ใครที่ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศอินโดนีเซีย ต้องเคยได้ยินชื่อ ‘เกาะบาหลี’ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของภูเขาสุดตระการตาอย่าง “ภูเขาไฟบาตูร์” (Mount Batur) สถานที่เที่ยวแห่งนี้จะทำให้คุณได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมกับการเดินทางไปชมความงามของภูเขาไฟบาตูร์ในเกาะบาหลีแห่งนี้

หากใครไม่อยากพลาดความสวยงามบนยอดภูเขาไฟบาตูร์ ก็ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วกดจองตั๋วเครื่องบินไปอินโดนีเซีย จากนั้นเดินทางต่อมายังเกาะบาหลีได้เลย มาชมความอลังการของธรรมชาติที่ภูเขาไฟบาตูร์ในราคาสุดพิเศษ ด้วยแอป Traveloka ที่ได้รวบรวมโปรโมชันดี ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยวมาให้คุณในที่เดียว

หากพูดถึงที่เที่ยวในเกาะบาหลี หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับภูเขาไฟบาตูร์มากนัก เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายใหม่ของนักเดินทางที่มายังเกาะบาหลี และยังมีโรงแรมอินโดนีเซียตั้งอยู่รอบบริเวณภูเขาไฟบาตูร์มากมาย สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือน

ในบทความนี้ Traveloka จะพาทุกคนมาทำความรู้จักภูเขาไฟบาตูร์ให้มากขึ้น พร้อมวิธีการเดินทางในการมาภูเขาไฟบาตูร์แห่งเกาะบาหลี และข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวอีกมากมาย ไปดูกันได้เลย!

ภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอุทยานธรณีโลกโดยองค์การ UNESCO (Global Geoparks Network, GGN)ภูเขาไฟบาตูร์แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 50,000 ปี และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยชื่อของภูเขาไฟบาตูร์เพี้ยนมาจากชื่อของหญิงชาวจีนที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายแห่งเกาะบาหลี เพื่อเป็นการระลึกถึงเธอจึงได้มีการนำชื่อของหญิงชาวจีนมาตั้งเป็นชื่อของภูเขาไฟแห่งนี้

ภูเขาไฟบาตูร์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และอยู่ใกล้กับหมู่บ้านคินตามณี(Kintamani) ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ภูเขาไฟบาตูร์ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,717 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปชมวิวบนยอดภูเขาไฟ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบได้ถึง 360 องศา

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zgRqrTonUEkvTxso8

ภูเขาไฟบาตูร์มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แต่อาจมีอากาศแปรปรวนได้ตามฤดูกาล โดยทั่วไป บริเวณเกาะบาหลีจะมีอากาศร้อนชื้นแบบเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 21-33 องศาเซลเซียสนั่นเอง และสำหรับค่าเข้าชมภูเขาไฟบาตูร์ราคาจะอยู่ที่ 100,000 รูเปียห์ต่อคน หรือประมาณ 229 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงิน ณ ตอนนั้น

ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเดินทางมาภูเขาไฟบาตูร์แนะนำให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมในช่วงก่อนฤดูฝนได้ทุกวันตามสะดวก ตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น. เพื่อที่จะได้เห็นสายหมอกเข้ามาปกคลุมบนภูเขา พร้อมทั้งได้ทำกิจกรรมอีกมากมายในบรรยากาศสุดพิเศษอีกด้วย

การเดินทางไปภูเขาไฟบาตูร์สามารถเดินทางได้ 2 วิธี ในหัวข้อนี้ Traveloka ได้รวบรวมวิธีการเดินทางไปทำกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์สำคัญบนภูเขาไฟบาตูร์ไว้ให้คุณแล้ว หากใครสะดวกเดินทางแบบไหน สามารถเลือกวิธีเดินทางไปทำกิจกรรมต่าง ๆ กันได้ตามชอบเลย

การเดินทางไปภูเขาไฟบาตูร์ สามารถเดินทางได้โดยใช้สนามบินภายในประเทศที่เชื่อมการเดินทางระหว่างเมืองมาลงที่สนามบินเดนปาซาร์ (DPS) ด้วยสายการบิน Lion Air หรือ AirAsia ที่คุณสามารถกดจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป Traveloka ได้อย่างง่ายดาย แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์อีกประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะถึงภูเขาไฟบาตูร์แล้ว

เมื่อคุณเดินทางมาถึงที่เกาะบาหลีแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับ หรือรถแท็กซี่จากสนามบินในการเดินทางไปยังจุดแลนด์มาร์กอย่างภูเขาไฟบาตูร์เป็นหลัก ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับที่แอป Traveloka ได้ เพื่อให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

หากใครกำลังจะเดินทางไปภูเขาไฟบาตูร์ ห้ามพลาดกิจกรรมยอดฮิตต่าง ๆ ที่ Traveloka ได้รวบรวมมาไว้ให้คุณแล้ว รับรองว่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหลากหลายไลฟ์สไตล์ที่มาเยือนภูเขาไฟบาตูร์ได้อย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

การเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเขาไฟบาตูร์ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวสายลุย ถึงแม้ว่าการเดินทางจะใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงในการขึ้นไปถึงยอดเขา แต่เมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวแล้วก็คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน เพราะวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้านั้นสวยงามอลังการมาก การเริ่มทำกิจกรรมด้วยการชมแสงแรกของวันถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมากเลยล่ะ

สำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่ได้มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสกับแสงแรกบนยอดภูเขาไฟบาตูร์แล้ว อย่าลืมชื่นชมกับบรรยากาศระหว่างทางที่จะทำให้คุณใกล้ชิดธรรมชาติ เหมือนถูกห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา เพราะบรรยากาศที่คุณได้เห็นนั้นคือ พื้นที่ของอุทยานธรณีโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO ว่าเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมของเกาะบาหลี ถ้าใครได้ไปเห็นวิวสวย ๆ แบบนี้กับตา จะต้องเป็นประสบการณ์ที่ดีมากแน่นอน

หลังจากที่ได้ขึ้นไปสัมผัสกับบรรยากาศบนยอดเขาแล้ว พลาดไม่ได้ที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะมาดูวิวบริเวณทะเลสาบบาตูร์ (Lake Batur) ด้วย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการยุบตัวของภูเขาไฟบาตูร์ และกลายเป็นฉากหลังที่สวยงามให้กับภูเขาไฟบาตูร์ลูกใหญ่ ขอบอกเลยว่าใครที่แวะมาเกาะบาหลี ต้องมาทะเลสาบบาตูร์ให้ได้!

การได้แวะมาที่หมู่บ้านคินตามณี (Kintamani) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกให้ได้ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสุดตระการตา อีกทั้งยังมีวัดที่เป็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของอินโดนีเซียอยู่ในหมู่บ้านอีกด้วย ใครที่เดินทางมาภูเขาไฟบาตูร์ ก็อย่าลืมมาเดินเล่นที่หมู่บ้านคินตามณีกันต่อด้วยนะ

นอกจากการเยี่ยมชมภูเขาไฟบาตูร์และทะเลสาบบาตูร์แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่ขึ้นชื่อคือ การมาแช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ (The Batur Natural Hot Springs) ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นจากน้ำบาดาลใต้ผิวดินของภูเขาไฟบาตูร์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่แวะมาหมู่บ้านคินตามณีจะนิยมไปแช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติแห่งนี้กันต่อ ใครที่อยากผ่อนคลายร่างกาย แนะนำให้มาแวะมาที่บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ได้เลย