0

Traveloka TH

03 May 2024 - 1 min read

อุทยานแห่งชาติโคโมโด (Komodo National Park) ความงดงามของธรรมชาติบนพื้นโลก

ความสวยงามของธรรมชาติในโลกใบนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเยี่ยมชมดูสักครั้ง “อุทยานแห่งชาติโคโมโด” ประเทศอินโดนีเซียอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ถิ่นที่อยู่ของ “มังกรโคโมโด” เท่านั้น แต่ยังมีความงดงามของธรรมชาติมากมายที่รอให้คุณได้เข้ามาสัมผัส

หากคุณไม่อยากพลาดอีกหนึ่งโอกาสที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติโคโมโด เราขอแนะนำให้คุณรีบจองตั๋วเครื่องบินไปอินโดนีเซียล่วงหน้ากับแอป Traveloka แอปพลิเคชันจองตั๋วเครื่องบินในราคาสุดพิเศษ แล้วมาทำความรู้จักกับที่เที่ยวแห่งนี้ไปพร้อมกัน

ทำความรู้จักอุทยานแห่งชาติโคโมโด แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติ

Komodo National Park

สถานที่ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศที่หลากหลาย จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอย่าง “อุทยานแห่งชาติโคโมโด” คงทำให้คุณรู้สึกอยากมาเยือนที่เที่ยวแห่งนี้สักครั้ง และเมื่อคุณมีตั๋วเครื่องบินไปอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อไปเราขอแนะนำให้คุณจองโรงแรมอินโดนีเซียล่วงหน้าผ่านแอป Traveloka ที่ใช้งานง่ายและสะดวกต่อได้ทันที เพราะนอกจากจะมีฟีเจอร์หลักอย่างการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจองโรงแรม จองรถเช่า หรือซื้อตั๋วกิจกรรมก็มีให้ครบ เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณมีเวลาวางแผนการท่องเที่ยวมากขึ้น และไม่ต้องวุ่นวายกับการหาที่พักอีกต่อไป

ประวัติอุทยานแห่งชาติโคโมโด

อุทยานแห่งชาติโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 1,135,625 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เฉพาะถิ่นอย่างมังกรโคโมโด ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว และเพื่อเป็นการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้ไว้อุทยานแห่งชาติโคโมโดจึงได้ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2523

จากระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ป่า, ภูเขา, ทะเล และชายหาด ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์สัตว์ และพันธุ์พืชที่มีอยู่มากมายของอุทยานแห่งชาติโคโมโด ภายหลังที่แห่งนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี พ.ศ. 2534 อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติยุคใหม่อีกด้วย

ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติโคโมโด

อุทยานแห่งชาติโคโมโด ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่เกาะอินโดนีเซีย ระหว่างเกาะซุมบาวา (Sumbawa) และเกาะฟลอเรส (Flores) ใกล้หมู่เกาะซุนดาน้อย ซึ่งอยู่ระหว่างจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออก (East Nusa Tenggara) กับจังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก (West Nusa Tenggara) ที่นี่ประกอบไปด้วยเกาะหลัก 3 เกาะ ได้แก่ เกาะโคโมโด (Komodo Island) เกาะรินจา (Rinca Island) และเกาะปาดาร์ (Padar Island) อีกทั้งยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกมากมาย หากคุณมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดแห่งนี้ แน่นอนว่าคุณจะได้ชื่นชมความสวยงามของเกาะต่าง ๆ ด้วย

พิกัดอุทยานแห่งชาติโคโมโด: https://maps.app.goo.gl/7GNExkwZBpYiDGyK6

เราสามารถเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติโคโมโดได้ช่วงไหนบ้าง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติโคโมโด อุทยานจะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. โดยไม่มีค่าเข้าชม คุณสามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี แต่เราขอแนะนำให้คุณมาในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม เพราะคุณจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศและความสวยงามของที่แห่งนี้แบบเต็มพิกัด จากสภาพอากาศที่เป็นใจ ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป ทำให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติโคโมโดมีวิธีไหนบ้าง?

สำหรับการมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดนั้น คุณจำเป็นต้องเดินทางมายังเมืองหน้าด่านอย่างเมืองลาบวน บาโจ เสียก่อน (Labuan Bajo) ซึ่งสามารถเดินทางมาได้หลายวิธี ทั้งรถบัส เรือ และเครื่องบิน

การเดินทางด้วยรถบัส

คุณสามารถเดินทางมาอุทยานแห่งชาติโคโมโด โดยนั่งรถบัสจากเมืองเดนปาซาร์ (Denpasar) ในบาหลี มุ่งหน้าไปยังเมืองซาเป (Sape) เกาะซุมบาวา แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปยังเมืองลาบวน บาโจ จากนั้นต่อเรืออีกครั้งเพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติโคโมโดได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

การเดินทางด้วยเรือ

นอกจากเดินทางด้วยรถบัสแล้ว คุณสามารถเดินทางด้วยเรือเพื่อมาอุทยานแห่งชาติโคโมโดได้เช่นกัน โดยอาจนั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือต่าง ๆ ในอินโดนีเซียเพื่อไปยังเมืองลาบวน บาโจ จากนั้นจึงต่อเรือเพื่อตรงไปยังอุทยานแห่งชาติโคโมโด

การเดินทางด้วยเครื่องบิน

อีกวิธีที่น่าสนใจ และอาจเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับคุณในการเดินทางมาอุทยานแห่งชาติโคโมโด คือ การนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินเมืองลาบวน บาโจ (LBJ) หากคุณเดินทางมาจากบาหลีก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที หรือหากมาจากจาการ์ตาจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นสามารถนั่งเรือเพื่อตรงไปยังอุทยานแห่งชาติโคโมโดได้เช่นเดียวกัน

การนั่งเรือไปยังอุทยานแห่งชาติโคโมโดนั้น โดยปกติแล้วทางอุทยานจะมีบริการไปรับจากเมืองลาบวน บาโจ แต่หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเช่าเรือ หรือจะใช้บริการ Boat Tour ที่มีในอินโดนีเซียก็ได้เช่นเดียวกัน

3 เกาะหลักของอุทยานแห่งชาติโคโมโด มาถึงแล้วต้องไปเยือนให้ได้!

หากคุณมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติโคโมโด สิ่งที่คุณต้องลิสต์ไว้ในแผนการเที่ยวของตัวเองไว้เลยคือ การไปเยือนจุดเช็กอินยอดฮิตตามเกาะหลักทั้ง 3 เกาะ ดังนี้

เกาะโคโมโด (Komodo Island)

Komodo Island

“เกาะโคโมโด” เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติโคโมโด เกาะแห่งนี้เป็นหนึ่งในเกาะที่มีมังกรโคโมโดอาศัยอยู่ อีกทั้งยังเป็นที่เดียวในอุทยานแห่งชาติโคโมโดที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย ที่นี่คุณจะได้ร่วมเดินป่าไปกับไกด์ท้องถิ่นเพื่อไปดูมังกรโคโมโดที่มีอยู่นับพันตัว

เกาะริงกา (Rinca Island)

Rinca Island

“เกาะริงกา” เป็นอีกหนึ่งเกาะในอุทยานแห่งชาติโคโมโดที่มีมังกรโคโมโดอาศัยอยู่ โดยมีจำนวนมากกว่า 1,000 ตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว หากคุณมาเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้ คุณมีโอกาสจะได้พบกับมังกรโคโมโดได้ง่ายกว่าเกาะโคโมโดเสียอีก เพราะเกาะนี้มีขนาดเล็กกว่าเกาะโคโมโด นอกจากนี้ เกาะริงกายังมีสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น หมูป่า ควาย และนกนานาชนิด

เกาะปาดาร์ (Padar Island)

Padar Island

มาอุทยานแห่งชาติโคโมโดทั้งที คุณต้องไม่พลาดที่จะมายัง “เกาะปาดาร์” อีกหนึ่งเกาะหลักที่มีจุดชมวิวที่โดดเด่นมากที่สุด ที่เกาะแห่งนี้คุณจะได้เดินขึ้นสู่ยอดเขา โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อไปชมทิวทัศน์แสนงดงามในมุมกว้างของอุทยานแห่งชาติโคโมโด หากคุณมาที่นี่ก็สามารถเก็บภาพความสวยงามของเกาะปาดาร์ไปอวดเพื่อน ๆ ได้เลย

กิจกรรมห้ามพลาดที่อุทยานแห่งชาติโคโมโด สายลุยทั้งหลายต้องถูกใจสิ่งนี้

ที่อุทยานแห่งชาติโคโมโด มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วม สำหรับใครที่เป็นสายลุย กิจกรรมเหล่านี้คุณต้องห้ามพลาด!

เดินป่าสำรวจมังกรโคโมโด

เดินป่าสำรวจมังกรโคโมโด

มาที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดทั้งที สิ่งที่จะพลาดไปไม่ได้เด็ดขาดคือ การตามล่าหาสัตว์เจ้าถิ่นอย่างมังกรโคโมโด สัตว์เลื้อยคลานชนิดตะกวดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีอยู่แค่ที่อุทยานแห่งนี้เท่านั้น โดยคุณสามารถไปชมเจ้ามังกรโคโมโดนี้ได้ที่เกาะโคโมโดและเกาะริงกา ที่สำคัญคือ ต้องมีไกด์ผู้เชี่ยวชาญไปด้วยเท่านั้น เนื่องจากอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะเจ้ากิ้งก่าตัวใหญ่นี้เป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยค่อนข้างดุร้ายเลยทีเดียว

ปีนเขาชมวิวรอบเกาะปาดาร์ (Padar Island)

ปีนเขาชมวิวรอบเกาะปาดาร์

เมื่อเดินป่าสำรวจมังกรโคโมโดจนพอใจแล้ว ที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดยังมีกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวสายลุยอย่างการปีนเขาที่เกาะปาดาร์ เพื่อไปชมทิวทัศน์มุมกว้างที่แสนงดงามของหาดทรายสามสี ได้แก่ หาดทรายสีดำ (Black Beach) หาดหรายสีขาว (White Beach) และหาดทรายสีชมพู (Pink Beach) ทั้งนี้ ทางขึ้นเขาของเกาะปาดาร์นี้มีบันไดไม้ไว้ให้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณสามารถเดินขึ้นไปได้ไม่ยากเกินไปแน่นอน

ดำน้ำดูความงามใต้ท้องทะเล

ดำน้ำดูความงามใต้ท้องทะเล

การดำน้ำเพื่อดูความงามใต้ท้องทะเลเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยานแห่งชาติโคโมโด และด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลของที่นี่ คุณจะได้พบกับสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฉลามวาฬ ปลาแสงอาทิตย์ กระเบนราหู หรือปะการัง นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่สำหรับดำน้ำเพื่อเยี่ยมชมสัตว์ทะเลอยู่มากมาย เช่น Pink Beach, Castle Rock และ Manta Point (Makassa) เป็นต้น

เดินชมวิวบน Pink Beach หาดทรายสีชมพูตระการตา

เดินชมวิวบน Pink Beach หาดทรายสีชมพูตระการตา

การเดินชมวิวบน Pink Beach หาดทรายสีชมพูสวยงาม อีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณต้องไม่พลาดเมื่อมาถึงอุทยานแห่งชาติโคโมโด สีชมพูของชายหาดแห่งนี้มีที่มาจากปะการังสีแดงที่ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง ซึ่งที่นี่เองก็เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่ชายหาดเป็นสีชมพู หากมาที่นี่ คุณสามารถพักผ่อน ดำน้ำตื้นเพื่อดูปลาและปะการัง หรือจะดื่มด่ำไปกับความงดงามของชายหาดก็ได้เช่นกัน

เยี่ยมชมหมู่บ้านท้องถิ่นศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรม

การเยี่ยมชมหมู่บ้านท้องถิ่น นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณต้องลองเมื่อมาที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดแห่งนี้ แม้จะไม่ต้องผจญภัยเท่ากิจกรรมอื่น ๆ แต่รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะหมู่บ้านท้องถิ่นนี้ตั้งอยู่บนเกาะโคโมโด โดยมีประชากรคนอยู่ประมาณ 2,000 คน ที่นี่คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวเกาะ ได้ทำความเข้าใจประเพณี รวมถึงได้ศึกษาวัฒนธรรมของผู้คนด้วย

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร