0

Traveloka TH

03 May 2024 - 2 min read

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) แลนด์มาร์กสำหรับคนรักงานศิลป์

Louvre Museum

หากมีแพลนไปเที่ยวกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้วละก็ แน่นอนว่าไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” (Louvre Museum) สถานที่รวมงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งภาพวาดจิตรกรรม หรือชิ้นงานประติมากรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนเสพงานศิลป์หรือไม่ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็เป็นสถานที่ควรค่าจะไปอย่างแน่นอน เพราะนอกจากงานศิลปะแล้ว ยังจะได้เสพความสวยงามของสถาปัตยกรรม และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าผ่านงานศิลปะอีกด้วย

แต่ก่อนที่จะเพิ่มพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นหนึ่งในแพลนเที่ยวนั้น บทความนี้จะมาแนะนำประวัติที่มาของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อย่างคร่าว ๆ พร้อมวิธีการเดินทาง รวมถึงชิ้นงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ควรพลาด เซฟบทความนี้เก็บไว้ ทำแพลนทริปและจองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสผ่าน Traveloka กันเลย

ทำความรู้จักพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ มีความเป็นมาอย่างไร

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประวัติ

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อาจเรียกว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะการที่มีงานศิลปะต่าง ๆ ที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิตของคนในสังคมช่วงนั้น ๆ ทำให้มีการวิเคราะห์ถึงแนวคิดผ่านจิตรกร รวมถึงประวัติศาสตร์ทางสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ยาวนานเช่นกัน โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีประวัติที่มาอย่างไรบ้าง Traveloka ได้รวบรวมข้อมูลมาแล้ว ดังนี้

ประวัติพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) เดิมทีนั้นเป็นพระราชวัง สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1190 ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 และเมื่อมีการผลัดเปลี่ยนยุคสมัย ค่านิยมทางศิลปะมีความเปลี่ยนแลง ส่งผลให้มีการบูรณะ ก่อสร้างตกแต่งเพิ่มเติมเป็นปกติเรื่อยมา แต่หลังจากช่วงปฏิวัติในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระราชวังลูฟวร์ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1793

ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีที่ตั้งอยู่บริเวณภายในของพระราชวังลูฟวร์ ติดกับสวนสาธารณะตุยเลอรี (Tuileries Garden) จึงทำให้บริเวณรอบนอกของพิพิธภัณฑ์สามารถชมได้ทั้งสถาปัตยกรรมของพระราชวัง และการตกแต่งสวนแบบคลาสสิก หากจองที่พักฝรั่งเศสบริเวณใกล้เคียงกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ก็จะสามารถมองเห็นวิวของกรุงปารีส ชมความสวยงามของสวนสาธารณะ และดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองช่วงกลางคืนได้

เราสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้ช่วงไหนบ้าง

ราคาตั๋วค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะอยู่ที่ 17 ยูโร (ประมาณ 618 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินแลกเปลี่ยนในแต่ละช่วง) ส่วนผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้พิการจะสามารถเข้าชมได้ฟรี โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันอังคาร) ในเวลาทำการ 09:00-18:00 น. พร้อมมีการเพิ่มรอบดึกในวันพุธและวันศุกร์ เวลาทำการ 09:00-21:45 น. แต่จะปิดให้บริการทุกวันที่ 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม และวันคริสต์มาส

การเข้าชม Louvre Museum สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด เนื่องจากอากาศดี ปลอดโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ถ้าหากต้องการใช้เวลาเสพศิลป์อย่างเต็มที่ ในฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น ก็อาจจะทำให้ได้บรรยากาศการชมงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน

จองตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ล่วงหน้ากับแอป Traveloka พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น Skip The Line พร้อมไกด์นำเที่ยว เหมาะสำหรับใครที่แพลนเที่ยวหลายที่ เข้าชมได้แบบไม่ต้องรอคิวนาน

การเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ มีวิธีใดบ้าง

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สามารถเดินทางได้หลากหลายวิธี โดยสามารถเดินทางได้ด้วยขนส่งสาธารณะของประเทศฝรั่งเศส เช่น รถบัส หรือรถไฟใต้ดิน เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวของคุณ Traveloka ได้รวบรวมวิธีเดินทางไป Lourve Museum มาเรียบร้อยแล้ว ดังต่อไปนี้

การเดินทางด้วยรถบัส

คุณสามารถเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้ด้วยการใช้บริการรถบัสสาธารณะ โดยรถบัสที่ให้บริการเส้นทางไปยังพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีหลายสาย สามารถเลือกโดยสารรถบัสในบริเวณใกล้เคียงที่พักได้ ซึ่งสายรถบัสที่ให้บริการเดินทางไป Lourve Museum มีเช่น สาย 21, 24, 27, 39, 48, 68, 69, 72, 81, และ 95

การเดินทางด้วยรถไฟ

การเดินทางด้วยรถไฟไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ด้วยการโดยสารรถไฟใต้ดิน สามารถขึ้นรถไฟได้หลายสาย ซึ่งแต่ละสายจะมีจุดหมายปลายทางสถานีที่แตกต่างกันเล็กน้อย หากโดยสารรถไฟใต้ดินสาย 1 และสาย 7 ให้ลงที่สถานี Palais Royal - Musee du Louvre จากนั้นเดินเท้าอีกเล็กน้อย เข้าสู่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หากโดยสารรถไฟใต้ดินสาย 14 ให้ลงสถานี Pyramides และเดินเท้าไปยัง Louvre Museum

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว

หากเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ด้วยรถส่วนตัว สามารถนำรถไปจอดได้ที่ ลานจอดรถใต้ดินถนน Avenue du General Lemonier ซึ่งจะอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ฝั่งพีระมิดลูฟวร์ (Pyramide du Lourve) โดยลานจอดรถใต้ดินนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07:00-23:00 น.

เดินทางไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ง่าย ๆ ด้วยบริการเช่ารถส่วนตัวกับแอป Traveloka มีรุ่นรถพร้อมให้บริการหลากหลายตั้งแต่กลุ่มเล็กจนถึงขนาดครอบครัว เช่ารถขับเองหรือจะเช่าบริการพร้อมคนขับก็ได้ ระยะเวลาเช่ารถเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ชั่วโมง จนไปถึง 14 วัน สะดวก ประหยัดเวลา และคุ้มค่าแน่นอน

ส่วนต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ จัดแสดงงานอะไร

ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน เราได้รู้ทั้งประวัติและวิธีการเดินทางไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กันแล้ว มาทำความรู้จักกับส่วนต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กันต่อดีกว่า อย่างที่หลายคนทราบแล้วว่า Lourve Museum นั้นเป็นพระราชวังมาก่อน ดังนั้น พิพิธภัณฑ์จึงจะมีขนาดใหญ่และประกอบด้วยหลายส่วน เพื่อจัดแสดงงานศิลปะแยกตามยุคสมัย ใช้เวลาเดินทั้งวันอาจจะไม่เพียงพอได้เลย เราจึงได้รวบรวมข้อมูลอาคารจัดแสดงแต่ละส่วนของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเดินเที่ยวชมสำหรับผู้มีเวลาน้อย หรืออยากเก็บงานศิลปะที่ต้องการชมโดยเฉพาะ ดังนี้

Richelieu Wing

Richelieu Wing เป็นพื้นที่อาคารจัดแสดงโซนทิศเหนือ โดยงานศิลปะที่จัดแสดงในโซนนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่งานใน 5,000 ปีก่อนคริสตกาล เช่น งานประติมากรรมที่แสดงถึงอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อิหร่าน และสไตล์งานแบบแอนทีคตะวันออก (Near Eastern Antiquities) นอกจากนี้ยังมีภาพวาดและงานประติมากรรมอื่น ๆ จากศิลปินชาวยุโรป ที่สร้างในช่วงปี ค.ศ. 500 ไปจนถึง ค.ศ. 1850 เป็นต้น โดยรายละเอียดของโซน Richelieu Wing แต่ละ Level พร้อมห้องจัดแสดง และไฮไลต์ตัวอย่างชิ้นงานศิลปะ มีดังนี้

Level -1 ห้อง 100 ถึง 106
ไฮไลต์งานศิลปะ : The Marly Horses (ประติมากรรมฝรั่งเศสรูปม้า) ห้อง 102
ชั้นนี้จะมีโซนร้านอาหาร ร้านกาแฟและห้องน้ำอยู่ระหว่างกลางของทุกโซนอาคารจัดแสดง โดยจะมีทางเชื่อมต่อออกไปจากโซน Richelieu Wing บริเวณหน้าห้อง 104
Level 0 ห้อง 200 ถึง 236ไฮไลต์งานศิลปะ : Christ Detached from the Cross (ประติมากรรมฝรั่งเศส) ห้อง 201 และ Statue of Ebih-II (ประติมากรรม Near Eastern Antiquities) ห้อง 236
Level 1 ห้อง 500 ถึง 564ไฮไลต์งานศิลปะ : งานศิลปะตกแต่งสไตล์ยุโรป เน้นการใช้ทองเหลือง และการตกแต่งด้วยสีทอง เช่น Napolean III Apartments ห้อง 544 และ The Virgin of Jeanne d’Evreux (ประติมากรรม) ห้อง 503
Level 2 ห้อง 800 ถึง 864ไฮไลต์งานศิลปะ : งานจิตรกรรมภาพวาด The Lacemaker ห้อง 837, The Money Changer and his Wife (ภาพวาดจาก Northern Europe) และ Francois I (ภาพวาดฝรั่งเศส) ห้อง 822

Sully Wing

Sully Wing

โซน Sully Wing เป็นอาคารจัดแสดงทิศตะวันออก จะประกอบไปด้วยงานศิลปะกรีกโรมัน, อียิปต์, เครื่องปั้น, งานศิลปะแบบประกอบ และภาพวาดด้วยเทคนิคภาพพิมพ์ขาวดำ โดยรายละเอียดของโซน Sully Wing แต่ละ Level พร้อมห้องจัดแสดง และไฮไลต์ตัวอย่างชิ้นงานศิลปะ มีดังนี้

Level -1 ห้อง 130 ถึง 137
ไฮไลต์งานศิลปะ : ประวัติศาสตร์ลูฟวร์ และ Cabinet of Prints and Drawings ห้อง 131
ชั้นนี้จะมีโซนร้านอาหาร ร้านกาแฟและห้องน้ำอยู่ระหว่างกลางของทุกโซนอาคารจัดแสดง โดยจะมีทางเชื่อมต่อออกไปจากโซน Sully Wing บริเวณโถงทางเดินผ่านห้อง 130 และ 131
Level 0 ห้อง 300 ถึง 348ไฮไลต์งานศิลปะ : The palace of Darius (งานศิลปะด้วยอิฐ Near Eastern Antiquities) ห้อง 308, Tamutnefret’s coffin (ประติมากรรมหล่อทองอียิปต์) ห้อง 321 และ The Venus de Milo (ประติมากรรมกรีกโบราณรูปวีนัส) ห้อง 345
Level 1 ห้อง 600 ถึง 663ไฮไลต์งานศิลปะ : The Seated Scribe (ประติมากรรมอียิปต์โบราณ) ห้อง 635 ประวัติศาสตร์ลูฟวร์ ห้อง 600 และ The Euphronios krater (งานศิลปะเพ้นท์รูปกรีกโรมันโบราณ) ห้อง 651
Level 2 ห้อง 900 ถึง 952ไฮไลต์งานศิลปะ : The Cheat (ภาพจิตรกรรมฝรั่งเศส) ห้อง 912 ประวัติศาสตร์ลูฟวร์ ห้อง 900 และ The Bather (ภาพจิตรกรรมฝรั่งเศส) ห้อง 940

Denon Wing

Denon Wing อาคารจัดแสดงทิศใต้ ประกอบไปด้วยงานจิตรกรรม อีกทั้งประติมากรรมที่น่าสนใจมากมาย นอกเหนือจากฝั่งกรีกโรมัน ฝรั่งเศสและอียิปต์ ยังมีงานศิลปะจากภูมิภาคทวีปเอเชีย แอฟริกา รวมถึงอังกฤษอีกด้วย ที่สำคัญ ภาพจิตรกรรมที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่าง “โมนาลิซา” ก็ถูกจัดแสดงอยู่ในโซน Denon Wing แห่งนี้ โดยรายละเอียดของโซน Denon Wing แต่ละ Level พร้อมห้องจัดแสดง และไฮไลต์ตัวอย่างชิ้นงานศิลปะ มีดังนี้

Level -1 ห้อง 160 ถึง 187
ไฮไลต์งานศิลปะ : Saint Mary Magdalene (ประติมากรรมยุโรป พระแม่มารีย์ผมแดง) ห้อง 169, ‘L’Europeenne’ (ศิลปะตะวันออกและอียิปต์โบราณ) ห้อง 183, Panel depicting a poetry contest (ศิลปะอิสลาม) ห้อง 186 และ Cycladic idol (ประติมากรรมอิยิปต์โบราณ) ห้อง 170
ชั้นนี้จะมีโซนร้านอาหาร ร้านกาแฟและห้องน้ำอยู่ระหว่างกลางของทุกโซนอาคารจัดแสดง โดยจะมีทางเชื่อมต่อออกไปจากโซน Denon Wing บริเวณโถงชั้นพักระหว่างทางขึ้นจากห้อง 160 ไปยังห้อง 170
Level 0 ห้อง 400 ถึง 433ไฮไลต์งานศิลปะ : Sculpture from Malo Island (ประติมากรรมแอฟริกา เอเชีย โอเชียนาและอเมริกา) ห้อง 427 The Dying Slave (ประติมากรรมยุโรป) ห้อง 403 และ Statue of Marcellus (ประติมากรรมโรมันโบราณ) ห้อง 410
Level 1 ห้อง 700 ถึง 734ไฮไลต์งานศิลปะ : The Clubfoot (ภาพวาดจิตรกรรมสเปน) ห้อง 718, Conversation in a Park (ภาพวาดจิตรกรรมอังกฤษ) ห้อง 713, Liberty Leading the People (ภาพวาดจิตรกรรมฝรั่งเศส) ห้อง 700, Mona Lisa (ภาพวาดจิตรกรรมอิตาลี) ห้อง 711 และ The Winged Victory of Samothrace (ประติมากรรมกรีกโบราณ) ห้อง 703

โซน Denon Wing นี้จะมีงานจัดแสดงถึงเพียงแค่ Level 1 เท่านั้น และในส่วนของ Level -2 จะเป็นพื้นที่สำหรับซื้อตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์, ทางเข้าแต่ละโซน, ร้านหนังสือ และร้านของฝาก

หากใครที่มีเวลาจำกัด อาจจะเลือกชมเป็นงานที่สนใจจากแต่ละโซนของ Lourve Museum ที่เราได้ยกตัวอย่างมา แต่หากใครที่อยากค่อย ๆ ชมงานศิลปะหลากหลายแต่มีเวลาน้อยเช่นกัน อาจจะเลือกชมเป็นโซน Denon Wing เนื่องจากมีภาพวาดโด่งดังอย่างโมนาลิซา และงานศิลปะในโซนนี้จะค่อนข้างคุ้นตามากกว่าโซนอื่น ๆ ทั้งยังมีงานจากหลากหลายทวีปอีกด้วย

ชิ้นงานที่น่าสนใจในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หากไปต้องชม ไม่ควรพลาด

เราได้แนะนำอาคารจัดแสดงแต่ละส่วน พร้อมทั้งงานศิลปะที่จัดแสดงในโซนนั้น ๆ ให้ได้เก็บไปแพลนจองที่พักกันเรียบร้อยแล้ว แต่หากใครที่อยากชมงานศิลปะแล้วไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ในหัวข้อนี้ เราได้รวบรวมชิ้นงานที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไว้แล้ว โดยงานศิลปะที่น่าสนใจ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ภาพวาดโมนาลิซา (Mona Lisa)

Mona Lisa

ภาพวาดจิตรกรรมโมนาลิซา (Mona Lisa) เป็นจิตรกรรมที่มาจากอิตาลีซึ่งโด่งดังเป็นอย่างมาก โดยเป็นภาพวาดของหญิงสาวที่กำลังจ้องมองกลับมาทางผู้ชม ราวกับมีชีวิตอยู่ในภาพวาดนั้น พร้อมรอยยิ้มบางที่ถูกตีความไปหลายความเห็นมากมาย ถือเป็นงานชิ้นเอกที่สร้างสีสันให้กับนักวิเคราะห์งานศิลปะเลยทีเดียว โมนาลิซาถูกวาดโดยศิลปิน Leonardo da Vinci ที่ใช้เวลาวาดถึง 4 ปี ตั้งแต่ค.ศ. 1503-1507

ประติมากรรมอนุสรณ์ชัยชนะที่ซาโมเทรซ (Winged Victory of Samothrace)

ประติมากรรมอนุสรณ์ชัยชนะที่ซาโมเทรซ เป็นประติมากรรมหินอ่อนยุคกรีกเฮเลนิสติก ซึ่งแสดงออกถึงชัยชนะผ่านทางงานศิลปะได้อย่างสวยงามประณีต ด้วยการแกะสลักหินอ่อนให้ดูเหมือนผ้าที่กำลังพลิ้วอยู่จริง ๆ จึงเป็นชิ้นงานที่ไม่ควรพลาด ต้องได้มองด้วยตาของตัวเองสักครั้งในชีวิต

ภาพวาดเสรีภาพนำทางชาวประชา (Liberty Leading the People)

ภาพวาดจิตรกรรมเสรีภาพนำทางชาวประชา (Liberty Leading the People) สร้างสรรค์โดยเออแฌน เดอลาครัว เป็นภาพที่สะท้อนและเป็นอนุสรณ์ของการปฏิวัติในปี ค.ศ. 1830 มีเนื้อหาทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการโค่นล้มพระเจ้าชาร์ลที่ 10 นำโดยหญิงสาวบุคลากรแห่งแนวคิดเสรีภาพท่านหนึ่ง เป็นภาพที่แสดงถึงแนวคิดได้หลากหลายอารมณ์ และถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ด้านของการปกครองของยุคสมัยนั้น นอกจากนี้ ภาพวาดจิตรกรรมเสรีภาพนำทางชาวประชา ยังเป็นชิ้นงานที่ดีที่สุดของเดอลาครัว โดยเทคนิคของภาพนี้คือ ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบ นั่นเอง

ประติมากรรมวีนัส เดอมิโล (Venus de Milo)

หากขึ้นชื่อว่ายุคกรีกโบราณ หลายคนอาจจะนึกถึงรูปปั้นที่อยู่ในวิหารต่าง ๆ ซึ่งรูปปั้นที่ค่อนข้างคุ้นตาก็คงไม่พ้น ‘รูปปั้นเทพีวีนัส’ ซึ่งเทพีวีนัสที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อย่าง Venus de Milo นี้ถือเป็นประติมากรรมต้นแบบให้กับนักเรียนศิลปะหลายคนเลยทีเดียว

แม้ว่าประติมากรรมวีนัส เดอมิโลนี้จะไม่สมบูรณ์แบบเนื่องจากมีชิ้นส่วนแขนที่หายไป แต่ในทางประวัติศาสตร์และศิลปะแล้ว ประติมากรรมวีนัส เดอมิโล ถือว่าเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบและประณีต โดยที่ไม่สามารถสร้างชิ้นอื่นมาทดแทนได้ จึงยังคงถูกยกให้เป็นงานศิลปะที่ควรค่าแก่การไปชมอีกชิ้นหนึ่งเช่นกัน

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร