 

กิจกรรมที่แนะนำ:

ตระเวนถ่ายภาพ “เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี” ให้หนำใจ ไม่ว่าจะเป็นมุมยอดฮิตที่สะพานกัปปะ ซึ่งจะมองเห็นทิวต้นไม้ทั้งหุบเขาสีสันจัดจ้านเป็นฉากหลังของสะพานไม้ หรือจะเดินไปชมความงามแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นที่บึงเมียวจิน (Myojin Pond) บึงน้ำใสราวกระจกที่เงียบสงบ ในช่วงใบไม้ร่วงที่นี่จะมีสีเหลืองแดงล้อมรอบสระน้ำ และยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโฮทากะซึ่งวันที่ 8 ต.ค. ของทุกปีจะมีเทศกาล “ล่องเรือเทพเจ้า” (お舟祭り Ofune Matsuri) อันโด่งดังด้วย หากไปเที่ยวตรงกับช่วงนั้นก็น่าแวะชมพิธีแบบชินโตด้วยนะ
จิบกาแฟอุ่น ๆ รับลมเย็นที่คาเฟ่ริมทาง บรรยากาศฟินมาก! บริเวณใกล้ ๆ สะพานคัปปะ จะมีร้านกาแฟและร้านอาหารเล็ก ๆ ให้แวะพักเหนื่อย นั่งจิบเครื่องดื่มร้อนชมวิวใบไม้สีทองสะท้อนน้ำไปพลาง ๆ เป็นช่วงเวลาเรียบง่ายที่มีความสุขสุด ๆ หลังจากเดินชมธรรมชาติมาทั้งวัน

การเตรียมตัว:

เสื้อผ้า: ช่วงนี้ต้องเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวเต็มที่เพราะช่วงเช้าตรู่และหลังพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิอาจจะต่ำใกล้ 0-5°C โดยช่วงต้นตุลาคมควรใส่เสื้อแขนยาว + เสื้อสเวตเตอร์หรือเสื้อฟลีซ ทับด้วยแจ็คเก็ตหรือโค้ทกันลมอีกชั้น และพกผ้าพันคอกับถุงมือไว้เผื่อ อากาศจะเย็นลงเรื่อย ๆ จนปลายเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายนควรแต่งตัวเหมือนฤดูหนาวได้เลย คือใส่เสื้อโค้ทหนา มีหมวกและถุงมือครบชุดจะอุ่นกายสบายใจกว่า
อุปกรณ์: แน่นอนว่ากล้องหรือมือถือแบตเต็ม ๆ กับเมมโมรี่ต้องพร้อม เพราะวิวสวยทุกมุมจนอยากถ่ายเก็บหมด! ขาตั้งกล้องแบบเบาอาจมีประโยชน์ถ้าอยากถ่ายภาพตัวเองกับวิวปัง ๆ โดยเฉพาะช่วงคนไม่พลุกพล่าน นอกจากนี้ร่มพับหรือเสื้อกันฝนก็ยังควรมีติดไว้ เพราะปลายฤดูฝนยังอาจมีฝนลงได้เป็นระยะ หากเตรียมตัวมาให้พร้อม ๆ แม้เจออากาศแปรปรวนก็เที่ยวต่อได้ไม่สะดุด

เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูหนาว

โดยทั่วไป คามิโคจิจะปิดการเข้าชมในฤดูหนาว ช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนเมษายน ของปีถัดไป เนื่องจากหิมะตกหนักและหนาท่วมเส้นทาง ภายในอุทยานเงียบสนิทไม่มีบริการขนส่งหรือร้านค้าที่เปิดทำการ นักท่องเที่ยวทั่วไปจึงไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้ในช่วงนี้ได้ จะมีก็เพียงนักปีนเขาหรือช่างภาพมืออาชีพ บางกลุ่มที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการเดินเท้าเข้าไปบนหิมะ (ต้องยื่นแบบฟอร์มขออนุญาตล่วงหน้าและมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเท่านั้น) 

การเดินป่าท่ามกลางหิมะขาวโพลนในหน้าหนาว มันสวยงามมากก็จริง แต่ก็อันตรายและโหดสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์อย่างมาก! เพราะอุณหภูมิที่นี่สามารถดิ่งลงต่ำถึง -10°C มากไปกว่านั้น อาจมีหิมะที่ถล่มลงมาใหม่ ๆ ที่สูงท่วมหัวจนอาจเดินต่อไม่ไหวเลยก็มี

กิจกรรมที่แนะนำ:

สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปช่วงฤดูหนาวของคามิโคจิไม่มีอะไรให้ทำ เนื่องจากทางการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ (ถือว่า “ได้ไปเสียเที่ยว” จริงๆ) แต่หากใครเป็นสายผจญภัยมีประสบการณ์และอยากลองเดินป่าฤดูหนาวดูสักครั้ง ในบางปีจะมีทัวร์พิเศษพร้อมไกด์นำทางที่จะพาเดินลุยหิมะเข้าไปยังจุดหลักๆ ของคามิโคจิ เช่น บริเวณสะพานคัปปะและริมแม่น้ำอาซุสะ ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาฟู ราวกับฉากในเทพนิยายเลยทีเดียว แต่การเดินระยะไกลบนหิมะก็ใช้พลังงานสูงและค่อนข้างเสี่ยง จึงเหมาะกับนักเดินป่าขาลุยที่เตรียมร่างกายมาพร้อมจริง ๆ เท่านั้น
ถ้าไม่ได้เข้าไปในอุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวโซนใกล้เคียงอย่างเช่น หมู่บ้านออนเซ็นฮิรายุ (Hirayu Onsen) ซึ่งอยู่บนเส้นทางก่อนถึงคามิโคจิได้ เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนกลางหุบเขาที่สวยสงบ บรรยากาศโรแมนติกมากในหน้าหนาว การแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะโปรยปรายก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ฟินไม่แพ้กัน และถือเป็นรางวัลปลอบใจเล็ก ๆ แทนการไปไม่ถึงคามิโคจิโดยตรงในช่วงนี้ค่ะ

การเตรียมตัว:

เสื้อผ้า: หากคิดจะเดินป่าฤดูหนาวที่คามิโคจิต้องเตรียมพร้อมเหมือนจะไปขั้วโลก! คือ มีชุดเสื้อผ้ากันหนาวสำหรับติดลบหลายชั้น (เสื้อฮีทเทค–เสื้อฟลีซ–เสื้อดาวน์–เสื้อโค้ทกันลม) กางเกงลองจอน+กางเกงกันหนาว ถุงเท้าวูลหนา รองเท้าบูทลุยหิมะที่ใส่สโนว์ชูส์ หรือ crampons ติดพื้นรองเท้าได้, หมวกไหมพรมคลุมหู, ถุงมือกันน้ำ, แว่นกันแดด, ผ้าปิดจมูกกันหิมะ ฯลฯ ครบชุด ชุดไม่พร้อมนี่ไม่ควรลองเด็ดขาด เพราะความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
อุปกรณ์: กระเป๋าเป้ดี ๆ น้ำหนักเบาไว้ใส่อุปกรณ์ยังชีพ เช่น น้ำและเสบียงพลังงานสูง (ช็อกโกแลต power bar เป็นต้น), ชุดปฐมพยาบาล, ไฟฉายคาดหัว, แผนที่หรือ GPS, และเครื่องมือยังชีพพื้นฐานเผื่อฉุกเฉิน การมีไกด์หรือเพื่อนไปด้วยอย่างน้อย 1 คนเป็นสิ่งจำเป็น ห้ามเข้าไปลุยคนเดียวเด็ดขาดสำหรับมือใหม่

สรุป! ควรเที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูไหน?

จะเห็นได้ว่า คามิโคจิมีเสน่ห์แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ดังนั้นจริงๆ แล้ว “ช่วงไหนดีที่สุด” คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย! ถ้าให้สรุปจากความนิยมโดยทั่วไป ฤดูร้อน (กรกฎาคม–กลางกันยายน) และ ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม–กลางพฤศจิกายน) คือช่วงที่คามิโคจิสวยงามและคึกคักที่สุด เพราะธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ถึงขีดสุดทั้งสีเขียวและสีสันใบไม้ นักท่องเที่ยวไทยที่ชอบอากาศเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป ฟ้าใสๆ พร้อมวิวภูเขาสีเขียวสดก็ต้องเลือกหน้าร้อน รับรองฟินและถ่ายรูปสวยทุกมุม ส่วนใครที่อยากได้บรรยากาศโรแมนติกท่ามกลางใบไม้หลากสี มีอากาศเย็นๆ ให้ใส่เสื้อโค้ทเก๋ ๆ ก็คงถูกใจกับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วง ปลายเมษายน–พฤษภาคม ก็เหมาะกับคนที่อยากเลี่ยงฝูงชน ชอบความสงบของธรรมชาติ และยังได้เห็นหิมะหลงฤดูตามยอดเขาด้วย และฤดูหนาวแม้จะเข้าไม่ได้ แต่ก็เป็นช่วงพักฟื้นของป่าเขาที่จะกลับมาสวยสดใหม่อีกครั้งในปีถัดไป

หวังว่าข้อมูลที่รวบรวมมาจะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ว่า เที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี” ที่สุดสำหรับสไตล์ตัวเองนะ ไม่ว่าจะเลือกไปช่วงไหนก็ควรเตรียมร่างกายและข้าวของให้พร้อม วางแผนเรื่องการเดินทางและที่พักล่วงหน้า จองตั๋วเครื่องบินและจองที่พักใกล้คามิโคจิกับ Traveloka แล้วเที่ยวให้สนุกและเก็บความประทับใจกลับมาเยอะ ๆ แล้วมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะ!

แถมอีกนิด: การเดินทางไปคามิโคจิจากโตเกียวหรือเมืองใหญ่อื่นๆ ไม่ยากอย่างที่คิด มีบริการรถบัสตรงหลายสาย หรือจะนั่งรถไฟไปต่อรถบัสก็ได้สะดวก (โดยต้องจอดรถส่วนตัวไว้ด้านนอกแล้วต่อรถบัสเข้าไป เพราะเขาห้ามรถยนต์ส่วนตัวเข้าพื้นที่อนุรักษ์) 

ในบทความนี้

• เที่ยวคามิโคจิเดือนไหนดี? พร้อมลิสต์สถานที่น่าไปในแต่ละช่วง
• สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของคามิโคจิ
• เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูใบไม้ผลิ
• เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูร้อน
• เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
• เที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูหนาว
• สรุป! ควรเที่ยวคามิโคจิช่วงฤดูไหน?

บทความแนะนำ

เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 2 นาที

เที่ยวซัปโปโร เดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

เที่ยวฮ่องกงเดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 2 นาที

เที่ยวซาปาเดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

เที่ยวบาหลี เดือนไหนดี? - ที่เที่ยวกิจกรรมแนะนำในแต่ละฤดูกาล

08 Oct 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ ญี่ปุ่น

โตเกียว

Japan

ญี่ปุ่น

ฮอกไกโด

Japan

นาโกย่าชิ

Japan
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร